Home » » แฟนเก่า

แฟนเก่า



แน่ใจหรือ? คนที่คุณ “เลิก” เขาจะ “เลิก” กับคุณ?

เมื่อความสัมพันธ์จบลง แต่…”แฟนเก่า” ไม่ยอมเลิกรา ยังหลอกหลอน ตามทวงสัญญารักครั้งก่อน

ลองทบทวนให้ดีว่า…คนที่คุณบอกเลิก เค้ายอมเลิกกับคุณมั้ย?

ถ้าคำตอบคือไม่…ระวัง!! “แฟนเก่า” ของคุณเอาไว้ให้ดี

“แฟนเก่า” หนังขวัญผวาโชยกลิ่นความรักโรแมนติก พร้อมย้ำเตือนคนเจ้าชู้ ให้พึงระวัง!!!

เรื่องย่อ

“แฟนเก่า” เรื่องราวความรักที่ทำให้คนเจ้าชู้ขวัญผวา

ระวัง!! สัญญาปากพร่อย จะทำให้ไม่ตายดี

“เคน” (ชาคริต แย้มนาม) พระเอกหนุ่มสุดฮ็อต เป็นที่ใฝ่ฝันของสาวๆ ด้วยความที่เป็นหนุ่มหล่อเลือกได้ เรื่องราวชีวิตรัก การเปลี่ยนคู่ควงของเขาจึงตกเป็นข่าว Gossip ในสื่อบันเทิงบ่อยครั้ง รวมไปถึงครั้งที่เคนคบหากับ “มีน” (ออม-นวดี โมกขะเวส) ไฮโซสาว และ “โบ” (โบวี่-อัฐมา ชีวนิชพันธ์) นักศึกษาสาวใสซื่อบริสุทธิ์ ที่มอบทั้งตัวและหัวใจให้กับเขา แต่เวลาผ่านไปไม่นาน เคนก็ทะเลาะกับมีนแล้วหันไปควงกับ “พลอย” (กิ๊บซี่-วนิดา เติมธนาภรณ์) นางเอกใหม่มาแรงของวงการ ซึ่งการคบหาควงกันไปไหนต่อไหนของทั้งคู่ไม่พ้นการติดตามของปาปารัสซี่นำภาพข่าวมาตีแผ่

และทันทีที่มีข่าวว่า พลอยคือผู้หญิงที่เคนจะแต่งงานด้วย หลังจากวันนั้นชีวิตของเคนก็ไม่มีความเป็นส่วนตัวอีกเลย เหมือนมีใครบางคนติดตามเขาไปทุกที่ทุกเวลาและเคนก็ต้องเจอเหตุการณ์ป่วนประสาทที่เขาเองก็เดาไม่ถูกว่า มาจากบรรดา แฟนเก่า หรือ แฟนคลับ หรือพวก ปาปารัซซี่ (แจ๊ค-บริวัตร อยู่โต) กันแน่??

เมื่อข่าวฉาวๆ และการคุกคามที่รุนแรงมากขึ้น “นิมิต” (บดินทร์ ดุ๊ก) ผู้จัดการส่วนตัวของเคนจึงเข้ามาช่วยเคลียร์ปัญหา โดยให้เคนเก็บตัวเพื่อหลบข่าวและความวุ่นวายที่บ้านพักริมทะเล แต่แล้วความสุขของเคนก็หมดลงเมื่อคนข้างกายของเขาเริ่มหายไปจากชีวิตทีละคนๆ เคนจึงรู้ว่าคนที่ตามรังควานมาตลอด ก็คือ “แฟนเก่า” คนหนึ่งของเคนที่ยังรักและหึงหวงเขาอยู่…

เคนจะจบเรื่องราวเหล่านี้อย่างไร ใครกันแน่ที่เป็น “แฟนเก่า”?

