Home » » ก่อนบ่าย เดอะ มูฟวี่ ตอน รักนะ...พ่อต๊ะติ๊งโหน่ง

ก่อนบ่าย เดอะ มูฟวี่ ตอน รักนะ...พ่อต๊ะติ๊งโหน่ง



โอ่เล โอ่เล้ โอ่เล๊…เสียงกังวาลจากดินแดนเหนือสุดของประเทศ

นั่นคือเสียงหัวใจของหนุ่มชาวดอย…ล่องลอยถึงดอกไม้เมืองกรุง

ในภารกิจสุดฮาตามหา…ดอกไม้ใจดอย เตรียมตัวพบกับภาพยนตร์ “สุดฮารับปีใหม่”

ผลงานการกำกับของตลกซูเปอร์เก๋า “เป็ด เชิญยิ้ม”

กับหนังตลกฮาแตก…ขำทุกเม็ดในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

จากรายการตลกสุดฮิตสู่การโลดแล่นบนแผ่นฟิล์ม

และการรับบทบาทครั้งสำคัญของ “อ๊อฟ ศุภณัฐ”

กับการสวมหัวใจเป็นหนุ่มชาวดอย…ที่จะทำให้คุณหลงรักเขามากกว่าเดิม

ร่วมด้วยตลกทั่วฟ้าเมืองไทยที่ขนความฮามาเต็มพิกัด

เรื่องย่อ

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว…(นานตรงไหนหว่า) ณ ท่ามกลางไอหมอกในอ้อมอกขุนเขาเขียวชะอุ่มเหนือสุดแดนสยาม ยังมีสามหนุ่ม…เด๋อทูบี (ที่ไม่ใช่ดีทูบี) นามว่า ทีป้อ (อ๊อฟ ศุภณัฐ), หล่อซา (นุ้ย เชิญยิ้ม) และ หม่าจู (จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม) เป็นขวัญใจของคนในหมู่บ้าน และแล้วกามเทพก็หลบร้อนขึ้นดอยไปแผลงศรไปปักอกทั้งสามเด๋อ เมื่อได้เจอะกับสามสาวเมืองกรุง หนึ่งในนั้นคือ แอนนี่ (อเล็กซานดร้า สติเบิร์ท) ทีป้อถึงกับอุทานเรียกชื่อเธอว่า คุงด่อม้า…สวยจาง (แปลให้…คุณดอกไม้สวยจัง) แถวบ้านเรียกว่าตกหลุมรักแบบจังเบอร์ และอุบัติเหตุรักต่าง ๆ ก็พาให้ทีป้อคิดไปไกล หารู้ไม่ว่าตัวเองรักเขาข้างเดียว…ฮือ ๆ

แต่ช่วงเวลาความสุขช่างแสนสั้น แอนนี่ต้องกลับกรุงเทพไปพร้อมความเข้าใจผิดบางอย่าง ทีป้อและแก๊งสามเด๋อจึงต้องลงดอยเข้าสู่เมืองกรุง เพื่อปฏิบัติการภารกิจที่มีชื่อว่า…ตามหาดอกไม้ใจดอย ยังไงละทีนี้ เมืองกรุงออกจะกว้างใหญ่ สามเด๋อเลยเซ่อซ่าไปเจอเรื่องราวอลวนและผู้คนมากมาย ทั้งหมู่บ้านประหลาดที่มีแต่ผู้คนเพี้ยน ๆ…กะเทยร่างใหญ่ใจนักเลง…คนหน้าเหลี่ยมที่สั่งอาหารชื่อแปลก ๆ แถมยังต้องขี่รถไฟฟ้าถูกตามล่าทั่วเมืองอีกต่างหาก พอได้เจอคุณดอกไม้สมใจก็อกหักดังเป๊าะ เพราะสาวเจ้าดันมี ภคิณ (ตระการ พันธุมเลิศรุจี) เป็นเจ้าของแล้ว ซึ่งภคิณกำลังคิดร้ายกับคุณดอกไม้อยู่ งานเข้าแล้วสิ…งานนี้ทีป้อกับแก็งสามเด๋อจะสามารถปฏิบัติภารกิจได้สำเร็จหรือไม่???

จงเตรียมหัวใจและขากรรไกรของคุณให้พร้อม เพื่อพบกับภาพยนตร์สุขสุด ๆ ฮารับปีใหม่ “ก่อนบ่ายฯเดอะมูฟวี่ รักนะ…พ่อต๊ะติ๊งโหน่ง” ผลงานการกำกับจากสุดยอดตลกซูเปอร์เก๋า “เป็ด เชิญยิ้ม” ที่เค้นมุกสุดฮามาเต็มแม็ก พร้อมการรวมตัวของตลกทั่วฟ้าเมืองไทยแบบขนกันมาฮาเกินพิกัด และพบกับ “อ๊อฟ-ศุภณัฐ” กับบทบาทหนุ่มชาวดอยสุดซื่อแต่ไม่บื้อรัก ที่จะทำให้คุณตกหลุมรักผู้ชายคนนี้มากขึ้นกว่าเดิม

ทีมงานสร้าง : โรแมนติก-คอเมดี้ (แนวภาพยนตร์) / สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล (บริษัทผู้สร้าง-จัดจำหน่าย) / คอเมดี้ ไลน์ (บริษัทดำเนินงานสร้าง) / สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ (อำนวยการสร้างฝ่ายบริหาร) / เป็ด เชิญยิ้ม (ควบคุมงานสร้าง) / เป็ด เชิญยิ้ม (ผู้กำกับภาพยนตร์) / วศิน ปกป้อง (บทภาพยนตร์) / สุทัศน์ อินทรานุปกรณ์ (กำกับภาพ) / เป็ด เชิญยิ้ม (ออกแบบงานสร้าง) / สุรเชษฐ น้อยอินทร์ (กำกับศิลป์) / เอกรินทร์ นาคะผิว (ออกแบบเครื่องแต่งกาย) / กัณณภัค นันทประดากร,ศิริรัตน์ แจ่มฟ้า,อติพร ปัญญานุกูลเลิศ ,บุษยารัตน์ รัตนคช (แต่ง-ทำผม) / มานะ ยังกลาง (ลำดับภาพ) / ปิง ฟรุ้ตตี้, ธีระศักดิ์ วดีศิริศักดิ์, ปีเตอร์ โฟดิฟาย (เพลง-ดนตรีประกอบ)

ผู้กำกับ : ธัญญา โพธิ์วิจิตร

คำโปรย : ปีใหม่นี้พวกเขาจะทะลุมานอกจอ ให้คุณหัวร่อแบบจอใหญ่

นักแสดง:

ศุภณัฐ เฉลิมชัยเจริญกิจ .... ทีป้อ 

อเล็กซานดร้า สติเบิร์ท .... แอนนี่ 

ชูเกียรติ เอี่ยมสุข .... หล่อซ่า 

สมชาติ ทรงกลด .... หม่าจู 

ตระการ พันธุมเลิศรุจี .... ภคิณ 


วันที่เข้าฉาย: 27 ธันวาคม 2550

นำแสดงโดย: ศุภณัฐ เฉลิมชัยเจริญกิจ, อเล็กซานดร้า สติเบิร์ท, ตระการ พันธุมเลิสรุจี, ชูเกียรติ เอี่ยมสุข (นุ้ย เชิญยิ้ม), สมชาติ ทรงกลด (จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม) ฯลฯ

