นักแสดง
นักแสดง
เรื่องราวของ “แก้ว” เด็กหญิงน่ารักวัยประมาณ ๙ ขวบ อยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น มีคุณพ่อ คุณแม่ที่รักใคร่เอาใจใส่ลูก ๆ เป็นอย่างดี พี่สาวที่เรียนเก่ง คือ พี่ไก่ ในวัยประมาณ ๑๓-๑๔ ปี ที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นครู และน้องสาวหนึ่งคนคือ น้องเล็ก ในวัยประมาณ ๖-๗ ปี ที่ชอบร้องเพลงเป็นงานอดิเรก
แก้ว เป็นเด็กที่มีความร่าเริงแจ่มใส มีความมั่นใจในตัวเองมีความเป็นผู้นำและความคิดสร้างสรรค์ จึงกลายเป็นแก่นและซนในสายตาของผู้ใหญ่ และมักจะเป็นหัวโจกในหมู่พี่น้องและผองเพื่อนอยู่เสมอ อันได้แก่ นิด กับ หน่อย ที่เป็นลูกชายของ ป้าจ้อย พี่สาวของคุณพ่อ อึ่งกับอ๊อด ลูกสาวและลูกชายของคุณลุงคุณป้า อ้อย หลานคุณป้าเอิบ ป๊อก, เปี๊ยก, ป้อม, อ้วน ฯลฯ เพื่อนนักเรียนในชั้น ป.๔ นอกจากนี้แก้วยังเป็นเด็กที่รักสัตว์และชอบเลี้ยงสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นหมา แมว ปลา ฯลฯ อันแสดงถึงความเมตตาที่มีอยู่ในใจ แต่แก้วก็มักจะสร้างวีรกรรม ทั้งที่เป็นการทำดีบ้างและบางทีก็ทำให้ผู้ใหญ่ถึงกับส่ายหน้า แต่ก็ไม่มีใครโกรธแก้วได้ลงซักที ซึ่งเนื้อเรื่องจะมีลักษณะแบบจบในตอนแบบต่อเนื่อง และมักจะแฝงสาระหรือข้อคิดที่ไม่หนักจนเกินไปสำหรับเด็กเป็นตอน ๆ เรื่อยไป
นอกจากนี้ยังมีคนรุ่นหนุ่มสาว เช่น พี่หนู พี่ชายคนโตของนิดกับหน่อย พี่สุทธิ เพื่อนบ้านที่ใจดีและชอบเล่นกับแก้วเป็นพิเศษ ครูสุมน ครูสาวประจำวิชาภาษาไทย ครูจินตนา สอนวิชาพลศึกษา ครูเสือ ที่ค่อนข้างดุสมกับสมญาที่เด็ก ๆ ช่วยกันตั้งให้
ผู้กำกับ : นิพนธ์ ผิวเณร
ผลิตโดย : เอ็กแซ็กท์
เขียนบท : กษิดินทร์ แสงวงศ์
รายชื่อนักแสดงละคร เกมรักพยาบาท
ภูธเนศ หงษ์มานพ
พิยดา อัครเศรณี แสดงเป็น รมิดา
ลีน่า คริสเต็นเซ็นต์
ธัญญา โสภณ
ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา
วัชระ ปานเอี่ยม
ทองขาว ภัทร์โชคชัย
ภรา ยารสเอก
คิม ตาปนานนท์
มาเรียม คำเมือง
วันหนึ่งจกพบว่ามหัศจรรย์มีจริง เมื่อเขาพบสาวสวยน่ารักอย่าง จิ๊ก สาว 7-11 แห่งหนึ่งที่ร้านขายยาที่จกมาซื้อยาแก้ปวดให้ยาย จกคิดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นความมหัศจรรย์ที่ตัวเองทำดีมาตลอดและได้เจอะเจอ โดยไม่รู้ว่าจิ๊กมีเจ้าของแล้วคือวิรุฬ ที่เป็นนักพนันตัวยง แต่หลอกจิ๊กว่าเป็นนักขายประกัน และทำงานกลางคืนในสถานเริงรมย์ จกพบความมหัศจรรย์อีกครั้งจากผู้หญิงคนนี้ โดยจิ๊กบังเอิญอาศัยรถสามล้อขี่ของจก แต่ไม่มีเงินให้ค่าจ้าง เธอเลยให้เป็นลอตเตอรี่ 1 ชุดแทน วิรุฬฝากเธอซื้อ จกบอกจิ๊กว่าถ้าถูกจะแบ่งรางวัลให้ครึ่งหนึ่ง และเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ลอตเตอรี่ 1 ชุดนั้นถูกรางวัลที่ 1 มูลค่า 18 000 000 บาท เงิน 18 ล้านทำให้ชีวิตจกเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง จกทำตามสัญญาให้จิ๊กเหมือนที่พูดไว้ จกเชื่อหัวปักหัวปำว่า…ผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่เข้ามาทำให้ชีวิตเขาดีขึ้นใน ทุกๆทาง และจะรอเธอคนนี้ชั่วชีวิตไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
จะเอา เงินที่เหลือ 9 ล้าน ไปปรึกษารุ้งเจ้าหน้าที่การเงินที่บังเอิญได้รู้จักกันมาก่อนจกรวยและใช้ เงินทำบุญกับคนจน รุ้งช่วยเหลืออย่างดี ในขณะที่วิรุฬถลุงเงิน 6 ล้านจนเกือบหมด โดยการเล่นพนันแค่เดือนเดียว ดีที่จกเอาเงินไปเปิดร้าน 7-11 หนึ่งสาขา 3 ล้านบาท วิรุฬเล่นการพนันจนติหนี้สินและขู่โดยเสี่ยที่วิรุฬติดเงินในบ่อนนั้นเลยรีด เงินที่เหลือ 3 ล้านจากจิ๊กตบตีจิ๊กตาเขียวน่าสงสาร จิ๊กไปยืมเงินจากจก 1.5 ล้าน จกให้ยืมเพราะเธอคือทุกอย่าง และคิดว่านี่ก็คือเงินของเธอ ท่ามกลางความไม่พอใจของรุ้งที่จัดการเรื่องเงินอยู่ และยายที่คิดว่ามีใครมาหลอกเงินหลาน จกพบว่าจิ๊กมีเจ้าของแล้ว เขาเสียใจแทบไม่เป็นผู้เป็นคน แต่ก็ยังหัวปักหัวปำรอเธอ ยายยิ่งรู้ยิ่งโกรธ ว่าจกงมงาย แต่จกก็ยังคงรอเธอ
จกเริ่มสืบรู้ว่าเงินจิ๊กหมด ไปกับวิรุฬ จกทำทุกอย่างเพื่อให้จิ๊กทราบว่าวิรุฬเป็นคนยังไง จิ๊กรู้ความจริงในที่สุดแต่ด้วยความเป็นผู้หญิงไทย เป็นของใครแล้วถึงจะเลวยังไงก็จะเป็นของวิรุฬคนเดียว จกเสียใจแต่ก็รักในความเป็นจิ๊ก จิ๊กเองก็เริ่มเรียนรู้ว่า ความรักคืออะไรจากจกแต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะรักกัน วิรุฬรู้เรื่องจิ๊กกับจก และกล่าวหาว่าจิ๊กมีชู้ ตบตีจิ๊ก จิ๊กสับสนในชีวิต อยากเลือกจก แต่ก็ไม่สามารถทำได้ วิรุฬอาศัยความเป็นคนกะล่อน เจ้าเล่ห์ หว่านเสน่ห์กับรุ้งหลอกถามถึงความเป็นไปของจก รู้ว่าที่เท้จริงลอตเตอรี่ใบนั้นเป็นของตนที่ให้จิ๊กไปซื้อ วิรุฬทวงเงิน 9 ล้านจากจกโดยขู่ว่าถ้าไม่ให้จะแจ้งความดำเนินคดีกับจิ๊กฐานยักยอกทรัพย์ เมื่อแผนการชั่วร้ายของวิรุฬเริ่มขึ้นจกจะคืนเงินให้วิรุฬ และกลับมามีชีวิตที่จนอย่างเดิมหรือไม่ เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรโปรดติดตามได้ใน ทรามวัยกับไอ้จก
นำแสดงโดย...
อัมรินทร์ นิติพน
พิยดา อัครเศรณี
ขจรศักดิ์ รัตนวิสัย
อัมรินทร์ นิติพน
วริศรา ลี้ธีระกุล
วิไลวรรณ วัฒนพานิช
ผู้ผลิต บริษัท EXact
อำนวยการผลิต ถกลเกียรติ วีรวรรณ
นำแสดงโดย...
เกริกพล มัสยวาณิช เป็น มาวิน
พิยดา อัครเศรณี เป็น ทอฝัน
นพพล โกมารชุน เป็น ชนะ พ่อมาวิน
หญิง จุฬาลักษณ์ เป็น โมน่าลูกสาวท่านฑูต
กำกับการแสดงโดย...ถกลเกียรติ วีรวรรณ
ผู้ผลิต บริษัท EXact
หัวใจลายคราม เป็นเรื่องราวของ ลายคราม นักค้าของเก่า มีคู่ปรับคือ จามรี เป็นเจ้าของร้านของเก่าแต่มีเบื้องหลังเป็นคนค้าวัตถุโบราณ ของขโมยและผิดกฎหมาย เป็นคู่แข่งทางธุรกิจกับลายคราม เธอจะเยาะเย้ยถากถางถึงความเป็นคนไม่มีชาติตระกูลอย่างเขาทุกครั้งที่มีโอกาส เพราะเกลียดที่ลายครามเป็นเพียงเด็กกำพร้า แต่กลับได้รับมรดกมากมาย และยังมาเปิดร้านของเก่าเหมือนกันอีก จนกระทั่งเมื่อจามรีจะไปเอาเทวรูปโบราณ จึงวางแผนให้ลายครามเป็นแพะรับบาป แต่จามรีเกิดต่อสู้กับตำรวจได้รับบาดเจ็บ ลายครามกลับเป็นคนที่ช่วยเหลือเอาไว้ จามรีจึงไปพักรักษาตัวที่บ้านของลายคราม ลายครามก็ดูแลอาการเป็นอย่างดี ทำให้จามรีหลงรัก และตกเป็นของลายครามด้วยความเต็มใจ แต่จามรีก็ได้แอบเข้าไปดูห้องใต้ดิน ที่เก็บรักษาของเก่าเอาไว้ ทำให้ลายครามโกรธมาก
จามรียิ่งแค้นมากขึ้น เมื่อลายครามแต่งงานกับสีตลา คอยตามราวี และแข่งขันการประมูลกับลายคราม ในภายหลังลายครามโดนล้างแค้นถูกยิงตาย เพราะลูกน้องของตนเอง ไปฆาตกรรมคนรักของสีตลา รวมทั้งหมอผู้ผ่าตัดเพื่อเอาหัวใจมาเปลี่ยนให้ลายคราม จามรีสั่งให้ลูกสมุนไปปล้นบ้านของลายครามในวันนั้น จึงถูกตำรวจวิสามัญ ส่วนจามรีต้องติดคุก
นักแสดงละคร หัวใจลายคราม
ยุรนันท์ ภมรมนตรี แสดงเป็น ลายคราม
นาตาชา คอฟแมน แสดงเป็น สีตลา
จารุณี สุขสวัสดิ์ แสดงเป็น จามรี
เล็ก ไอศูรย์
นึกคิด บุญทอง
ดวงเดือน จิไธสงค์
วินัย ไกรบุตร
พิศมัย วิไลศักดิ์
พิราวรรณ ประสพศาสตร์
ยายคุณนายเจ้าของบ้านแกชื่อ มธุรส (โฉมฉาย ฉัตรวิไล) ผัวแกเป็นชั้นพิเศษอยู่กระทรวงมหาดไทย อันนิสัยของแกนั้น ชอบคบค้าสมาคมกับพวกคุณหญิงคุณนาย ที่ยุ่งแต่งานสังคมจนเรื่องครอบครัวไม่สนใจ
คุณเพลา (สมจินต์ ธรรมทัต) หัวหน้าครอบครัวก็กลับไปขลุกอยู่แต่ในวัด ฝ่ายคุณนายมธุรส ก็อยู่แต่สมาคมสตรีผู้บําเพ็ญประโยชน์กว่าจะกลับบ้านเอาก็มืดค่ำ ลูกเต้าก็ไม่มีใครคอยอบรม กลับจากโรงเรียนมาก็อยู่แต่หน้าเครื่องโทรทัศน์ หนังสือหนังหา ไม่ยอมดู การบ้านไม่ยอมทําใครใคร่กิน กิน เพราะรับอาหารปิ่นโต ดูเหมือนว่าบ้าน นี้จะมีผู้หญิงสาวอยู่คนเดียว ที่นิสัยออกจะผิดแผกไปจากคนอื่นในบ้าน เรียกว่าเป็นคนเอาถ่านก็แล้วกัน เธอชื่อ นิธิมา (มยุรา ธนะบุตร) เป็นน้องของสามี ขยันทําการบ้านการเรือนของตนออกหน้าออกตา ทางฝ่ายชายซึ่งมี คุณเดช (กําธร สุวรรณปิยะศิริ) ผู้เป็นพ่อ ชัยพร (ปรัชญา) ออกจะไม่พอใจ เพราะด้วยลูกของตนยังรับผิดชอบอะไรไม่ได้เลย คุณเดชเป็นคนเจ้าชู้มาก ครั้งแรกนั้นแกทําท่าจะไม่ยอม แต่พอทราบถึงว่าคุณเพลาผู้ เป็นพ่อของเด็กพิมพ์รส มีน้องสาวคนที่ชื่อ
จนกระทั่งวันหนึ่ง ลูกสาวคนโตของยายคุณนายมธุรส ชื่อ พิมพ์รส (ชนาภา นุตาคม) อายุประมาณ 16 ปี เพิ่งจบ ม. 6 ใหม่ ๆ ไปเรียนกวดวิชาภาคค่ำ เพื่อจะสอบเข้าโรงเรียนเตรียม ได้ไปพบเด็กหนุ่มวัยเดียวกัน เพียงไปเที่ยวด้วยกัน 2-3 ครั้ง เท่านั้น ดันท้องซะได้ คราวนี้ก็ต้องเดือดร้อนถึงพ่อแม่ฝ่ายหญิง ออกสืบหาว่าใครเป็นพ่อเด็กในท้อง ในที่สุดก็ยอมบอกว่าผู้ที่ทําให้เธอท้องขึ้นมาชื่อ ชัยพร (ปรัชญา อัครพล) เป็นลูกเศรษฐีใหญ่ ฝ่ายยายคุณนายมธุรส ก็ต้องการจับเอาไว้ โดยให้รับเลี้ยงดูบุตรสาว นิธิมา (มยุรา) เป็นคนสวยสมเป็นกุลสตรีก็เกิดอยากได้ไปเป็นเมียอีกคน ก็เลยรับเด็กรับเด็กพิมพ์รสไว้เป็นลูกสะใภ้ โดยการณ์ครั้งนี้ได้มอบหมายให้น้องชายชื่อ ดัมพ์ (สายัณห์ จันทรวิบูลย์) ผู้ซึ่งเป็นนักกฎหาย เรื่องผู้หญิงไม่ยุ่งมุ่งแต่งงาน เป็นผู้จัดการหาบ้านเช่าให้พิมพ์รสรักษาตัวก่อนคลอด ความจริงแล้ว คุณดัมพ์เกิดไปชอบคุณนิธิมาขึ้นมา ดูเหมือนว่าฝ่ายหญิงก็ชอบตอบ คราวนี้จะทํายังไงล่ะ ดันไปคั่วผู้หญิงคนเดียวกับพี่ชายเข้า ด้วยเขาเป็นคนกตัญญต่อพิชายผู้ต่างมารดา เหตุเพราะแม่ของเขาจน เขาจึงเจียมตัวแล้วจึงเปิดทางให้พี่ชาย คุณเดชก็เหลือร้ายพอรู้ว่าฝ่ายหญิงไม่รักตน กลับไปชอบน้องชายแทน เกิดความอิจฉาขับไล่น้องชายออกจากบ้านไป
ที่บอกไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า ยายคุณนายมธุรสแกเป็นคนไม่เอาไหน ผัวของแกทนไม่ไหวเลยระเบิดขึ้นมาวันหนึ่ง ขอหย่า ทั้ง ๆ ที่ยายมธุรสหาสาเหตุไม่ได้ แต่ชาวบ้านร้านตลาดเขารู้ดีว่า อีตาเพลาเนี่ยไปได้ อีเกียว (นวลปรางค์ ตรีชิต) ลูกยายไส (ศิรินทิพย์ ศิริวรรณ) ปิ้งข้าวโพดขายหน้าปากซอย เป็นเมียอีกคนหนึ่งเลยหาเรื่องหย่า
คณเดช เศรษฐีอายุ 40 กว่าก็ไม่เลวเลยทีเดียว ทําตัวเหมือนเศรษฐีเพลย์บอยทั่วไป เรื่องครอบครัวไม่สน มีลูกกับเมีย เก่าเกือบครึ่งโหล แล้วตอนนี้มีเมียสาวรุ่นเด็กชื่อ ชุดา (คนางค์ ดํารงหัด) ผู้ซึ่งเป็นหลานสาวยาย เฟื่องทอง (กันทรีย์ สิมะเสถียร) คุณนายแปดสาแหรก อันยายเฟืองทองหนังเหี่ยวคนนี้ ก็เหมือนยายคุณนายมธุรสไม่มีผิด ดูเหมือนยิ่งร้ายกว่าเสียด้วยซ้ำ ชอบทํางานเพื่อสังคมสงเคราะห์ชนิดอยากดังท่าเดียว
นางชุดา (คนางค์) เมียคุณเดช (กําธร) ไป ๆ มา ๆ ก็ไปได้กับคุณวีระเป็นผัวอีกคน ยายเฟื่องทอง (กัณทรีย์) เกือบจะเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนี ก็อะไรเสียอีกล่ะ ก็นางชุดาเป็นหลานแท้ ๆ กลับไปได้เสียกับสามีจอมเจ้าชู้ของแกเอง ยังไม่เท่านี้นะ ตอนที่ยายเฟื่องทองอยู่ไม่ติดบ้าน คุณวีระก็แอบได้ ฟ้าทอง (สุกัญญา นาคสนธิ์) น้องสาวคนเล็กของยายเฟื่องเป็นเมียอีกคน ยายเฟืองทองแทบจะฆ่าตัวตายวันละหลายร้อยหน
คุณเดชแกคิดว่าแกรวบรวมเงินทองซื้อได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งผู้หญิงที่แกปรารถนา แต่ผิดดังคาด นิธิมา (มยุรา) ไม่ใช่ผู้หญิงพรรค์นั้น เธอตัดสินใจเลือกดัมพ์ (สายัณห์) เพราะเห็นเป็นคนดี แล้วทั้งคู่จึงแฮปปีเอ็นดิ้ง ผิดกับคู่อื่น ๆ เพราะความดีของเขาทั้งสอง คุณเดชเลยชีช้าไป แต่ก็ยังมีมนุษย์ธรรมบ้าง แบ่งมรดกของให้กับดัมพ์เป็นบางส่วน เพื่อไปสร้างเรือนหอ แล้วไปตามตัวชุดา (คนางค์) ให้มาอยู่ด้วยและพร้อมอภัยให้เธอ ถึงเธอจะผ่านผู้ชายคนแล้วคนเล่า แต่เขาก็ยังรักเธออยู่ดี
ส่วนเด็กสองคนพิมพ์รส (ชนาภา) และชัยพร (ปรัชญา) คุณเดชก็ได้ส่งเสีย ให้ไปเรียนต่อที่อเมริกา ส่วนหลานชายอันเกิดจากพิมพ์รส เขาก็รับเข้าไปเลี้ยงในบ้าน ไว้เป็นทายาทอีกคน เรื่องนี้พอเป็นอุทาหรณ์ ได้ อย่างดีเหมือนกัน จะพูดอย่างไงดีละ ทําดีได้ดี ทําชั่วได้ชั่ว รี! มันก็พอทํายาได้
