เนื้อเรื่องย่อ: เรื่องราวของความสัมพันธ์ระหว่างเด็กวัยรุ่นทั้ง 6 คน ต๊ะ ปอ คิ้ม แต นุช และโก้ ซึ่งเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมที่ต่างจังหวัด ปัจจุบันทุกคนแยกย้ายเข้ามาเรียนในกรุงเทพ… มหานครแห่งทางเลือกและอนาคตที่ดีกว่า พวกเขามีโอกาสกลับมาพบกันอีกครั้งในช่วงปิดเทอม ด้วยการกลับมาเยี่ยม “ ครูพนอ ” อดีตครูที่เคยสอนพวกเขาสมัยมัธยมและเป็นแม่เลี้ยงของต๊ะ และเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ในช่วงเวลาค่ำคืนแห่งความน่ากลัวนั้น ความลับในอดีตบางอย่างของเพื่อนทั้ง 6 ที่ไม่เคยปริปากบอกกันก็ค่อยๆ เปิดเผยออกมาพร้อมกับการตายอย่างสุดสยอง เรื่องราวเกี่ยวพันกับครูพนอ ครูสาวเสน่ห์แรงแม่เลี้ยงของต๊ะ เสน่ห์ของเธอแรงจนชายที่อยู่รอบตัวเธอต่างพากันหลงใหลและทำของใส่เธอเพื่อให้เธอหลงเสน่ห์ เมื่อการโดนของเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกจนทำให้เธอเสียสติ เธอเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จะเพี้ยน บ้าเหมือนคนโรคจิต ครูพนอพยายามที่จะเอาของออกจากตัวเธอ โดยได้เดินทางไปหาหมอแขกเพื่อทำพิธีให้ด้วยการกินเนื้อสดๆ ของผู้ที่ทำของใส่เธอ แต่เกิดความผิดพลาดแทนที่ของจะออกจากตัวเธอ มันกลับส่งผลทำให้เธอมีพลังและอำนาจมากขึ้น เธอถลำลึก และกลับกลายเป็นผู้หลงใหลในไสยศาสตร์มนตร์ดำนั้นเสียเอง และในค่ำคืนนี้ครูพนอจะใช้มนตร์ดำกับลูกศิษย์ของเธอ และพาพวกเธอเข้าสู่โลกแห่งการชำระแค้นด้วยไสยศาสตร์

นักแสดง:

ความยาว: 90 นาที
ระบบถ่ายทำ: ฟิล์ม 35 มม., สี
วันที่เข้าฉาย: 1 ธันวาคม 2548

...ชีวิตคนเราเกิดมาก็ต้องเลือกแล้ว แต่เราจะเลือกอย่างไรให้เหมาะสมและถูกจังหวะ ชีวิตมันคือการเลือก ฉะนั้นเราต้องเลือกให้ดี คิดให้ดี เมื่อเลือกแล้วผลที่ตามมาคืออะไร ถ้าเราเลือกทางผิดเพียงครั้งเดียว ผลกระทบไม่ได้เกิดขึ้นกับคน ๆ เดียว มันสามารถส่งผลต่อไปถึงคนอื่นในวงกว้างได้

...เรื่องราวของความสัมพันธ์ระหว่างเด็กวัยรุ่นทั้ง 6 คน ต๊ะ ปอ คิ้ม แต นุช และโก้ ซึ่งเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมที่ต่างจังหวัด ปัจจุบันทุกคนแยกย้ายเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ เมืองแห่งทางเลือกและอนาคตที่ดีกว่า พวกเขามีโอกาสกลับมาพบกันอีกครั้งในช่วงปิดเทอม ด้วยการกลับมาเยี่ยม "ครูพนอ" อดีตครูที่เคยสอนพวกเขาสมัยมัธยมและเป็นแม่เลี้ยงของต๊ะ

...และเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ในช่วงเวลาค่ำคืนแห่งความน่ากลัวนั้น ความลับในอดีตบางอย่างของเพื่อนทั้ง 6 ที่ไม่เคยปริปากบอกกันก็ค่อย ๆ เปิดเผยออกมาพร้อมกับการตายอย่างสุดสยอง