ทีมงานสร้าง : โรแมนติก สยองขวัญ (แนวภาพยนตร์) / อาวอง (บริษัทผู้สร้าง-จัดจำหน่าย) / ฟ.ฟิล์ม (ดำเนินงานสร้าง) / เกรียงไกร เชษฐโชติศักดิ์, สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์, คมสันต์ เชษฐโชติศักดิ์ (อำนวยการสร้างฝ่ายบริหาร) / อังเคิล (ควบคุมงานสร้าง) / / ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร (กำกับภาพยนตร์) / อังเคิล (เรื่อง) / สมหมาย เลิศอุฬาร, ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร, อังเคิล (บทภาพยนตร์) / ธีระวัฒน์ รุจินธรรม (กำกับภาพ) / รัชชานนท์ ขยันงาน (ออกแบบงานสร้าง) / วศิชญา โมจนกุล (ออกแบบเครื่องแต่งกาย) / สับปะรด (ลำดับภาพ) / ธิปไตย ภิรมย์ภักดี (ดนตรีประกอบ) / Inverse Forge Studios (เทคนิคภาพพิเศษ) / กันตนา แลบบอราเทอรี่ส์ (บันทึกเสียงและฟิล์มแลปส์)

นำแสดงโดย: ชาคริต แย้มนาม, วนิดา เติมธนาภรณ์, นวดี โมกขะเวส, อัฐมา ชีวนิชพันธ์, บดินทร์ ดุ๊ก, บริวัตร อยู่โต

“อังเคิล-อดิเรก วัฎลีลา” โปรดิวเซอร์ ร่วมเขียนบท และตัดต่อภาพยนตร์

…โปรเจ็คท์ภาพยนตร์เรื่อง “แฟนเก่า” นี้ อังเคิลได้มีส่วนร่วมริเริ่มคิด ร่วมเขียนบท ดูแลการผลิตภาพยนตร์ขวัญผวา ที่มีอารมณ์รักผสมปนเปอย่างกลมกล่อม โดยมีความมุ่งหมายที่จะผลักดันภาพยนตร์ไทยสู่อุตสาหกรรมภาพยนตร์โลก ให้คนไทยได้ภูมิใจและคนต่างชาติได้เห็นว่า ภาพยนตร์ขวัญผวามีอารมณ์รักเป็นแกนของเรื่อง จากฝีมือคนไทย โดยนักแสดงคนไทย ก็ไม่น้อยหน้าชาติใดในโลก

…อังเคิล ได้พูดถึงที่มาของเรื่องและคอนเซ็ปท์ว่า…

“ผมมีความคิดว่าอยากทำหนังให้คนต่างชาติเข้าใจ คนไทยดูได้ เราจะทำหนังของเราในทุนที่โอเค ไม่ต้องมีสเปเชี่ยลเอฟเฟกต์ใหญ่โต แต่ออกมาแล้วต้องดูดี เพื่อที่จะได้นำไปฉายให้คนต่างชาติได้ดูด้วย เพราะวันนี้หนังไทยสามารถไปฉายในตลาดหนังต่างประเทศได้แล้ว หนังไทยมีเครดิตตรงนั้นแล้ว เราก็ไม่ควรทิ้งโอกาสนี้ เราจะสานต่อ ก็ตั้งเป็นโจทย์ขึ้นมา

พล็อตหรือไอเดียของเรื่อง ผมเอาความรู้สึกใกล้ตัว ข่าวที่เราเห็นทุกวันจากสื่อต่างๆ หยิบยกเอาปัญหาความรักที่ฉาบฉวยของยุคสมัยนี้ นำบางแง่มุมมาขยายให้ดูสนุก เช่น ในวงการบันเทิง จะเห็นว่ามีข่าวกอซซิบเรื่องความรักของนักแสดงคนนี้ไปควงกับคนนั้น คนนั้นเลิกกับคนนี้ มีข่าวกันทุกวัน เยอะมากจนไม่รู้เรื่องไหนเป็นจริงบ้าง เราก็เอาตรงนี้มาผูกเป็นเรื่อง ทำให้เห็นวิธีการใช้ชีวิตกับความรักของคนยุคปัจจุบัน ซึ่งตัวละครในเรื่องนี้ ไม่ว่าใครก็เป็นแฟนเก่าได้หมด แล้วถ้าบังเอิญแฟนเก่าสักคนเขาอาจไม่พร้อม ไม่ยอมรับในตำแหน่งนั้นๆ ก็เป็นปัญหาที่คนดูต้องติดตามค้นหาคำตอบว่าเป็นแฟนเก่าดีหรือไม่ดียังไง