เอาเป็นว่ารวม ๆ กันแล้ว เป็นสังคมของคนไทย ถึงจะเป็นนิยายดูกันเพลิน ๆ แต่ก็ทําให้มี ข้อคิดเตือนสติสอนใจได้เหมือนกัน ไหนๆ ก็มาอยู่สําเภาลเดียวกันนี้ ว่าไปทําไมมี
ออกอากาศทุกวันพฤหัสบดี เวลา 23.00 น. ทางช่อง 5 ปี พ.ศ. 2526
เขียนบท : คึกเดช กันตามระ
บทประพันธ์ : กฤษณา อโศกสิน
นักแสดง
สายัณห์ จันทรวิบูลย์, มยุรา ธนะบุตร
ยายคุณนายเจ้าของบ้านแกชื่อ มธุรส (โฉมฉาย ฉัตรวิไล) ผัวแกเป็นชั้นพิเศษอยู่กระทรวงมหาดไทย อันนิสัยของแกนั้น ชอบคบค้าสมาคมกับพวกคุณหญิงคุณนาย ที่ยุ่งแต่งานสังคมจนเรื่องครอบครัวไม่สนใจ
คุณเพลา (สมจินต์ ธรรมทัต) หัวหน้าครอบครัวก็กลับไปขลุกอยู่แต่ในวัด ฝ่ายคุณนายมธุรส ก็อยู่แต่สมาคมสตรีผู้บําเพ็ญประโยชน์กว่าจะกลับบ้านเอาก็มืดค่ำ ลูกเต้าก็ไม่มีใครคอยอบรม กลับจากโรงเรียนมาก็อยู่แต่หน้าเครื่องโทรทัศน์ หนังสือหนังหา ไม่ยอมดู การบ้านไม่ยอมทําใครใคร่กิน กิน เพราะรับอาหารปิ่นโต ดูเหมือนว่าบ้าน นี้จะมีผู้หญิงสาวอยู่คนเดียว ที่นิสัยออกจะผิดแผกไปจากคนอื่นในบ้าน เรียกว่าเป็นคนเอาถ่านก็แล้วกัน เธอชื่อ นิธิมา (มยุรา ธนะบุตร) เป็นน้องของสามี ขยันทําการบ้านการเรือนของตนออกหน้าออกตา ทางฝ่ายชายซึ่งมี คุณเดช (กําธร สุวรรณปิยะศิริ) ผู้เป็นพ่อ ชัยพร (ปรัชญา) ออกจะไม่พอใจ เพราะด้วยลูกของตนยังรับผิดชอบอะไรไม่ได้เลย คุณเดชเป็นคนเจ้าชู้มาก ครั้งแรกนั้นแกทําท่าจะไม่ยอม แต่พอทราบถึงว่าคุณเพลาผู้ เป็นพ่อของเด็กพิมพ์รส มีน้องสาวคนที่ชื่อ
จนกระทั่งวันหนึ่ง ลูกสาวคนโตของยายคุณนายมธุรส ชื่อ พิมพ์รส (ชนาภา นุตาคม) อายุประมาณ 16 ปี เพิ่งจบ ม. 6 ใหม่ ๆ ไปเรียนกวดวิชาภาคค่ำ เพื่อจะสอบเข้าโรงเรียนเตรียม ได้ไปพบเด็กหนุ่มวัยเดียวกัน เพียงไปเที่ยวด้วยกัน 2-3 ครั้ง เท่านั้น ดันท้องซะได้ คราวนี้ก็ต้องเดือดร้อนถึงพ่อแม่ฝ่ายหญิง ออกสืบหาว่าใครเป็นพ่อเด็กในท้อง ในที่สุดก็ยอมบอกว่าผู้ที่ทําให้เธอท้องขึ้นมาชื่อ ชัยพร (ปรัชญา อัครพล) เป็นลูกเศรษฐีใหญ่ ฝ่ายยายคุณนายมธุรส ก็ต้องการจับเอาไว้ โดยให้รับเลี้ยงดูบุตรสาว นิธิมา (มยุรา) เป็นคนสวยสมเป็นกุลสตรีก็เกิดอยากได้ไปเป็นเมียอีกคน ก็เลยรับเด็กรับเด็กพิมพ์รสไว้เป็นลูกสะใภ้ โดยการณ์ครั้งนี้ได้มอบหมายให้น้องชายชื่อ ดัมพ์ (สายัณห์ จันทรวิบูลย์) ผู้ซึ่งเป็นนักกฎหาย เรื่องผู้หญิงไม่ยุ่งมุ่งแต่งงาน เป็นผู้จัดการหาบ้านเช่าให้พิมพ์รสรักษาตัวก่อนคลอด ความจริงแล้ว คุณดัมพ์เกิดไปชอบคุณนิธิมาขึ้นมา ดูเหมือนว่าฝ่ายหญิงก็ชอบตอบ คราวนี้จะทํายังไงล่ะ ดันไปคั่วผู้หญิงคนเดียวกับพี่ชายเข้า ด้วยเขาเป็นคนกตัญญต่อพิชายผู้ต่างมารดา เหตุเพราะแม่ของเขาจน เขาจึงเจียมตัวแล้วจึงเปิดทางให้พี่ชาย คุณเดชก็เหลือร้ายพอรู้ว่าฝ่ายหญิงไม่รักตน กลับไปชอบน้องชายแทน เกิดความอิจฉาขับไล่น้องชายออกจากบ้านไป
ที่บอกไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า ยายคุณนายมธุรสแกเป็นคนไม่เอาไหน ผัวของแกทนไม่ไหวเลยระเบิดขึ้นมาวันหนึ่ง ขอหย่า ทั้ง ๆ ที่ยายมธุรสหาสาเหตุไม่ได้ แต่ชาวบ้านร้านตลาดเขารู้ดีว่า อีตาเพลาเนี่ยไปได้ อีเกียว (นวลปรางค์ ตรีชิต) ลูกยายไส (ศิรินทิพย์ ศิริวรรณ) ปิ้งข้าวโพดขายหน้าปากซอย เป็นเมียอีกคนหนึ่งเลยหาเรื่องหย่า
คณเดช เศรษฐีอายุ 40 กว่าก็ไม่เลวเลยทีเดียว ทําตัวเหมือนเศรษฐีเพลย์บอยทั่วไป เรื่องครอบครัวไม่สน มีลูกกับเมีย เก่าเกือบครึ่งโหล แล้วตอนนี้มีเมียสาวรุ่นเด็กชื่อ ชุดา (คนางค์ ดํารงหัด) ผู้ซึ่งเป็นหลานสาวยาย เฟื่องทอง (กันทรีย์ สิมะเสถียร) คุณนายแปดสาแหรก อันยายเฟืองทองหนังเหี่ยวคนนี้ ก็เหมือนยายคุณนายมธุรสไม่มีผิด ดูเหมือนยิ่งร้ายกว่าเสียด้วยซ้ำ ชอบทํางานเพื่อสังคมสงเคราะห์ชนิดอยากดังท่าเดียว
นางชุดา (คนางค์) เมียคุณเดช (กําธร) ไป ๆ มา ๆ ก็ไปได้กับคุณวีระเป็นผัวอีกคน ยายเฟื่องทอง (กัณทรีย์) เกือบจะเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนี ก็อะไรเสียอีกล่ะ ก็นางชุดาเป็นหลานแท้ ๆ กลับไปได้เสียกับสามีจอมเจ้าชู้ของแกเอง ยังไม่เท่านี้นะ ตอนที่ยายเฟื่องทองอยู่ไม่ติดบ้าน คุณวีระก็แอบได้ ฟ้าทอง (สุกัญญา นาคสนธิ์) น้องสาวคนเล็กของยายเฟื่องเป็นเมียอีกคน ยายเฟืองทองแทบจะฆ่าตัวตายวันละหลายร้อยหน
คุณเดชแกคิดว่าแกรวบรวมเงินทองซื้อได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งผู้หญิงที่แกปรารถนา แต่ผิดดังคาด นิธิมา (มยุรา) ไม่ใช่ผู้หญิงพรรค์นั้น เธอตัดสินใจเลือกดัมพ์ (สายัณห์) เพราะเห็นเป็นคนดี แล้วทั้งคู่จึงแฮปปีเอ็นดิ้ง ผิดกับคู่อื่น ๆ เพราะความดีของเขาทั้งสอง คุณเดชเลยชีช้าไป แต่ก็ยังมีมนุษย์ธรรมบ้าง แบ่งมรดกของให้กับดัมพ์เป็นบางส่วน เพื่อไปสร้างเรือนหอ แล้วไปตามตัวชุดา (คนางค์) ให้มาอยู่ด้วยและพร้อมอภัยให้เธอ ถึงเธอจะผ่านผู้ชายคนแล้วคนเล่า แต่เขาก็ยังรักเธออยู่ดี
ส่วนเด็กสองคนพิมพ์รส (ชนาภา) และชัยพร (ปรัชญา) คุณเดชก็ได้ส่งเสีย ให้ไปเรียนต่อที่อเมริกา ส่วนหลานชายอันเกิดจากพิมพ์รส เขาก็รับเข้าไปเลี้ยงในบ้าน ไว้เป็นทายาทอีกคน เรื่องนี้พอเป็นอุทาหรณ์ ได้ อย่างดีเหมือนกัน จะพูดอย่างไงดีละ ทําดีได้ดี ทําชั่วได้ชั่ว รี! มันก็พอทํายาได้
เอาเป็นว่ารวม ๆ กันแล้ว เป็นสังคมของคนไทย ถึงจะเป็นนิยายดูกันเพลิน ๆ แต่ก็ทําให้มี ข้อคิดเตือนสติสอนใจได้เหมือนกัน ไหนๆ ก็มาอยู่สําเภาลเดียวกันนี้ ว่าไปทําไมมี
ออกอากาศทุกวันพฤหัสบดี เวลา 23.00 น. ทางช่อง 5 ปี พ.ศ. 2526
เขียนบท : คึกเดช กันตามระ
บทประพันธ์ : กฤษณา อโศกสิน
นักแสดง
สายัณห์ จันทรวิบูลย์, มยุรา ธนะบุตร
รักริทึ่ม ละครซิทคอมแนวเพลงรักกุ๊กกิ๊ก โฟล์คหนุ่มนักดนตรี เซอร์ๆ ซุ่มซ่ามไม่ค่อยดูแลตัวเองสักเท่าไหร่ เป็นคนช่างฝันแต่มักทำอะไรไม่สำเร็จ เมื่อเจอกับเพียงออ ก็ประทะคารมกันตั้งแต่แรกพบ แล้วตัวแจ๊ด พี่สาวของเพียงออ ก็รู้ทันโฟล์คซะอีก
ผู้กำกับ : ธีรวัฒน์ อนุวัฒน์อุดม
ผลิตโดย : เวิร์คพอยท์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์
เขียนบท : ธีรวัฒน์ อนุวัฒน์อุดม, ณัชพล เรืองรอง,วิรัตน์ เฮงคงดี
นักแสดง รักริทึ่ม
ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี รับบทเป็น โฟล์ค
ตาล กัญญา รัตน์เพชร์ รับบทเป็น เพียงออ
ไก่-สมพล ปิยะพงศ์สิริ
ดีเจ บ๊อบบี้
บุ๋ม-รัญญา ศิยานนท์ รับบทเป็น แจ๊ด
เอ้ก-บุษกร ตันติภนา (สตอเบอร์รี่ชีสเค้ก)
รักริทึ่ม เป็นละครที่ไม่ได้ออกอากาศในตอนจบ เพราะว่าหมดสัญญากับทางช่อง 5 เสียก่อน จึงเป็นละครที่นำเอาตอนจบไปแสดงในเวบไซต์แทน
แนวละคร ดราม่า
บทประพันธ์ ประภัสสร เสวิกุล
บทโทรทัศน์ วรรณา แต่งพสุเลิศ
ควบคุมบทโทรทัศน์ นิพนธ์ ผิวเณร
ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์
กำกับการแสดง ผอูน จันทรศิริ
อำนวยการผลิต ถกลเกียรติ วีรวรรณ
นิพนธ์ ผิวเณร
เวลาออกอากาศ หลังข่าวช่อง 5 ทุกวันจันทร์-อังคาร เริ่มวันจันทร์ที่ 9 มกราคม 2549
ตำนานแห่งการต่อสู้ชีวิตสุดยิ่งใหญ่ ของ “เหลียง” ลูกผู้ชายสายเลือดมังกร คุณธรรมที่สั่งสม และพร่ำสอนลูกหลาน สามารถกอบกู้ชื่อเสียง และความภาคภูมิใจของตัวเขาเองกลับคืนมาได้อีกครั้ง หลังจากที่ทายาทของเขาบางคนหลงเดินในทางที่ผิด ซึ่งทำร้ายทั้งตัวของตัวเอง และทำให้ชื่อเสียงของตระกูลตกต่ำ
เหลียง (ศรัณยู วงษ์กระจ่าง) เดินทางจากจีนแผ่นดินใหญ่เข้ามาเมืองไทยในสภาพ “เสื่อผืนหมอนใบ” โดย มีจั๊ว (ตี๋ ดอกสะเดา) เป็นเพื่อนรักที่พบกันบนเรือ เมื่อถึงเมืองไทย จั๊วชวนเหลียงไปเริ่มงานครั้งแรกเป็นจับกังรับจ้างแบกกระสอบข้าวสาร เหลียงเก็บเหรียญบาทเหรียญแรกที่ได้ติดตัวไว้ตลอดเวลา และจะหยิบมันออกมาทุกครั้งที่ต้องตัดสินปัญหาสำคัญ และเป็นเครื่องเตือนใจถึงความยากลำบากที่ผ่านมา เพราะความที่เป็นชาวจีน ทำให้เขามักถูกทางการเรียกตัวไปสอบสวนอยู่หลายครั้ง แต่เขาก็ฝ่าฟันและสร้างตัวขึ้นมาได้จนสามารถร่วมทุนกับชาวไต้หวันตั้งโรงงานทอผ้า
เหลียงได้พบรักกับ เนียม (บุษกร พรวรรณะศิริเวช) หญิงสาวไทยเชื้อสายจีนอายุสิบแปด หลังจากแต่งงานแล้วเหลียงซื้อที่ดินในชื่อของเนียม และตั้งโรงงานทอผ้าดิบในปี 2493 ซึ่งเป็นกำเนิดของ “นัฐกิจการทอ” พร้อมกับที่เนียมคลอด นัฐ (เขมชาติ เดโชชัชวาล) ลูกชายคนโต และมี นภ (ภูวฤทธิ์ พุ่มพวง) ลูกชายคนรองในปีต่อมา กิจการของเหลียงเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และเนียมก็คลอด นุช (อริศรา วงษ์ชาลี)ลูกสาวคนแรกซึ่งเหลียงรักมากที่สุด
เหลียงวิ่งเต้นหาทางให้ เหมยหลิง (ธัญญา วชิระบรรจง) ภรรยาคนแรกของเขา และ ลูก ๆ คือ เทียน (ณพสิทธิ์ เที่ยงธรรม) กับ แอนดี้ (พล ตัณฑเสถียร) มาอยู่เมืองไทยสำเร็จ พร้อมกับที่ตึกใหญ่บ้านสือพาณิชย์สร้างเสร็จพอดี เขาเอาตัวหนังสือจีนคำว่า “หงี” ที่แปลว่าคุณธรรม และรูปมด ติดบนผนังตรงข้ามประตูทางเข้า เพื่อเป็นคติธรรมเตือนใจตัวเอง และคนในครอบครัว เหลียงส่งเทียน และ แอนดี้ไปเรียนต่อด้านการค้าที่ฮ่องกง แต่ไม่นานเทียนก็พบรักกับ ทรงศรี (ปิยวรรณ จิตณาธรรม) และ พลาดทำให้ทรงศรีท้องจนคลอด ระวี (ตรีพล พรหมสุวรรณ) เหลียงโกรธมากและขอให้ส่งตัวระวีกลับมาที่เมืองไทย โดยมีเนียมเป็นคนช่วยเลี้ยง เนียมคลอด นนท์ (รุ่งเรือง อนันตยะ) ลูกชายอีกคนในปีถัดมา เธอจึงเลี้ยงนนท์ไปคู่กับระวีเหมือนเป็นพี่น้องกัน ไม่นานทรงศรีก็คลอดลูกคนที่สองคือ ดวงดาว (อชิตะ สิกขมานา) ทำให้เทียนต้องทำงานหนักโดยไม่เอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากใคร เหลียงจึงสั่งให้เขาและครอบครัวกลับเมืองไทย เมื่อแอนดี้เรียนจบกลับมาเขารบเร้าให้เหลียงบินไปขอ เป็กกี้ (มยุริญ ผ่องผุดพันธ์) ลูกสาวของ รอเจอร์ (ทนงศักดิ์ ศุภการ) มหาเศรษฐีเจ้าของกิจการเดินเรือทะเลในฮ่องกง เหลียงจัดงานแต่งงานให้แอนดี้กับเป็กกี้ที่นั่นอย่างใหญ่โต ซึ่งเหมยหลิงก็เอาอกเอาใจเป็กกี้มาก
หลังจากเกิดเหตุการณ์ปฏิวัติ เหลียงถูกเรียกตัวไปสอบสวน เขาตัดสินใจหนีออกจากเมืองไทย ไปพักอยู่ในฮ่องกง กับ รอเจอร์ ทิ้งกิจการมูลค่านับร้อยล้านให้อยู่ในความรับผิดชอบของเนียม เทียน และ แอนดี้
เป็กกี้คลอด ชาญชัย (รัฐศาสตร์ กรสูต) ออกมาท่ามกลางความเอ็นดูของทุกคน และเธอก็เริ่มระหองระแหงกับเหมยหลิงมากขึ้น เหมยหลิงจึงทำได้เพียงเก็บความแค้นไว้ในอก ระหว่างที่เป็กกี้ต้องเดินทางกลับไปฮ่องกงเพราะรอเจอร์ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต เหมยหลิงจึงทำตัวเจ้ากี้เจ้าการหาเด็กสาวคือวิไลรัตน์ มาเป็นเมียน้อยให้แอนดี้ แต่ก็ถูกเป็กกี้จับได้ และ ต่อว่าจนเหมยหลิงพูดไม่ออก
เวลาผ่านไปอีกหลายปีเหลียงก็ได้ลูกสาวอีกคนจากคือ นันทนา (พิมลรัตน์ ศัลยบุตร) เหลียงทำงานหนักจนไม่มีเวลาพักผ่อน จั๊วเกิดความคิดในการหาเด็กสาวมาปรนนิบัติเหลียง เมื่อเหมยหลิงรู้เข้าจึงเป็นตัวตั้งตัวตีเรียก มาลัย (กัญญารัตน์ พิมพ์สวัสดิ์) เด็กสาวเหนือมาให้ดูตัว โดยลึก ๆ แล้วก็เพื่อหวังอาศัยมาลัยเอาชนะเนียม แต่เนียมก็เห็นดีด้วยหากเป็นความสุขของสามี และยอมให้มาลัยเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่อีกคน
นัฐ ได้รับมอบหมายให้ดูแล “บริษัทนัฐกิจอะลาโมด” ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปแบรนด์ต่างประเทศ ซึ่งนัฐก็ดูแลกิจการจนก้าวหน้าขึ้นเป็นลำดับ แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็มาบอกพ่อกับแม่ว่าเขาจดทะเบียนแล้วกับหญิงสาวชื่ออร (พรพิมล รักธรรม) ซึ่งแก่กว่าเขาห้าปี และขออนุญาตพาเธอเข้ามาอยู่ในบ้าน ส่วนนภที่กลับจากฝึกงานที่ญี่ปุ่นไม่นาน ก็ถูกเหลียงจับให้แต่งงานกับ ศิรี (ภัทรา มั่นพิริยะกุล) ลูกสาวของจั๊ว นุชสอบเอ็นทรานซ์ติดคณะบัญชีธรรมศาสตร์ แต่เหลียงต้องการให้นุชช่วยงานที่กำลังขยายกิจการ ทั้งสองจึงมีปากเสียงกัน แต่สุดท้ายเหลียงก็ต้องเป็นฝ่ายยอมให้นุชรับงานไปทำหลังจากที่เลิกเรียน เมื่อเรียนจบแล้ว นุชจึงแต่งงานกับ ดอน อาจารย์หนุ่มที่รู้จักกันในมหาวิทยาลัย