แกะกล่องความฮา ก่อนบ่ายเดอะมูฟวี่…รักนะพ่อต๊ะติ๊งโหน่ง

“ก่อนบ่ายเดอะมูฟวี่…รักนะพ่อต๊ะติ๊งโหน่ง” เป็นผลงานที่ถูกสร้างขึ้นมาจากการบ่มเพาะกลเม็ดมุกเด็ดฮาในวงการ ตลกกว่า 30 ปี ของผู้ชายที่ชื่อ “ธัญญา โพธิ์วิจิตร” หรือที่เรารู้จักกันในนาม “เป็ด เชิญยิ้ม” เขาเป็นตัวแทนของผู้มอบ เสียง หัวเราะมาอย่างยาวนาน ทั้งในฐานะดาราตลกแถวหน้าที่อยู่ในยุคบุกเบิกของตระกูล “เชิญยิ้ม” หรือในฐานะของเจ้าของ และมันสมองของรายการตลกยอดฮิตที่ไม่มีใครในประเทศนี้ไม่รู้จัก นั่นก็คือ “ก่อนบ่ายคลายเครียด” ที่สร้างรอยยิ้มและ ความสนุกสนานให้กับคนดูมากว่า12ปีจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของความสุขทุกครั้งที่คิดถึงรายการนี้

…หลังจากบรรดานักแสดงตลกมากมายต่างหันมากำกับหนังและได้รับเสียงตอบรับที่ดีเป็นส่วนใหญ่ หลายคนเริ่ม ตั้งคำถามว่า “เมื่อไหร่ เป็ด เชิญยิ้ม จะทำหนัง” แต่ถ้าคนที่อยู่ในวงการหนังไทยมานาน คงทราบดีว่าเขาเคยกำกับหนัง มาแล้วนั่นคือเรื่อง “คุณมืดกับคุณระมัด” ในปีพ.ศ. 2534 และเคยร่วมงานกับ “เปี๊ยก โปสเตอร์” มาแล้วในฐานะผู้ช่วยผู้กำกับ ในเรื่อง “สะพานรักสารสิน” ซึ่งถ้าบวกกับประสบการณ์การกำกับรายการก่อนบ่ายฯมากว่า 10 ปี คงน่าจะการันตีถึงความ พร้อมแบบเต็มพิกัดในการกำกับหนังเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี

“ตอนนั้นก็เขียนบทเอง ทำเรื่องเอง สมัยนั้นเป็นหนังฟอร์มเล็กๆ เราก็สร้างพล็อตเรื่องขึ้นมาว่า มีเด็กต่างจังหวัด สองคนเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ ก็เลยเกิดเรื่องราวตลก ๆ ทั้งความเปิ่น ความเซ่อ ความซื่อ ต้องขายในลักษณะแบบนี้ในสมัย นั้น ที่สำคัญอาชีพเราคือตลก เพราะฉะนั้นแก๊กที่เราจะใส่ก็ไม่ต้องหาที่ไหน พอเขาบอกให้ทำเราก็ทำเลย แล้วยิ่งเราเล่นหนัง มาตั้งกี่สิบเรื่อง เราคิดว่าเราทำได้ แล้วอีกอย่างตอนนั้นเราเคยผ่านงานการเป็นผู้ช่วยของอาเปี๊ยกมาแล้ว ทำให้เรามี ประสบการณ์มาสมควรก็เลยตัดสินใจทำหนังในตอนนั้น ซึ่งเราก็พอใจกับผลงานที่ออกมา หลังจากนั้นก็หันไปทำรายการ ก่อนบ่ายคลายเครียดโดยหวังไว้ว่าสักวันจะต้องทำหนังอีกครั้ง”

…กับโปรเจ็กต์หนังเรื่องนี้ตัวเขาเองตั้งใจที่จะทำมานานมากแล้ว แต่ด้วยความพร้อมและจังหวะที่ไม่ลงตัวทำให้ ความฝันครั้งนี้ของเขาต้องชะลอไปก่อน แต่แล้วการสนทนาสั้น ๆ ระหว่างเขากับ “เสี่ยเจียง-สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ” ว่า “เป็ด…ถ้าคุณจะทำหนัง คุณต้องทำกับผมนะ” นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาตัดสินใจสานต่อความฝันให้สำเร็จถือเป็นก้าว แรกของหนังเรื่องนี้เลยทีเดียว

“ในขณะที่ก่อนบ่ายเรตติ้งสูงสุดในช่วงปี พ.ศ. 39-40 ก็มีเพื่อนคนหนึ่งพูดว่า ทำไมไม่เอาก่อนบ่ายฯ มาทำเป็นหนัง ล่ะ ถ้าทำเป็นหนังรับรองดังระเบิด ตอนนั้นยังไม่มีตลกมากำกับหนังเลย แต่เราคิดว่าตอนนั้นหนังตลกยังไม่แรงมาก ก็เลย ยังไม่กล้าเสี่ยงที่จะทำหนังตอนนั้น ได้แค่สะดุดใจแล้วคิดว่าไว้เดี๋ยวค่อยทำละกัน ก็เลยไม่ได้ทำสักที หลังจากนั้นก็มีตลก มาทำหนังมากมาย ทำให้เรากลัวว่าถ้าเราทำจะต้องเจอคำถามที่ว่าทำตามกระแสหรือเปล่า ก็เลยไม่ค่อยกล้าที่จะทำ แต่พอ หลังจากนั้นก็มาเจอเสี่ยเจียง กำลังจะเดินเข้าห้องน้ำในงานแห่งหนึ่ง เสี่ยก็มาเดินจับมือเลย แล้วพูดว่าถ้าคุณจะทำหนังต้อง นึกถึงผมก่อนนะ เราก็บอกได้ครับ หลังจากนั้นหลายปีก็ยังไม่คิดที่จะทำ จนวันหนึ่งเราไปเล่นกอล์ฟกับน้อง ๆ เราก็คิดว่า เอ๊ะ…ตอนนี้ตลกที่มาทำหนังส่วนใหญ่ ก็มาทำหนังผี ทำไมไม่มีใครคิดจะทำหนังโรแมนติกภาพสวย ๆ มีความเป็นคอเมดี้ ดราม่าเล็ก ๆ แนวแบบนี้ยังไม่มีใครทำ ก็เลยคิดพล็อตเรื่องขึ้นมา พอมาเจอเสี่ยก็เลยบอกเสี่ยผมมีพล็อตเรื่องดี ๆ เรื่องหนึ่ง พอ เล่าให้เสี่ยฟังปั้บเสี่ยบอกเป็ดมาเอาตังค์ไปทำเลยก็เลยได้เริ่มทำขึ้นมา”

 

…โดยพล็อตเรื่องของ “ก่อนบ่ายเดอะมูฟวี่…รักนะพ่อต๊ะติ๊งโหน่ง” เป็ด เชิญยิ้ม ได้ไอเดียบางส่วนมาจากหนังที่ทำ เงินถล่มทลายในสมัยก่อนคือ “เทพบุตรต๊ะติ๊งโหน่ง” ที่มีเด่น เด๋อ เทพ เป็นตัวเดินเรื่อง ก่อนจะต่อยอดเป็นเรื่องราวมากมาย ที่มีความสนุกสนานและง่ายต่อการติดตาม