...เรื่องราวเกี่ยวพันกับครูพนอ ครูสาวเสน่ห์แรงแม่เลี้ยงของต๊ะ เสน่ห์ของเธอแรงจนชายที่อยู่รอบตัวเธอต่างพากันหลงใหลและทำของใส่เธอเพื่อให้เธอหลงเสน่ห์ เมื่อการโดนของเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกจนทำให้เธอเสียสติ เธอเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จะเพี้ยน บ้าเหมือนคนโรคจิต ครูพนอพยายามที่จะเอาของออกจากตัวเธอ โดยได้เดินทางไปหาหมอแขกเพื่อทำพิธีให้ด้วยการกินเนื้อสด ๆ ของผู้ที่ทำของใส่เธอ

...แต่เกิดความผิดพลาด แทนที่ของจะออกจากตัวเธอ มันกลับส่งผลทำให้เธอมีพลังและอำนาจมากขึ้น เธอถลำลึก และกลับกลายเป็นผู้หลงใหลในไสยศาสตร์มนตร์ดำนั้นเสียเอง

...และในค่ำคืนนี้ครูพนอจะใช้มนต์ดำกับลูกศิษย์ของเธอ และพาพวกเธอเข้าสู่โลกแห่งการชำระแค้นด้วยไสยศาสตร์

...ภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่ต้องกลัวจนตัวสั่น สยดสยองเกิดกว่าจินตนาการ และมันจะทำให้คุณเข้าใจถึงความหมายของคำว่า "ลองของ"

บันทึกผู้กำกับ (ก้องเกียรติ โขมศิริ - ตัวแทนของโรนินทีม)

...สำหรับแรงบันดาลใจและจุดเริ่มต้นที่เริ่มเขียนเรื่องนี้ ถ้าในแง่ของโครงสร้างเริ่มต้นเลย ผมเคยคิดว่ามันน่าจะมาจากความคิดที่ว่า ท่ามกลางกระแสหนังผี หนังสยองขวัญที่เต็มไปหมด ผมกลับรู้สึกว่ามันมากด้วยปริมาณ แต่รูปแบบของมันซ้ำ ๆ เลยอยากทำหนังสยองขวัญนี่แหละ แต่ทำในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เน้นการบีบคั้นอารมณ์ในแบบที่ไม่กระชาก โฉ่งฉ่าง ไม่เน้นจังหวะสะดุ้ง หรืออาการตกใจ แต่มันจะเป็นอาการสยองที่ค่อย ๆ บีบอารมณ์คุณ เปิดเผยชัดเจน แต่หนักขึ้นเรื่อย ๆ และสุดท้ายมันจะนำพาไปถึงจุดที่ป่วยสุดของความน่ากลัว มันเป็นอีกรูปแบบที่เราคิดว่ามันน่าสนใจครับ

...ส่วนเรื่องประเด็นที่หนัง "ลองของ" พูดนั้น มันเป็นสิ่งที่ติดอยู่ในใจผมมานานแล้ว หนังเรื่องนี้มันพูดเรื่องทางเลือกของคน และคนที่ผมอยากจะพูดเรื่องทางเลือกกับเขามากที่สุด ก็น่าจะเป็นเด็กวัยรุ่น เพราะมันส่งผลชัดสุด เหมือนที่เค้าพูดว่า บางทีรู้ว่าเป็นขี้ ก็อย่าเอาตีนเข้าไปเหยียบ อะไรประมาณนั้น