ระวีกลับจากอเมริกา ส่วนนนท์อยู่ทำปริญญาเอกต่อ หลังจากนั้นไม่กี่เดือนชาญชัยก็กลับมาจากอังกฤษ ชาญชัยยังคงทำตัวไม่เอาถ่านและมักจะจัดปาร์ตี้ภายในบ้าน หรือออกไปร่วมวงกับพรรคพวกนอกบ้านโดยมีนันทนาติดรถไปด้วยกันแทบทุกคืน
ในที่สุดเนียมก็จับได้ว่านันทนาตั้งท้องได้สามเดือน แต่นันทนาไม่ยอมปริปาก ขณะที่ชาญชัยเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องไม่เยี่ยมกรายเข้าไปในห้องนันทนาอีก จนกระทั่งนันทนาหายตัวไปจากบ้านในคืนหนึ่ง ทุกคนออกตามหาแต่ไม่พบมีเพียงชาญชัย ซึ่งปิดห้องดับไฟมืดอยู่คนเดียว
นันทนากลับมาบ้านในอีกหลายวันต่อมา ในสภาพอ่อนระโหยเธอคุกเข่าต่อหน้าตัวหนังสือ “หงี” อยู่นานจนเหลียงต้องเข้ามาปลอบลูกสาว เนียมโกรธมากไม่ยอมพูดกับนันทนาอีกเลย นันทนาเก็บตัวเงียบอยู่สักพักก็ออกเที่ยวกลางคืนกับชาญชัยเหมือนเคย เป็กกี้เตรียมให้ชาญชัยหมั้นกับลูกสาวของเพื่อนคนหนึ่งระหว่างที่ชาญชัยไปทำธุระที่ญี่ปุ่น เมื่อนันทนารู้ข่าว
ถึงกับอาละวาดหนัก คลุ้มคลั่งกรีดหน้าทำร้ายตัวเอง เทียนต้องพาเธอไปส่งโรงพยาบาลประสาท ชาญชัยกลับจากญี่ปุ่นประกาศถอนหมั้น จนเป็กกี้ต้องยอมทำตาม นันทนากลับจากโรงพยาบาลด้วยท่าทีที่เปลี่ยนไปเป็นเศร้าซึม และสติไม่สมประกอบ แต่ชาญชัยก็ไม่ทุกข์ร้อนอะไรกลับใช้ชีวิตสนุกสนานต่อไปโดยไม่สนใจนันทนาอีก
นนท์กลับจากอเมริกาพร้อมกับปริญญาเอกด้านบริหารธุรกิจ นนท์ ยุให้ระวีจีบ สุวิตรา(ธนิกานต์ ศิรินุพงศ์) จนสำเร็จ แม้ว่าแท้จริงแล้วระวีจะแอบชอบปริยาภรณ์ หัวหน้าประชาสัมพันธ์สาวสาวในนัฐกิจอะลาโมดอยู่ก็ตาม เหลียงจัดงานแต่งงานให้ระวีกับสุวติราอย่างใหญ่โต นนท์โล่งใจที่ตนเองเป็นอิสระมากขึ้น เพราะรู้ดีว่าความจริงนั้นสุวิตราแอบชอบตนอยู่
ส่วนชาญชัยยังคงทำตัวเป็นเพลย์บอยคบผู้หญิงไม่เลือกหน้า จนวันหนึ่งมีหญิงสาวมาบอกเป็กกี้ว่าเธอตั้งท้องกับชาญชัย เป็กกี้เรียกชาญชัยกลับมา แต่ชาญชัยก็เกลี้ยกล่อมจนหญิงสาวยอม หลายวันต่อมาหนังสือพิมพ์ลงข่าวมีคนพบศพหญิงสาวคนหนึ่งตกเลือดตายจากการทำแท้ง และมีพยานรู้เห็นว่าชาญชัยพาหญิงสาวไปที่นั่นจริง แม้ชาญชัยจะหลุดจากคดีได้ แต่เหลียงรู้สึกอับอายและโกรธชาญชัยมาก จึงมีคำสั่งปลดเขาออกจากตำแหน่งรองผู้จัดการใหญ่ นัฐกิจอาละโมด ชาญชัยจึงประกาศตั้ง “บริษัทสินทองคอร์ปอเรชั่น” ของตนเองขึ้นเพื่อดำ เนินธุรกิจเสื้อผ้าแข่งกับ นัฐกิจอะลาโมด
นัฐหาวิธีกำราบคู่แข่งโดยปรับฐานลูกค้าให้สูงขึ้น ทำให้สินทองคอร์ปอเรชั่นแย่ลงเรื่อย ๆ จนเหลียงต้องเข้ามาช่วย เพื่อประคับประคองให้สถานการณ์ของสินทองดีขึ้นแต่แล้วชาญชัยก็ขายหุ้นในสินทองและเปิด “บริษัทยูเนียนชาเตอร์ และ คอมมอดิตี” ขึ้นอีก
ชีวิตแต่งงานของสุวิตรากับระวีเริ่มระหองระแหง เพราะที่จริงระวียังไม่ลืมปริยาภรณ์ แต่ไม่นานนนท์ก็เริ่มหันมาสนใจปริยาภรณ์ เขาจริงจังกับปริยาภรณ์มากจนซื้อคอนโดให้เธออยู่ ระวีรู้เรื่องจึงเกิดเรื่องชกต่อยกัน ระวีผูกใจเจ็บนนท์ โดยโทษว่าเป็นสาเหตุทำให้เกิดเรื่องทั้งหมด
เหลียงได้รับข่าวจาก นงพงา ลูกสาวคนโตที่เกิดจากมาลัย ว่ากำลังจะแต่งงาน เหลียงพยายามคัดค้านแต่ไม่เป็นผล ส่วน นรากร(พัฒนพล มินทะขิน) ลูกชายคนเล็กของเหลียงกับมาลัย ก็เติบโตขึ้นเป็นเด็กที่เอาแต่ใจตัวเอง และใช้เงินเป็นเบี้ย มาลัยได้แต่ร้องไห้และบ่นน้อยใจ นงพงากลับจากอเมริกา เหลียงจึงเรียกตัวไปดูแล “สหรัฐกิจ” ซึ่งผลิตสินค้าประเภทสบู่ยาสีฟัน บริษัทของชาญชัยเฟื่องฟูอย่างรวดเร็ว แต่เหลียงกลับมองดูด้วยความกังวล หลังการปฏิวัติ ข่าวการเปิดเผยความไม่ชอบมาพากลของบริษัทยูเนียนชาร์เตอร์ ทำให้ชาญชาญถูกจับในฐานะอาชญากรทางเศรษฐกิจ แต่ชาญชัยบินหนีไปฮ่องกงเสียก่อน นรากรทนไม่ไหวกับกฎที่เข้มงวดของโรงเรียนประจำจึงหนีออกมาด้วยสภาพเด็กข้างถนน เขากลับมาบ้านสือพาณิชย์และนงพงา ก็ช่วยน้องชายด้วยการให้ทำงานในฐานะนักบริหาร แต่ชีวิตที่หรูหราก็ทำให้นรากรใช้เงินไม่อั้น และเล่นการพนันจนหมดตัว นรากรโวยวายว่าถูกโกง จนถูกนักเลงประจำบ่อนรุมทำร้ายร่างกาย จนกะโหลกร้าวและตาข้างขวาบอดสนิทกลายเป็นคนพิการทางสมอง ได้แต่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง เหลียงล้มป่วยเพราะเจ็บช้ำจากเรื่องของนรากร โดยมีเนียมทำหน้าที่ปรนนิบัติอย่างใกล้ชิด เหตุการณ์ต่าง ๆ จะเป็นอย่างไรต่อไป คุณธรรมที่เหลียงสั่งสม และ พร่ำสอนลูกหลาน จะทำให้เรื่องราวทุกอย่างในบ้านสือพาณิชย์กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้หรือไม่.
ติดตามชมตำนานแห่งการสู้ชีวิตสุดยิ่งใหญ่ ของลูกผู้ชายสายเลือดมังกร ในละครฟอร์มยักษ์เรื่อง “ลอดลายมังกร” ได้หลังข่าวทางช่อง 5 เริ่มวันจันทร์ที่ 9 มกราคม 2549
นำแสดงโดย
ศรัญยู วงษ์กระจ่าง รับบท เหลียง
บุษกร พรวรรณะศิริเวช รับบท เนียม
ธัญญา วชิระบรรจง รับบท เหมยหลิง
พล ตัณฑเสถียร รับบท แอนดี้
มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ รับบท เป๊กกี้
เขมชาติ เดโชชัชวาล รับบท นัฐ
รัฐศาสตร์ กรสูต รับบท ชาญชัย
พิมลรัตน์ พิศัลยบุตร รับบท นันทนา
กัญญารัตน์ พิมพ์สวัสดิ์ รับบท มาลัย
ภาพอาถรรพ์ เป็นละครลึกลับสยองขวัญที่เกี่ยวกับวิญญาณ ความแค้นจากอดีตชาติในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่เกิดจากความรักไม่ลงตัวของตัวละครสำคัญ 3 ตัวละครคือ เชษฐา ประยงค์ และ อนงค์วดี จึงทำให้วิญญาณที่เฮี้ยนของคุณประยงค์ สิงสถิตย์อยู่ในรูปถ่ายของบ้านหลังหนึ่งซึ่งในอดีตเคยเป็นของท่านพระยา ซึ่งภาพถ่ายที่ติดอยู่ในบ้านมีทั้งสิ้น 3 ภาพด้วยกันคือ ภาพของท่านพระยาผู้เป็นเจ้าของบ้าน ภาพของคุณประยงค์ และภาพของคุณน้อย
อนงค์วดี สิงหมนตรี (ลัลณ์ลลิน เตจะสา เวศซ์) ทายาทรุ่นปัจจุบันของตระกูลสิงหมนตรี จำใจต้องขายคฤหาสน์เก่าแก่ของตระกูลให้กับ เชษฐา เกรียงไกรฤทธิ์ (ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) เนื่องจาก ปิ่นสุดา (สิรินยา บิชอพ) แม่ของเธอติดการพนันอย่างหนักจนมีหนี้สินหลายล้าน
ในวันที่เชษฐาและ มนัสวีร์ (รัชชานนท์ สุประกอบ) ทนายความส่วนตัว เดินทางไปที่คฤหาสน์เพื่อทำสัญญาซื้อขายกับอนงค์วดี เชษฐาได้เดินสำรวจภายในคฤหาสน์ เค้าไปสะดุดกับภาพเขียนของ คุณประยงค์ (พิยดา จุฑารัตนกุล) คุณชวดของอนงค์วดี เป็นภาพของหญิงสาวสวยท่าทางสง่า ดวงตาคมกริบ แต่สิ่งที่ทำให้เชษฐารู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นคุณประยงค์ที่อยู่ในภาพส่งยิ้มกลับมาให้เขา ส่วนมนัสวีร์ก็สะดุดตากับภาพของสาวสวยคนหนึ่ง อนงค์วดีบอกว่านั่นคือรูปของคุณย่าน้อยของเธอ ชื่อว่า คุณอ่อน (พิชญา เชาวลิต) เป็นน้องสาวคนสุดท้องของ เจ้าพระยาสีหศักดิ์ฤทธิรงค์ (นิรุตนิ์ ศิริจรรยา) ผู้เป็นเจ้าคุณปู่ทวดของเธอ ภาพนี้วาดเอาไว้ก่อนที่คุณอ่อนจะจมน้ำตายไปเพราะเรือล่ม มนัสวีร์รู้สึกสายตาผู้หญิงในภาพมองมาที่เขาอย่างตัดพ้อและเศร้าสร้อยอย่างประหลาด
ระหว่างที่ทุกคนกำลังเดินดูภาพบรรพบุรุษอยู่นั้น จู่ ๆ ก็เกิดพายุฝนตกลงมาอย่างหนักจน ปู่กลับ (อรรถพร ธีมากร) ผู้ดูแลคฤหาสน์บอกให้ทุกคนนอนค้างที่นี้ และในคืนนั้นเองมนัสวีร์ฝันเห็นคุณอ่อนเดินออกมาจากภาพ เธอเรียกเขาว่า “คุณหลวง” แล้วตัดพ้อเขาว่าเขาเป็นสาเหตุทำให้เธอต้องตาย มนัสวีร์ตกใจตื่นขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว
ส่วนเชษฐาฝันว่าตนเดินลงมาที่ห้องโถง สภาพตึกเก่าร้างกลับกลายมีชีวิตชีวา สว่างไสวด้วยแสงเทียน ผู้คนแต่งตัวสวยงามในภาพเขียนพากันเดินออกมาจากรูปภาพ เพื่อไปรวมตัวกันต่อหน้าเจ้าพระยาสีหศักดิ์ฤทธิรงค์ และคุณประยงค์ก็เรียกเขาอย่างอ่อนหวานว่า “เจ้าคุณ” เธอเรียกเขาให้ไปที่ห้องโถง ที่นั่นเขาได้เห็นเจ้าคุณปู่ทวด คุณอ่อน และหญิงสาวคนหนึ่งนุ่งห่มสไบ ไว้ผมทัด หน้าตาเหมือนอนงค์วดีราวกับพิมพ์เดียวกัน ทุกคนเรียกเธอว่า “แม่อร”
อนงค์วดีเองก็รู้สึกเหมือนอยู่ในความฝันเช่นกัน เธอเห็นเชษฐาอยู่ในชุดไทยโบราณ และในความฝันนั้น เธอรู้สึกว่าคุณประยงค์จงเกลียดจงชังเธออย่างเห็นได้ชัด พอรุ่งเช้าเชษฐารู้สึกสงสัยในความฝันกับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคุณประยงค์และแม่อร เค้าจึงบอกอนงค์วดีว่าเค้าตัดสินใจจะไม่รื้อตึกทิ้ง แต่จะปรับปรุงตกแต่งตึกขึ้นมาใหม่เพื่อใช้ทำเป็นคลับหรู แต่มีเงื่อนไขว่าเธอจะต้องอยู่ค้างที่นี่เพื่อช่วยเหลือแนะนำเกี่ยวกับการตกแต่งสถานที่จนกว่าจะแล้วเสร็จ แต่ เกษลดา (รฐา โพธิ์งาม) กลับไม่เห็นด้วยที่เชษฐาเปลี่ยนใจไม่ยอมรื้อคฤหาสน์โบราณทิ้ง และยิ่งรู้ว่าเชษฐาคิดจะไปนอนค้างอ้างแรมที่นั่น ยิ่งสงสัยว่าเขาอาจจะมีอะไรปิดบังเธออยู่
ในระหว่างซ้อมแซมคฤหาสน์ เมื่อทั้งคู่ได้ทำงานร่วมกัน ยิ่งทำให้เชษฐาและอนงค์วดีสนิทสนมกันมากขึ้น และยิ่งสนิทสนมกันมากเท่าไหร่ ก็เหมือนจะมีภัยอันตรายเกิดขึ้นกับอนงค์วดีมากเท่านั้น ในตอนกลางคืนทั้งคู่ต่างฝันถึงเหตุการณ์ในอดีตอีกหลายครั้ง จนปะติดปะต่อเรื่องราวได้ว่าชายที่หน้าตาคล้ายเชษฐาที่ใคร ๆ เรียกว่า “เจ้าคุณ” นั้น ในอดีตเคยเป็นเด็กในบ้านที่ลอบรักกับคุณประยงค์ ธิดาสาว ของท่านเจ้าพระยาฯ ต่อเมื่อได้ดีจึงไปรับราชการที่หัวเมืองแล้วมีภรรยาเป็นสาวชาวบ้านชื่อ “อร” ซึ่งมีใบหน้าเหมือนกับอนงค์วดีในชาตินี้ อนงค์วดีเข้าใจว่าวิญญาณคุณชวดคงเข้าใจผิดว่าเธอคือแม่อร
ซึ่งในความฝันอนงค์วดีได้รู้ว่าคุณอ่อนลักลอบรักกับชายที่มีศักดินาต่ำกว่าชื่อ “หลวงขจร” ซึ่งมีใบหน้าเหมือนมนัสวีร์ ซึ่งหลวงขจรนั้นมีคู่หมั้นหมายแล้ว และเมื่อหลวงขจรถูกบังคับให้แต่งงาน คุณอ่อนเสียใจมาก จึงพายเรือฝ่าพายุฝนข้ามแม่น้ำไปหาทั้ง ๆ ที่ตนว่ายน้ำ ไม่แข็ง จนกระทั่งเรือล่มคุณอ่อนจึงจมน้ำตายและก็ไม่มีใครหาศพเจอ และทุกครั้งที่มนัสวีร์ต้องไปที่คฤหาสน์เก่าหลังนั้น เขาจะถูกดึงดูดให้ไปที่ริมแม่น้ำอย่างไม่รู้ตัวอยู่บ่อย ๆ จนเกือบจะจมน้ำตาย โชคดีที่ปู่กลับมักจะช่วยมนัสวีร์เอาไว้ทัน
ในที่สุดการซ่อมแซมตกแต่งคฤหาสน์ก็เสร็จลง เกษลดาเป็นคนเจ้ากี้เจ้าการจัดงานเลี้ยงเปิดคลับของเชษฐาอย่างหรูหรา เชษฐาเสนอให้อนงค์วดีทำงานที่คลับของเขาในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายอาหาร เนื่องจากงานคลับเป็นงานกลางคืน เชษฐาจึงให้เธอพักอยู่ที่นี่ ทั้งหมดนี้สร้างความไม่พอใจให้เกษลดามาก เธอจึงมักแสดงตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเชษฐาอยู่บ่อย ๆ และย้ายมาอยู่ที่คฤหาสน์หลังนี้ด้วยอีกคน
เพียงคืนแรกเกษลดาก็เจอฤทธิ์คุณประยงค์ที่หวงแหนเชษฐา คุณประยงค์ชี้หน้าด่าและเรียกเธอว่า “อีเกด” จนเกษลดารู้สึกหวาดกลัวมาก เธอนำเรื่องนี้ไปเล่าให้เชษฐาฟัง แต่เชษฐากลับไม่สนใจพร้อมไล่ให้เธอกลับบ้าน แต่ด้วยความหึงหวงเกษลดาจึงแข็งใจอยู่ที่นี่เพื่อคอยกันท่าอนงค์วดี
นานวันเข้าอนงค์วดีมักฝันเห็นเรื่องราวในอดีตมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอฝันว่าในอดีตเธอมีบ่าวชื่อเกด ติดตามมาอยู่ด้วย บ่าวคนนั้นหน้าตาเหมือนเกษลดา ซึ่งในอดีตชาติเกดยังเป็นเมียบ่าวของเจ้าคุณอีกด้วย และในความฝันบอกชัดว่าเจ้าคุณรักกับคุณประยงค์มาก่อน ยิ่งความจำเป็นทางด้านการเลื่อนขั้นในหน้าที่การงาน ทำให้เจ้าคุณต้องกลับมาพึ่งใบบุญท่านเจ้าพระยาฯ แม่อรผู้เป็นเมียหลวงจึงตกอยู่ในสภาพไม่ต่างจากนังเกดเมียบ่าว
ต่อมาแม่อรได้ตั้งท้องลูกคนแรก เจ้าคุณดีใจมากและคิดจะยกย่องเธอเป็นเมียเอก ทำเอาคุณประยงค์ไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ไม่ว่าคุณประยงค์จะอ้อนวอนเจ้าคุณอย่างไร ท่านก็ยืนยันว่าแม่ของลูกจะต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น ดังนั้นคุณประยงค์จึงวางแผนทำร้ายแม่อรจนตกบันไดตายทั้งกลม