“เราวางตัวละครพระเอกสามคนให้เป็นตัวเดินเรื่อง สามคนนี้เป็นชาวดอยที่เซ่อ ๆ ซ่า ๆ แล้ววันหนึ่งได้เจอกับกลุ่ม ของนางเอกที่มาจากเมืองกรุง จนเกิดอุบัติเหตุรักจนหลุมรักเข้าอย่างจัง ก่อนจะเกิดเรื่องราวอลวนจนนางเอกต้องกลับ กรุงเทพฯ ทั้งสามเด๋อเลยต้องเข้ากรุงเพื่อตามหาหัวใจ ด้วยความเด๋อด๋าไม่รู้ประสาของพวกเขา เลยทำให้ไปเจอผู้คนแปลก ๆ และต้องไปอยู่ผิดที่ผิดทาง เลยทำให้เกิดเรื่องราวอลวนมากมาย นี่คือเส้นเรื่องที่เราวางไว้ ก่อนที่จะสอดแทรกมุกและคาแร็คเตอร์ฮา ๆ ของตัวละครทั้งหมดเข้าไปใสในพล็อตเรื่องที่วางไว้”

…ทิศทางและอารมณ์ของหนัง เป็ด เชิญยิ้ม ตั้งใจทำออกมาให้เป็นคอเมดี้ แนวทางที่เขารู้จักดีที่สุด เพราะจาก ประสบการณ์บนเส้นทางสายนี้กว่า 30 ปีของเขา ความเฮฮาแบบขำกระจายคงกลายเป็นเครื่องหมายการค้าของเขาไปแล้ว โดยเขาได้ใส่กลิ่นของความโรแมนติกและดราม่าเข้าไปเล็กน้อยเพื่อความกลมกล่อมของงานชิ้นนี้

“การที่เลือกทำแนวคอมเมดี้ เพราะเราอยู่ในวงการตลกมานาน การทำให้คนอื่นหัวเราะกลายเป็นชีวิตเราไปแล้ว ถ้าจะให้ไปทำหนังแนวอื่นก็คงไม่ได้ ซึ่งผมมั่นใจว่าพาร์ทของความสนุกเฮฮาจะเอาคนดูอยู่หมัดแน่นอน แล้วยังมีกลิ่นของ ความโรแมนติกที่มาจากภาพสวย ๆ ไดอะล็อกเพราะ ๆ เราตั้งใจนำทั้งสองพาร์ทเข้ามาผสมผสานกันให้กลมกลืน เพื่อให้ความครบรสบันเทิง เหมือนเวลาเรากินก๋วยเตี๋ยวสักชาม ถ้ากินเค็มอย่างเดียวคงไม่อร่อย ต้องใส่น้ำตาลเข้าไปนิด เติมเปรี้ยว ไปอีกหน่อยก๋วยเตี๋ยวชามนั้นถึงจะอร่อยถูกปากเรา”

…เมื่อชื่อหนังเรื่องนี้คือ “ก่อนบ่ายเดอะมูฟวี่” คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกตั้งคำถามว่า หนังเรื่องนี้จะมีความเหมือน หรือแตกต่างกับ “ก่อนบ่ายคลายเครียด” ในทีวีอย่างไรเขาในฐานะผู้กำกับคงตอบคำถามนี้ได้ดีที่สุด

“เมื่อก่อนบ่ายฯ โดดลงมาโลดแล่นบนแผ่นฟิล์ม ทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีความกว้างและใหญ่ขึ้น ทั้งเรื่องโปรดักชั่นต่าง ๆ ต้องใหญ่ขึ้นไปด้วย เพื่อที่จะสามารถเล่าเรื่องได้ในหลาย ๆ มุม ตัวละครต้องเยอะขึ้นและมีสีสันที่หลากหลาย รวมไป ถึงแก๊กฮาที่ปรับขึ้นใหม่เพื่อใส่เข้าไปในหนัง มุขจะไม่ลอยไปลอยมาแบบไร้สาเหตุ มุขฮาต่าง ๆ จะเกิดขึ้นไปตามเนื้อเรื่องที่วางไว้ คนที่ชอบดูก่อนบ่ายฯ ในทีวี ก็ชอบหนังเรื่องนี้ หรือใครที่ไม่ค่อยได้ดูก่อนบ่ายฯ ก็สามารถสนุกไปกับหนังเรื่องนี้ได้”

ปรากฏการณ์ความฮา…รวมตลกซูเปอร์สตาร์ทั่วฟ้าเมืองไทย…รวมสารพัดแก๊กฮาแตกแบบไม่ยั้ง

…เมื่อ “เป็ด เชิญยิ้ม” จะทำหนังทั้งที งานนี้พลพรรคเพื่อนพ้องน้องพี่ในวงการตลก ต่างพากันแท็กทีมมาช่วยสร้างสีสันให้กับหนังเรื่องนี้ ทำให้ทุกอณูของแผ่นฟิล์มเต็มไปด้วยสีสันแห่งความสุข ถือเป็นปรากฏการณ์ที่การันตีความฮาได้เป็นอย่างดี เพราะแต่ละคนธรรมดาที่ไหนกัน…โอ๊ย…โอ๊ย…แล้วนี่จะฮากันแค่ไหนเนี่ย

“หนังเรื่องนี้บรรดาพี่ ๆ น้องๆ ในวงการตลกมาช่วยสีสันมากมาย มากจนเรานับไม่ถูก ทั้งจากรายการก่อนบ่ายฯ ของเรา และจากตลกทั่วฟ้าเมืองไทย รุ่นเล็กรุ่นใหญ่เราขนมาแทบหมดประเทศ นอกจากนั้นยังมีแขกรับเชิญที่จะทำให้คุณเซอร์ไพรส์แบบคาดไม่ถึง พอเขารู้ว่าเราจะทำหนังแค่เราเอ่ยปากชวน แต่ละคนก็เฮ้ยพี่ผมขอ ๆ กันยกใหญ่ ถือว่าเป็นโชคดีของเราที่มีพี่พี่พ้องน้องเพื่อนน่ารักหลายคน โอเคเป็ดมาทำหนังทุกคนเลยช่วยเต็มที่ แล้วแต่ละคนไม่ได้เอามาใส่ในหนังแบบสะเปะสะปะ ทุกคนต่างมีความหมายให้กับเรื่องราวของหนัง เพราะในหนังสามหนุ่มชาวดอยที่เป็นตัวเดินเรื่อง จะต้องเจอกับผู้คนแปลก ๆ เพี้ยน ซึ่งก็คือบรรดาตลกและแขกรับเชิญที่เข้ามาแจมในหนังเรื่องนี้นี่เอง”

…เพราะความที่รวมเอาตลกมารวมไว้ในหนังเรื่องนี้อย่างคับคั่ง แล้วแต่ละคนก็ขนมุขฮามาแบบเต็มกระเป๋าอยู่แล้ว เป็ด เชิญยิ้ม จึงมีวิธีการประชุมในเรื่องของมุขด้วยครั้ง และเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ดีไซน์ความฮาในแบบฉบับของตัวเองอย่างเต็มที่