...ถ้าพอจำกันได้นะครับ ประมาณ 2–3 ปีก่อน ผมอ่านเจอข่าวหนึ่ง เป็นเรื่องเกี่ยวกับแม่ที่คลั่งไสยศาสตร์ คิดว่าตัวเองติดต่อกับพระอินทร์ได้ พอดีมีลูกสาวอยู่ก็ทำการมัดตรึงด้วยสายไฟ แล้วเอาไขควงตอกเจาะที่กลางหน้าผาก ประมาณว่าเป็นการทำให้ตาสว่าง และเป็นการชำระล้าง มารู้ทีหลังว่า ลูกสาวนั้นเป็นลูกที่เกิดจากชายคนหนึ่งที่ทำเสน่ห์ใส่เธอ เป็นเด็กที่เกิดมาจากความไม่ตั้งใจ เธอก็เลยเชื่อว่าเด็กคนนี้สกปรกมาตลอด เลยจัดพิธีทำความสะอาดซะ ผมอ่านข่าวนี้แล้วมันติดใจมาก มันเห็นได้ชัดว่า สุดท้ายแล้วความเชื่อเรื่องอย่างนี้ไม่เคยหายไปจากสังคมไทย แต่เบื้องหลังของมันก็ยังเต็มไปด้วยกิเลส และความป่วยทางอารมณ์ของคนที่นับวันมันจะมากขึ้นทุกวัน ไล่ตามความเจริญของสังคมมาติด ๆ ก้นกันไป

...อีกข่าวหนึ่งที่ผมสนใจก็คือ เดี๋ยวนี้เด็กวัยรุ่นนิยมไปสัก แล้วออกมาท้าประลองความเหนียวกัน หรือไอ้ข่าวความเชื่อเด็กสมัยนี้ที่ถ้าชอบใครก็จะเอารูปมาแปะติดกับรูปตัวเองแล้วเก็บไว้ในกระเป๋าตังค์ ไอ้อะไรพวกนี้มันยิ่งตอกย้ำผมว่า ความคิดเรื่องไสยศาสตร์อยู่ในรากของไทย ผมนำข่าวพวกนี้มาปะติดปะต่อแล้วยำรวมกัน และให้ตัวละครเป็นตัวเลือกว่าจะเข้าไปยุ่งกับมันรึเปล่า ปรากฎว่าตัวละครผมมันเลือก แต่ต้องยอมรับกับผลที่จะเกิดขึ้นนะ

...เกิดจากการรวมตัวของคนทำหนัง 7 คน ที่เคยมีส่วนร่วมในการสร้างภาพยนตร์คุณภาพที่เป็นที่รู้จักกันดีไม่ว่าจะเป็น "บางระจัน", "ขุนแผน" และ "คนเล่นของ"

...โรนินทั้ง 7 ร่วมกันทำงานทุกขั้นตอนการผลิตไม่ว่าจะเป็นเขียนบท, จัดสรรงบประมาณ, คัดเลือกนักแสดง, วางแผนการถ่ายทำ โรนินทีมได้เกิดแนวคิดที่อยากจะทำหนังสักเรื่อง

...แรกเริ่มเดิมที เราอยากทำหนังวัยรุ่นแนวสยองขวัญ แบบสยดสยองสุด ๆ แรง ๆ หนัก ๆ ช่วงวัย ม.6 ที่กำลังจะก้าวเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตช่วงหนึ่ง หากเลือกทางดำเนินชีวิตที่ดีก็ดีไป แต่หากก้าวข้ามไปข้องเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ดีไม่งามเข้าแล้วชีวิตของพวกเขาจะเปลี่ยนไปหรืออาจถึงขั้นชีวิตจะหาไม่ก็ได้ จึงได้ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานชิ้นล่าสุด "ลองของ" ภาพยนตร์แนวไสยศาสตร์ สยองขวัญ เป็นภาพยนตร์ที่คุณจะต้องกลัวจนตัวสั่น

