Home » » เด็กโต๋

เด็กโต๋



ผู้กำกับ :
นิสา คงศรี
อารียา ชุมสาย

เนื้อเรื่องย่อ: โรงเรียนประจำแห่งหนึ่งทางภาคเหนือของประเทศไทยดูแลเด็กชาวเขาเผ่าต่างๆที่เดินทางมาจากหลายหมู่บ้านมารวมกันที่นี่ คุณครูและนักเรียนช่วยกันสร้างสังคมเล็กๆที่พวกเขาปลูกผัก ทำอาหาร และใช้ชีวิตร่วมกัน เด็กเหล่านี้ล้วนเกิดและเติบโตท่ามกลามภูเขาสูง และเฝ้าสงสัยว่าน้ำจากภูเขาของพวกเขาไหลไปสิ้นสุดที่ไหน เพื่อเป็นรางวัลการจบการศึกษา ครูใหญ่จะพานักเรียนของเขาไปดูทะเลเป็นครั้งแรกในชีวิต การเดินทางอันยาวไกลเพื่อตามหาปลายทางของแม่น้ำยังเป็นการเดินทางของเด็กเหล่านี้ที่กำลังก้าวพ้นความเป้นเด็กไปสู่สภาวะใหม่ของชีวิต

นักแสดง:

ประยูร คำชัย  
เยาวเรศ อุตตะมะติง  
เรียงใจ เลาย้าง  
อำไพ แซ่เฒ่า  
วรุต ว่องอนันต์  

ความยาว: 100 นาที
ระบบถ่ายทำ: DV, สี
วันที่เข้าฉาย: 24 พฤศจิกายน 2548

เด็กโต๋ : กับเส้นทางสายปรารถนาที่ชื่อ มหาสมุทร        

เขียนโดย Obelisk  
อาทิตย์, 13 พฤศจิกายน 2005

...คงมีอีกหลายคนคิดคล้าย ๆ ใกล้ ๆ กันว่า อ๋อ มันก็แค่หนังน้องพ็อพ หนังนางสาวไทยรักเด็กเรื่องหนึ่ง

...แน่นอนค่ะ ฉันเป็นหนึ่งในสมาชิกความคิดนั้น และต้องผลักไสตัวเองให้ออกจากความคิดนั้น ด้วยการไปพิสูจน์ (ว่ายืนใกล้กัน แล้วใครจะดูธรรมดา) ค่ะ เหนือสิ่งอื่นใด นอกจากฉันจะมีจิตใจรักเด็กไม่ยิ่งหย่อนไปกว่านางงามทุกเวทีประกวดแล้ว ฉันชอบที่จะดูหนังสารคดีค่ะ เลือกจะได้ดูหนังประเภทที่มีสารละลายความพิสุทธิ์ของความจริงให้น้อยที่สุด เพราะเนื้อแท้แล้วไซร้ หนังคือความเท็จที่ความเร็ว 24 เฟรมต่อวินาที...สาธุ สาธุ

...14.00 น. พฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน ก่อนจะได้ดูหนัง เราเก็บภาพบรรยากาศหน้าโรงสกาล่ามาฝากค่ะ ได้กลิ่นข้าวหลามเตะจมูกไหมคะ มุมนี้ป๊อป อารียาวางขายผลงานภาพถ่ายเพื่อเป็นกองทุนช่วยเหลือเด็กแม่โต๋ รวมไปถึงผลงานการวาดภาพบนก้อนหินของเด็ก ๆ

...หลายปีก่อนจะมีหนังเรื่องนี้เกิด ป๊อป อารียา ได้พบภาพประทับใจเมื่อเด็กแม่โต๋กลุ่มหนึ่งที่กำลังจะจบการศึกษาชั้นมัธยมตอนต้น จากสะเมิง จ. เชียงใหม่ ได้มีโอกาสเห็นและสัมผัสตัวจริงของทะเลเป็นครั้งแรกในชีวิต เมื่อความซุกซนของเด็กได้ออกมาวิ่งเล่นเกลื่อนเต็มชายหาด อย่างไม่หวั่นเกรงกังวลถึงอนาคตที่น่ากลัวว่า พวกเขาอาจจะมาได้ไกลที่สุดในชีวิตได้แค่นี้ แค่ทะเล และแค่ม. 3

...โรงเรียนแม่โต๋ มีอาคาร 2 อาคาร ก่อสร้างจากน้ำใจของเงินเยนที่ข้ามประเทศเข้ามาช่วยเหลือในฐานะมนุษย์ร่วมโลก ในขณะที่มนุษย์ร่วมประเทศได้แต่เพียงก้มหัวรับฟังเงียบ ๆ มีการเรียนการสอนที่สามารถทำให้สูงสุดได้เพียงชั้นมัธยมตอนต้น ด้วยปัจจัยสำคัญคือความห่างไกลของพื้นที่ ทำให้เด็กที่จะก้าวข้ามภูผาของความลำบากนั้นมาได้ มีจำนวนลดน้อยลง ครูใหญ่และคณะครูจึงได้มีการร่วมมือรวมใจลงแรงปลูกสร้างหอพักชาย–หญิง เพื่อให้สะดวกกับการมาเรียนของเด็กซึ่งประกอบด้วยชนเผ่าต่าง ๆ 4 เผ่า ทั้งม้ง เย้า กะเหรี่ยง และความแตกต่างของชนกลุ่มน้อยก็อยู่ร่วมปรองดอง สังคมเล็ก ๆ นั้นร่วมกัน ไม่เคยต้องมาอรรถาธิบายคำว่า "สมานฉันท์" จากเอ็นไซโคพีเดียเล่มไหน