“ก่อนออกกองถ่ายทุกครั้งเราต้องประชุมกันและหารือเรื่องมุกกันก่อน ซึ่งเป็นวิธีการเดียวกับการทำก่อนบ่ายฯในทีวี คือใครมีมุขมีแก๊กอะไรมาเสนอก็เอาออกมาวางที่โต๊ะ แล้วเราจะค่อย ๆ เกลี่ยมุกหรือแก๊กที่ไม่โดนออกไป เพื่อให้มุกหรือแก๊กที่ใส่เข้าไปในหนังมีอารมณ์กับจังหวะที่พอดีและสอดคล้องกับสถานการณ์ของหนัง พอได้มุกมาแล้วเราก็ลองให้นักแสดงมาต่อบทกัน เพื่อดูว่าโอเคมั้ย ถ้าเล่นแล้วดูติดๆ เราก็จะช่วยกันอิมโพรไวซ์กันใหม่ จนกว่าจะได้ตามที่เราคิดว่านี่แหละคนดูฮากันแน่ ๆ”

…คงเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วสำหรับหนังตลกบางเรื่องในบ้านเรา ที่มักมีเนื้อหาหรือคำหยาบคายอยู่เกลื่อนกลาดใน หนังเต็มไปหมด จนทำให้หนังตลกที่ควรจะเป็นหนังครอบครัวหรือเป็นหนังที่มอบความสุขให้กับผู้ชม กลายเป็นหนังที่ “เด็กดูไม่ได้…ผู้ใหญ่ดูไม่ดี” ไปเสียหมด ซึ่งในหนังเรื่องนี้ เป็ด เชิญยิ้ม รับรองว่าเป็นมุขสะอาด เนื้อหาดี ๆ ดูได้ทั้ง ครอบครัว

“หนังเรื่องนี้ดูได้ทั้งครอบครัว ไม่ใช่ว่าดูได้แค่เด็กโตนะ เด็กสามเดือนก็ดูได้ แม่สามารถอุ้มลูกเข้าไปดูได้ เพราะ หนังของเรา ขายความสุขความน่ารัก แก๊กใส ๆ จะไม่พยายามเน้นเรื่องที่หยาบคาย ไม่อยากให้มีการที่ว่า แม่ ๆ หนูอยากไป ดูก่อนบ่ายเดอะมูฟวี่ แต่แม่จับแขนลูกไว้แล้วบอกเดี๋ยวก่อนลูก แม่ต้องเช็คก่อนว่าหยาบหรือเปล่า ต้องบอกเลยว่า หนังเรา ไปดูได้ไม่หยาบคาย แต่คำพูดทะเล้นทะลึ่งนิดหน่อยมันต้องมีแน่ ไม่ใช่ว่าจะมาด่ากันทั้งเรื่อง ทุกอย่างมีเหตุผลในการด่า แต่ ไม่ใช่ด่าสะเปะสะปะ ทุกอย่างมีต่อเมื่อถึงจุดที่มันต้องมี”

…ใช่ว่าหนังเรื่องนี้จะมีจุดขายเพียงแต่การรวมตลกเอาไว้มากมายเพียงอย่างเดียว เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่ผู้กำกับอยาก พูดถึงคือเรื่องของโลเคชั่นในการถ่ายทำ ซึ่งเขาคิดว่าคนดูจะได้กำไรจากการดูโลเคชั่นสวย ๆ ในหนังเรื่องนี้อีกด้วย

“โลเคชั่นที่ใช้ในหนังเรื่องนี้มีความหลากหลายมาก คนที่ไปดูหนังเรื่องนี้ผมเชื่อว่านอกจากจะฮาแล้วยังได้ดู โลเคชั่นสวย ๆ อีกด้วย เราพยายามให้หนังมีความสบูรณ์แบบมากที่สุดไม่อยากให้การดำเนินเรื่องน่าเบื่อหรือดูจำเจ อย่างที่ ยกกองไปถ่ายที่ดอยแม่สลองจังหวัดเชียงราย บอกได้เลยว่าสวยมาก ๆ ให้บรรยากาศของซีนโรแมนติกในเรื่องนี้ได้อย่างดี เพราะฉะนั้นภาพของหนังเรื่องนี้รับรองว่าสวยมาก ผมคิดว่าคนดูจะได้กำไรจากส่วนนี้ด้วย”

…ด้วยความที่ก่อนบ่ายฯ ได้โดดจากจอทีวีสู่แผ่นฟิล์มทั้งที ทุกอย่างจึงต้องดูพิเศษและแตกต่างจากในทีวีอย่าง แน่นอน เป็ด เชิญยิ้ม จึงพิถีพิถันให้ทุกอย่างดูอลังการ อย่างฉากฮา ๆ ฉากหนึ่งที่ใส่ความเป็นแอ็คชั่นเข้าไปด้วย นั่นคือฉากที่ กลุ่มสามเด๋อต้องขโมยรถไฟฟ้า ตามหานางเอก ขณะเดียวกันก็ต้องหนีการตามล่าของตำรวจด้วย งานนี้ว่ายากจริง ๆ

“ฉากนี้เป็นฉากที่ยากมาก ถือเป็นมุกตลกที่ลงทุนเรื่องงานสร้างมากที่สุด แล้วก็เป็นฉากที่ยากและเหนื่อยสุดๆ ตอนที่คิดมุข นี้เราก็แค่คิดว่า อยากได้อารมณ์ประมาณบ้านนอกเข้ากรุง แล้วเจอกับนางเอกที่ตามหา ก็เลยต้องขับรถไฟฟ้าไล่ ตาม แต่ขณะเดียวกันก็โดนตำรวจไล่ตามด้วย ซึ่งเป็นฉากที่สเกลงานใหญ่มาก ต้องใช้รถตำรวจเป็นสิบคัน รถก็ต้องใช้ของ การไฟฟ้าจริง ๆ แถมยังต้องปิดถนนถ่ายทำกันด้วย ซึ่งฉากนี้รับรองว่านอกจากจะได้ฮากันแล้ว ยังได้อารมณ์ของแอ็คชั่นเล็ก ๆ ด้วย”

 

ทำความรู้จักหนุ่มทีป้อกับสาวดอกไม้

…นอกจาก “ก่อนบ่ายเดอะมูฟวี่…รักนะพ่อต๊ะติ๊งโหน่ง” จะมีความพิเศษโดยการนำตลกทั่วฟ้าเมืองไทยมารวมเอาไว้อย่างคับคั่งแล้ว คุณยังจะได้ฮาไปกับการพลิกโฉมและคาแรกเตอร์ของ “อ๊อฟ-ศุภณัฐ เฉลิมชัยเจริญกิจ” ที่ต้องสวมบทเป็น “ทีป้อ” หนุ่มชาวดอยสุดโก๊ะ ยอมบ้ายอมฮาเต็ม ๆ เป็นครั้งแรก ซึ่ง เป็ด เชิญยิ้ม ผู้กำกับ พูดถึงเหตุผลที่เลือกหนุ่มหน้าทะเล้นมารับบทนี้ว่า