...โรนินทั้ง 7 ได้มีการแบ่งความรับผิดชอบในแต่ละส่วน อันประกอบไปด้วย "ก้องเกียรติ โขมศิริ" คร่ำหวอดอยู่กับงานเขียนบทภาพยนตร์มาหลายเรื่องซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นที่รู้จัก ได้แก่ บางระจัน, ขุนแผน, คนเล่นของ / "อรรถ ธรรมตระกูล" และ "ยศพงษ์ ผลทรัพย์" ทำหน้าที่ร่วมเขียนบทภาพยนตร์และคัดเลือกนักแสดงเรื่องนี้ด้วย / ส่วน "พุฒิพงศ์ สายศรีแก้ว" มีหน้าที่ในการวางแผนการถ่ายทำและคัดเลือกนักแสดง / "อิสรา นาดี" ในฐานะผู้ออกแบบงานสร้าง มีดีกรีทางด้านงานศิลป์จากภาพยนตร์หลายเรื่องด้วยกัน / สำหรับ "เสรี พงศ์นิธิ" ทำหน้าที่ดูแลงานภายหลังการผลิต / "พาสิทธิ์ บูรณะจันทร์" เป็นผู้ดูแลด้านงานสร้างทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้นจนเสร็จสิ้นขบวนการงานสร้าง

เกี่ยวกับงานสร้าง

...ภาพยนตร์เรื่อง "ลองของ" อำนวยการสร้างโดย บริษัท ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น จำกัด ที่เปิดโอกาสให้ผู้กำกับรุ่นใหม่อย่าง "โรนินทีม" ได้สร้างสรรค์งานระดับคุณภาพออกสู่สายตาประชาชน เป็นภาพยนตร์ที่ใช้เวลาในการถ่ายทำไม่นานนักประมาณ 3 เดือน มีโลเกชั่นหลักเพียงแห่งเดียวคือ จังหวัดสมุทรสงคราม

...ในด้านการคัดเลือกนักแสดง ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้เวลาค้นหาผู้ที่เหมาะสมของตัวละครในแต่ละบทนานเอาเรื่องโดยเฉพาะบทของ "ครูพนอ" เป็นบทที่ยากมากและต้องการคนที่มีความกล้ามาก ๆ ที่จะเข้ามารับบทนี้ ในเรื่องนี้ครูพนอเป็นปมของเรื่อง เป็นตัวละครที่มีคาแรกเตอร์ค่อนข้างแรง

"จากบทที่ผมเขียน ผมได้วางคาแรกเตอร์ของครูพนอไว้อย่างชัดเจนว่า ครูพนอเป็นหญิงวัยกลางคน สวยมีเสน่ห์เป็นที่ดึงดูดสายตาของเพศตรงข้าม เป็นคน 2 บุคลิก คือ สุภาพ พูดจาไพเราะ รักความสะอาด แต่อีกด้านหนึ่งเป็นผู้หญิงเก็บกด แรก ๆ บทครูพนอได้ถูกวางไว้หลายคน และ 'มะหมี่ นภคปภา นาคประสิทธิ์' คือ 1 ในนั้น สุดท้ายสรุปให้ มะหมี่เข้ามารับบทนี้ เพราะลงตัวที่สุดในทุก ๆ เหตุผล มะหมี่เป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ในตัวเอง เขาสวย และเซ็กซี่ได้โดยที่ไม่ต้องปลดกระดุมเสื้อเลยสักเม็ด โดยเฉพาะดวงตาของเธอ เวลาที่เธอมองใครเธอสามารถมองลึกเข้าไปข้างใน ผมว่าตาของเธอน่ากลัวมาก นอกจากบทครูพนอที่เราได้มะหมี่เข้ามารับบทนำตรงนี้แล้ว เรายังมีนักแสดงหน้าใหม่ถึง 6 คน เข้ามารับบทวัยรุ่นซึ่งแต่ละคนจะมีคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกันออกไป"

และในฐานะผู้กำกับของ ก้องเกียรติ โขมศิริ พูดถึงการทำงานกับมะหมี่ว่า "เป็นความโชคดีที่เราทั้งเขียนบทและกำกับเองด้วย จึงมีความชัดเจนในคาแร็คเตอร์ของตัวละครแต่ละตัว ครูพนอเป็นบทที่มีคาแร็คเตอร์แรง กลัวว่าคนที่มารับบทนี้แล้ว เขาจะไม่กล้าเดินเข้าไปหามัน แต่มะหมี่กล้าชน เขากล้าเดินเข้าไป เขาเป็นผู้หญิงที่ชอบความท้าทาย ก่อนจะเข้าฉากในแต่ละครั้งเขาจะเตรียมตัวมาอย่างดี ทำการบ้านมาดีมาก เราไม่เหนื่อยเลย การทำงานแต่ละครั้ง มะหมี่จะมีเซอร์ไพรส์ ทำให้เรารู้สึกตื่นตัวมาก ภาพที่เราจินตนาการไว้มันเห็นได้ชัดมากขึ้น เวลาที่มะหมี่แสดง มะหมี่เป็นคนที่ทำงานด้วยแล้วรู้สึกดี เขาเป็นคนฉลาด มีความชัดเจน และเป็นมืออาชีพจริง ๆ"