หนังเรื่องนี้เราตั้งใจว่าจะทำให้แตกต่างจากทุกเรื่อง และทำให้ดีที่สุดในแนวทางของมัน เราเชื่อว่าผู้ชมจะไม่ผิดหวัง ไม่เสียดายตังค์ ไม่เสียดายเวลา เป้าหมายของเราคือผู้ชมต้องพอใจ สำหรับเราในฐานะคนทำงานเราค่อนข้างพอใจที่ทำหนังออกมาได้ขนาดนี้ ถ้าเปรียบเป็นก้อนกลมๆ ก็คิดว่ามันค่อนข้างกลมพอดี ไม่เบี้ยวไม่เว้าแหว่ง การทำงานแต่ละเรื่องแต่ละแนวที่ผ่านมาของผม จะบุบบี้นั่น แหว่งหน่อย มีตำหนิมากบ้างน้อยบ้าง แต่เรื่องนี้ออกมานับว่า โอเคที่สุดในการทำงานของผมที่ผ่านมาเลยด้วยซ้ำนะ”

“ต้อม-ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร์” ผู้กำกับฝีมือดี ร่วมเขียนบทและตัดต่อภาพยนตร์

…จากฝีมือการกำกับการแสดงภาพยนตร์แนวลี้ลับ ขวัญผวา สั่นประสาทอย่างเรื่อง “จอมขมังเวทย์” และแน่นอนว่าฝีมือเข้าตาโปรดิวเซอร์ “อังเคิล” มากๆ เป็นที่ถูกอกถูกใจแฟนภาพยนตร์ลี้ลับ ขวัญผวา สั่นประสาท ต้อม จึงได้รับไว้วางใจอีกครั้งให้มารับหน้าที่นำเสนอเรื่องราวความรักโรแมนติกหวามไหว แต่สั่นประสาทให้คุณต้องขวัญผวา ดูแล้วต้องคิดทบทวนถึงความรักครั้งเก่าว่า คุณเคยทำไม่ดี หรือสัญญาส่งเดชอะไรไว้รึเปล่า? เพราะกลัวว่า แฟนเก่าจะมาเอาคืน

โดย ต้อม ได้เล่าถึงการทำงานว่า…

“เรามีคอนเซ็ปท์ว่าจะทำหนังอารมณ์รักที่มีความหลอน ความน่ากลัวอยู่ในตัว เราก็คิดกันว่าทำเรื่อง “แฟนเก่า” ดีกว่า แค่ชื่อก็บอกแล้วว่ามีเรื่องราวความรักอยู่ด้วยแน่นอน เพียงแต่ใส่ความน่ากลัวเข้าไปด้วย ทำให้หนังมีความแข็งแรงในการนำเสนอ ซึ่งประเด็นหลักของหนังคือ การมีแฟนเก่า คนเราทั่วไปใครๆ ก็มีแฟนเก่าได้ทั้งนั้น เคยมีกันเกือบทุกคนแต่อยากให้ลองคิดต่อไปว่า ถ้าแฟนเก่ากลับมาเราจะทำอย่างไร มันจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง มันน่าจะสนุกในแง่ของภาพยนตร์

หนังจะเป็นการดำเนินเรื่องเกี่ยวกับความรักของคนในยุคปัจจุบันมากๆ ความรู้สึกของตัวแสดงตัวนั้นๆ จะมีความคิด มีอารมณ์ของคนยุคนี้ ที่มองความรักเป็นเรื่องฉาบฉวย รักกันง่าย เลิกกันง่าย มีความสัมพันธ์กันง่ายขึ้น เรานำเสนอชีวิตรักในมุมของคนที่อยู่ในวัยทำงาน มีความรู้สึกว่าเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ อีกคนอยู่ที่ไหนก็เหมือนมีอีกคนอยู่ที่นั่นด้วย เพราะการสื่อสารที่ทำให้ทั้ง 2 ฝ่าย สามารถรับรู้ความเป็นไปของแต่ละฝ่ายได้ แม้ว่าจะไม่ได้เจอหน้ากัน แต่คนบางคนก็อาศัยช่องของการสื่อสารตรงนี้ในการโกหกแบบปัจจุบันทันด่วน เพื่อที่จะมีกิ๊ก มีแฟนหลายๆ คน ซึ่งมันชี้ให้เห็นความหยาบกระด้างในความรักของคนยุคปัจจุบัน ความจริงใจ ความซื่อสัตย์กับคนรักลดน้อยลง