จากนั้นไม่นานพอคลับของเชษฐาเริ่มมีชื่อเสียง ผู้คนก็หลั่งไหลเข้ามาหาความสำราญมากขึ้น จากคฤหาสน์เก่าร้างก็กลับมามีชีวิตชีวาด้วยแสงไฟและเสียงเพลง จนสร้างความ ไม่พอใจให้กับคุณประยงค์เป็นอย่างยิ่ง เธอจึงเริ่มออกมาจากภาพมาเล่นงานทุกคน แต่คนที่โดนหลอกหลอนหนักที่สุดคือเกษลดา เพราะเธอพยายามออดอ้อนเชษฐาอยู่ตลอด ส่วนตัวเชษฐาเองก็โดนคุณประยงค์สะกดจิตให้หลงติดอยู่ในความฝันบ่อยขึ้น จนตัวเองเริ่มแยกแยะอดีตกับปัจจุบันไม่ออก
อนงค์วดีเริ่มไม่สบายใจ เพราะเป็นห่วงกลัวเชษฐาจะได้รับอันตราย เธอตัดสินใจทำพิธีเชิญภาพเขียนคุณประยงค์ลงจากผนังพร้อมกับเอาสายสิญจน์พันไว้ แล้วเอาภาพไปเก็บไว้ที่เรือนเก็บของ ทำให้คุณประยงค์โกรธจัด จึงพยายามสะกดจิตเชษฐาให้มาช่วยตัดสายสิญจน์ออกจากภาพของเธอ แม้อนงค์วดีพยายามจะห้ามแต่ก็ไม่สำเร็จ จากนั้นวิญญาณคุณประยงค์ก็ออกอาละวาดอย่างหนัก และทำร้ายอนงค์วดีจนล้มหมดสติไป เมื่อเชษฐารู้ข่าว ด้วยความรักและเป็นห่วงอนงค์วดี เค้าจึงฮึดสู้กับคุณประยงค์ที่พยายามจะเข้ามาครอบงำชีวิตของเขา เพราะเชษฐาระลึกได้แล้วว่าชาติที่แล้วเขายอมให้คุณประยงค์ครอบงำและทำร้ายแม่อรมามาก ในชาตินี้เขาจะไม่ยอมให้คุณประยงค์มาบงการเขาให้ทำร้ายอนงค์วดีอีก
เชษฐาจึงตัดสินใจทำลายภาพของคุณประยงค์ แต่แผนการทำลายภาพไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะแรงรักแรงอาฆาตที่คุณประยงค์มีต่อเชษฐาส่งผลทำให้คุณประยงค์มีพลังอำนาจมากขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายเชษฐาจะสามารถทำลายภาพอาถรรพ์ของคุณประยงค์ได้หรือไม่ บทสรุปของโศกนาฏกรรมความรักที่มาพร้อมแรงอาฆาตแค้นพยาบาทครั้งนี้จะลงเอยอย่างไร? ติดตามชมได้ใน ละครภาพอาถรรพณ์ ที่ออกอากาศทุกวันพุธ – พฤหัสบดี เวลา 20.10 – 21.40 น. ทางช่อง 5 ละครภาพอาถรรพณ์ เริ่มตอนแรกวันพุธที่ 9 ตุลาคม 2556
รายชื่อนักแสดงนำใน ละคร ภาพอาถรรพณ์
พิยดา จุฑารัตนกุล รับบท คุณประยงค์
ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ รับบท เชษฐา/เจ้าคุณ
ลัลณ์ลลิน เตจะสา เวศซ์ รับบท อนงค์วดี/แม่อร
รฐา โพธิ์งาม รับบท เกษลดา/อีเกด
รัชชานนท์ สุประกอบ รับบท มนัสวีร์/หลวงขจร
พิชญา เชาวลิต รับบท ย่าน้อย ใน ละคร ภาพอาถรรพณ์
นิรุตนิ์ ศิริจรรยา รับบท เจ้าพระยาสีหศักดิ์ฤทธิรงค์
สิรินยา บิชอพ รับบท ปิ่นสุดา
อริศรา วงษ์ชาลี รับบท อีทิ้ง
อรรถพร ธีมากร รับบท ปู่กลับ
บรรเจิดศรี ยมาภัย รับบท คุณหญิงธรรมวรานุรักษ์
ดาหรา เป็นชาวหมู่บ้านทิวไม้ ที่ถูกคลื่นลมแรงจนจะเอาชีวิตไม่รอด ทำให้ผาซึ่งเป็นเงือกได้ช่วยเหลือ จนทั้งสองได้เสียกัน ดาหรากลับมาและให้กำเนิดลูกสาวที่หน้าตาน่ารัก แต่ว่าท่อนล่างเป็นปลา ทำให้หมอตำแยถึงกับตกตะลึงพรึ่งเพริดและพร่ำเพ้อว่า มันเป็นตัวกาลี หมู่บ้านนี้จะเกิดกลียุค แต่ไม่ท้ันจะแพร่ข่าวไปได้สักเท่าไหร่ หมอตำแยก็ถูกพายุหมุนจนถึงแก่ความตาย ไม่ช้าเรื่องลูกของดาหราเป็นเงือก ก็รู้กันไปทั่ว ผู้เฒ่าหัวหน้าหมู่บ้านจึงสั่งให้ดาหรากับลูกเงือกออกไปให้พ้นจากหมู่บ้าน แต่ก็มีคนมาช่วยหาเหตผลต่างๆ จนผู้เฒ่าใจอ่อนยอมให้ดาหราซ่อนเร้นลูกที่ผิดคนธรรมดาเอาไว้
เวลาล่วงมาจนสิบปี เงือกน้อยก็เปลี่ยนที่อยู่ลงไปอยู่ในทะเล เวลาเดียวกับที่นุกูล ที่ฝังใจจะพิสูจน์ความจริงเกี่ยวกับเรื่องเงือก มาจนได้ข่าวที่นี่ นุกูลออกไปเล่นเรือกลางทะเล เกิดพายุ เรือคว่ำ เงือกสาวได้ช่วยชีวิตเอาไว้ แต่เขาไม่ทันสังเกตเห็นท่อนล่างในส่วนที่จมน้ำ นุกูลให้สร้อยไว้เพื่อตอบแทนน้ำใจ
ฝ่ายชาวบ้านยังจองเวรเงือกและขับไล่ไสส่งให้ไปอยู่ในทะเลลึก แม่ของเงือกก็เปิดเผยความจริงต่างๆ ให้ลูกฟัง ทำให้เงือกต้องการกลับไปอยู่เป็นครอบครัวเดียวกับเงือกผา
นักแสดงละคร คนทะเล
เชิญจุติ มณเฑียรมณี -เงือกราตรี
ฉัตรชัย เปล่งพานิช -นุกูล
กัณทิมา ดาราพันธ์ -คุณประณีต
รสลิน จันทรา -ดาหรา
ยมนา ชาตรี -ดิน
เจน นาทภูมิ -ไม้
สันติ รังสรรค์ -หมัด
ศิริพร วิสิฐศิริ -เงือกสาหร่าย
เสกสิทธิ์ สวัสดิรักษ์ -เงือกขุนเขา
สราญลักษณ์ บุญสลับ -เงือกราตรี ตอนเด็ก
สานิตย์ พงษ์มิตร -นุกูล ตอนเด็ก
มนัสชนก ส่งศรีสุข
เทอดพร มโนไพบูลย์
ปรารถนา สัชฌุกร
ภาคภูมิ สายสุดใจ
เมธินี วัฒนะ
ธานินทร์ เลิศชัยวัฒน์ (สันติสุข พรหมศิริ) จำเป็นต้องแต่งงานกับ อังคณา (สินจัย เปล่งพานิช) เพื่อกอบกู้ฐานะของครอบครัว จนมีลูกชายหญิงด้วยกันสองคนคือ ชนะศึก (ธนทัต ชัยอรรถ) และชนกนันท์ (รุจิภาส ก่อเกียรติ) แต่ธานินทรืไม่มีความสุขเลย เพราะอังคณามีอุปนิสัยและการใช้ชีวิตตรงกันข้ามกับธานินทร์ทุกอย่าง และตลอดเวลายี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ธานินทร์ยังคงฝังใจอยู่กับคนรักเก่าของเขา ที่ถูกพรากไปเพราะความแตกต่างทางชนชั้น
พรรณี(มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ มีลูกชายหญิง 2 คน คือ เพชรแท้(ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ท) และพิณทอง (เต็มฟ้า กฤษณายุธ) พ่อของเด็กทั้งสองเสียชีวิตไปนานแล้ว ทิ้งให้สามแม่ลูกต้องปากกัดตีนถีบเพื่อหาเลี้ยงปากท้อง แต่ด้วยความรักที่ทั้งสามมีต่อกัน ทำให้ครอบครัวที่ยากจนของพรรณีมีแต่งความสุข โดยมี ป้าสำอางค์ (วิยะดา อุมารินทร์) และผึ้ง(พัสกร พลบูรณ์) เป็นเพื่อนบ้านที่คอยช่วยเหลือในยามที่มีปัญหา พิณทองได้เข้าไปทำงานที่บริษัทของธานินทร์ เธอทำงานผิดพลาดโดยไม่ตั้งใจ แต่กลับถูกชนะศึกไล่ออก แต่ธานินทร์ได้เห็นประวัติของพิณทองจึงรับเธอกลับเข้ามาทำงานใหม่ แถมยังเลื่อนตำแหน่งให้ ทำให้ชนะศึกไม่พอใจและทำให้ เรืองโรจน์(อาณัตพล ศิริชุมแสง) เลขาฯส่วนตัวของธานินทร์สงสัย
เรืองโรจน์รายงานเรื่องพิณทองให้อังคณารู้ อังคณาเข้าใจว่าธานินทร์มีความสัมพันธ์กับพิณทองฉันท์ชู้สาวจึงตามมารังควานถึงบ้าน ชนะศึกปกป้องพิณทองด้วยความสงสาร แต่การณ์กลับกลายเป็นว่า ที่ธานินทร์แอบช่วยเหลือพิณทอง เพราะพรรณีแม่ของพิณทองเป็นคนรักเก่าที่ธานินทร์รักอย่างสุดหัวใจ ทำให้อังคณายิ่งแค้นใจมาก อังคณาตอบโต้พรรณีด้วยการใส่ความเพชรแท้ เพชรแท้ถูกตำรวจไล่ล่า ครอบครัวของพรรณีต้องหนีหัวซุกหัวซน พิณทองต้องพยายามตัดใจจากชนะศึก แม้ว่าจะรักเข้ามากเพียงใดก็ตาม ธานินท์รู้ว่าอังคณาเป็นคนบงการอยู่เบื้องหลัง จึงโกรธถึงขั้นขอหย่า แต่อังคณาไม่ยอม ธานินทร์กลุ้มใจจนอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะสุดท้ายของเขากำเริบ ธานินทร์เจ็บปวดทรมานมาก แต่ไม่ยอมบอกใครว่าตนกำลังจะตาย พรรณีหมดหนทางที่จะช่วยเพชรแท้ จึงไปสารภาพความจริงกับธานินทร์ว่า เพชรเป็นลูกชายแท้ๆของเขา ธานินทร์ขอร้องให้ชนะศึกช่วยเพชรแท้จนพ้นคดี เพราะเพชรแท้คือลูกชายอีกคนของเขา ชนะศึกตกใจมากแต่ก็ต้องยินยอม
เพชรแท้พ้นโทษออกมา และได้รู้ความจริงทั้งหมด แต่ด้วยความโกรธ ทำให้เพชรแท้ไม่ยอมรับธานินทร์เป็นพ่อ ธานินทร์รู้ว่าตนเองมีเวลาเหลืออีกไม่นาน จึงคิดจะทำพินัยกรรมแบ่งสมบัติให้กับเพชรแท้ด้วย อังคณารู้เรื่องราวทั้งหมด ด้วยความแค้น เธอจึงร่วมมือกับเรืองโรจน์วางแผนฆ่าธานินทร์และป้ายความผิดให้กับเพชรแท้ ธานินทร์เสียชีวิตในกองไฟ ในขณะที่เพชรแท้โดนข้อหาพยายามฆ่าธานินทร์เพื่องชิงสมบัติ พรรณีและพิณทองจะหาทางช่วยเพชรแท้ได้หรือไม่ และชนะศึกจะรู้เบื้องหลังความเลวร้ายของอังคณาได้อย่างไร ติดตามได้ในละคร บ่วงรัก
รายชื่อนักแสดง บ่วงรัก :
สินใจ เปล่งพานิช รับบทเป็น อังคณา
สันติสุข พรหมศิริ รับบทเป็น ธานินทร์
ธนทัต ชัยอรรถ (แกงส้ม เดอะสตาร์) รับบทเป็น ชนะศึก
นิว ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ท รับบทเป็น เพชรแท้
เต็มฟ้า กฤษณายุธ รับบทเป็น พิณทอง
กิ๊ก มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ รับบทเป็น พรรณี
อาณัตพล ศิริชุมแสง รับบทเป็น เรืองโรจน์
เมย์ รุจิภาส ก่อเกียรติ รับบทเป็น นก
วิยะดา อุมารินทร์ รับบทเป็น ป้าสำอางค์
ตี๋ ดอกสะเดา รับบทเป็น ศักดา
เฟิร์น พัสกร พลบูรณ์ รับบทเป็น ผึ้ง
เริ่มต้น 30 ตุลาคมนี้ ละครบ่วงรัก
อนิลทิตา เจ้าหญิงเขมร จะถูกจับให้แต่งงานกับ เจ้าชัยวิริยะ แต่เธอไม่ยอมเพราะไปหลงรัก สินธุ ผู้ชายไทย เจ้าชัยวิริยะจึงส่งคนไปฆ่าสินธุ อนิลทิตาเสียใจมากจึงใช้มารยาหญิงหลอกฆ่าเจ้าชัยวิริยะเป็นการแก้แค้น แล้วหนีไปเมืองไทยพร้อมกับ บันดาสาเทวี คนสนิท ซึ่งมีวิชาอาคมมนต์ดำแก่กล้าโดยเฉพาะเรื่องการคงความสาวไว้ได้ตลอดไป
อนิลทิตาตั้งใจจะรอการกลับชาติมาเกิดใหม่อีกครั้งของสินธุ จึงขอร้องให้บันดาสาเทวีสอนวิชาคงความสาวให้ ด้วยความรักที่บันดาสาเทวีที่มีต่ออนิลทิตาจึงสอนวิชาถอดวิญญาณ และให้เอาเลือดของผู้ชายมาผสมกับสมุนไพรและร่ายคาถา แล้วใช้น้ำเลือดนั้นอาบชะโลมทั่วกายทุกสามวัน ถ้าไม่อาบร่างการจะแก่เฒ่าลงอย่างรวดเร็ว
200 ปีต่อมา ที่เมืองเชียงใหม่มีงานแต่งงานใหญ่โตระหว่าง เจ้าพงษ์สุริยันติ เจ้าคุ้มเชียงแมนกับ โฉมสุรางค์ สาวสวยผู้มีประวัติลึกลับ ซึ่งแท้จริงแล้วคือ อนิลทิตา ที่ยังคงความสาวไว้ หลังจากนั้นไม่นานอนิลทิตาก็มีลูกสาวให้เจ้าพงษ์สุริยันต์คือ เจ้าดาเรศ โดยไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วเจ้าดาเรศไม่ใช่ลูกของอนิลทิตา เพราะบันดาสาเทวียอมปลอมตัวเป็นอนิลทิตาไปหลับนอนกับเจ้าพงษ์สุริยันต์แทน ทำให้มนต์ดำที่เคยช่วยบันดาสาเทวีให้คงความสาวก็เสื่อมกลายเป็นคนแก่ทันตา
อนิลทิตาจึงแกล้งบอกคนอื่นๆ ในบ้านว่าบันดาสาเทวีกลับเขมร แต่ก็มี ยายทวด ที่หน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวมาแทน และอาศัยอยู่กระท่อมท้ายคุ้มตามลำพัง
20 ปีต่อมา จักรา ซึ่งก็คือสินธุที่กลับชาติมาเกิด เดินทางมาเชียงใหม่เพื่อตามหา สุรเดช น้องชายที่หายสาบสูญไป โดยให้ ไกรลาส ปลัดอำเภอซึ่งเป็นเพื่อนสนิทช่วยเหลือ ในที่สุดจักราก็ตามหาสุรเดชเจอ แต่ในคืนนั้นสุรเดชก็หนีออกจากบ้านและวิ่งตามหาอนิลทิตาไปจนถึงยอดเขา ร้องเรียกชื่ออนิลทิตาสุดเสียงก่อนจะกระโดดลงจากเขาตายคาที่ จักราเสียใจมากและตัดสินใจว่าจะต้องสืบหาความจริงให้ได้ว่าอนิลทิตาคือใคร
ต่อมา ระจิต น้องสาวของไกรลาส ซึ่งแอบชอบจักราได้ใบประกาศรับสมัครงานตำแหน่งผู้ดูแลสวนที่คุ้มเชียงแมน จักราตัดสินใจจะไปสมัครเพื่อเข้าไปสืบหาอนิลทิตา แม้ไกรลาสจะห้ามปรามอย่างไรก็ไม่ฟัง สุดท้ายเลยขอให้ จักราส่งข่าวออกมาตลอดให้รู้ว่าปลอดภัยหรือไม่
จักราเข้าไปสมัครงานที่คุ้มเชียงแมนและได้พบกับอนิลทิตาที่ดูสาวสวยกว่าอายุ จริงมาก เธอมีบอดี้การ์ดร่างยักษ์ชื่อ ไอ้โล้นดำ และมีสัตว์เลี้ยงแสนรักเป็นงูเหลือมชื่อว่า ตองเหลือง จักรารู้สึกว่าอนิลทิตาดูยินดีกับการมาของเขา และตกลงให้เข้าทำงานอย่างง่ายดาย และพูดว่า…เธอรอการกลับมาของเขามานานเต็มที
อนิลทิตาเริ่มพาจักราเดินดูสวน เวลานั้นเจ้าดาเรศที่เพิ่งกลับมาจากอังกฤษได้ไปพบศพคนดูแลสวนคนเก่าที่หายตัวไป เธอตกใจจนวิ่งมาชนกับจักรา จักราหลงรักเจ้าดาเรศทันที และก็สังเกตเห็นว่าเจ้าดาเรศตกใจที่คนดูแลสวนคนเก่าแก่ตาย ผิดกับอนิลทิตาที่ดูเหมือนไม่รู้สึกอะไร จักราจึงขอตัวอนิลทิตากลับไปเก็บของก่อนแล้วอีกสามวันจะกลับมาอยู่ที่คุ้ม
อนิลทิตาให้ กระถิน เด็กรับใช้ตามออกไปส่งจักราที่หน้าประตูคุ้ม ทำให้กระถินได้เจอกับไกรลาสที่ขับรถมารับจักรา ทั้งคู่ต่างหลงรักกันแต่เก็บอาการไว้ ไกรลาสบอกจักราว่าได้เจอกับ พ่อเฒ่าบุญโฮม ที่เคยทำงานที่คุ้มเชียงแมนมาก่อน แต่ตอนนี้ป่วยต้องกลับมารักษาตัวอยู่บ้าน จักราจึงให้ไกรลาสพาไปหาและถามถึงเรื่องราวในคุ้ม
เมื่อจักราและไกรลาสลากลับ อนิลทิตาสั่งให้ตองเหลืองฆ่าพ่อเฒ่าบุญโฮม แม้ว่า แม่เฒ่านายิกี ซึ่งมีวิชาอาคมมนต์ดำของเขมร และเป็นน้องสาวของพ่อเฒ่าบุญโฮม กำลังจะมาช่วยแต่ก็ไม่ทันการ หนำซ้ำเมื่อจักราและไกรลาสกลับถึงบ้านก็พบว่าระจิตน้องสาวของไกรลาสถูกงูเหลือมฆ่าตายเช่นเดียวกัน และก่อนตายระจิตบอกว่าอนิลทิตาเป็นคนส่งงูมาทำร้าย ไกรลาสแค้นใจมากสาบานว่าจะต้องกำจัดอนิลทิตาให้ได้ จึงขอร้องให้แม่เฒ่านายิกีช่วยกำจัดอนิลทิตาให้ แม่เฒ่ารับปากเพราะต้องการแก้แค้นให้พ่อเฒ่าบุญโฮมเหมือนกัน