“ตอนนั้นก็พยายามหาพระเอกที่น่าจะเข้ากันได้กับบรรดาตลกในเรื่อง ซึ่งคนน่าจะมีคาแรกเตอร์ใกล้เคียงที่สุดก็คือเจ้ากระรอกน้อยนี่แหละ เขาเป็นขวัญใจของเราตั้งแต่เขาอยู่ในบ้านอะเคเดมี่แฟนเตเชียแล้ว ที่บ้านเราก็ช่วยเชียร์ตลอด เขามีความน่ารักน่าเอ็นดู และมีความเป็นเด็กลูกทุ่งซื่อ ๆ อยู่ในตัว ตรงจุดนี้แหละที่คิดว่าเขาน่าจะสวมบทเป็นคนเด๋อด๋าบ้านนอกเข้ากรุงได้ จึงตัดสินใจเลือกเขามาเป็นพระเอกของเราในเรื่องนี้”

…กับการพลิกโฉมและคาแรกเตอร์ในเรื่องนี้ของอ๊อฟ นอกจากจะต้องใส่วิกสุดเด๋อ สวมใส่ชุดชาวดอย แถมต้องพูดภาษาชาวเขา เรียกว่าลืมอ๊อฟในแบบที่คุณเคยเห็นไปได้เลย ซึ่ง เป็ด เชิญยิ้ม พูดถึงการปรุงโฉมครั้งสำคัญของอ๊อฟครั้งนี้ว่า

“เรารับรองว่าคุณจะลืมเจ้ากระรอกน้อยคนนี้ในแบบเดิมไปเลย พอจับใส่วิกใส่ชุด เท่านั้นแหละ กลายเป็นหนุ่มดอยเด๋อด๋าทันที ยิ่งตอกย้ำว่าอ๊อฟนี่แหละคือตัวละครที่ เราตามหา ส่วนเรื่องภาษาชาวเขาก็ต้องให้เขาไปฝึกพูดอยู่พอสมควร พอเขาลองพูด ให้ฟังก็เออ…ดูน่ารักดี ทำห้ทุกคนเชื่อว่าเขาเป็นตัวทีป้อจริงๆ ไม่ใช่อ๊อฟ-ศุภณัฐ”

…แต่ที่ถือว่าเป็นไฮไลท์สุด ๆ คือการนำเขามาปะทะกับบรรดาตลกซูเปอร์สตาร์มากมาย และต้องสวมบทตลกโปกฮาเป็นครั้งแรก ซึ่งผู้กำกับยอมรับว่าอ๊อฟทำการบ้านมาดีมาก และทุ่มเทกับการแสดง เรียกว่ายอมบ้ายอมฮาไม่ห่วงหล่อเลย

“ในเรื่องเนี่ยอ๊อฟจะเป็นทีป้อหนึ่งในแก๊งสามเด๋อซึ่งมีหล่อซา กับหม่าจูซึ่งรับบทโดยนุ้ยกับจั๊กกะบุ๋มเชิญยิ้ม สามคนนี้เขาไปไหนไปด้วย กันทั้งเรื่อง เรื่องนี้อ๊อฟจึงอยู่ท่ามกลางตลกมากมาย ซึ่งอ๊อฟก็เรียนรู้เรื่องมุก เรื่องฮาได้อย่างรวดเร็วยอมเล่นมุกฮาๆบ้าๆแบบไม่กลัวเสียลุกส์ซึ่งทำให้ ความน่ารักที่มีอยู่ในตัวอยู่แล้วเพิ่มขึ้นไปอีก”

 

…ส่วนหญิงสาวที่มารับบทเป็น “คุณดอกไม้ของนายทีป้อ” นั้น เป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่มีดีกรีรองอันดับสองในเวทีประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2004 ซึ่งคงการันตีถึงความงามของผู้หญิงคนนี้ได้เป็นอย่างดี เธอชื่อว่า “ซานดร้า-อเล็กซานดร้า สติเบิร์ท” ซึ่ง เป็ด เชิญยิ้ม พยายามควานหาหญิงสาวที่มีความสวยถึงขนาดที่ทำให้ผู้ชายต้องอุทานว่า “โอ้โห..สวยเหมือนดอกไม้เลย” ซึ่งกว่าจะหามาได้ก็ต้องเลือกจากคนที่มาแคสกว่าร้อยคนทีเดียว

“เราตั้งโจทย์ไว้เลยว่าต้องหาผู้หญิงที่สวยที่สุด สวยเหมือนดอกไม้ สิ่งที่สวยงามที่สุดของคนชาวดอยคือดอกไม้ คือในหนังเมื่อพระเอกได้เจอนางเอกครั้งแรก ถึงขนาดอุทานว่า…โหสวยเหมือนดอกไม้เลย ก็เลยต้องเลือกเยอะหน่อย เรียกมาแคสต้องเกือบสองร้อยคน จนได้เจอกับซานดร้า เขาดูมีคาแร็คเตอร์ในแบบที่เราตามหา เป็นเด็กลูกครึ่ง ดูเป็นผู้หญิงหัวนอก ซึ่งพอเอามาจับคู่กับอ๊อฟแล้วก็ดูเหมาะสมและลงตัวที่สุด”

…แต่ใช่ว่าหนังเรื่องนี้มีแต่มุมสนุกสนานบันเทิงฮาแตกเพียงอย่างเดียว ใน “ก่อนบ่ายเดอะมูฟวี่…รักนะพ่อต๊ะติ๊งโหน่ง” ยังมีตัวร้ายซึ่งสร้างสีสันให้กับหนังอีกด้วย ซึ่งได้นักแสดงมากฝีมืออย่าง “ต้น-ตระการ พันธุมเลิศรุจี” โดดมาเล่นหนังเป็นครั้งแรก โดยสวมบทร้ายลึกโรคจิตสุด ๆ เลยทีเดียว

“สำหรับต้นถือเป็นน้องที่สนิทกัน บังเอิญวันหนึ่งเราได้ดูละครที่ต้นเล่น แล้วเขา เป็นตัวร้าย ก็เลยปิ๊งขึ้นมาทันที เขาต้องเป็นตัวละคร ภคิณ ได้แน่นอน ก็เลยลอง ทาบทามดูเพราะต้นไม่เคยเล่นหนังมาก่อน พอได้ต้นมาอยู่ในหนังปั๊บ ทำให้ได้ อารมณ์จริงจังเข้ามาช่วย เป็นด้านมืดให้กับหนังได้ทันที ยอมรับเลยว่าต้นเล่นได้ ดีมาก เป็นอีกสีสันหนึ่งที่ทำให้หนังสมบูรณ์”

ใครเป็นใครใน…รักนะพ่อต๊ะติ๊งโหน่ง

อ๊อฟ-ศุภณัฐ เฉลิมชัยเจริญกิจ (ทีป้อ) – ทีป้อเป็นหนุ่มชาวเขาแสนซื่อแต่ไม่บื้อรักสุดฮอตจากยอดดอย ที่ดันไปตกหลุมรักสาว ชาวกรุงอย่างแอนนี่ ถึงกับอุทานเรียกเธอว่า…คุณดอกไม้ เมื่อแอนนี่มีเหตุต้องกลับไปกรุงเทพฯ ทีป้อจึงต้องบากบั่นจากยอดดอยไปตามหาหัวใจของตัวเองในเมือง ท่ามกลางความโกลาหลสุดฮาที่เขาต้องเจอ