...มะหมี่ นภคปภา นาคประสิทธิ์ สาวผิวเข้มวัย 24 ปี เธอมีผลงานแสดงด้านต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นงานด้านภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ ละครเวที ด้านงานโฆษณา ถ่ายแบบ เดินแบบทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ แต่เธอกลับได้แจ้งเกิดในผลงานการแสดงภาพยนตร์ไทยเรื่อง "แม่เบี้ย" และยิ่งเป็นที่รู้จักในต่างประเทศมากขึ้น เมื่อเธอได้ร่วมแสดงภาพยนตร์ของต่างประเทศเรื่อง "Butterfly Man" จนได้รับรางวัลดารานำหญิงยอดเยี่ยมจากการประกวดใน "เทศกาลสแลมดังค์ ฟิล์ม เฟสติวัล" ของอเมริกา จากนั้นเธอได้ร่วมงานกับภาพยนตร์ต่างประเทศของแคนาดาเรื่อง "Flirt Bite" รับบทเป็นเงือกสาว และต่อด้วยภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับเพื่อนเรื่อง "Three Friends" ซึ่งได้รับคัดเลือกฉายโชว์ในงาน "เทศกาลโตรอนโต อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์ม เฟสติวัล ปี 2005" ก่อนที่เธอจะเข้ามาร่วมงานในภาพยนตร์ไทยเรื่องนี้

"อ่านบทครั้งแรกเกิดความสนใจทันที เนื้อหาของเรื่องน่ากลัวมาก มันไม่ได้น่ากลัวแบบทั่ว ๆ ไปอย่างที่เราเคยเห็น มันมีความแตกต่างในเรื่องนี้รับบทเป็น ครูพนอ เป็นบทที่ท้าทายมาก ในเรื่องครูพนอเป็นคนที่มี 2 บุคลิก คาแร็คเตอร์แรกจะเป็นครูที่เรียบร้อย สวยและใจดี แต่พอมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นกับตัวเธอ เธอโดนคนทำของใส่ก็จะเปลี่ยนไปเลยเป็นคนละคน จะเพี้ยน และบ้าเหมือนคนโรคจิต เธอจะทำให้คนดูสะดุ้ง เป็นหนังเรื่องแรกที่ต้องใช้พลังอย่างมาก และยากมากตรงที่เราต้องใช้ภาษาเขมร ครูพนอเป็นบทที่แรง ภาพของเราจะเปลี่ยนไป ที่ผ่านมาเคยเห็นว่าสวยเซ็กซี่ ก็จะไม่ใช่แบบเดิม ๆ มันจะเป็นเซ็กซี่อีกแบบหนึ่ง ยอมรับว่าเป็นบทที่วัดความสามารถของเรามาก ๆ ว่าเราจะทำได้ไหมทำได้แค่ไหน คิดว่าในเมืองไทยยังไม่มีหนังไทยเรื่องไหนที่น่ากลัวได้ขนาดนี้ และที่สำคัญเราเองก็เป็นคนชอบลองของด้วย"