ผมอยากทำหนังเรื่องหนึ่งที่คนดูแล้วได้ความบันเทิง ได้เห็นมุมมองความรักในแบบของผู้ชายคนหนึ่งว่าให้อะไรคนรอบข้างและบอกอะไรกับสังคมบ้าง อยากให้เห็นว่าความซื่อสัตย์ต่อคนรักมันสำคัญ ดูแล้วกลับไปย้อนดูตัวเองว่า เราดูแลตัวเองเหมือนกับดูแลแฟนเราดีแล้วหรือยัง เราเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า และดูจบแล้วก็น่าจะมีความสุขออกมา ไม่ใช่ออกมาแล้วเศร้าสลด”

“คริต-ชาคริต แย้มนาม” รับบท เคน

…พระเอกนักแสดงหนุ่มฮอตแห่งปี หนุ่มเจ้าเสน่ห์ เป็นที่ใฝ่ฝันของสาวๆ ทั่วประเทศ เป็นคนมีอารมณ์อ่อนไหวเหมือนศิลปินทั่วไป รักคนง่าย จึงทำให้เขามีผู้หญิงผ่านเข้ามาในชีวิตมากมาย แต่เขาก็จริงใจกับความรักทุกครั้ง จริงจังกับสาวๆ ทุกคน ดังนั้นความรักกับสาวๆ หลากหลายคน ไม่ใช่เรื่องผิดสำหรับเขา เพราะคิดว่าเขามีโอกาสที่จะเลือก แต่เขายังตัดสินใจไม่ได้ว่าใคร…คือคนที่ใช่สำหรับเขาจริงๆ

“บท เคน เป็นคาแร็คเตอร์ที่เล่นไม่ยาก แต่ไม่ใช่ใกล้เคียงตัวตนของผมนะ บทในหนังจะเขียนมาจากข่าวของพระเอกคนหนึ่งที่มีข่าวว่าเปลี่ยนผู้หญิงบ่อย เป็นคนเจ้าชู้ ตอนเห็นบทก็ยังคุยเล่นกับพี่ต้อม (ผู้กำกับฯ) เลยว่า นี่พี่เอาข่าวผมมาทำหนังเหรอ (หัวเราะ)

ผมว่าคนเราเจ้าชู้ทุกคนนะเพราะใครๆ ก็ชอบของสวยงาม แต่ตัวผมถ้าเห็นคนสวยก็แค่มองว่าสวย ไม่เอาตัวเข้าไปยุ่ง ผมไม่ใช่ผู้ชายที่เห็นใครสวยต้องเข้าไปจีบ เพราะผมเป็นคนจีบใครไม่เป็น และไม่นิยมมีกิ๊ก ผมเชื่อในการมีรักเดียวใจเดียว มีแฟนคนเดียวจนถึงวันที่เลิกกัน แล้วหลังจากนั้นจะมีใครใหม่ก็ไม่ผิด เพราะคนเราต้องเดินหน้าต่อไป แต่เวลาที่เราคบกัน แค่เต็มที่ซึ่งกันและกัน มันเป็นสิ่งที่ดีนะ และเมื่อเลิกรากันไป ผมว่าคนเราเลิกกันยังเป็นเพื่อนกันได้

ในหนังเรื่องนี้สิ่งที่ค่อนข้างยากสำหรับผมคือการที่ต้องแสดงว่า เรากลัวมากๆ อันนี้ยากมากเพราะส่วนตัวไม่เคยเจอความรู้สึกกลัวแบบนั้น แต่เราต้องทำให้คนเห็นว่า ความรู้สึกในตอนนั้นเรากลัวมากจริงๆ และที่ยากไม่แพ้กัน คือฉากเลิฟซีน เพราะผมไม่เคยเล่นเลิฟซีนหนักขนาดนี้มาก่อน มันเขินมากๆ แต่ผมคิดว่ามันเป็นประสบการณ์ทางการแสดง เราทำสิ่งที่เรียกว่าการสร้างความเชื่อให้กับคนดู มันคือการแสดง มันเป็นศิลปะ เป็นสิ่งที่เราหลงใหลในเรื่องการแสดง ถ้าถามว่าเขินมั๊ย? ฉากเลิฟซีนเรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกเขินมากที่สุด