“เรื่องนี้อ๊อฟรับบทเป็นทีป้อ หนุ่มชาวดอยซื่อ ๆ แอบมีโก๊ะบ้างเป็นบางครั้ง เป็นการพลิกโฉมและคาแร็คเตอร์ของอ๊อฟไปเลย ถือว่าท้าทายตัวเรามาก ต้องฝึกตั้งแต่สำเนียงการพูดแบบชาวเขา โดนจับใส่วิกแต่งชุดชาวเขา เท่านั้นยังไม่พอยังต้องมาเล่นบทตลกแบบครั้งแรก ปะทะกับพี่ ๆ ตลกเยอะแยะไปหมด ต้องหัดตีหน้าตาย เวลาเขายิงมุขอะไรมาก็ต้องทำหน้าเฉยๆ ห้ามหลุดขำเด็ดขาด มาเล่นเรื่องนี้พี่ตลกเขาทำอะไรเราก็ต้องทำแบบนั้น ต้องใส่ลูกบ้าลูกฮาเต็มที่ อยากให้ทุกคนมาดูบทบาทฮา ๆ ครั้งแรกของอ๊อฟ รับรองว่าฮาแน่ครับ”

ประวัติส่วนตัว อ๊อฟ –ศุภณัฐ เฉลิมชัยเจริญกิจ หรือ เจ้ากระรอกน้อย เกิดเมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2529 เกิดและโตที่จังหวัดชัยนาท เป็นเด็กผู้ชายที่ชอบเล่นลิเกร้องเพลงลูกทุ่งมาก โด่งดังเป็นพลุแตกเมื่อได้รางวัลชนะเลิศในเวที Academy Fantasia ซีซั่น 2 ความน่ารักจริงใจบวกกับความสามารถที่มีอยู่อย่างเปี่ยมล้น ทำให้เขาเป็นที่รักใคร่ของประชาชนอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นอ๊อฟก็มีผลงานทั้งออกอัลบั้มและแสดงละครหรือหนังมากมาย และกับผลงานสุดฮาเรื่องล่าสุด “ก่อนบ่ายเดอะมูฟวี่…รักนะพ่อต๊ะติ๊งโหน่ง

ผลงาน ผลงานเพลง – อัลบั้ม “ปฏิบัติการเร่ขายฝัน”, อัลบั้ม “อ๊อฟ ศุภณัฐ SHOW AOF”, อัลบั้ม “DREAMTEAM AF1+AF2”, อัลบั้ม “รักทนรักนาน” / ผลงานละคร – เพื่อนรักนักล่าฝัน, ละครเฉลิมพระเกียรติ “ตามรอยพ่อ”, ละครเพลง “AF The Musical ตอน เงิน เงิน เงิน / ผลงานหนัง – “THE ONE ลิขิตรักขัดใจแม่”, “ก่อนบ่ายเดอะมูฟวี่…รักนะพ่อต๊ะติ๊งโหน่ง”

 

อเล็กซานดร้า สติเบิร์ท (แอนนี่ / คุณดอกไม้) – แอนนี่เป็นสาวสวยลูกครึ่งผู้เพรียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง และเป็นคนง่าย ๆ ไม่คิดอะไร มากมาย และความไม่คิดอะไรนี่เอง ที่ทำให้ทีป้อขี้ตู่ไปเองว่าเธอก็มีใจให้ตัวเอง จนเป็นเหตุ ให้เกิดเหตุการณ์อลวนชวนฮามากมาย

“ซานดร้ารับบทเป็นแอนนี่ค่ะ คาแร็คเตอร์ก็เป็นผู้หญิงลูกครึ่งที่หัวนอก เป็นเหมือนผู้หญิงในเมืองทั่วไป จนได้มาเจอกับทีป้อ เขาตะลึงในความสวยของแอนนี่จนถึงกับอุทานว่า…คุณดอกไม้ ด้วยความไม่ได้คิดอะไรเลยทำให้ทีป้อคิดว่าเรามีใจให้ จนนำไปสู่เรื่องราวอลวนมากมาย ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นการแสดงหนังเรื่องแรกของซานดร้าค่ะ ต้องผ่านการแคสกับคนเกือบสองร้อยคน เพราะอาเป็ดบอกว่าอยากได้คนที่จะมาเป็นคุณดอกไม้ได้จริง ๆ ก็ตื่นเต้นมาก เพราะต้องมาประกบกับอ๊อฟซึ่งเราก็ชื่นชอบผลงานของเขาอยู่แล้ว และยังต้องมาเจอพี่ ๆ ตลกมากมาย ก็อยากฝากผลงานหนังเรื่องแรกของซานดร้าไว้ด้วยค่ะ

ประวัติส่วนตัว ซานดร้า หรือ อเล็กซานดร้า สติเบิร์ท เกิดเมื่อวันที่ 12 ก.ค พ.ศ.2527 เธอเป็นลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก อย่าแปลกใจที่นามสกุลและใบหน้าของเธอคล้ายกับนักร้องเด็กชื่อดังคนหนึ่ง เพราะเธอคือพี่สาวของ “นาตาลี สติเบิร์ท” เจ้าของเพลง “โอมมะลึกกึ๊กกึ๋ย” นั่นเอง ซานดร้าเคยมีผลงานถ่ายแบบถ่ายโฆษณามาตั้งแต่เด็ก ก่อนโด่งดังจากเวทีการประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2004 ด้วยรางวัลรองอันดับ 2 ก่อนจะเล่นละครให้กับช่อง 3 มากมาย และผลงานหนังเรื่องแรก “ก่อนบ่ายเดอะมูฟวี่…รักนะพ่อต๊ะติ๊งโหน่ง”

ผลงานละคร – เฮี้ยวนักรักซะเลย, หว่ออ้ายหนี่, ขอหยุดใจไว้ที่เธอ

 

นุ้ย เชิญยิ้ม (หล่อซา) – หล่อซาเป็นหนึ่งในแก๊งสามเด๋อ ดูผิวเผินอาจดูฉลาดกว่าเพื่อนทั้งสอง แท้จริงแล้วก็ไม่ ฉลาดไปกว่ากันเท่าไหร่ แต่ก็เป็นที่พึ่งของเพื่อนได้ดีเสมอ หล่อซาแอบชอบเจนเพื่อนของแอนนี่ เลยต้องชาวยกันกับทีป้อและหม่าจูตามหาคุณแอนนี่ในเมืองกรุงให้ได้

“ผมรับบทเป็นหล่อซา หนุ่มชาวดอยซึ่งเป็นเพื่อนกับทีป้อและหม่าจู คาแร็คเตอร์ก็จะประมาณฉลาดกว่าเพื่อนนิดนึง แต่จริง ๆ แล้วก็มั่วเอานั่นแหละ กับการได้มาร่วมงานในหนังเรื่องนี้ก็ดีใจครับ เพราะได้ร่วมงานกับพี่น้องครอบครัวก่อนบ่ายฯ ด้วยกัน และได้ร่วมงานกับอาเป็ดซึ่งเหมือนเป็นเหมือนพ่อคนที่สองของเรา ทำให้การทำงานมีความเป็นกันเองและสนุกสนาน และมีตลกอีกมากมายอยู่ในหนังเรื่องนี้ รับรองว่าสนุกแน่ครับ”