...หนังเรื่องนี้ไม่ว่าฉากใด ๆ ก็ตาม มันได้ถูกดีไซน์และจัดวางเป็นอย่างดี ทุกขั้นตอนของชิ้นงานประณีตชวนสยองขวัญ "อิสรา นาดี" คร่ำหวอดอยู่ในงานออกแบบและดีไซน์เคยผ่านงานโฆษณามาก่อนจะเข้าสู่แวดวงภาพยนตร์ เคยมีผลงานด้านภาพยนตร์จนเป็นที่น่าจับตามองไม่ว่าจะเป็นเรื่อง "บางระจัน" และ "ขุนแผน" สำหรับในภาพยนตร์เรื่องนี้ เขาเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบงานโปรดักชั่น ดีไซน์ทั้งหมดได้เล่าถึงการทำงานว่า "ลองของ เป็นหนังสยองขวัญที่เราพิถีพิถันในทุกขั้นทุกตอน ภาพของแต่ละฉาก แต่ละซีนจะถูกสเก็ตช์ออกมาและถูกจัดทำเป็นสตอรี่บอร์ด เพื่อให้ทุกคนในทีมมองภาพไปในทิศทางเดียวกัน ภาพทุกภาพเราดีไซน์ ออกแบบท่าทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นท่านั่ง ท่าเดิน อิริยาบถต่าง ๆ ของตัวละคร ดีไซน์ไปจนถึงวิธีการฆ่าในฉากต่าง ๆ เพราะหนังเรื่องนี้มันมีอาการของโรคจิตแฝงอยู่ ฉะนั้นรูปแบบของวิธีฆ่ามันจะต้องไม่ธรรมดา ต้องมีดีไซน์ มันเป็นการดีไซน์ความสยองให้คนดูได้ขนหัวลุก"

ใครเป็นใครใน "ลองของ"

...นภคปภา นาคประสิทธิ์ (ครูพนอ) - หญิงวัยกลางคน มีอาชีพเป็นครูโรงเรียนมัธยม สวยมีเสน่ห์เป็นที่ดึงดูดสายตาของเพศตรงข้าม เป็นคน 2 บุคลิก คือ สุภาพ พูดจาไพเราะ รักความสะอาด แต่อีกด้านหนึ่งเป็นผู้หญิงเก็บกด

นะโม ทองกำเหนิด (ต๊ะ) - เด็กหนุ่มอายุ 19 ปี เป็นลูกเลี้ยงครูพนอขาดความอบอุ่น เป็นคนค่อนข้างเงียบเก็บตัวและขี้อาย เป็นเด็กมีปัญหา เหตุเพราะพ่อไปมีแม่ใหม่และเกิดความรู้สึกกลัวที่จะต้องถูกแย่งความรักของพ่อไป จึงมักที่จะหาวิธีต่าง ๆ ที่จะให้แม่เลี้ยงออกหาจากพ่อของตัวเอง

( นะโม ทองกำเหนิด หรือ โม อวดหล่อมา 18 ปีแล้ว ขณะนี้เรียนอยู่ชั้น ม.6 วชิราวุธวิทยาลัย ชอบเล่นกีฬา ที่สุดคือ รักบี้ เคยเป็นนักกีฬารักบี้ประจำโรงเรียน แต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุจำต้องหยุดไป เลยเปลี่ยนเป็นว่ายน้ำ และเตะบอลแทน เคยมีผลงานด้านโฆษณาและถ่ายแบบอยู่พอสมควร แต่ที่สร้างชื่อเป็นการถ่ายแบบในนิตยสาร The Boy เป็นคนร่าเริง ชอบธรรมชาติ โดยเฉพาะทะเล เพราะเมื่อมองออกไปทำให้เรารู้สึกกว้าง สบาย และอิสระ ถ้ามีเวลาว่างจะชอบวาดรูปและเป็นคนสะสมภาพวาด นิสัยส่วนตัวจะง่าย ๆ อยู่ง่าย กินง่าย และคุยเก่ง อาหารจานโปรดจะเป็นแกงเขียวหวาน ในชีวิตเกลียดที่สุดคือ แมลงสาบ)

หทัยวรรณ งามสุคนธภูษิต (คิ้ม) - นักศึกษา หน้าตาน่ารัก อายุ 19 ปี เป็นลูกครึ่งไทย-จีน ครอบครัวมีฐานะค่อนข้างดี เป็นคนมองโลกในแง่ดี มีความมั่นใจในตัวเองสูง มีความตั้งใจ มีความมุ่งมั่น ชอบเอาชนะ ถ้าอยากได้อะไรแล้วต้องได้