อยากให้ทุกคนได้มาดูหนังเรื่องนี้ โดยเฉพาะคนที่เจ้าชู้ไม่ว่าจะผู้ชายหรือผู้หญิง เพราะนอกจากความบันเทิงที่ได้รับแล้ว คุณยังจะได้ข้อคิดที่ดีๆ กลับไปพร้อมความสะใจไปพร้อมๆ กัน แน่นอน”

 

 

“กิ๊บซี่-วนิดา เติมธนาภรณ์” รับบท พลอย

…สาวตัวเล็กน่ารัก มีความคิดทันสมัย บุคลิกสดใสร่าเริง นางเอกใหม่แกะกล่องของวงการบันเทิง เธอเป็นสาวสวยเลือกได้ และเมื่อเธอเลือกได้ มีหรือที่เธอจะไม่เลือก“เคน”นักแสดงหนุ่มหล่อชายในฝันของสาวๆ ทั้งประเทศ

“กิ๊บรับบทเป็น พลอย นักแสดงหน้าใหม่ไฟแรงในวงการ เป็นผู้หญิงน่ารักๆ บทก็ไม่ได้ทิ้งห่างตัวตนของกิ๊บถึงขนาดว่าเป็นการพลิกบทบาท เพียงแต่พลอยจะเป็นผู้หญิงที่ดูหวานกว่า ไม่ได้เปรี้ยวปรี๊ดเป็นเกิร์ลลี่เบอร์รี่ (หัวเราะ) ซึ่งการทำงานเรื่องนี้สำหรับกิ๊บการได้ทำงานกับคนที่รู้จักกันมาก่อน อย่าง พี่ต้อมผู้กำกับฯ พี่คริต พี่ออม หรือโบวี่ ก็คือทุกอย่างโอเค เพราะเคยเจอกันมาก่อน แล้วพอมาได้ทำงานด้วยกันทุกคนก็เป็นมืออาชีพในการทำงาน

แต่ที่รู้สึกว่ายากมากๆ คือฉากที่เราต้องตกใจกลัว เหนื่อยมากกับการเล่นให้ดูว่าเรากลัวจริงๆ ต้องกรี๊ด ต้องแสดงสีหน้าว่าเรากลัวมาก ต้องใช้จินตนาการเยอะมาก เพราะในชีวิตจริงกิ๊บเป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงออกทางสีหน้าว่า ‘เรากลัวนะ’ จะเป็นคนที่หน้านิ่งๆ พอต้องมาเล่นแบบนี้รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องยาก แต่ถามถึงฉากเลิฟซีน ในเรื่องนี้ไม่ยากเลย มีซีนจูบกัน แต่มันเป็นจูบน่ารักโรแมนติก ไม่ได้ดูดดื่ม เลยไม่ยาก หรืออย่างฉากเลิฟซีนในอ่างอาบน้ำ ฉากเลิฟซีนริมทะเลใส่บิกีนี่ อันนั้นก็ไม่ยาก ไม่ได้เขินอะไร แต่จะหนาวซะมากกว่า (หัวเราะ)

ส่วนตัวกิ๊บก็มีประสบการณ์เกี่ยวกับแฟนเก่ามาบ้าง แต่ไม่เคยมีความคิดว่าต้องมาอาฆาตแค้นเขา เอาคืนเขา หรือต้องเอาชนะ ถ้าฉันไม่มีความสุข เธอก็ต้องไม่มีความสุข กิ๊บว่ามันไม่ใช่ เพราะการทำแบบนั้นก็คงไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น ตัวอย่างมีให้เห็นได้ในหนังเรื่องนี้ กิ๊บอยากให้คนมีแฟนพากันมาดูว่าจุดจบของคนเจ้าชู้ ทำไม่ดีกับแฟนมากๆ จะเป็นยังไง พาแฟนมาดู บางทีแฟนอาจกลับใจก็ได้”

