Home » » บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม 2

บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม 2



กำหนดฉาย : 15 กุมภาพันธ์ 2550

ทีมงานสร้าง : แอ็คชั่น-คอเมดี้ (แนวภาพยนตร์) / สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล (บริษัทผู้สร้างและจัดจำหน่าย) / สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ (อำนวยการสร้าง) / ปรัชญา ปิ่นแก้ว, สุกัญญา วงศ์สถาปัตย์ (ควบคุมงานสร้าง), เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา (ผู้กำกับภาพยนตร์) / ภาคภูมิ วงศ์จินดา, เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา (บทภาพยนตร์) / จิรเดช สำเนียงเสนาะ (ผู้กำกับภาพ) / ดุสิต ญาปกะวงศ์ (ออกแบบงานสร้าง) / สุดเขต ล้วนเจริญ (กำกับศิลป์) / น้ำผึ้ง โมจนกุล (ออกแบบเครื่องแต่งกาย) / ปริญญา ปานตั้น (แต่งหน้า) / เชิดศักดิ์ ชมงาม (ทำผม)

นำแสดงโดย : เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา, เจเนท เขียว, แจ็คเกอลิน อภิธนานนท์, สุรชัย สมบัติเจริญ, ติ๊ก ชีโร่, สายสิน วงษ์คำเหลา

เขากลับมาแล้ว !!!

กับปฐมบทแห่งเสียงหัวเราะและแอ็คชั่นอลังการถล่มเมือง

ผู้คุ้มกันอันดับหนึ่งที่ทุกคนรอคอย

บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม 2

กับภารกิจใหม่ล่าสุด

"จับปืนเฉียดตาย จับไมค์ร้องเพลง"

ภารกิจนี้เพื่อชาติและแฟนเพลง

เกร็ดภาพยนตร์ "บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม ภาค 2"

...ซูเปอร์แมนยังมีรีเทิร์นส แบทแมนยังมีบีกิน แล้วหน้าเหลี่ยม ๆ อย่างนี้จะไม่มีจุดเริ่มต้นได้อย่างไร เพราะนี่คือสุดยอดของบอดี้การ์ดที่อยู่เหนือบอดี้การ์ด สุดยอดคนไม่ธรรดาที่ทำทุกอย่างได้เพื่อชาติ แม้ว่าจะต้องพลีร่างแก้ผ้าวิ่งจับผู้ร้ายหรือเต้นอะโกโก้ในบาร์เกย์เพื่อสืบความลับ

...เรากำลังพูดถึง "วงศ์คม" บอดี้การ์ดหน้ามุมตั้งฉากคนเดิมที่โด่งดังมากจากภาคแรก แต่ครั้งนี้จะได้รู้จักกับชาติกำเนิดความเก่งกาจของวงศ์คมอีกครั้งในฐานะ "คำเหลา" เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษสำนักงานสืบสวนเฉพาะกิจแห่งสาธารณรัฐเวียง จุดเริ่มต้นที่แท้จริงก่อนที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าเป็นวงศ์คมบอดี้การ์ดสุดเจ๋ง!! โด่งดังคับฟ้าเมื่อปี 2547 ด้วยทุนสร้างกว่า 50 ล้านบาท แฟนหนังก็ได้ตื่นตาตื่นใจไปกับฉากบู๊ล้างผลาญไล่ล่ากันทั่วเมืองกรุงเทพกับภารกิจกู้หน้าคืนมา ด้วยภารกิจอารักขาตระกูลอภิอัครมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งแห่งเอเชีย แถมยังสร้างความฮือฮาให้กับวงการภาพยนตร์ไทยด้วยฉากแก้ผ้าวิ่งรอบอนุสาวรีย์ชัยฯ พร้อมทั้งเกณฑ์เหล่านักแสดงรับเชิญมาเป็นกระบุงร่วมเซอร์ไพส์แบบล้นจอ ทำรายได้ทะลุเป้าไปกว่า 80 ล้านบาท บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยมจึงกลายเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่น-คอเมดี้ที่ทุกคนรอคอยมากที่สุดอยู่ในขณะนี้