...ในขณะที่คนทำหนัง "เด็กโต๋" มาจากดินแดนกรุงเทพมหานคร และมาจากฐานะทางสังคมที่ยกย่องไว้ว่า "สูง" ไม่น่าแปลกที่การ "ลง" มาเห็นอีกแบบแผนชีวิต กิจกรรมประจำวัน การใช้ชีวิตของคนชุมชนเหล่านั้น กลับเป็นฝ่าย "ให้" คนทำหนังชะงักงันด้วยเวลาที่เดินช้า แทบจะหยุดนิ่ง การใช้ชีวิตที่ยังคงพึ่งพาวิถีทางธรรมชาติ การฝากชีวิตครอบครัวไว้บนมือที่จับจอบ จับเสียม คลุกโคลน เปื้อนดิน และน้ำใจที่ใส ซื่อ สะอาด และจริงใจ บนป่าเขียวฉ่ำชะอุ่ม ผู้คนที่ยังอาศัยอยู่ร่วมกินดื่มกับเพื่อนรัก เพื่อนสนิทที่ชื่อ "ธรรมชาติ"

...ในขณะที่วงจรชีวิตของผู้คนสะเมิง คือการเกิดมาเพาะปลูกอย่างเดียวเท่านั้น พวกเด็ก ๆ นักเรียนซึ่งเมื่อผ่านพ้นช่วงเวลาสนุกสนานในห้องเรียน ล้วนต้องกลับมารับสภาพตามที่บรรพบุรุษได้ยกมรดกผืนดินให้ สิ่งที่โรงเรียนแม่โต๋มอบให้แก่ลูกศิษย์ในช่วงเวลาที่ยังอยู่ในรั้วการศึกษา จึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ครูพึงจะทำได้ และเชื่อได้ว่าครูทุกคนที่นี่ได้ทุ่มเทด้วยหัวใจรักจริง ๆ ครูใหญ่ผู้เป็นที่เคารพรักของนักเรียนและบรรดาครูในโรงเรียน บอกไว้ว่า "...มันค่อนข้างจะเป็นสิ่งที่ยาก แต่เราจะพยายาม"

...เมื่อการต่อสู้กับผืนดิน หนทางที่ลดเลี้ยวกันดาร หุบเขาที่สูงใหญ่ และความอัตคัดของร่างกายที่ไม่สามารถเสพรสความสุขสบายได้อย่างในโฆษณาโทรทัศน์ ไม่อาจกีดขวางให้การต่อสู้ที่จะใช้ชีวิตของคนตัวเล็ก ๆ ที่นี่สะดุดลงได้ ภาพความเป็นมนุษย์ที่งดงามจึงถ่ายทอดให้เห็น เมื่อทั้งครูและลูกศิษย์ที่เป็นความสัมพันธ์เยี่ยงพ่อ แม่ ลูก คนในครอบครัวเดียวกัน ได้ "ให้" กันและกัน ครูไม่ได้ทำงานตามหน้าที่ครูแค่ตามยูนิฟอร์มที่สวมใส่ และใบหน้าเด็กนักเรียนเหล่านั้นเอง คือแรงที่กลับมา "ให้" ครูได้รู้ว่าความสุขเป็นอย่างไร

...การมอบของรางวัล เป็นการเดินทางไปสัมผัสทะเล เพื่อให้เด็ก ๆ ได้รู้ว่า บ้านเกิดของพวกเขาเป็นแหล่งต้นน้ำ สายน้ำที่เดินทางไหลมาไกลและจับมือรวบรวมกันลงสู่ท้องทะเลนั้น มันผ่านหนทางคดเคี้ยวไกลแค่ไหนถึงจะเดินมาถึงทะเล ถึงมหาสมุทรใหญ่ได้ พวกเขาเล่าเรียนมาอย่างขัดสนลำบากเพียงใด แต่ปลายทางเดินที่พาไปนั้น พวกเขาจะมีมหาสมุทรรออยู่ที่จุดหมาย ให้กระโดด ตีลังกา ตะโกนร้องสุดเสียง และมีความสุข ซึ่งเส้นทางชีวิตก็คงเป็นเช่นนั้น แม้ทะเลจะไม่น่ารักตลอดเวลาก็ตาม

...หนังไม่ได้งดงาม รันทด กินใจ หรือให้มุมมองแปลกใหม่ เพราะสถานการณ์ของผู้คนแห่งแม่โต๋บอกเล่าเรื่องราวของตัวมันเองได้โดยไม่ต้องตะโกนบอกใครผ่านกล้อง

...เพราะการใช้ชีวิตต่างเหงื่อปนน้ำตาของบางคน ไม่ได้จงใจจะให้เกิดอนุสติ สั่งสอนโหยไห้ถวิลหาอดีตกับใครที่มาจากเมืองสวรรค์

...และเพราะเด็กที่ไหน ๆ ในโลก ล้วนบริสุทธิ์สุกใสด้วยวิญญาณ innocence แทบทุกคน

...แต่สิ่งที่ "ป๊อป อารียา" และ "นก นิสา" ได้ "ให้" กับเหล่า "คนที่ไม่มี" บนภูเขานั้น...งดงามมากค่ะ

...และหากคุณอยากงามอย่างมีคุณค่า ด้วยคุณค่าที่คุณคู่ควร ไปช่วยกันดูหนังแล้วหย่อนกำลังใจจากคุณ "ให้" เด็กนักเรียนด้วยค่ะ...19-20 พ.ย. นี้ ที่โรงภาพยนตร์ลิโด้นะคะ

Share this article :

แสดงความคิดเห็น