การปะทะกันครั้งแรกระหว่างอนิลทิตากับแม่เฒ่านายิกี ทำให้อนิลทิตาพ่ายแพ้ถูกแม่เฒ่ากรีดหน้าเสียโฉมและต้องพักรักษาตัวอยู่นาน หลังจากจัดการงานศพระจิตเสร็จ จักราจึงเข้าไปทำงานในคุ้มและได้รู้จักกับ ไอ้พัน ชายวิกลจริต ซึ่งแท้จริงแล้วคือเจ้าพงษ์สุริยันต์ที่ยังไม่ตาย อีกทั้งยังพบว่ามีกระท่อมร้างที่อนิลทิตาหวงมาก ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้แม้แต่เจ้าดาเรศก็ถูกไล่ออกมา เจ้าดาเรศเสียใจร้องไห้ที่ถูกแม่ด่าว่าเสมอ
จักราได้โอกาสเข้าไปปลอบโยนทำให้เจ้าดาเรศเกิดชอบพอกับจักรา และเธอก็รู้สึกว่าแม่ไม่รักเธอเพราะมีผู้ชายมาพัวพันมากหน้าหลายตา แต่น่าแปลกที่ผู้ชายเหล่านั้นเข้ามาในคุ้มครั้งสองครั้งก็จะหายหน้าไปไม่ กลับมาอีกเลย จักราตัดสินใจตามสืบเรื่องนี้เพราะคิดว่าอาจได้เงื่อมงำบางอย่าง ในขณะเดียวกันความใกล้ชิดของจักราและเจ้าดาเรศสนิทสนมกันมากยิ่งขึ้น ทำให้อนิลทิตาเกิดความหึงหวงและหาทางแยกทั้งสองให้ห่างกัน
เวลาเดียวกัน เจ้าพงษ์นคร ญาติห่างๆ ของเจ้าดาเรศเดินทางมาพักอยู่ที่คุ้มเชียงแมน อนิลทิตาจึงให้เวทย์มนต์ทำให้เจ้าพงษ์นครกับเจ้าดาเรศใกล้ชิดกัน จนทำให้จักราเข้าใจผิดคิดว่าทั้งสองรักกันและเริ่มตีตัวออกห่างเจ้าดาเรศ อนิลทิตาถือโอกาสนี้เอาเหรียญท้าวเวสสุวรรณที่สินธุเคยให้ไว้เมื่อชาติที่ แล้ว เอามาทำพิธีและมองให้จักราคล้อง ทำให้จักราเกิดอาการลุ่มหลงอนิลทิตาเป็นอย่างมาก และคลุกคลีอยู่กับอนิลทิตาทุกวันเจ้าดาเรศช้ำใจร้องไห้ไม่หยุด
ไกรลาสรู้เรื่องจากกระถินเลยไปขอให้แม่เฒ่านายิกีช่วยจักรา แม่เฒ่านายิกีบุกเข้าไปในคุ้มและปะทะกับอนิลทิตาอีกครั้ง คราวนี้อนิลทิตาบาดเจ็บสาหัสต้องนั่งสมาธิเป็นเวลา 7 วันเพื่อให้ร่างกายฟื้น เจ้าดาเรศจึงได้โอกาสถอดเหรียญท้าวเวสสุวรรณจากคอจักรา ทำให้จักราหลุดพ้นจากมนต์สะกด แม่เฒ่านายิกีเห็นอนิลทิตายังอ่อนแออยู่ จึงลอบเข้าไปในคุ้มตอนกลางคืนหวังฆ่าอนิลทิตาให้ตาย แต่อนิลทิตารู้ด้วยจิตว่ามีศัตรูจึงออกจากสมาธิและร่ายพิษใส่แม่เฒ่า แต่แม่เฒ่าหนีรอดออกมาได้ด้วยความช่วยเหลือของจักราและไอ้พัน
อนิลทิตาเจ็บใจมากแต่ร่างกายอ่อนแอจึงจัดการปลูกว่านอสูรกายขึ้น เพื่อใช้เป็นสมุนและคอยป้องกันภัยให้เธออีกทางนอกจากไอ้โล้นดำ ระหว่างนั้นอนิลทิตาถูกแม่เฒ่านายิกีทำพิธีตัดคอ จนเกิดอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรงไม่รู้จะทำอย่างไร จึงขอให้บันดาสาเทวีช่วยทำพิธีแก้อาถรรพ์ เป็นเวลาเดียวกับที่เจ้าดาเรศและจักราพาแม่เฒ่านายิกีเข้าไปช่วยเจ้าพงษ์นคร ให้หลุดจากมนต์สะกดก่อนที่จะถูกฆ่า จังหวะนั้นเองไอ้โล้นดำก็เข้ามาขัดขวาง และเกิดการต่อสู้กันจนแม่เฒ่าบาดเจ็บสาหัส อนิลทิตาที่กำลังทำพิธีรับรู้ด้วยจิตว่าเกิดเหตุร้ายในคุ้มก็รีบกลับ แต่ทุกคนก็หนีออกจากคุ้มได้อย่างหวุดหวิด ยกเว้นแต่เจ้าดาเรศที่ถูกไอ้โล้นดำจับตัวเอาไว้ได้ อนิลทิตาโกรธเจ้าดาเรศมากอีกทั้งยังเป็นตัวมารความรักของเธอกับจักราอีก จึงจะฆ่าเธอทิ้งซะ เรื่องราวความรักที่มั่นคงและผ่านเวลามากว่า 200 ปี ที่ต้องแลกมาด้วยเลือดเนื้อ และชีวิตของผู้บริสุทธิ์จะลงเอยอย่างไร ติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ในละคร “อนิลทิตา”
รายชื่อนักแสดง อนิลทิตา
ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ รับบท สินธุ / จักรา
กุลณัฐ ปรียะวัฒน์ รับบท อนิลทิตา / โฉมสุรางค์
ปภาวี เร่งสมบูรณ์ รับบท เจ้าดาเรศ / เรไร
พนมกร ตังทัตสวัสดิ์ รับบท ไกรลาส
ชุติมา นัยนา รับบท บันดาสาเทวี
ปัญญาพล เดชสงค์ รับบท เจ้าพงษ์นคร
ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา รับบท แม่เฒ่านายิกี
รอน บรรจงสร้าง รับบท เจ้าพงษ์สุริยันต์ / ไอ้พัน
วรรณภา คำสงค์ รับบท กระถิน
ม.ร.ว.หญิงอิงฟ้า เป็นสาวสวยอาร์ติสต์แหกคอก ถูกกดดันจากพ่อแท้ ๆ ม.จ.องค์อินทร์ ให้แต่งงานกับ ม.ร.ว.เพชรแท้ นักการทูตหนุ่มอนาคตไกลแต่บ้าวัตถุ อิงฟ้าทนการบังคับไม่ไหวจึงหนีไปเที่ยวงานสลุงหลวง ที่ลำปาง ม.จ.องค์อินทร์ จึงสั่งให้ เทพ ลูกน้องคนสนิทไปตามตัวกลับมา บ่อยครั้งอิงฟ้ามักจะฝันถึงแม่ ม.จ.หญิงเคียงเดือน กับพระธาตุลำปางหลวง อิงฟ้าจึงตามความฝัน เดินทางมากราบนมัสการพระธาตุที่ลำปาง ในเวลาเดียวกันกับชายรูปงามคนหนึ่งชื่อ ผาหลวง ทั้งสองมากราบพระธาตุด้วยความเคารพ โดยหารู้ไม่ว่าทั้งสองมีบางอย่างที่เชื่อมโยงถึงกัน
ผาหลวงมีพระพุทธรูปที่ทับทิมหายไป ในขณะที่อิงฟ้ามีแหวนทับทิมที่ถูกแกะจากพระพุทธรูป ความจริงแล้ว ม.จ.หญิงเคียงเดือน แม่ของอิงฟ้าเคยเป็นคู่รักกับ ผาเรียง พ่อของผาหลวง ความรักของทั้งคู่ถูกกีดขวาง ทั้งสองถูกแยกจากกันทั้งที่ยังรักกันมาก หลังแต่งงานกับองค์อินทร์ เคียงเดือนและผาเรียงเคยมาอธิษฐานที่พระธาตุแห่งนี้ ขอให้ลูกทั้งสองของตนได้พบรักแท้ แม้สักครั้งหนึ่งในชีวิต จนถึงปัจจุบันดูราวกับคำอธิษฐานนั้นยังคงอยู่ หรือมนต์พระธาตุจะดลบันดาลให้ทายาทของผาเรียงและเคียงเดือนมาพบกัน
ทั้งอิงฟ้าและผาหลวงมาพบกัน เพราะความเข้าใจผิดในงานสลุงหลวง อิงฟ้าเข้าใจว่าผาหลวงขโมยกระเป๋าเงินของตนไป แต่ผาหลวงพิสูจน์ความบริสุทธิ์โดยการให้อิงฟ้าค้นตัว ซึ่งก็ไม่พบอะไร อิงฟ้าเลยให้ผาหลวงหาที่อยู่ให้ ผาหลวงมีเพื่อนสนิทเป็นสาวชาวเหนือเช่นเดียวกันคือ การะเกด ผาหลวงและการะเกดเป็นผู้นำชมรมรักเมือง ทั้งคู่กำลังมีปัญหากับเสี่ยเฮง เจ้าของรีสอร์ทที่สร้างบุกรุกพื้นที่อุทยาน เสี่ยเฮงจับตัวการะเกดไปกักขังไว้ เพราะผาหลวงและคำหลาวเพื่อนสนิทจอมทะเล้นมีหลักฐานวิดีโอบทสนทนาของเสี่ยเฮง กับเพื่อนที่ยืนยันว่าเสี่ยเฮงบุกรุกที่ดินเขตอุทยานจริง ๆ ระหว่างออกติดตามการะเกด อิงฟ้าจอมซนที่ชอบแส่ไปทุกเรื่องขอติดตามไปด้วย ผาหลวงและอิงฟ้าหลงทางเข้าไปในป่า ด้วยนิสัยจอมแส่และสนุกเหมือนเด็ก ๆ ความผูกพันระหว่างผาหลวงและอิงฟ้าเพิ่มพูนขึ้น
การนัดแลกเปลี่ยนภาพวิดีโอของเสี่ยเฮงและตัว การะเกดเริ่มขึ้น กลุ่มขององค์อินทร์และเพชรแท้ที่ตามหาลูกสาวตามเข้ามาสมทบ ทำให้เสี่ยเฮงเข้าใจผิด คิดว่าผาหลวงแจ้งตำรวจ ในที่สุดอิงฟ้าก็ถูกเสี่ยเฮงจับตัวไปอีกคนหนึ่ง อิงฟ้าตัดสินใจเปิดเผยฐานะอันสูงส่งของตนเอง เพื่อให้การะเกดรอดตัวไป โดยอิงฟ้าอ้างว่าตนมีเส้นสายสามารถช่วยให้เสี่ยเฮงรอดพ้นจากคดีบุกรุกป่าได้ การะเกดจึงถูกปล่อยตัวกลับมา ซึ่งเค้าก็เริ่มรู้สึกประหลาดใจที่ไม่สามารถสลัดภาพรอยยิ้มอันสดใสของอิงฟ้า ออกไปจากใจได้
ผาหลวงติดต่อให้ ม.จ.องค์อินทร์ พ่อของอิงฟ้ามาช่วยเหลือ เสี่ยเฮงสืบทราบมาว่าอิงฟ้าโกหก เสี่ยเฮงจึงพาอิงฟ้าขึ้นรถหนีความผิด ระหว่างทางเกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ อิงฟ้าได้รับความกระทบกระเทือนทางสมอง จำอะไรไม่ได้เลย ม.จ.องค์อินทร์ ผู้ชาญฉลาดจัดการใส่ความจำใหม่ให้อิงฟ้า เป็นศิลปินสาวสวยสดใสไฮโซ มีตำแหน่งการงานในกระทรวงวัฒนธรรม และใส่ความจำใหม่ว่าคนที่อิงฟ้ารักมานาน คือ ม.ร.ว.เพชรแท้
หญิงสาวไร้ความจำที่มีแต่หัวใจถูกใส่โปรแกรมสมอง และความคิดใหม่อย่างมีระบบทีละเล็กละน้อย ผ่านไปหนึ่งปีผาหลวงได้พบกับอิงฟ้าอีกครั้ง ซึ่งปัจจุบันอิงฟ้าเป็นม.ร.ว.หญิงสวยสง่าเชิดหยิ่งผิดไปจากอิงฟ้าคนเดิม เธอมาทำหน้าที่ดูแลคณะดนตรีพื้นเมืองของผาหลวงและการะเกด ที่สำคัญอิงฟ้าจำผาหลวงไม่ได้ ทำให้ผาหลวงน้อยใจกับสายตาเย็นชาและท่าทางห่างเหิน ที่สำคัญอิงฟ้ากำลังจะแต่งงานกับเพชรแท้ ผาหลวงถอดใจจะกลับบ้านเกิดหลายหน แต่ในที่สุดผาหลวงก็พบว่าอิงฟ้ากำลังอยู่ในอันตราย เพชรแท้ไม่ได้รักอิงฟ้า แต่ต้องการครอบครองวังแดงที่มีมูลค่านับพันล้าน ผาหลวงตัดสินใจยอมลดตัวลงไปเป็นคนรับใช้ในวังแดงเพื่อดูแลอิงฟ้า ผาหลวงตั้งใจจะพาเธอกลับไปลำปาง เขาจะทำทุกอย่างให้ สาวน้อยสดใสคนเดิมของเขากลับคืนมาให้ได้ เรื่องราวจะลงเอยอย่างไรติดตามต่อในละคร อธิษฐานรัก
นักแสดงละคร อธิษฐานรัก
ภูธเนศ หงษ์มานพ
พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร
พ.ศ. 2532 ณ คุ้มสายคำ จ. เชียงใหม่ แม่เลี้ยงสายคำ(อรัญญา นามวงศ์) เจ้าของธุรกิจทอผ้าไหมผู้มั่งคั่ง ได้จัดงานเลี้ยงขันโตกเนื่องในวันคล้ายวันเกิดของตน โดยในงานมีการแสดงฟ้อนเล็บ ซึ่งหนึ่งในช่างฟ้อนคือเอื้องจันทร์(เก็จมณี วรรธนะสิน) สาวงามที่หนุ่มๆ หมายปอง รวมทั้งขวัญเมือง(จักรกฤษณ์ อำมรัตน์) สามีของเดือนวาด(เมย์ เฟื่องอารมย์) ลูกสาวคนโตของแม่เลี้ยง
ส่วนพิมพ์ดาว(สินิทรา บุณยศักดิ์) ลูกสาวคนเล็กของแม่เลี้ยงสายคำมีคู่หมายแล้วคือวรุณ(สถาพร นาควิลัย) พ่อเลี้ยงหนุ่มรูปงาม ซึ่งแม่เลี้ยงสายคำตั้งใจจะประกาศการแต่งงานของสองคนในงานเลี้ยงนี้ แต่วรุณกลับสารภาพว่าเขารักอยู่กับเอื้องจันทร์ ทำให้แม่เลี้ยงสายคำและพิมพ์ดาวโกรธมาก
ในคืนนั้นวรุณแอบนัดกับเอื้องจันทร์เพื่อจะหนีตามกันไป โดยให้จุ่น(ด.ช.ปดลเดช กมลาศัยกุล) ลูกชายของมาลัย(ชุติมา นัยนา) ช่างทอผ้าเพื่อนของเอื้องจันทร์มาบอกให้เอื้องจันทร์ไปรอที่โรงทอผ้าไหม เอื้องจันทร์รีบไปตามนัด แต่แล้วจู่ๆ เธอก็โดนทุบศีรษะจนหมดสติ คนที่ทำร้ายเธอคือแม่เลี้ยงสายคำและพิมพ์ดาว ทั้งสองนำร่างของเอื้องจันทร์ไปกลางป่าเพื่อฆ่าทิ้ง โชคดีเอื้องจันทร์ได้สติหนีรอดมาได้ แต่ก็มาเจอขวัญเมืองฉวยโอกาสจะปลุกปล้ำอีก เอื้องจันทร์เลยต้องหนีลงไปหลบในหีบเก็บผ้าโบราณ
ขณะที่ขวัญเมืองกำลังจะเจอเอื้องจันทร์ เดือนวาดที่ตามหาขวัญเมืองอยู่ก็เข้ามาขัดจังหวะ ทำให้เดือนวาดเห็นพิรุธที่หีบเก็บผ้าใบใหญ่ พอรู้ว่าเอื้องจันทร์ซ่อนอยู่ในนั้น ก็คิดว่าเอื้องจันทร์ต้องแอบลักลอบมาพบกับขวัญเมืองสามีเธอแน่ๆ เลยแกล้งลั่นกุญแจปิดตาย เอื้องจันทร์ตกใจมากเธอร้องขอความช่วยเหลือสุดเสียงแต่ไม่มีใครได้ยิน
เดือนวาดสั่งให้บุญตา(ทองขาว ภัทรโชคชัย) คนสนิทขนหีบไปทิ้งบึงน้ำหลังบ้าน ระหว่างที่กำลังขนจุ่นมาเห็นเหตุการณ์จึงร้องให้คนช่วย เดือนวาดเลยสั่งให้บุญตาฆ่าจุ่นแล้วทิ้งศพลงในบึงน้ำ ส่วนเอื้องจันทร์ก็โดนเดือนวาดและพิมพ์ดาวจับกดลงไปในหีบ เอื้องจันทร์ต่อสู้สุดชีวิต แต่ก็สู้แรงสองพี่น้องไม่ไหว ในที่สุดเอื้องจันทร์ก็โดนจับขังในหีบ แต่เฮือกสุดท้ายเอื้องจันทร์คว้าสร้อยทับทิมของเดือนวาดติดมือไปด้วย
เดือนวาดสั่งให้บุญตา ผลักหีบลงน้ำ เอื้องจันทร์จึงขาดใจตายอยู่ในหีบอย่างทรมาน ส่วนวรุณก็โดนลอบทำร้ายจนหมดสติ เมื่อตื่นขึ้นมาก็ไม่พบเอื้องจันทร์แล้ว แม่เลี้ยงสายคำและพิมพ์ดาวเลยใส่ความว่าเอื้องจันทร์หนีตามผู้ชายไป วรุณเสียใจมากและหายหน้าไปด้วยความตรอมใจ ส่วนมาลัยแม่ของจุ่นก็โศกเศร้าเสียใจที่ลูกชายตายไปจนกลายเป็นคนเสียสติ
เรื่องราวในคืนนั้นจึงกลายเป็นความลับดำมืด ที่ไม่มีใครรู้ว่าเอื้องจันทร์หายไปไหน มีเพียงอุ๊ยทา(ถั่วแระ เชิญยิ้ม) ชายแก่ขี้เมาคนเฝ้าโรงทอผ้าไหมที่เป็นคนเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด แต่ด้วยความกลัวจึงไม่กล้าปริปากบอกใคร หลังเหตุการณ์คืนนั้น แม่เลี้ยงสายคำก็ปิดตายโรงงานทอผ้าไหม แล้วย้ายครอบครัวลงไปทำธุรกิจที่กรุงเทพฯ
พ.ศ. 2550 กรุงเทพ สายไหม(พิชญา ศรีเทพย์) ลูกสาวของขวัญเมืองและเดือนวาดที่เพิ่งเรียนจบ เธอเป็นสาวสมัยใหม่ที่มั่นใจในตัวเอง และต้องการจะทำธุรกิจโฮมสเตย์ที่คุ้มสายคำเรือนไทยเก่าแก่ของครอบครัว ซึ่งทุกคนในบ้านต่างพากันคัดค้าน แต่สายไหมก็รั้นไม่ยอมฟัง เธอเลยชวนติ่มซำ(เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ์) เพื่อนสนิทขึ้นไปดูสถานที่ที่เชียงใหม่
ระหว่างเดินทางสายไหมได้พบกับพรรษา(อลงกรณ์ ต้นหนองดู่) นายตำรวจหนุ่มที่เพิ่งย้ายมารับราชการที่เชียงใหม่ พรรษาประทับใจในตัวสายไหมทันที เมื่อถึงคุ้มสายคำสายไหมและติ่มซำได้พบกับอุ๊ยทา คนดูแลคุ้มที่ป่วยด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง และมาลัยหญิงบ้าที่อุ๊ยทาต้องดูแล บรรยากาศในคุ้มดูวังเวงน่ากลัวจนติ่มซำอยากจะหนีกลับ แต่สายไหมยืนยันว่าจะปรับปรุงบ้านและโรงงานผ้าไหมเก่าแก่ ให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิปให้ได้