...และในปีนี้ บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม 2 ก็พร้อมออกสู่ตลาดภาพยนตร์อีกครั้ง ด้วยฝีมือการกำกับ เขียนบท และแสดงนำในภาพยนตร์แอ็คชั่น–คอเมดี้ของ เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา (หม่ำ จ๊กมก) หลังจากที่สร้างผลงานมาแล้วใน บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม ภาคแรก เมื่อปี 47 และ แหยมยโสธร เมื่อปี 2548 ซึ่งทั้งสองเรื่องกวาดรายได้เกือบ 200 ล้านบาท และเพื่อให้สมกับที่รอคอย ผู้กำกับร้อยล้านขนอาวุธยุทโธปกรณ์ ทั้งรถถัง, บิ๊กฟุต, แฮมเมอร์, มอเตอร์ไซค์, รถสปอร์ต, รถมินิ, เรือเฟอร์รี่, ทีมงานสตั๊นท์เสี่ยงตาย, จรวดอาร์พีจี, ตำรวจระดับซีไอเอ, หน่วยสวาท ฯลฯ ฉากอันตรายหวาดเสียวอีกนับไม่ถ้วนพร้อมมาถล่มเมืองกราดกระสุนปืนให้ว่อนไปทั่วเมือง กวาดเหล่าร้ายอาชญากรข้ามชาติที่หมายยึดประเทศบ้านเกิด กับโปรดักชั่นยิ่งใหญ่กว่าเดิม ตื่นเต้นกว่าเดิม เฉียดตาย ด้วยทุนสร้างอลังการมากกว่า 90 ล้านบาท

...พลาดไม่ได้กับมุขตลกที่เกลื่อนกระจายตลอดทั้งเรื่องในแบบฉบับ "หม่ำ จ๊กมก" อย่างฉากที่เอ็กซ์สุด ๆ ฉากเต้นอะโกโก้ในบาร์เกย์ที่ผู้กำกับลงทุน "โป๊" โชว์ซิกแพ็คเต้นสุดเซ็กซี่ยั่วหนุ่มแก่แม่ม่ายให้น้ำลายหกเล่น ฉากโชว์แก้มก้นของหนุ่มนิรนาม (ไม่อาจเอ่ยชื่อได้) บนยอดตึกกลางใจเมืองกรุงเทพฯ ฉากเซอร์ไพรส์ ๆ จากเหล่านักแสดงรับเชิญที่จะเข้ามาร่วมแจมแจกมุขตลกกันแบบเต็ม ๆ มันส์ไปกับฉากแอ็คชั่นที่จา พนม, เฉินหลง, ฮอลลีวู้ด ยังต้องอายม้วนยกแก๊งหลบไปฝึกซ้อมมากันใหม่ แถมขาแดนซ์ เท้าไฟทั้งหลายยังจะได้เขย่าขยับ โยกย้ายเส้นเอ็นไปกับเพลงจังหวะชวนกระตุกขาแนวลาตินกลิ่นซานตาน่า (วงดนตรีชื่อดังจากต่างประเทศที่ยังครองใจคนทั่วโลกมาจนถึงปัจจุบัน) ในเพลง "หน้าด้านหน้าทน", "โธ่เอ๋ยเมียเรา" ที่ผู้กำกับซุ่มฝึกร้องเพลงเอาไว้เป็นของขวัญวันปีใหม่จีนให้กับทุกคนในปีนี้

...แล้วบอดี้การ์ดผู้นี้จะถูกจารึกขึ้นแท่นสักการะของบรรดาบอดี้การ์ดไทยทั่วประเทศ บรรดาอัครมหาเศรษฐีต้องดีดดิ้นทุรนทุรายเพื่อช่วงชิงเขามาเป็นผู้คุ้มกันให้ แม้ว่าจะต้องเสียเงินก้อนใหญ่แค่ไหนก็ตาม เหล่าร้ายจะขยาดเมื่อชื่อนี้ถูกเอ่ยขึ้น "คำเหลา" จะทำให้จารชนต้องขนลุกเกรียวหนีหัวซุกหัวซุน วันนี้คำเหลาบรรจุกระสุนเต็มแม็ค แพ็คปืนขึ้นบ่า พร้อมแล้วกับภารกิจเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่และคาดไม่ถึงของเค้าใน "บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม 2"

เรื่องย่อ :