(สาวหน้าหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้าคนนี้ เธอมีนามว่า หทัยวรรณ งามสุคนธภูษิต หรือ น้องผึ้ง ลืมตามาสวยได้ 16 ปี ขณะนี้เรียนอยู่ชั้น ม.5 ที่โรงเรียนบดินทร์เดชา (สิงห์ สิงหเสนี ) อนาคตข้างหน้าตั้งใจว่าจะเข้าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้ได้ เริ่มอวดโฉมกับผลงานชิ้นแรกในงานโฆษณาการ์นิเย่ ต่อด้วย ฟิชโช่ และอีกมากมายก่ายกองชนิดนับไม่ถ้วน เธอมากด้วยความสามารถทั้งรำไทย เล่นไวโอลิน และร้องเพลง เธอเป็นสมาชิกหนึ่งในห้าของ Buzz Music ออกอัลบั้มชุดแรกในชีวิต ชื่อชุด Buzz Music นิสัยใจคอเป็นคนร่าเริง สนุกสนาน แอบซนเล็ก ๆ ดื้อหน่อย ๆ ที่ชอบมากคือการได้ทานขนมอร่อย ๆ ศิลปินโปรดปรานที่สุดคือ วงบอดี้แสลม เป็นคนชอบสะสมหนังสือ และตั๋วหนัง สิ่งที่กลัวที่สุดคิดว่าเป็นตุ๊กแก

อัครินทร์ ศิวพรพิทักษ์ (ปอ) - เป็นผู้ชายผิวขาว รูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาดี อายุ 19 ปี เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับ ต๊ะ เป็นคนร่าเริง อัธยาศัยดี คุยสนุก ท่าทางคล่องแคล่ว มีความเป็นผู้นำอยู่ในตัว

(อัครินทร์ ศิวพรพิทักษ์ หรือ ฟาน หนุ่มวัย 21 ปี ศึกษาอยู่ ชั้นปีที่ 4 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีผลงานชิ้นแรกและสร้างชื่อให้กับเขาเป็นละครโทรทัศน์เรื่อง "กลิ้งไว้ก่อนพ่อสอนไว้" ตามด้วยเรื่อง "รักล้นซอย" เป็นคนเงียบ ๆ เรียบ ๆ ง่าย ๆ เป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่บางทีก็ดูไม่ธรรมดา กีฬาสุดโปรดคือ ฮ็อกกี้ และ แบดมินตัน อาหารทานได้ทุกอย่าง ทุกชนิด ที่เที่ยวจะเป็นที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่กรุงเทพฯ แต่สิ่งที่ทำแล้วรู้สึกดีที่สุด คือการได้ทำตามใจตัวเอง)

...กรกช วรมุกสิก (แต) - เป็นนักศึกษามีลักษณะเป็นทอมบอย รูปร่างสมส่วน ท่าทางทะมัดทะแมง เป็นคนพูดจาโผงผาง นิสัยห้าว ๆ รักเพื่อน สนิทกับนุชมากที่สุด และมักจะชอบแสดงตนว่าเป็นคนเข้มแข็งไม่กลัวอะไร เหมือนกับว่าตนเองจะดูแลและปกป้องนุชได้ แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนแอมาก และขี้กลัวอย่างที่สุด