กลางดึกคืนนั้นสาย ไหมฝันเห็นเด็กมากวักมือเรียกให้ตามไปที่บึงน้ำหลังบ้าน เด็กคนนั้นชวนเธอพายเรือออกไปกลางน้ำ แต่ก่อนที่สายไหมจะลงเรือ เกิดได้ยินเสียงกรี๊ดลั่นของติ่มซำซะก่อน สายไหมเลยรีบวิ่งกลับบ้านไปหาติ่มซำ ติ่มซำละล่ำละลักบอกว่าได้ยินเสียงต่างๆ มากมายในฝัน ทั้งเสียงกลอง เสียงกี่ทอผ้าที่ขยับโครมคราม เสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือเป็นภาษาคำเมือง สายไหมเลยปลอบใจว่าติ่มซำคิดฟุ้งซ่านไปเอง
วันรุ่งขึ้นเรวัติ(กริช หิรัญพฤกษ์) พ่อเลี้ยงหนุ่มเจ้าของโรงแรม ได้ข่าวว่าสายไหมจะมาพัฒนาคุ้มสายคำ และโรงทอผ้าไหมเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เขาจึงมาหาและทำเป็นชื่นชมในความคิดของเธอ แต่ความจริงเรวัติอยากจะเป็นเจ้าของคุ้มสายคำมากกว่า
แต่ระหว่างที่สายไหมและเรวัติกำลังเดินดูโรงงานทอผ้าด้วยกัน จู่ๆ เธอก็หลงเข้าไปในห้องเก็บผ้าโบราณ สายไหมลองเปิดดูแล้วเกิดเหตุการณ์ประหลาดคล้ายถูกผลักลงไปในหีบ แล้วสายไหมก็ติดอยู่ในนั้นไม่สามารถออกมาได้ พรรษามาที่คุ้มสายคำเพราะนัดกับติ่มซำ เพื่อแลกกระเป๋าเดินทางที่สลับกันที่สนามบิน ทำให้รู้เรื่องที่สายไหมหายตัวไป เลยช่วยกันออกตามหา แล้วพรรษาก็ช่วยสายไหมออกมาได้ทันก่อนที่เธอจะเป็นอันตราย
คืนต่อมาสายไหมได้พบกับเด็กชายอีกครั้ง เด็กพายเรือพาสายไหมออกไปกลางน้ำแล้วจู่ๆ เรือก็คว่ำ เด็กจมน้ำหายไป สายไหมรีบกระโดดลงน้ำตามไปช่วย แต่เด็กกลับดึงสายไหมลงไปใต้น้ำ เธอพยายามดิ้นรนจะเกือบจะหมดสติ แต่จู่ๆ เด็กกลับปล่อยร่างของเธอลอยขึ้นมา
พอสายไหมรอดมาได้ก็ไปคาดคั้นจนอุ๊ยทาต้องเล่าความจริงให้ฟังว่า เด็กคนนั้นคือชื่อจุ่น เป็นลูกชายของมาลัยที่หายไปตั้งแต่ยังเด็ก มีคนเห็นวิญญานจุ่นแถวบึงน้ำบ่อยๆ เชื่อกันว่าจุ่นคงไปเล่นซนแล้วตกน้ำตายโดยไม่มีใครรู้ ติ่มซำกลัวจนสติแตกรีบเก็บของจะกลับกรุงเทพให้ได้ แต่สายไหมมั่นใจว่าจุ่นไม่ได้คิดจะทำร้ายเธอ แต่ต้องการให้เธอลงไปใต้น้ำเพื่อเหตุผลอะไรบางอย่าง สายไหมจึงขอให้พรรษามาช่วยเธอค้นหาความจริง
พรรษาชวนดาบสนิท (ตี๋ ดอกสะเดา) นายตำรวจคู่หู มาช่วยกันค้นหาบางอย่างใต้บึงน้ำ แล้วพรรษาก็เจอหีบไม้ขนาดใหญ่จมอยู่ใต้โคลนก้นบึง ซึ่งลักษณะของหีบเหมือนกับหีบใส่ผ้าโบราณในโรงทอผ้าไหม แต่ฝาหีบถูกปิดล็อคไว้อย่างแน่นหนา พอเปิดหีบออกทุกคนก็ตกใจแทบสิ้นสติ เมื่อพบว่าในหีบคือร่างของหญิงสาวในชุดฟ้อนเล็บ ศพนั้นเน่าเปื่อยจนหมดสภาพ เหลือสิ่งที่เป็นหลักฐานคือชุดผ้าไหม เล็บที่ทำจากทองเหลือง และทับทิมสยามเม็ดงามตกอยู่ก้นหีบ
ในเมื่อสภาพการณ์บ่งชัดว่าเป็นการฆาตกรรม พรรษาจึงต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง เขาขอเก็บหีบเอาไว้เพื่อเป็นหลักฐาน รวมทั้งทับทิมเม็ดนั้น เพราะเป็นไปได้ว่าอาจเป็นของฆาตกร ข่าวลือแพร่สะพัดออกไป ชาวบ้านต่างเชื่อกันว่าศพในหีบคือผีแม่หญิงเอื้องจันทร์ ประกอบกับมีคนเห็นผีสาวในชุดช่างฟ้อนเล็บ มวยผมสูง หน้าขาวซีด สวมเล็บสีทองออกอาละวาดหลอกผู้คนจนเป็นข่าวลงหนังสือพิมพ์ ทำเอาชาวบ้านหวาดกลัวกันไปใหญ่
เรวัติเห็นเป็นโอกาสดี เลยเสนอซื้อคุ้มสายคำต่อจากสายไหมทันที ติ่มซำเลยช่วยเรวัติกล่อมให้สายไหมขายบ้านและที่ดินเพื่อจะได้กลับกรุงเทพ แต่สายไหมและพรรษารู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล จึงคอยสังเกตการณ์จนในที่สุดก็จับสาวชาวบ้านที่ปลอมเป็นผีเอื้องจันทร์ได้ หญิงคนนั้นสารภาพว่าเรวัติเป็นคนจ้าง
ฝ่ายเรวัติพอรู้ว่าโดนจับได้ ก็รีบไปทำลายหลักฐานด้วยการเผาหีบเอื้องจันทร์ทันที แต่เรวัติกลับโดนอิทธิฤทธิ์ผีเอื้องจันทร์ทำร้ายจนตาย ด้านสายไหมก็เริ่มโดนผีเอื้องจันทร์ทำร้ายด้วยวิธีการต่างๆ พอเดือนวาดรู้เรื่องผีเอื้องจันทร์มาทำร้ายสายไหม เธอก็สั่งให้บุญตาหาวิธีปราบจนสำเร็จด้วยการสะกดวิญญาณแล้วเผาทำลายหีบ ทุกคนโล่งใจที่กำจัดผีเอื้องจันทร์ได้ แต่หารู้ไม่ว่าวิญญานของเอื้องจันทร์ได้เข้าสิงสู่ร่างของสายไหมเรียบร้อย แล้ว
พรรษาที่กลับกรุงเทพไปกราบหลวงพ่อวรุณที่รับอุปการะเขาตั้งแต่เด็ก และบังเอิญเล่าเรื่องที่คุ้มสายคำให้หลวงพ่อฟัง จึงได้รู้ความจริงบางอย่างเกี่ยวกับเอื้องจันทร์ ทำให้พรรษาเชื่อว่าคนในครอบครัวของสายไหมน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของ เอื้องจันทร์ และเขาต้องสืบหาความจริงเรื่องนี้ให้ได้ก่อนที่สายไหมจะเป็นอันตรายมากกว่า นี้
อาทิตย์ต่อมาในงานเดินแฟชั่นผ้าไหมประจำปีของบริษัท “ผ้าไหมสายคำ” ที่โรงแรมหรู สายไหมกับติ่มซำเป็นคนจัดงานนี้ งานแฟชั่นโชว์ดำเนินไปอย่างราบรื่น จนมาถึงโชว์ชุดพิเศษที่ติ่มซำเตรียมไว้ แต่แล้วจู่ๆ ทุกคนก็ต้องช็อคเมื่อมีเสียงกลองดังก้องกังวานจนแสบหู มีแสงสว่างจ้าที่กลางเวที ซ้ำร้ายยังมีหีบผ้าไหมขนาดใหญ่ตั้งอยู่
ท่ามกลางความตื่นตระหนกของทุกคนในงาน สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อฝาหีบเปิดออก ร่างของช่างฟ้อนคนหนึ่งค่อยๆ ก้าวออกมาจากหีบ ทุกคนตกใจมากที่ช่างฟ้อนคนนั้นคือสายไหม ซึ่งนั่นหมายความว่าเอื้องจันทร์ได้ยึดร่างของสายไหม เพื่อจะได้แก้แค้นทุกคนที่ทำร้ายเธออย่างสาสม
แล้วจะมีใคร บ้างที่ต้องสังเวยความแค้นนี้ด้วยชีวิต? แล้วพรรษาจะช่วยชีวิตสายไหมให้รอดจากเงื้อมือของเอื้องจันทร์ได้หรือไม่? ตามลุ้นได้ในละคร “หีบหลอนซ่อนวิญญาณ”
ผู้กำกับ : ฉัตรชัย สุรสิทธิ์
ผลิตโดย : เอ็กแซ็กท์
เขียนบท : วาทินีย์ โอฬาร์กร,บุญฤทธิ์ กลิ่นเกษร,วิวัฒน์ กฤษณาเวศน์
บทประพันธ์ : ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์,บุญฤทธิ์ กลิ่นเกษร
นักแสดง
เก็จมณี วรรธนะสิน
พิชญา เชาวลิต
เมื่อหัวใจของเขา ต้องเลือกระหว่างความแค้นและความรัก หัวใจศิลา
“เพราะรอยแผลเป็นในใจของชายหนุ่มที่ถูกทำร้าย และดูถูกในอดีตทำให้เขาต้องสวมวิญญาณอสูร เพื่อกลับมาแก้แค้น…แต่ความรักเกิดที่ขึ้นท่ามกลางเหตุการณ์เลวร้ายจะ สามารถลบล้างหัวใจอสูรของชายหนุ่มให้กลับมาเป็นเช่นเดิมได้หรือไม่”
ศิลา หรือ ต่อ เป็นลูกของ ไหม เมียน้อยของ ทรงศักดิ์ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่ง ต่อเกิดจากความไม่ตั้งใจของทรงศักดิ์ ไหมพาต่อมาพบทรงศักดิ์ที่บ้าน แต่ถูกไล่ออกมาและไหมก็สิ้นใจในที่สุดทิ้งให้ต่ออยู่เพียงลำพัง ทรงศักดิ์จึงจำใจรับต่อเข้าไปอยู่ในบ้านโดยปล่อยให้ สีดา เมียหลวงของเขาดูแล แต่สีดาก็เกลียดชังต่อและสอนให้ สาวิตต์ลูกชายของเธอรังแกต่อด้วย
โกมุท และ มารศรี เป็นผู้ดีเก่าเพื่อนบ้านของทรงศักดิ์ มีลูกสาวสองคนคือ มิ่งขวัญ และ มินตา แต่มารศรีกลับเอาใจและประคบประหงมมิ่งขวัญมากกว่ามินตา มินตาชอบเล่นอะไรแบบเด็กผู้ชาย เธอจึงเป็นเพื่อนเล่นเพียงคนเดียวของต่อ ในขณะที่ต่อมักจะหลบออกมาอยู่คนเดียว ส่วนมิ่งขวัญรังเกียจต่อจนไม่ยอมเข้าใกล้ และด่าต่อว่าเป็นไอ้หมาขี้เรื้อน สกปรกโสโครก
วันหนึ่งต่อถูกสีดาทุบตีทำร้ายอย่างทารุณและขังไว้ในห้อง เพราะสาวิตต์ใส่ร้ายต่อว่าขโมยเงินของสีดาไป ในคืนนั้นเขาหาทางหนีออกไปจากบ้านจนได้ หลายวันต่อมามีคนพบศพเด็กชายคนหนึ่งลอยน้ำมา ทุกคนเข้าใจว่าต่อตายไปแล้ว แต่แท้จริงแล้วต่อหนีไปอยู่กับ พิมสุดา หรือ แหม่ม น้าสาวซึ่งเป็นน้องแท้ๆ ของไหมนั่นเอง
สิบห้าปีต่อมา มินตาเติบโตขึ้นและทำงานเป็นมัณฑนาการในบริษัทรับออกแบบตกแต่งบ้านแห่งหนึ่ง เธอพา ธันวา เพื่อนร่วมงานไปโรงพยาบาล แต่ความรีบร้อนทำให้ชนกับรถของศิลาที่ลานจอดรถของโรงพยาบาล ทั้งสองปะทะคารมกันอย่างไม่มีใครยอมใคร มินตารู้สึกคุ้นหน้าว่าเขาคือพี่ต่อที่เธอเคยรู้จัก แต่ชายหนุ่มกลับไม่ยอมรับ ธันวาจำได้ว่าศิลาเป็นมือขวาของเจ้าแม่แหม่มแม่เล้าไฮโซแห่งวงการธุรกิจกลาง คืน มินตาจึงเข้าใจว่าศิลาเป็นแมงดา และซ้อมผู้หญิงจนแท้งจึงต้องพามาโรงพยาบาล แต่ศิลาได้รู้ความจริงจาก อ้อย ว่าที่เธอต้องตกเลือดอย่างรุนแรง เพราะเธอถูกลูกค้าคนหนึ่งซ้อมและลูกค้าคนนั้นคือสาวิตต์นั่นเอง แต่สีดาก็หาทนายมาช่วยให้สาวิตต์รอดพ้นจากความผิด ศิลาจึงรู้ว่าคนพวกนี้ยังอยู่ดีมีสุข และทำความเลวให้คนอื่นเดือดร้อน ความโกรธแค้นที่ศิลามีต่อครอบครัวของสีดาจึงปะทุขึ้นอีกครั้ง ศิลาจึงให้ลักษมีดาราสาวหลอกให้สาวิตต์ติดพนัน และศิลาก็สามารถยึดบ้านของสาวิตต์ที่นำมาจำนองกับตนไป ด้วยเหตุนี้ทำให้สาวิตต์แค้นมากทำให้ทั้งสองชกต่อยกันในขณะนั้นรถสิบล้อที่ จอดไว้เกิดล้อเคลื่อนมาทับขาสาวิตต์จนต้องเป็นคนพิการ และศิลาก็ซื้อหุ้นบริษัทจนได้เป็นเจ้าของ แต่สีดามีแผนโดยร่วมมือกับมารศรีบังคับให้มินตาแต่งงานกับสาวิตต์เพื่อเอาไป ต่อรองกับศิลาให้เอาบ้านคืน ซึ่งศิลาก็ยอมหลังจากนั้นมินตาก็เกลียดศิลา โดยบอกว่าตัวเองรักสาวิตต์ ทำให้ต่อหึงหวงจึงข่มขืนมินตาจนมินตาท้อง หลังจากนั้นสาวิตต์กับสีดาให้คนไปจับศิลากับมินตาไปขัง โดยมีข้อเสนอว่าต้องเอาทุกสิ่งทุกอย่างของศิลาแลกกับอิสระ แต่สุดท้ายลักษมีได้แจ้งตำรวจมาช่วยจนศิลาหนีออกมาได้ แต่มินตาถูกสาวิตต์กับสีดาจับตัวไป และลักษมีถูกยิงตายศิลาตามไปช่วยจนถูกยิงตกน้ำไป ส่วนมินตาได้รับการช่วยเหลือจากตำรวจ และมารศรีกับมิ่งขวัญถูกจับเช่นเดียวกับสาวิตต์และสีดา แต่สุดท้ายศิลายังไม่ตายและกับมาใช้ชีวิตอยู่กับมินตา
นักแสดง หัวใจศิลา
สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว แสดงเป็น ศิลา (ต่อ)
พิชญา ศรีเทพย์ แสดงเป็น มินตา
เมทินี กิ่งโพยม แสดงเป็น พินสุดา (แหม่ม)
กาญจนา จินดาวัฒน์ แสดงเป็น สีดา
พงษ์พันธ์ เพชรบัณฑูร แสดงเป็น สาวิตต์
อัฐมา ชีวนิชพันธ์ แสดงเป็น มิ่งขวัญ
ศักราช ฤกษ์ธำรงค์ แสดงเป็น โกมุท
ณหทัย พิจิตรา แสดงเป็น มารศรี
พงศ์สิรี บรรลือวงศ์ แสดงเป็น ธันวา
ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี แสดงเป็น ธีระ
ปาริชาติ รักมาก แสดงเป็น ลาวัณย์
สมภพ เบญจาธิกุล แสดงเป็น ทรงศักดิ์
ภัทรา อธิราษฎร์กุล แสดงเป็น แววรัตน์
สุมนต์รัตน์ วัฒนาเศลารัตน์ แสดงเป็น ลักษมี
ชมพูนุช ปิยะภาณี แสดงเป็น แหวน
สุภัทรา ทิวานนท์ แสดงเป็น ไหม
ชุณห์ (ปฏิภาณ ปฐวีกานต์) ลูกชายเศรษฐี จอมเรื่องมาก และเย่อหยิ่ง จากตระกูลที่ทำอาชีพการโรงแรมมาหลายชั่วอายุคน เขากำลังมีปัญหากับ ชนม์ (ชลิต เฟื่องอารมย์) พ่อที่เอาแต่บ้างานและบังคับให้เขาไปดูแลกิจการ ชุณห์ปฏิเสธงานนี้มาโดยตลอด เพราะลึกๆ เขาคิดเสมอว่างานเป็นสิ่งที่ทำให้เขาเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยว ชุณห์มีแฟนสาวไฮโซชื่อ ทราย (สกาวใจ พูนสวัสดิ์) ทั้งสองคบกันตั้งแต่เด็ก แต่ยิ่งโตขึ้นก็ยิ่งเข้ากันไม่ได้ เพราะเอาแต่ใจตัวเองทั้งคู่ ด้วยความที่เข้ากันไม่ได้ ทำให้ทรายแอบมีกิ๊กเป็นศิลปินดาวรุ่งพุ่งแรงชื่อ นนท์ (ปัญญาพล เดชสงค์)
หวาน (พิยดา อัครเศรณี) รีเซฟชั่นฐานะกลางๆ ที่อ่อนหวาน และยอมคนเสมอ ก็ได้มีโอกาสได้พบกับชุณห์ ในฐานะแขกวีไอพีของโรงแรม แต่การเจอกันครั้งแรกของทั้งคู่กลับไม่น่าประทับใจนัก เมื่อชุณห์แกล้งประชดชนม์ผู้เป็นพ่อที่ยื่นคำขาดบังคับให้เขาต้องไปเรียนการโรงแรมที่สวิสเซอร์แลนด์ โดยการแกล้งหวานต่างๆ นานา แต่หวานไม่ปริปากบ่น จนชนม์ยกย่องว่าเป็นนักการโรงแรมตัวจริง ชุณห์พยายามลวนลามหวานเพื่อให้พ่อเห็นว่าเขาไม่สามารถเป็นนักการโรงแรมที่ดีได้ หวานกลัวจนวิ่งหนีเข้าไปในครัว ทำให้ แต๋ม (เจมี่ บูเฮอร์) หัวหน้ารีเซฟชั่น เพื่อนสนิทของหวานนึกหมั่นไส้ชุณห์ขึ้นมาทันที หลังเลิกงานขณะที่หวานกำลังกลับบ้าน ชุณห์มาดักรอเพื่อเอาเงินให้เป็นการขอโทษ แต่หวานไม่รับ และตามมาคุยกับชุณห์ เรื่องที่ชุณห์ทะเลาะกับพ่อ ทั้งสองได้คุยกัน ทำให้หวานมองเห็นถึงแววตาของเด็กชายที่โตขึ้นมาอย่างโดดเดี่ยวของชุณห์ได้ทันที