ประวัติส่วนตัว นุ้ย เชิญยิ้ม หรือ ชูเกียรติ เอี่ยมสุข เกิดเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. พ.ศ. 2517 เกิดและโตที่กรุงเทพ เริ่มเข้าวงการจากการอยู่ในวงดนตรีลูกทุ่ง ก่อนเข้ามาอยู่ในตลกคณะเชิญยิ้ม และโด่งดังจากรายการตลกสุดฮิต “ก่อนบ่ายคลายเครียด” ก่อนจะมีงานหนังงานละครออกมาอย่างต่อเนื่อง และ “ก่อนบ่ายเดอะมูฟวี่…รักนะพ่อต๊ะติ๊งโหน่ง” เป็นผลงานล่าสุดของเขา / ผลงานหนัง -โหน่งเท่งนักเลงภูเขาทอง, ตั๊ดสู้ฟุด

 

จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม (หม่าจู) – หม่าจูก็เป็นหนึ่งในแก๊งสามเด๋อ ใจร้อนวู่วามปากไวนี่คือเอกลักษณ์ของหม่าจู ที่มักทำให้เพื่อน งานเข้าเสมอ แต่ยังไงหม่าจูก็รักเพื่อนพ้องแทบตายแทนกันได้ เขาต้องช่วยเพื่อนทั้งสอง ภารกิจตามหาดอกไม้ใจดอยให้ได้

“ผมรับบทเป็นหม่าจู คาแร็คเตอร์ก็จะต่างกับเพื่องทั้งสองคือ เป็นคนใจร้อนปากไว คอยหาหมัดหาเท้าให้เพื่อนเป็นประจำ ก็ตื่นเต้นมากครับเพราะนี่คือหนังเรื่องแรกของผม เคยเล่นแต่ซิตคอมกับรายการก่อนบ่ายฯ ต้องขอบคุณอาเป็ดที่ให้โอกาสมาเล่นเรื่องนี้ เพราะได้ร่วมงานกับเพื่อนพ้องน้องพี่ในวงการตลกมากมาย ก็ขอฝากผลงานไว้ด้วยครับ”

ประวัติส่วนตัว จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม หรือ สมชาติ ทรงกลด เกิดเมื่อวันที่ 20 มิ.ย พ.ศ.2522 เริ่มเข้าวงการจากการอยู่ในคณะตลกเชิญยิ้ม ก่อนจะเป็นที่รู้จักจากรายการก่อนบ่ายคลายเครียด และโด่งดังจากซิตคอมยอดฮิต “บุญดีผีคุ้ม” ก่อนจะมีผลงานต่อมาอีกมากมาย

ผลงาน บุญดีผีคุ้ม, ผู้พิทักษ์รักเธอ, เล่ห์ภูมเรศ, วิญญาณหฤหรรษ์, ฝนสามฤดู, สังข์ทอง, บ้านนี้มีรัก

 

ตระการ พันธุมเลิศรุจี (ภคิณ) – ภคิณเป็นคู่หมั้นของแอนนี่ ภายนอกดูเป็นผู้ชายที่สุภาพอบอุ่น สุดเพอร์เฟ็คต์ แต่ แท้จริงแล้วมีด้านมืดที่ร้ายกาจสุดขั้ว ภคิณตั้งใจจะแต่งงานกับแอนนี่แล้ววางแผนทำ ร้ายเธอซะ แต่ดันมีพวกทีป้อมาขัดขวางซะเนี่ย

“ผมรับบทเป็นภคิณครับ ภคิณมีคาแร็คเตอร์ที่ดูภายนอกเป็นผู้ชายสุภาพ อ่อนโยน แต่แท้จริงแล้วแอบปิดด้านมืดของตัวเองที่เหี้ยมร้ายกาจสุด ๆ เขาตั้งใจแต่งงานกับแอนนี่แล้วฆ่าเธอ เพราะต้องการล้างแค้น ซึ่งบทนี่ก็ถือว่าท้าทายตัวเรามาก เพราะต้องเล่นเป็นสองบุคลิก ที่สำคัญเพิ่งได้มาเล่นหนังเป็นครั้งแรก ก็รู้สึกยังไม่คุ้นเท่าไหร่ แต่ก็เอาประสบการณ์จากการเล่นละครมาใช้ได้ ซึ่งพี่เป็ดก็ชวนให้เรามาเล่นเรื่องนี้ ก็ตัดสินใจมารับเล่นเพราะหนึ่งคือสนิทกับพี่เป็ด สองคือบทท้าทายตัวเราด้วยครับ”

ประวัติส่วนตัว ต้น-ตระการ พันธุมเลิศรุจี เกิดเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ.2513 เขานักแสดงมากฝีมือของวงการบันเทิงไทย โดยเริ่มเข้าวงการในปี พศ.2533 หลังจากนั้นผู้ชายนิสัยคนนี้ก็ทำงานทั้งเล่นละคร พิธีกร ถ่ายแบบ และทำกิจกรรมเพื่อสังคมมากมาย แต่ไม่เคยผ่านงานแสดงหนังมาก่อน แต่เมื่อผู้ใหญ่ที่เคารพอย่างเป็ด เชิญยิ้ม ชวนให้มาเล่นหนังเรื่องนี้ เขาจึงได้มีโอกาสแสดงหนังเต็มๆ เป็นครั้งแรกสักที

ผลงาน ผลงานละคร วนิดา, หมอเมืองเถื่อน, ถ่านเก่าไฟใหม่, บ้านไร่ริมทาง, สวรรค์บ้านทุ่ง, ตำรับรัก, อารีดัง, จากฝันสู่นิรันดร์, หัวใจและไกปืน, ทานตะวัน, เจ้าสาวปริศนา, คุณหนูอารมณ์ร้ายกับผู้ชายปากแข็ง, มณีหยาดฟ้า, พุทธานุภาพ, กากเพชร, ถามฟ้าหารัก, ดาวพระศุกร์, พลิกดินสู่ดาว, อยู่กับก๋ง, สายน้ำ สามชีวิต / ผลงานพิธีกร บ้านเลขที่ 5, หลุดโลกไปเลย, ตัวต่อตัว, ลุ้นระเบิด, ไอทีวี วาไรตี้, ยอดคน ยอดฝีมือ, รักษ์ชีวิต, ฉลาดส่งออก, กรุงเทพเพื่อประชาชน, เมนูทูเดย์, สปอร์ต แอท ไนท์, นานาอาทิตย์, ไปไหนไปกัน

 

เป็ด เชิญยิ้ม ภูมิใจเสนอ….ฉากเด็ดกระตุกต่อม

ฉากพวกทีป้อโดนกลุ่มโจรจับแช่น้ำ “ฉากนี้เป็นฉากทดสอบความอึดของนักแสดง เพราะต้องแช่น้ำตั้งแต่เช้า ยันดึก ทุกคนสู้ตายมาก อากาศร้อนแต่ยังคงปั้นหน้าตลกเล่นมุกไว้ได้ จับ ตาให้ดีตอนขึ้นจากน้ำได้ข่าวว่ามีเสียวนะ…ขอบอก”

ฉากพวกทีป้อและชุมชนหรรษาบุกช่วยแอนนี่กลางงานแต่งงาน “ฉากนี้ลงทุนสุด ๆ ทั้งเสื้อผ้าที่นักแสดงใช้สีสันดีไซน์จัดจ้าน เป็นฉากที่ พวกทีป้อบุกช่วยแอนนี่ ถ่ายกันสนุกมากเพราะมีดาราตลกมารวมอยู่ใน ฉากนี้เยอะที่สุด มุกนี่ใส่กันแบบทุกไดอะล็อก รับรองฮาแน่ฉากนี้”