(น้องฝน หรือ กรกช วรมุสิก สาวแก่นเซี้ยว ดูเปรี้ยวนิด ๆ คนนี้ เธอมีบุคลิกที่โดดเด่น และไม่เหมือนใคร อายุ 21 ปี ตอนนี้ศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยศิลปากร ชั้นปีที่ 3 คณะมัณฑนศิลป์ สาขาออกแบบเครื่องประดับ เธอเริ่มฉายแววกับผลงานชิ้นแรก MV ของ อุ๊&แอม แต่ที่สร้างชื่อให้เธอจะเป็น MVเพลงปลายทาง ของ บอดี้แสลม จากนั้นก็ตามด้วยงานโฆษณาอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นของ True แป้งเด็ก เคยไว้ผมยาวจนได้โฆษณาแพนทีน แต่ที่ตัดผมสั้นเพราะอยากเปลี่ยนตัวเองดูบ้าง เป็นคนสนุก ร่าเริง ยิ้มง่าย และชอบเสียงหัวเราะพอ ๆ กับการวาดรูป อาหารจานโปรดคือ ผัดหน่อไม้ฝรั่งหมูสับ สัตว์เลี้ยงที่รักมากชื่อ "เจ้ากัส" เหมียวน้อยที่บ้าน สิ่งที่กลัวที่สุดคือ กลัวไม่มีใครรัก...จัง)

ชนิดา สุริยะกำพล (นุช) - เด็กสาวอายุ 18 ปี เป็นนักศึกษาหน้าตาดี รูปร่างค่อนข้างอวบ แต่งตัวเก่ง เปรี้ยว ทันสมัยตามแฟชั่นตลอด เป็นคนใช้จ่ายฟุ่มเฟือยและมักจะได้เงินมาด้วยการขายบริการ เป็นคนที่มีนิสัยขี้กลัวและอ่อนแอ

(น้องตอง ชนิดา สุริยะกำพล สาวสวยคมขำ นัยน์ตาแขก วัย 17 ปี คนนี้ เธอมีดีกรีความเปรี้ยวไม่น้อย เพราะเคยมีแมวมองทาบทามให้ถ่ายชุดว่ายน้ำ แต่ช่วงนั้นยังไม่ค่อยมั่นใจตัวเองเท่าไหร่ เลยขอเบรกไว้ก่อน ขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.6 โรงเรียนหอวัง แจ้งเกิดในวงการบันเทิงจากการถ่ายแบบในนิตยสาร Cheeze ตามด้วยงานโฆษณา และ MV เป็นคนร่าเริง เฮฮา ขำ ๆ มองโลกในแง่ดี ชอบทะเล งานอดิเรกเล่นเกมคอมพิวเตอร์ อาหารจานโปรดคือ ส้มตำทุกรูปแบบ และอาหารญี่ปุ่น ของสะสมมักจะเป็นรูปถ่ายของตัวเอง อนาคตเรียนให้จบอย่างน้อยปริญญาโท ความใฝ่ฝันอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นเพราะหลงใหลมาก เกลียดที่สุดคือคนหลอกลวง และกลัวที่สุดคือผู้ชายเจ้าชู้)

ปวริศร์ วงศ์พานิช (โก้) - ชายร่างกำยำ ผิวขาว อายุ 21 ปี เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย เป็นคนพูดมาก เก่งแต่ปาก เอะอะโวยวาย ทะลึ่งตึงตัง ไม่ค่อยจะจริงจังกับชีวิตมากนัก สนุกไปวัน ๆ เป็นคนเฮฮาจนบางครั้งเข้าขั้นกวนประสาท

(หนุ่มหน้าทะเล้นวัย 18 ปี คนนี้มีชื่อเล่น ๆ ว่า ลีโอ หรือ ปวริศร์ วงศ์พานิช ปัจจุบันศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เป็นคนสนุก กวนนิด ๆ ทะลึ่งหน่อย ๆ แต่ไม่หยาบคาย แค่อยากให้เพื่อน ๆ ปวดหัวเล่น ชอบท่องเที่ยวไปในที่ต่าง ๆ พร้อมกับถ่ายรูปไปด้วยเพื่อเป็นการฝึกฝีมือไปในคราวเดียวกัน อนาคตอยากทำงานด้านโฆษณา โต ซิลลี่ฟูล เป็นนักร้องในดวงใจ แต่ถ้าอาหารจานโปรดจะเป็นไส้กรอกอีสาน เกลียดที่สุดคือ จิ้งจก แต่ที่กลัวจะกลัวคนไม่จริงใจ...ครับผม)