...คำเหลา (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) เจ้าหน้าที่ (มือดีอันดับต้น ๆ แต่ชอบทำเรื่องซวยให้เจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่หนักใจ) ของหน่วยสืบสวนพิเศษสำนักงานสืบสวนเฉพาะกิจแห่งสาธารณรัฐชาติเวียง ได้ถูกส่งตัวไปยังประเทศไทยหลังจากที่ทางหน่วยงานได้ข้อมูลลับมาว่า มีผู้ก่อการร้ายรายใหญ่ สุชิน (สุชิน ควรสงวน "ชินโฟร์เอส") และสุรชัย (สุรชัย สมบัติเจริญ) ที่มุ่งทำลายสาธารณรัฐชาติเวียงแฝงตัวอยู่ในประเทศไทย โดยได้เปิดธุรกิจค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ ภายใต้แบรนด์ G״RSM GRAMMA บังหน้า

...ทางหน่วย (รัฐเวียง) จึงได้ส่งคำเหลา เข้าไปปฏิบัติการต่อต้านผู้ไม่ประสงค์ดีรายนี้ คำเหลาเลยจำเป็นต้องงัดกลยุทธทั้งหมดโกหก เขียว (เจเนท เขียว) ภรรยาของตัวเองว่าต้องไปทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพฯ โดยที่ไม่เคยปริปากบอกแม้แต่นิดเดียวว่า ตัวเองทำงานมีเกียรติขนาดไหน เขียวได้แต่สงสัย

...คำเหลาแฝงตัวเข้าไปเป็นนักร้องในบริษัทค่ายเทป GRSM ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ระดับประเทศที่กลุ่มผู้ก่อการร้ายตั้งขึ้นเพื่อใช้บังหน้า โดยคำเหลามาสมัครเป็นนักร้องโดยใช้ชื่อว่า "มัมมี่ เหลา" จนกลายเป็นที่โด่งดังระดับซูเปอร์สตาร์ขวัญใจประเทศเพียงชั่วข้ามคืน จนสามารถทำยอดทะลุเป้าไปได้มากกว่า 100 ล้านแผ่น และในขณะที่มัมมี่เหลาโด่งดังขึ้นก็ได้พบกับ พอลล่า (แจ็คเกอลิน อภิธนานนท์) นักสืบสาวจากหน่วยงานต่างประเทศที่แฝงตัวเข้ามาเป็นเลขาของ สุชิน และ เฮียสุรชัย ซึ่งเข้ามาปฏิบัติการอยู่ก่อนแล้วโดยที่คำเหลาไม่รู้ตัวมาก่อน

...คำเหลาและพอลล่า ทั้งสองคนต้องร่วมมือกันเพื่อจัดการกับผู้ก่อการร้ายกลุ่มนี้ให้ได้ ก่อนที่จะเกิดการปฏิบัติการระเบิดถล่มเมืองขึ้น ภารกิจเพื่อประเทศและแฟนเพลงจึงเต็มไปด้วยความโกลาหล ปฎิบัติการสาดกระสุนกระหน่ำ สาดมุขกระจายของคำเหลากำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว

คาแร็คเตอร์

"คำเหลา" (ชื่อสามัญประจำบ้าน) แห่งหน่วยสายสืบรัฐเวียง สามีที่ไม่เอาไหนในสายตาภรรยา แต่เป็นสายสืบมือดีแห่งรัฐบาลเวียง

"มัมมี่ เหลา" (ชื่อในวงการ) นักร้องชื่อดังคับฟ้าแห่งสยามประเทศ

คำเหลา และ มัมมี่เหลา รับบทโดย เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา

...คำเหลา สายสืบราชการลับมือดีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเวียง (เวียงเป็นประเทศเล็กตั้งอยู่ริมชายแดนไทย เป็นประเทศที่มีทรัพยากรสมบูรณ์และชัยภูมิที่ตั้งดีทำให้เป็นที่หมายปองของหลาย ๆ ประเทศ)