ฉากทีป้อขโมยรถไฟฟ้าไล่ตามแอนน“ฉากนี้ถ่ายยากและเหนื่อยที่สุด ถือเป็นการทุ่มงานสร้างเพื่อความฮาของ มุขนี้โดยเฉพาะ ต้องปิดถนนใช้รถตำรวจเป็นสิบคัน แถมฉากนี้อ๊อฟลง ทุนแสดงจริงไม่ใช้สตั๊นท์ กับการขึ้นเครนขนาดรถวิ่งสุดหวาดเสียว ฉา นี้มันส์แล้วยังฮาอีกด้วย”

ฉากอ่างจริงชำระแค้นอ่างปลอม “แค่นึกก็ฮาแล้วฉากนี้ จะทำยังเมื่ออ่างจริงมาปะทะกับอ่างปลอม หลังจาก อ่าง เถิดเทิง ปล่อยให้ ท็อฟฟี่ แอบเอาท่าทางไปหากิน งานนี้อ่างเลยชำระ แค้นกันยกใหญ่ ฉากนี้รับประกันความฮา”

ฉากทีป้อจุมพิตคุณดอกไม“โอ้จอร์จ…มันยอดมาก แค่เห็นภาพก็ขนลุกแล้ว ฉากนี้เป็นฉากสุดโร แมนติกที่สุดของเรื่อง เมื่ออ๊อฟ-ศุภณัฐโชว์ลีลาจูบครั้งแรกบนแผ่นฟิล์ม โอ้มันช่างเป็นอะไรที่วิเศษมากเลย ฉากนี้ขอบอกว่าห้ามกระพริบตาเป็น อันขาด”

 

จากจุดเริ่มต้น…สู่ปีที่ 12 ของ “ก่อนบ่ายคลายเครียด” และ “เป็ด เชิญยิ้ม”

…หลังจากอิ่มตัวจากการเล่นตลกอยู่ในคณะ “เชิญยิ้ม” และออกมาตั้งคณะ “เป็ด เชิญยิ้ม” เอง ในช่วงระยะเวลา 20 ปีถือว่าเป็นเวลาที่สร้างประสบการณ์อย่างมากมายให้กับผู้ชายที่ชื่อ “เป็ด เชิญยิ้ม” เขาเริ่มมีคำถามเกิดขึ้นกับตัวเองว่า “ถ้าตลกสักคน จะมีบริษัทสักบริษัทหนึ่งเป็นของตัวเอง แล้วผลิตรายการตลก เพื่อตลกด้วยกัน มันจะผิดมั้ย ใครจะว่าอะไรมั้ย”

…คำถามนี้ถูกต่อยอดขึ้นในปี พ.ศ. 2538 โดย เป็ด เชิญยิ้ม จับมือเพื่อนซี้ “โน้ต เชิญยิ้ม” ก่อตั้งบริษัท COMEDY LINE จำกัด เพื่อรับจัดรายการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ เคเบิ้ลทีวี วีดีโอ ตลอดจนรับโฆษณาโดยโสตทัศนูปกรณ์ทุกชนิด ทั่วโลกและภายในประเทศ โดยผลิตรายการออกมาครั้งแรกคือ “สังกะสีเธียร์เตอร์” แต่ทำไปทำมาพระท่านทักว่าชื่อดูไม่รุ่งเท่าไหร่ เลยเปลี่ยนเป็นชื่อ “สังกะสีเชิญยิ้ม” แต่ก็ถูกถอดออกจากผังในที่สุด ซึ่ง “โน้ต เชิญยิ้ม” ได้ถอนตัวออกมาไปทำวงลูกทุ่งในภายหลัง ในตอนนั้นบริษัท COMEDY LINE ประสบภาวะขาดทุน แต่ยังมีสิ่งที่น่าภูมิใจคือรายการ “มุมหัวเราะ” ได้รางวัลเมขลามานอนกอดหนึ่งตัว แต่ในที่สุดบิ๊กบอสของทางช่องสาม “ประวิทย์ มาลีนนท์” ก็ให้โอกาสและมอบช่วงเวลา 12.20-12.50 น. กับเขาเพื่อหารายการลงให้ได้

…และเฮือกสุดท้ายของเขาในครั้งนี้ เป็ด เชิญยิ้มก็ผุดรายการตลก “ก่อนบ่ายคลายเครียด” ออกสู่สายตาคนไทยในปี 2538 และประสบความสำเร็จสูงสุด เมื่อครั้งหนึ่งเคยทำเรตติ้งเทียบเท่ากับละครหลังข่าว รายการนี้ถือเป็นรายการที่มอบเสียงหัวเราะและความสุขให้กับคนไทยมาอย่างต่อเนื่อง ตลกมากมายแจ้งเกิดและเติบโตขึ้นในรายการนี้ ซึ่งเป็ด เชิญยิ้ม เป็นผู้อยู่เบื้องหลังและมันสมองของรายการนี้ตลอดมา และในวาระ 12 ปีของรายการ เป็ด เชิญยิ้ม จึงพาก่อนบ่ายฯก้าวไปอีกขั้นกับการลงสู่แผ่นฟิล์มเป็นครั้งแรกใน “ก่อนบ่ายเดอะมูฟวี่…รักนะพ่อต๊ะติ๊งโหน่ง”

 

DIRECTOR’s NOTE

…อยากให้ทุกคนที่รักเป็ด เชิญยิ้ม หรือรักตลกและเสียงหัวเราะในก่อนบ่าย รักอ๊อฟ รักแซนดร้า รักตัวละครของผมทุกคน เชื่อเถอะครับไปดูก่อนหนังเรื่องนี้ ผมเชื่อมั่นว่า “ก่อนบ่ายเดอะมูฟวี่…รักนะพ่อต๊ะติ๊งโหน่ง” จะไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่ ๆ อาจไม่ดีลีเลิศเหมือนคนอื่น แต่ผมการันตีได้ว่าท่านจะมีความสุขหลังจากดูหนังเรื่องนี้เสร็จ

…ผมเชื่อในความตั้งใจของทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้รวมถึงตัวผมเอง ก็ขึ้นอยู่กับผู้ชมทุกคนว่าจะเอ็นดูพวกผม เอ็นดูอ๊อฟ เอ็นดูพวกตัวละครในเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน ถ้าท่านไปดูกันเยอะๆ ผมเชื่อว่าเสียงหัวเราะต้องแน่นโรงแน่ ๆ ถ้าไปดูกันน้อย เสียงหัวเราะต้องเบา ฉะนั้นต้องไปกันเยอะ ๆ ไปกันให้เต็มโรง

…ผมหวังว่าภาพยนตร์เรื่องนี้คงจะทำให้ท่านผู้ชมที่เป็นแฟนชาวก่อนบ่ายคลายเครียดและพี่น้องที่ชอบชมภาพยนตร์มีความสุขในการที่จะได้ชมภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้

…และผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าภาพยนตร์ที่ผมกำกับพร้อมทั้งแก๊กตลกที่ผมสะสมมาตั้งแต่สมัยที่เคยเล่นกับคณะเชิญยิ้มมาคงจะทำให้ทุกท่านสนุกอย่างแน่นอนการันตีโดยผม…เป็ด เชิญยิ้ม

Share this article :

แสดงความคิดเห็น