หวานเป็นหญิงสาวที่ใฝ่ฝันจะมีชีวิตคู่ที่สวยงามกับ แมน (กริช หิรัญพฤกษ์) เซลล์แมนหนุ่มจอมเจ้าชู้ ทั้งคู่ตกลงจะแต่งงานกันในอีกไม่นาน แต่วันหนึ่งเส้นทางที่โรยไปด้วยกลีบกุหลาบของหวานก็ต้องหยุดลง เมื่อหวานพบว่าแมนกำลังนอนกับหญิงสาวอื่น หวานเสียใจมากทำให้แต๋มต้องคอยปลอบใจหวานทั้งคืน
ในขณะที่ชุณห์มีนัดดินเนอร์กับทรายที่ร้านอาหารแห่งเดิมอีก ที่สำคัญก่อนเวลานัดชุณห์สั่งทำเค้กช็อกโกแลตที่มีแหวนเพชรอยู่ในช็อกบอล เพราะชุณห์กำลังจะขอทรายแต่งงาน และผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลเค้กและโต๊ะอาหารในครั้งนี้คือหวานกับ นพ (สิทธิพร นิยม) เชฟหนุ่มหน้าตาดี ที่หลงรักหวานอย่างบริสุทธิ์ใจ แต่หวานขอลางานเพราะเสียใจจากเรื่องเมื่อคืน ส่วนแต๋มก็มาทำงานสายเพราะคอยปลอบใจหวานอยู่ทั้งคืน ทำให้นพต้องวุ่นวายและประสบอุบัติเหตุแขนหักจากการอารักขาเค้กเซอร์ไพรส์ชิ้นนั้น ชุณห์พยายามให้ทรายตักช็อกบอลลูกนั้นขึ้นมาชิม แต่ทรายไม่เต็มใจนักจึงยัดช็อกบอลนั้นเข้าปากแบบขอไปที ดินเนอร์ขอแต่งงานจึงต้องไปจบลงที่โรงพยาบาลแบบกร่อยๆ ทำให้ชุณห์ยอมหยุดเรื่องแต่งงานไว้ก่อน และเขาเองต้องเดินทางไปอบรมคอร์สการโรงแรมเพิ่มเติมที่สวิสตามคำสั่งของพ่อ โดยชุณห์ขอให้ทรายเก็บแหวนที่อยู่ในท้องเอาไว้ก่อนแล้วค่อยคิดดู เมื่อเรียนจบมาแล้วค่อยมาคุยกันใหม่
นพไปอบรมคอร์สการโรงแรมเพิ่มเติมที่สวิสต่อกับแต๋มไม่ได้ ในขณะที่แมนตามล่าขอคืนดีกับหวานอย่างบ้าคลั่ง แต๋มจึงขอร้องให้หวานไปกับเธอ หวานตัดสินใจบินไปสวิสกับแต๋มทันที
เพราะหมดอาลัยตายอยากกับชีวิตรัก
วันเดินทางนพตามไปส่งหวานด้วย เขาสัญญาว่าจะรอหวานอยู่เสมอจนกว่าหัวใจของหวานจะพร้อมรักใครใหม่อีกครั้ง
การเดินทางที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของชายหญิงคู่หนึ่งกำลังเริ่มขึ้น…..หวานและแต๋มได้พบกับเพื่อนคนไทยอีกหลายคน ได้แก่ เพชร (พนมกร ตังทัตสวัสดิ์) ไข่ (กิตติ เชี่ยววงศ์กุล) และที่ไม่คาดฝันคือ ชุณห์ ทุกคนรวมกลุ่มกันได้ดี ยกเว้นแต่ชุณห์ที่มักจะแยกตัวมาอยู่คนเดียวบ่อยๆ เพราะความเหงา และจับได้ว่าทรายมีคนอื่น จนครั้งหนึ่งที่เขาหายตัวไป หวานขอร้องให้เพื่อนๆ ช่วยกันตามหา จนเพชรและไข่ได้รับบาดเจ็บเพราะเสี่ยงตายลงไปตามที่บนเขา แต่ชุณห์กลับปรากฏตัวออกมาและไม่เอ่ยคำขอโทษพวกของแต๋ม ทำให้แต๋มสาปส่งว่าต่อไปนี้แก๊งค์ของเธอจะเป็นศัตรูกับชุณห์ตลอดไป
แต๋มรู้มาว่าชุณห์แพ้ช็อกโกแลต จึงแกล้งแอบใส่ช็อกโกแลตลงไปในอาหารที่ชุณห์สั่ง ทำให้ชุณห์หายใจไม่ออก ผื่นขึ้นตัวจนต้องพาไปโรงพยาบาล ความสัมพันธ์ของหวานและชุณห์ยังคงเลวร้ายอยู่เสมอ จนเมื่อมีวิดีโอเทปลับจากเมืองไทยส่งมาถึงหวาน แต่วิดีโอเทปนั้นกลับตกมาอยู่ในมือชุณห์ เขาแก้แค้นด้วยการฉายวิดีโอนั้นในห้องเรียน แม้พวกของแต๋มจะพยายามห้ามแต่ชุณห์ไม่ฟัง สุดท้ายชายหนุ่มก็ต้องตะลึงเมื่อเทปลับนั้นคือ ภาพของแมนกับผู้หญิงอีกคนบนเตียงนอนที่เคยเป็นเรือนหอของหวาน แต่นาทีนั้นหวานกลับเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ทำให้หญิงสาวต้องกลับมาเสียใจอีกครั้ง หวานดื่มเหล้าจนเมามาย ในขณะที่พวกแต๋ม, เพชร, ไข่ เมาหลับกันไปหมด ชุณห์ได้พบกับหวานในสภาพที่เมามายสุดขีด เขาดูแลเธอพร้อมกับเอ่ยคำขอโทษในสิ่งที่เขาทำลงไป แม้หวานจะไม่ได้สติแต่ในใจของเธอก็รู้สึกได้ว่าชุณห์ตั้งใจมาขอโทษ
หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นชุณห์กับกลุ่มของหวานก็กลายเป็นเพื่อนกัน แม้ว่าแต๋มจะคอยเตือนและสังเกตพฤติกรรมของหวานกับชุณห์ที่ดูเหมือนจะมีใจให้กัน เพราะแต๋มคิดเสมอว่าทั้งสองเป็นเพียงคนอกหักมาพบกัน ทั้งหมดขึ้นไปเที่ยวบนภูเขา ชุณห์กับหวานหลงอยู่ในภูเขากลางหิมะ ชุณห์ต้องหาเคบินให้หวานอยู่ และคืนนั้นทั้งคู่ต่างเผลอไผลมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน แต่เมื่อกลับมาถึงที่พักชุณห์ก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อทรายมารอชุณห์อยู่พร้อมกับแหวนบนนิ้วนางข้างซ้าย หวานเสียใจมาก แม้ชุณห์จะสัญญาว่าทุกอย่างจะยังเหมือนเดิม ทรายตีสนิทกับหวานเพื่อที่จะบอกว่าเธอไม่ถือสากับสิ่งที่ชุณห์ทำพลาด หวานเขียนจดหมายตัดความสัมพันธ์กับชุณห์ทันที แล้วหนีกลับเมืองไทยด้วยหัวใจที่แตกสลาย
ที่เมืองไทยแต๋มชวนนพมาเปิดร้านอาหาร หวานหนีการตามล่าของแมนที่มาตอแย จึงบอกว่าเธอเป็นแฟนกับนพแล้ว ทั้งหมดเล่นละครหลอกแมน แต่กลับมีอีกคนที่ได้ยินและเห็นเรื่องนี้โดยไม่ตั้งใจคือ ชุณห์ เมื่อเหตุการณ์เลวร้ายมากขึ้น ชายหนุ่มจะสามารถนำความรักและความสุขของคืนวันเก่าๆ กลับมาได้หรือไม่ หวานจะต่อสู้กับหัวใจตัวเองอย่างไร เมื่อความรักที่เธอเก็บซ่อนไว้ยังคงวนเวียนอยู่ในใจเธอตลอดเวลา…… ติดตามการตามหารักแท้ของ 2 หัวใจในละครรักโรแมนติกแห่งปี “หัวใจช็อกโกแลต” ทุกวันจันทร์-อังคาร ทางช่อง 5 สองทุ่มสิบห้า เริ่มวันจันทร์ที่ 10 ตุลาคมนี้ !!!
ติดตามการตามหารักแท้ของ 2 หัวใจในละครรักโรแมนติกแห่งปี หัวใจช็อกโกแลต
นักแสดงละคร หัวใจช็อกโกแลต
ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ รับบท ชุณห์
พิยดา อัครเศรณี รับบท หวาน
สกาวใจ พูนสวัสดิ์ รับบท ทราย
เจมี่ บูเฮอร์ รับบท แต๋ม
พนมกร ตังทัตสวัสดิ์ รับบท เพชร
กริช หิรัญพฤกษ์ รับบท แมน
สิทธิพร นิยม รับบท นพ
กิตติ เชี่ยววงศ์กุล รับบท ไข่
ติรกา ดาวเด่นแห่งวงสังคมชั้นสูงประกาศหมั้นกับ ม.ร.ว.ไอศูรย์ สุริยฉัตร ( คุณต้อง ) ชายผู้งดงามเป็นทายาทสืบทอดวังแสงสูรย์แห่งตระกูลสุริยฉัตร ทำให้ตำแหน่งคุณหญิงผู้ครอบครองวังแสงสูรย์ตกมาอยู่ในมือของเธอ ในงานหมั้น ม.ร.ว.ภาสวร สุริยฉัตร ( คุณต้อย ) น้องชายฝาแฝดของไอศูรย์ ซึ่งโกรธและอิจฉาที่ไอศูรย์แย่งติรกาไปมาร่วมงานพร้อมกับ รัตนานงเยาว์ หญิงสาวเฝ้าหลงรักไอศูรย์ งานหมั้นผ่านไปด้วยดีติรกาจึงมั่นใจว่าตำแหน่งท่านหญิงจะต้องเป็นของเธอ แต่ทันใดนั้นก็มีทหารนำหมายเรียกตัวไอศูรย์ไปเป็นทหารอาสา หลังจากที่ไอศูรย์ไปรบติรกาก็คอยติดตามข่าวสารตลอด ระหว่างนั้นภาสวรก็เข้ามาเกี้ยวพาราสีแต่ติรกาไม่สนใจ จนกระทั่งเธอได้ข่าวว่าไอศูรย์เสียชีวิต
ภาสวรจึงใช้โอกาสที่ตนเป็นทายาทมีสิทธิ์ครอบครองแสงสูรย์เอาชนะใจติรกา โดยพาไปเที่ยวตากอากาศที่หัวหิน ที่นั่นภาสวรจึงได้พบกับ โชติรส และอ้างว่าตนเองคือไอศูรย์ ทางด้าน หม่อมศุภางค์ ย่าของไอศูรย์และภาสวร รังเกียจติรกาเพราะรู้ว่าจะเข้ามาครอบครองวังแสงสูรย์ ฝ่ายติรกาเมื่อถูกหม่อมศุภางค์ดูถูกก็ยิ่งทำให้เธออยากจะเป็นเจ้าของแสง สูรย์มากขึ้น เมื่อภาสวรเอ่ยปากขอหมั้นติรกาจึงตอบตกลงทันที ขณะที่ภาสวรกำลังสวมแหวนหมั้นก็มีข่าวด่วนว่าไอศูรย์ยังมีชีวิตอยู่ ติรกาช็อคมากเพราะเวลานี้เธอเป็นคู่หมั้นของภาสวรไปแล้ว ติรกาจึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านไปตั้งหลักที่บ้านของมารดาที่นครสวรรค์ ทำให้ภาสวรคลุ้มคลั่งมาก สองอาทิตย์ต่อมาไอศูรย์เดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยรถไฟ
ระหว่างทางเค้าได้พบกับโชติรสเด็กสาวที่ภาสวรเคยจีบ เธอโวยวายเรื่องที่ไอศูรย์จีบเธอที่หัวหินทั้งๆ ที่มีคู่หมั้นอยู่แล้วคือติรกา ตอนแรกไอศูรย์คิดว่าโชติรสจำคนผิด แต่สุดท้ายไอศูรย์ก็นึกถึงภาสวรขึ้นมาได้และสารภาพว่าตนเองมีคู่แฝด ทำให้โชติรสเข้าใจอะไรมากขึ้น เมื่อไอศูรย์กลับไปถึงแสงสูรย์ หม่อมศุภางค์ได้ขอให้ไอศูรย์เสียสละยกติรกาให้กับภาสวร และสั่งให้ไอศูรย์ไปตามติรกากลับมา วันต่อมาไอศูรย์นั่งรถไฟไปยังนครสวรรค์เพื่อไปรับติรกา เค้าได้พบโชติรสอีกครั้ง เมื่อโชติรสรู้เรื่องที่เกิดขึ้นก็เห็นใจและสงสารไอศูรย์มาก จึงอาสาช่วยเหลือโดยปลอมตัวเป็นคู่หมั้นคนใหม่ของไอศูรย์ เพื่อให้ติรกาตัดใจและยอมกลับไปหาภาสวร เมื่อไอศูรย์มาถึงก็แนะนำว่าโชติรสคือคู่หมั้นคนใหม่
ติรกากลัวว่าแสงสูรย์จะหลุดมือไปเธอจึงตัดสินใจกลับ แสงสูรย์แต่โดยดี เมื่อทั้งหมดกลับมาถึงแสงสูรย์ติรกาก็วางแผนกลั่นแกล้งโชติรสจนทำให้หม่อม ศุภางค์โกรธไล่โชติรสออกไปจากวัง หลังจากโชติรสลากลับบ้านที่สุโขทัย ติรกาก็พยายามเข้าหาไอศูรย์และประวิงเวลาการแต่งงานกับภาสวรออกไป ทำให้ภาสวรโทษไอศูรย์ หม่อมศุภางค์จึงตัดสินใจตามโชติรสกลับมายังวังแสงสูรย์และให้แต่งงานกับ ไอศูรย์โดยเร็ว แต่โชติรสอ้างว่ายังไม่พร้อม ขณะเดียวกันติรกาก็หาวิธีกำจัดโชติรสโดยยืมมือรัตนานงเยาว์ ซึ่งในขณะนั้นเธอกำลังคบหาอยู่กับ ยศไกร นายตำรวจหนุ่มซึ่งเคยคบหากับโชติรสมาก่อน เมื่อติรกาเชิญรัตนานงเยาว์มาสังสรรค์ที่วังรัตนานงเยาว์พายศไกรมาด้วย
โชติรสจึงได้พบกับยศไกรยศไกรรู้สึกเจ็บปวดเมื่อรู้ว่าโชติรสตกลงใจหมั้นกับ ไอศูรย์ ไอศูรย์รู้ว่าโชติรสจะกลับบ้านจึงรีบเปิดเผยโครงการก่อตั้งมูลนิธิเลี้ยง เด็กกำพร้า โดยขอให้โชติรสเป็นครูดูแลเด็กๆ เมื่อติรการู้เข้าจึงรีบไปฟ้องภาสวรเพื่อให้คัดค้าน ทำให้ไอศูรย์และภาสวรทะเลาะกัน ขณะเดียวกันภาสวรเห็นติรกาเข้าไปยุ่งกับไอศูรย์จนไม่เหลือเยื่อใยให้ตน ก็เครียดจัดเลยออกไปเที่ยวเสเพลนอกบ้านจนไปได้เสียกับ กานดา นักร้องในผับแห่งหนึ่ง แถมยังแอบอ้างว่าตนคือไอศูรย์อีกด้วย เมื่อหม่อมศุภางค์เห็นภาสวรทำตัวสำมะเลเทเมาก็เป็นห่วงจึงสั่งให้ไอศูรย์รีบ แต่งงานกับโชติรสด่วน ไอศูรย์อ้างว่าตนยังไม่พร้อมแล้วไปขอร้องให้ติรกาแต่งงานกับภาสวรแทน แต่ติรกาไม่ยอม
ขณะนั้นกานดาซึ่งตั้งครรภ์กับภาสวรได้ให้กำเนิดทารกขึ้นมา โดยเข้าใจว่าไอศูรย์คือพ่อของเด็กจึงเข้ามาขอค่าเลี้ยงดูที่แสงสูรย์ ไอศูรย์และโชติรสจึงปรึกษากันและตัดสินใจรับลูกของกานดามาเลี้ยง โดยไอศูรย์จะรับเป็นพ่อของเด็ก ไอศูรย์เข้าไปต่อว่าภาสวรติรกามาแอบได้ยินจึงเอาเรื่องนี้ไปเป็นข้ออ้างใน การถอนหมั้น ทำให้ภาสวรโกรธแค้นมากเพราะเข้าใจว่าไอศูรย์กลั่นแกล้งตนเพื่อแย่งติรกาไป ภาสวรเลยวางแผนแกล้งหนีออกจากแสงสูรย์ เมื่อหม่อมศุภางค์รู้เข้าก็โกรธและเสียใจจนล้มป่วย และโทษว่าไอศูรย์เป็นผู้ที่ทำให้ภาสวรหนีไป จึงสั่งให้ไอศูรย์ออกตามหาภาสวร ต่อมามีโทรเลขส่งมาจากปักษ์ใต้แจ้งว่าภาสวรตายแล้ว ไอศูรย์เดินทางไปรับศพน้องชายที่ปักษ์ใต้
ระหว่างทางได้พบกับ เชิดศักดิ์ ผู้ที่อ้างว่าเป็นเพื่อนของภาสวร เชิดศักดิ์วางยาสลบไอศูรย์แล้วเอาร่างของไอศูรย์ใส่เรือทิ้งไว้กลางทะเล แล้วจมเรือเพื่อให้ดูเหมือนเป็นอุบัติเหตุ ส่วนภาสวรไม่ได้ตายจริงๆ ก็สวมรอยเป็นไอศูรย์แล้วเดินทางกลับ ระหว่างที่ไอศูรย์ตัวปลอมกำลังเดินทางกลับ ติรกาก็แกล้งโชติรสโดยหลอกเด็กในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลงไปเล่นในเรือจนทำให้ เด็กๆ เกือบจมน้ำตาย โชติรสเสียใจมากจึงตัดสินใจกลับบ้านที่สุโขทัย ไอศูรย์ตัวปลอมรู้เข้าก็หาทางเกลี้ยกล่อมให้โชติรสอยู่ต่อ โชติรสตกลงเพราะคิดว่าไอศูรย์เริ่มมีใจให้กับเธอ ฝ่ายติรกากับไอศูรย์ตัวปลอมก็ทวีความใกล้ชิดกันอย่างออกนอกหน้าจนผู้คนซุบ ซิบว่าทั้งคู่จะแต่งงานกัน ข่าวนี้ได้แพร่ไปถึงยศไกรและนำมาเล่าให้โชติรสฟัง
โชติรสจึงต้องเล่าเรื่องคู่หมั้นปลอมให้ยศไกรฟัง ยศไกรดีใจมากและสารภาพรักกับโชติรส ส่วนติรกาก็พยายามหาทางกำจัดโชติรสให้ออกไปจากวังให้ได้ เธอยุไอศูรย์เลิกสถานเลี้ยงเด็ก เมื่อไอศูรย์ตัวปลอมยอมทำตามจึงเกิดทะเลาะกับโชติรสอย่างแรง พอดีกับที่เชิดศักดิ์เข้ามาหาภาสวรติรกาเห็นพิรุธของไอศูรย์ตัวปลอมที่มีต่อ เชิดศักดิ์ จึงแอบฟังและใช้ความลับที่รู้มานี้เป็นข้อต่อรองกับภาสวร เพื่อที่จะได้ครอบครองวังแสงสูรย์ติรกาเริ่มแผนร้าย ด้วยการยุให้ภาสวรกำจัดเชิดศักดิ์ด้วยการวางยาพิษในอาหาร แต่เชิดศักดิ์ไม่ได้กิน ติรกาจึงเปลี่ยนแผนให้ภาสวรไปยิงเชิดศักดิ์แทน เมื่อเชิดศักดิ์รู้ว่ามีคนปองร้ายจึงพยายามหนี แต่ก็ไม่รอดถูกภาสวรยิงจนบาดเจ็บ เชิดศักดิ์หนีไปขอความช่วยเหลือจากโชติรสและเล่าความจริงทั้งหมดให้ฟัง