...คำเหลา ชายหนุ่มที่นับว่าหล่อเอาการของชาวเมืองเวียง รูปร่างเล็กสันทัดได้สัดส่วน เข้มแข็ง หน้าตามีมุมตั้งฉากเยอะกว่าคนปรกติ ในวัยเด็กมีความใฝ่ฝันที่จะเป็นสายลับอันดับหนึ่งของโลกเหมือนพ่อของเขา และด้วยความฉลาดของคำเหลา ทำให้ทางรัฐบาลเวียงออกทุนให้ไปเรียนทางด้านสายลับมาจากรัสเซีย (KGB) คำเหลาเป็นคนจริงจังกับการงานเห็นแก่ประเทศชาติเป็นหลัก จนบางครั้งดูเป็นคนมุทะลุ ดุดัน จริงจัง เคยเกือบตายมาแล้วหลายครั้งแต่ก็สามารถปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ ได้สำเร็จมาโดยตลอด แม้ว่าคำเหลาจะสร้างความเสียหายให้กับทุกประเทศที่เข้าไปปฏิบัติการแต่ก็ยังได้รับคำชมจากหน่วยงานไม่น้อย

...คำเหลามีภรรยา 1 คนชื่อ เขียว คำเหลาเป็นคนรักและกลัวภรรยาแต่ไม่เคยบอกภรรยาว่าตนเองทำงานเกี่ยวกับอะไร คอยแต่โกหกไปต่าง ๆ นานาและไม่ค่อยได้แสดงออกให้เห็นว่าเค้ารักภรรยาเขามากแค่ไหน จนบางครั้งทำให้ภรรยาเข้าใจผิดคิดว่าสามีตัวเองชอบไปมีผู้หญิงอื่นเวลาไปทำงานนอกบ้าน แต่คำเหลาก็ไม่เคยย่อท้อต่อหน้าที่การงานและมุ่งมั่นที่จะทำต่อไป

ผลงานที่ผ่านมา

- พิธีกรรายการ "ชัยบดินทร์โชว์", "หม่ำโชว์"- พิธีกรร่วมรายการ , "ชิงร้อยชิงล้าน" (พิธีกรร่วม)

- แสดงภาพยนตร์เรื่อง 2โทน, กวนโอ๊ย, บ้านผีปอบ, มือปืน/โลก/พระ/จัน, องค์บาก, ต้มยำกุ้ง, เฉิ่ม, วาไรตี้ผีฉลุย และนักแสดงรับเชิญในอีกหลายเรื่อง

- กำกับภาพยนตร์เรื่อง "บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม" (2547)

- กำกับภาพยนตร์เรื่อง "แหยม ยโสธร" (2548)

- กำกับภาพยนตร์เรื่อง "บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม 2" (2550)

- โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์เรื่อง "ว้อ" (2550)

- ผู้บริหารบริษัท "บั้งไฟฟิล์ม" (บริษัทผลิตภาพยนตร์)

- ผู้บริหารบริษัท "บั้งไฟสตูดิโอ" (บริษัทผลิตรายการทีวี)

- ผู้บริหารบริษัท "ลำน้ำชี" (ค่ายเพลง)

"เขียว" รับบทโดย เจเนท เขียว

...เขียว หญิงสาวอายุประมาณ 35 ปี รูปร่างดี ผอมสูง ผิวสีแทน สวยจนสามารถส่งเข้าประกวดได้ นัยน์ตาดุเฉี่ยว เห็นปากเผยอเหมือนนางแบบแต่จริง ๆ ด่าได้ไม่มีเมื่อย ชอบใส่เสื้อผ้าตัดกับสีผิวแต่เข้ากับสีตาและปาก (โดยเฉพาะปาก เป็นเสน่ห์อย่างนึงเวลาพูดหรือด่าเพื่อให้คน ๆ นั้นยอมจำนนได้) เป็นพิเศษ เป็นคนรักสวยรักงาม ในอดีตเป็นนางงามประจำหมู่บ้าน เป็นตัวแทนของประเทศเวียงไปประกวดนางงามตามที่ต่าง ๆ หลังจากที่เขียวประกวดได้ตำแหน่งมามากมาย ก็ได้มาพบกับคำเหลาจึงได้แต่งงานกัน ด้วยความที่เป็นคนรักสวยรักงาม เป็นคนช่างพูด ช่างเจรจา เขียวจึงได้เปิดร้านเสริมสวย มีลูกค้ามากมายทั้งหญิงสาว หญิงหม้าย หญิงแก่ ในหมู่บ้านก็มักจะมาใช้บริการเขียวอยู่เป็นประจำ