ชติรสตกใจมากจึงรีบไปปรึกษายศไกร ส่วนติรการู้ว่าเชิดศักดิ์หนีไปได้จึงจ้างวานต่อพงษ์น้องชายตนที่เป็นมือปืน ให้ฆ่าปิดปาก หม่อมศุภางค์เห็นความใกล้ชิดระหว่างติรกาและไอศูรย์ปลอมก็เกิดความไม่พอใจ จึงยื่นคำขาดให้ไอศูรย์ปลอมรีบแต่งงานกับโชติรส โดยขู่ว่าถ้าไอศูรย์ไม่ยอมแต่งจะไม่ยอมยกสิทธิ์อีกครึ่งหนึ่งของวังแสงสูรย์ ให้ คำสั่งนี้สร้างความไม่พอใจให้กับติรกาอย่างมากเธอจึงตัดสินใจกำจัดหม่อมย่า อีกคน โดยสั่งให้ภาสวรวางยาพิษหม่อมศุภางค์ แต่ภาสวรไม่กล้าลงมือเพราะยังมีความรักต่อหม่อมย่าอยู่ ติรกาจึงยอมได้เสียกับภาสวรและเกลี้ยกล่อมจนภาสวรยอมทำตาม ส่วนโชติรสเห็นว่าหม่อมศุภางค์มีอาการซึมเศร้าก็เอะใจเลยเก็บยาส่งไปให้หมอ ตรวจจึงรู้ว่าเป็นยาพิษ
ทางด้านไอศูรย์ปลอมหรือภาสวรเครียดจัดเลยออกไปเที่ยวกินเหล้าจนเมามายทำให้ ขับรถคว่ำ รัตนานงเยาว์ขับรถตามมาพอดีเลยเข้าไปช่วย และพาภาสวรไปรักษาตัวที่บ้านเพราะคิดจะเป็นไอศูรย์ตัวจริง เผื่อในอนาคตเธอจะได้เป็นท่านผู้หญิงเสียเอง แต่ในระหว่างที่ภาสวรอยู่ที่บ้านรัตนานงเยาว์ เขาก็ฝันร้ายเห็นผีหม่อมศุภางค์มาหลอก ทำให้ภาสวรร้องโวยวายจนตกเตียงกระดูกสันหลังหักกลายเป็นอัมพาต หลังจากที่ไอศูรย์ปลอมหายไปติรกาก็ตั้งท้องได้เดือนกว่า ในขณะที่หม่อมศุภางค์ก็แข็งแรงขึ้นและคิดว่าเรื่องวุ่นวายทั้งหมดเป็นเพราะ ติรกา จึงได้ออกปากไล่ติรกาออกจากวัง ติรกาจึงบอกเรื่องที่เธอกำลังจะมีทายาทให้กับสุริยฉัตร หม่อมศุภางค์โกรธมากและบอกจะรับเลี้ยงดูเฉพาะทายาทเท่านั้น
ส่วนติรกาต้องไปอยู่ที่อื่นเพราะว่าตนกำลังจะเดินทางไปสู่ขอโชติรสให้กับ ไอศูรย์ หม่อมศุภางค์ยังพยายามทำดีกับโชติรส โดยการพาชมห้องสีน้ำเงินและพูดถึงการแต่งงานเพื่อแทงใจดำติรกา โชติรสทราบข่าวจากยศไกรว่าพบไอศูรย์ตัวจริงที่ภาคใต้และกำลังจะพากลับมา โดยขอร้องให้โชติรสเก็บเป็นความลับส่วนติรกาพอรู้ว่า ต่อพงษ์ ได้สารภาพความจริงกับตำรวจไปแล้วว่า ได้รับการจ้างวานจากตนให้ฆ่าเชิดศักดิ์ ติรกาเลยสารภาพความจริงต่อทุกคนและตัดสินใจที่จะจบชีวิตของตัวเองไปพร้อมๆ กับวังแสงสูรย์ ไอศูรย์ตัวจริงเดินทางกลับมาถึงพร้อมยศไกร และพบว่าแสงสูรย์จมอยู่ในกองเพลิงเนื่องจากติรกาได้ตัดสินใจเผาแสงสูรย์ให้ มอดไหม้ไปพร้อมกับตัวเธอและโชติรส ไอศูรย์รีบเข้าไปช่วยทั้งคู่ โศกนาฏกรรมครั้งนี้จะลงเอยอย่างไร? ติดตามชมได้ใน ละคร “แสงสูรย์”
ภาณิน นิราภัย วิศวกรหนุ่ม ทายาทบริษัทเรียลเอสเตทชื่อดังไปตรวจงานที่จ.ระยอง และขณะเดินทางกลับ บังเอิญไปเจอขโมยสองคนกำลังทุบรถของเขาเพื่อขโมยของ ภาณินวิ่งไล่จับขโมยมาจนถึงชายหาด และเกิดการต่อสู้จนทำให้ไปโดนปราสาททรายที่ อลิศรา ชุณหกร จิตรกรสาวสวยที่สร้างไว้เป็นแบบพังลงมา อลิศราโวยวาย แต่ก็เข้าช่วยเหลือภาณินที่โดนรุมทำร้ายจนสลบไป เมื่อภาณินฟื้นและได้คุยกัน ทำให้อลิศราเข้าใจว่าเขาเป็นเพียงโฟร์แมนคุมงานก่อสร้างแถวนั้น ส่วนภาณินก็รู้สึกประทับใจในน้ำใจและความคิดที่แข็งแกร่งของอลิศรา เมื่อทั้งคู่กลับมากรุงเทพฯ ระหว่างที่อลิศรารอรถอยู่ที่ป้ายรถเมย์ มีจิ๊กโก๋เข้ามาลวนลาม แต่โชคดีที่ภาณินเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน ภาณินอาสาไปส่งเธอที่บ้าน แต่ด้วยความรีบร้อนทำให้อลิศราลืมโทรศัพท์มือถือไว้กับภาณิน ทั้งสองจึงได้นัดเจอกันอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น ภาณินดีใจมากที่จะได้เจอกับอลิศรา แต่เหมือนถูกโชคชะตากลั่นแกล้ง ภาณินได้รู้ความจริงในวันนั้นว่าอลิศราคือผู้หญิงที่ ภิญโญ นิราภัย น้องชายสุดที่รักของเขาหลงรัก ส่วนอลิศราก็โกรธจัดเพราะรู้สึกว่าตัวเองถูกหลอก เมื่อรู้ความจริงว่าภาณินไม่ใช่โฟร์แมน แต่กลับกลายเป็นลูกชายของ ภุชงค์ นิราภัย เจ้าพ่อธุรกิจเรียลเอสเตทที่มั่งคั่งที่สุด แถมเขายังเป็นพี่ชายแท้ๆ ของภิญโญ เพื่อนสนิทของเธออีกด้วย ภาณินเสียใจมากที่เรื่องราวกลับกลายเป็นแบบนี้ แต่ก็พยามตัดใจเพราะเห็นว่าความสุขของน้องนั้นสำคัญกว่า และเมื่อภิญโญตัดสินใจขออลิศราแต่งงาน แต่กลับถูกปฏิเสธเพราะอลิศราคิดกับภิญโญแค่เพื่อน ภิญโญเสียใจมาก โหมดื่มเหล้าจนไม่เป็นผู้เป็นคน ทำให้ภุชงค์ไม่พอใจและนึกเกลียดอลิศราขึ้นมา ส่วนภาณินก็รับอาสาภิญโญว่าจะไปคุยกับอลิศราให้ แต่เมื่อภาณินไปถึงกลับเห็นอลิศราอยู่กับ นนท์ ช่างภาพหนุ่มมาดเซอร์ที่เพิ่งอกหัก และได้อลิศราเป็นเพื่อนช่วยปลอบใจ นนท์มาหาอลิศราเพื่อบอกลาเรื่องจะไปเรียนต่อ ภาณินเกิดความหึงหวง และเข้าใจผิดคิดว่าที่อลิศราปฏิเสธภิญโญเพราะมีนนท์อยู่อีกคน ภาณินจึงเข้าไปต่อว่าอลิศราว่าเป็นผู้หญิงหลายใจ คบผู้ชายไม่เลือกหน้า ทั้งคู่มีปากเสียงกันอย่างรุนแรงและเกิดได้เสียกันโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ภาณินรู้สึกผิดและเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป จึงขอรับผิดชอบทุกอย่าง แต่อลิศรากลับปฏิเสธและไล่ภาณินออกไปจากชีวิต หลังจากเหตุการณ์นั้นอลิศราก็ตัดสินใจไปเป็นครูอยู่ที่สุพรรณกับ ลินจง เพื่อนสนิท แต่เมื่อผ่านไปสองเดือนอลิศราพบว่าได้ตั้งท้องลูกของภาณิน ส่วนลินจงที่คิดว่าภิญโญคือพ่อของเด็ก จึงไปต่อว่าและบอกให้มารับผิดชอบ ภิญโญบอกว่าเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกของตน แต่ก็พร้อมจะดูแลอลิศราและลูก และในวันนั้นภิญโญก็ตัดสินใจขออลิศราแต่งงาน อลิศราตอบตกลงโดยมีเงื่อนไขว่าเธอจะไม่เข้าไปอยู่ที่บ้านนิราภัยเด็ดขาด เมื่อภุชงค์ทราบเรื่องก็ไม่พอใจ และคัดค้านที่ภิญโญตัดสินใจแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างอ ลิศรา ถึงขั้นตัดพ่อตัดลูก และไล่ภิญโญออกจากบ้าน ส่วนภาณินก็เอาแต่ดื่มเหล้าเพื่อให้ลืมควาด จนได้เจอกับ สิริรัศมี สาวไฮโซที่เห็นผู้ชายเป็นแค่ของเล่น เธอเริ่มด้วยการหว่านเสน่ห์ให้ภาณินต่างๆ นาๆ แต่ภาณินไม่สนใจ ทำให้สิริรัศมีเสียหน้าและตั้งใจเอาชนะภาณินให้ได้ แล้วสิริรัศมีก็เริ่มแผนการพิชิตใจภาณินด้วยวิธีการต่างๆ โดยมีภุชงค์เป็นแนวร่วม เพราะเห็นว่าสิริรัศมีคือผู้หญิงที่เหมาะสมที่สุดที่จะมาเป็นสะใภ้นิราภัย ภิญโญพาอลิศรามาอยู่ที่ชลบุรี และทำงานเป็นพนักงานบัญชีอย่างขยันขันแข็งเพื่อเลี้ยงดูอลิศราและลูก ช่วงใกล้คลอดลินจงมาอยู่เป็นเพื่อนอลิศรา ลินจงคาดคั้นจนอลิศราบอกความจริงว่าพ่อของเด็กคือภาณิน เป็นเวลาเดียวกับที่ภิญโญเข้ามาได้ยินพอดี จึงดื่มเหล้าจนเมา แล้วขับรถกลับกรุงเทพฯ แต่กลับเกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ภุชงค์เข้าใจว่าอลิศราคือสาเหตุที่ทำให้ภิญโญเสียชีวิต จึงยิ่งเกลียดชังอลิศรามากขึ้น ภาณินไปหาอลิศราและแจ้งข่าวการตายของภิญโญ อลิศราช็อคจนเป็นลม ภาณินรีบพาไปส่งโรงพยาบาล แล้วอลิศราก็คลอดลูกชายคือ น้องพีท หรือ ภิญเญศ ลูกของภาณินในคืนนั้น ภุชงค์รู้ข่าวว่าอริศราคลอดลูกก็คิดที่จะเอาหลานมาเลี้ยงและกำจัดอลิศราออก ไปจึงร่วมมือกับสิริรัศมี โดยภุชงค์เสนอเงินให้ 1 ล้านเพื่อแลกกับพีท แต่อลิศราปฏิเสธ ระหว่างนั้นหมอเข้ามาแจ้งว่าหัวใจของน้องพีทมีปัญหาต้องเข้ารับการผ่าตัดโดย ด่วน ซึ่งต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการรักษาจำนวนมาก ภุชงค์จึงได้โอกาสยื่นข้อเสนอว่าจะเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษา และจะเลี้ยงดูพีทเป็นอย่างดี แต่อลิศราต้องออกไปจากชีวิตของพีทอย่างเด็ดขาด อลิศราไม่มีทางเลือก จึงต้องยอมรับข้อเสนอของภุชงค์ พร้อมกับยอมทำสัญญายกพีทให้กับภุชงค์โดยไม่ยอมรับเงินแม้แต่บาทเดียว หลังจากอลิศราจากไป ภุชงค์เอาสัญญาที่ให้อลิศราเขียนมาให้ภาณินดูและใส่ร้ายอลิศราว่าหนีไปเพราะ ต้องการเงินเพื่อไปสร้างครอบครัวกับผู้ชายคนใหม่ ทำให้ภาณินโกรธแค้นอลิศรามาก หลังจากที่พีทผ่าตัดหัวใจเรียบร้อยแล้ว ภาณินพาพีทไปรักษาตัวต่อที่อเมริกา ขณะที่อลิศราก็เข้ามาสมัครงานเป็นครูโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯโดย หวังว่าสักวันอาจจะได้เจอหน้าลูกบ้าง… ห้า ปีผ่านไปขณะที่ภาณินพาพีทไปสมัครเรียน แล้วเกิดพลัดหลงกันจนพีทเกือบโดนรถชน แต่อลิศรามาช่วยพีทไว้ได้ทัน และทำให้รู้ว่าพีทคือลูกของเธอ จึงกอดพีทด้วยความโหยหา ขณะที่พีทก็รู้สึกอบอุ่น เพราะไม่เคยได้รับความรักจากแม่มาก่อน ภาณินมาเห็นเข้าก็ตกใจ รีบพาพีทกลับบ้าน อลิศราจึงได้แต่มองตามด้วยความอาลัย หลังจากวันนั้นอลิศราพยายามขอร้องภาณินเพื่อพบลูกบ้าง แต่ก็โดนปฏิเสธ ส่วนภาณินเมื่อได้เจออลิศราหลายๆ ครั้งจึงทำให้รู้ว่าในใจของเขาไม่เคยลืมเธอได้เลย ประกอบกับการที่พีทเรียนช้ากว่าเด็กปกติ ภาณินจึงต้องหาครูพิเศษมาสอน แต่ทุกคนก็ทนฤทธิ์เดชของพีทไม่ไหว ภาณินหนักใจมาก ในที่สุดจึงต้องไปจ้างอลิศราเพื่อมาสอนหนังสือให้พีท โดยมีข้อแม้ว่าอลิศราจะต้องเข้ามาอยู่ที่นิราภัยและห้ามบอกใครว่าเธอเป็นแม่ ของพีท อลิศราเข้ามาอยู่ที่นิราภัยในนามของครูพัชชา พีทมีความสุขมากขึ้นและเรียนดีขึ้นเรื่อยๆ ส่วนภาณินก็ได้ใกล้ชิดกับอลิศรามากขึ้นจนทำให้ความรู้สึกเก่าๆ เริ่มกลับมาอีกครั้ง ขณะเดียวกับที่ โภไคย ลูกชายของ ศรีนวล แม่บ้านที่เป็นเมียบ่าวของภุชงค์ ที่รู้สึกอิจฉาภาณินมาโดยตลอดก็อาศัยช่วงที่ภุชงค์ไม่อยู่โกงเงินบริษัท ด้านนนท์ทสนิทสนมกับลินจงมากขึ้นเรื่อยๆ จากคู่กัดก็กลายเป็นเพื่อนสนิท แต่วันหนึ่งขณะที่นนท์มาหาลินจงที่ห้อง เกิดได้ยินว่าอลิศราอยู่ที่นิราภัย นนท์โกรธลินจงมากที่โกหกเขามาตลอด จึงไปหาอลิศราที่นิราภัยจนมีเรื่องชกต่อยกับภาณิน จากเหตุการณ์นี้ทำให้โภไคยเริ่มสงสัยเรื่องความสัมพันธ์ของภาณินกับครูพัชชา ส่วนนนท์ก็เกิดไปมีเรื่องและไม่มีเงินจ่ายค่าเสียหาย ลินจงจึงออกให้ก่อน และถือโอกาสเข้ามาควบคุมความประพฤติของนนท์ ทำให้นนท์และลินจงเกิดความรู้สึกดีๆ ต่อกันโดยที่ไม่รู้ตัว ฝ่ายลินจงที่รู้ความรู้สึกของตัวเองดี จึงได้แต่น้อยใจทุกครั้งที่นนท์พร่ำเพ้อถึงอลิศรา สิริรัศมีเริ่มไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆ ที่เห็นภาณินใกล้ชิดกับครูพัชชา จึงจ้างโภไคยให้สืบประวัติครูพัชชา ประกอบกับที่โภไคยก็สงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งคู่อยู่เป็นทุนเดิมจึงยอม ร่วมมือ และโภไคยก็สืบจนรู้ความจริงว่าพัชชาคือ อลิศรา ชุณหกร แม่ของพีท สิริรัศมีจึงรีบโทรบอกภุชงค์ ภุชงค์จึงรีบกลับมาจากต่างประเทศและไล่อลิศราออกจากนิราภัย ภาณินโกรธสิริรัศมีมากที่เข้ามาวุ่นวายเรื่องระหว่างตนและอลิศรา จึงต่อว่าสิริรัศมีอย่างรุนแรง ภาณินพาอลิศราไปอยู่ที่บ้านสวนด้วยกันอย่างมีความสุข สิริรัศมีที่ยังอยากจะเอาชนะภาณินให้ได้จึงร่วมมือกับโภไคยซื้อหุ้นจากผู้ ถือหุ้นนิราภัยจนได้เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ระหว่างที่ปฏิบัติการแผนนี้โภไคยได้รวบหัวรวบหางสิริรัศมีและถ่ายรูปเก็บไว้ ภาณินตั้งใจว่าจะให้อภัยอลิศราและขอเธอแต่งงาน ขณะที่อลิศราก็เตรียมจะบอกความจริงว่าพีทคือลูกของเขา แต่เมื่อภาณินกลับถึงบ้านกลับได้รับข่าวร้ายว่าสิริรัศมีซื้อหุ้นบริษัท เพื่อหวังจะหุบกิจการของนิราภัยหากภาณินไม่ยอมแต่งงานกับเธอ เมื่อได้ฟังข่าวนี้ภุชงค์ถึงกับเครียดจนเข้าโรงพยาบาล พร้อมกับขอร้องให้ภาณินยอมแต่งงานกับสิรรัศมีเพราะทนเห็นสิ่งที่สร้าง มาไปอยู่ในมือคนอื่นไม่ได้ ภาณินจะทำอย่างไรต่อไปเมื่อ วิมาน ที่เขาวาดไว้ไม่เป็นไปอย่างที่คิด เขาจะยอมแต่งงานกับสิริรัศมีโดยทิ้งอลิศรา คนที่อยู่ส่วนลึกในจิตใจเขามาตลอดเพื่อพ่อบังเกิดเกล้าหรือไม่ ติดตามชมได้ในละครเรื่อง วิมานทราย คำตอบสุดท้ายแห่งรักแท้ คือ ให้อภัย ซึ่งเป็นกาวใจชิ้นพิเศษที่ต่อติดหัวใจอันแหลกสลายเหมือนเม็ดทรายที่ปลิว กระจาย ให้กลับมาเป็นวิมานแห่งรักแท้ชั่วนิจนิรันดร์
รายชื่อนักแสดงวิมานทราย
ชาคริต แย้มนาม รับบท ภาณิน
น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ รับบท อลิศรา
นิรุตต์ ศิริจรรยา รับบท ภุชงค์
นิธิชัย ยศอมรสุนทร รับบท โภไคย
พิชญ์นาฏ สาขากร รับบท สิริรัศมี
อชิตะ สิกขมานา รับบท ลินจง
พนมกร ตังทัตสวัสดิ์ รับบท ภิญโญ
ชาญชัย วราวิทยา รับบท นนท์
ด.ช.ณชวนนท์ เหาตะวานิช รับบท ภิญเยศ