...สิ่งที่เขียวภูมิใจก็คือ ความสวยของตัวเองและสิ่งที่เขียวไม่เคยภูมิใจเลยก็คือคำเหลา สามีของตนเองเพราะเขียวไม่เคยรับรู้ว่าสามีของตัวเองทำงานอะไร รู้แต่ว่าไปทำงานรับจ้างทั่วไปแล้วแต่ใครจะจ้าง เขียวมักจะดุด่าคำเหลาเป็นประจำและถือคติประจำใจว่า "ผัวข้าใครอย่าแตะ"

“พอลล่า” รับบทโดย แจ็คเกอลิน อภิธนานนท์

...พอลล่า สาวลูกครึ่ง เจ้าหน้าที่หน่วยสืบสวนพิเศษ CIA ที่ทางหน่วยได้ส่งมาเพื่อสืบสวนหาเบื้องหลังการทำธุรกิจของชินและสุรชัย พอลล่าได้แทรกซึมมาสมัครงานในตำแหน่งเลขาของชินและสุรชัย และได้รับความไว้วางใจจากทั้งสองให้เป็นเลขาที่คอยติดตามและดูแลงานให้พอลล่าได้ทำงานอยู่ที่บริษัท GRSM อยู่ระยะหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะล้วงความลับของชินและสุรชัยออกมาได้ จนกระทั่งได้เจอกับคำเหลา

ประวัติ แจ็คกี้-แจ็คเกอลิน อภิธนานนท์ นักธุรกิจสาวลูกครึ่งไทย- แคนนาดา

- จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากเมืองไทย

- เรียนต่อระดับไฮสคูลที่แคนนาดาจนถึงเกรด 12

- จบปริญญาตรี จาก Santa Cruz University สาขา Environmental Psychology (จิตวิทยาสิ่งแวดล้อม) จาก California USA

- ทำร้านอาหารที่ Sydney (ซิดนี่ย์) ประเทศ Australia (ออสเตรเลีย) อยู่ 2 ปีกว่า

- เป็น MD ให้กับ MTV 2 ปีกว่า

- เปิดบริษัทร่วมทุนกับเพื่อน ๆ เป็นบริษัทไฟแนนซ์ชื่อ Hindex ที่ประเทศอังกฤษ

- นักแสดงนำเรื่อง บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม 2, สวยซามูไร, ปืนใหญ่จอมสลัด

“เฮียสุชิน” รับบทโดย สุชิน ควรสงวน (ชิน โฟร์เอส)

...เพศชาย อายุประมาณ 40-45 ปี รูปร่างสูงใหญ่บึกบึน ดูดุดันเข็มแข็ง เป็นคนพูดจาโผงผาง ไม่เกรงกลัวใคร เป็นผู้นำในการรบเพื่อยึดครองและทำลายล้างประเทศต่าง ๆ ตามที่ตนเองต้องการ โดยมีคู่หูรบเคียงบ่าเคียงไหล่อีกคนคือ สุรชัย สุชินเป็นคนที่พูดจาไม่เกรงใจใคร ไม่ไว้หน้าใคร แต่พอเอาเข้าจริง กลับให้สุรชัยหุ้นส่วนเป็นคนจัดการ

“เฮียสุรชัย” รับบทโดย สุรชัย สมบัติเจริญ

...สุรชัยเป็นคนผิวพรรณดี ดูภูมิฐาน ดูสุขุมรอบคอบ เป็นจอมวางแผน ไม่ค่อยพูดจา นิ่งเงียบเหมือนคนใช้ความคิดอยู่ตลอดเวลา

...อดีตนายพลกองกำลังแบ่งแยกดินแดนแห่งชาติเวียงทั้ง 2 คน ดำเนินธุรกิจผิดกฎหมายต่าง ๆ มากมาย มีความต้องการที่จะยืดสาธารณรัฐแห่งชาติเวียงมายึดครอง เป็นผู้ก่อการร้ายที่หลาย ๆ ประเทศต้องการตัว สุชินและสุรชัยได้แฝงตัวเข้ามาในประเทศไทยเมื่อหลายปีก่อนเพื่อสะสมกองกำลังและอาวุธเพื่อเตรียมการที่จะไปก่อการร้ายที่ประเทศเวียง โดยเข้ามาแฝงตัวในคราบนักธุรกิจเปิดค่ายเทปของตัวเองขึ้นเพื่อบังหน้าธุรกิจผิดกฎหมายอื่น ๆ

Share this article :

แสดงความคิดเห็น