 

 

“ออม-นวดี โมกขะเวส” รับบท มีน

…ลูกสาวคนสวยของนักการเมือง ลักษณะนิสัยเป็นคนจริงใจ ตรงไปตรงมา จริงจังกับความรัก ฉะนั้นจึงรักแรงโกรธแรง อารมณ์ขึ้นเร็วลงเร็วจนดูน่ากลัว และถือว่าความรักไม่ได้หามาหรือให้ใครได้ง่ายๆ เพราะฉะนั้น “มีน” จึงหวงแหนความรักของเธอมากที่สุด

“ในการทำงานออมห่างการแสดงไปพอสมควร ก็ต้องมีรื้อฟื้นการแสดงนิดหน่อย ต้องคอยเช็กว่าสิ่งที่เราจินตนาการในซีนนั้นๆ ตรงกับสิ่งที่ผู้กำกับฯ หรือเพื่อนนักแสดงที่ทำงานด้วยกันคิดหรือเปล่า และเวลาที่ออมต้องเล่นฉากรักโรแมนติก ต้องยิ้มให้ดูว่าเรารู้สึกว่ารักนะ อันนี้ยาก แต่ถ้าเป็นฉากที่ออมต้องทำหน้าดุๆ อารมณ์วีนๆ อันนี้สบายเลย เพราะปกติเป็นคนหน้าเฉยๆ ก็ดูหน้าดุอยู่แล้ว ที่ยากอีกอย่างคือ เอฟเฟกต์ที่ต้องใช้เวลา และความอดทนกับมันมาก

โดยรวมการทำงานกับผู้กำกับและเพื่อนนักแสดงในเรื่อง อย่างกับคริต รู้จักกันอยู่แล้ว เราเคยทำงานด้วยกันมาแล้วค่อนข้างคุ้นเคย หรืออย่างกิ๊บไม่เคยทำงานด้วยกัน แต่รู้จักกันส่วนตัว ทำงานไม่มีปัญหา อย่างโบไม่เคยรู้จักมาเล่นเรื่องนี้ แต่โบน่ารัก นักแสดงเรื่องนี้ทุกคนน่ารักหมด ไม่มีปัญหาอะไร รวมถึงนักแสดงรุ่นใหญ่อย่างพี่ดุ๊กยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่ ไม่มีปัญหาอะไรเลย เป็นการทำงานที่สนุก คนทำงานในเรื่องนี้เต็มที่กับการทำงานมากๆ อยากให้คนได้ดูหนัง ได้ดูความตั้งใจที่สมค่าการรอคอย

แต่ถ้าถามถึงเรื่องแฟนเก่า ชีวิตออมไม่ได้มีแฟนมาหลายคน ฉะนั้นประสบการณ์เรื่องแฟนเก่าก็พอมีบ้างแต่ไม่มาก ซึ่งบท ‘มีน’ ที่ได้รับไม่ใกล้เคียงกับชีวิตจริงของออมเลย เรื่องความรักไม่สมหวัง เลิกกับแฟนในชีวิตออมก็มีบ้างแต่ไม่ได้รุนแรงขนาดในหนัง ออมรักสันโดษชอบอยู่เงียบๆ ไม่วุ่นวาย ไม่ต้องไปหวือหวาทำให้เกิดปัญหา ถ้าเขาจะไม่เลือกเราก็ไม่เป็นไร เราก็เดินไปตามทางของเรา (หัวเราะ) ถ้าเลิกกันไปแล้วก็เป็นเพื่อนกันได้ ไม่เคยมีความคิดต้องแก้แค้น จะไม่ไปยุ่งไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวกับเขา”

 

 

“โบวี่-อัฐมา ชีวนิชพันธ์” รับบท โบ

…นักศึกษาสาวมหาวิทยาลัย เป็นกิ๊กอีกคนหนึ่งของ“เคน”มีบุคลิกลักษณะเป็นผู้หญิงอ่อนหวาน อ่อนต่อโลก ขี้ใจอ่อน ยอมคนง่าย ไม่มีปากเสียง เมื่อเจอเสน่หาเกินห้ามใจของ“เคน”เข้าไป จึงมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งและหลงรัก “เคน” อย่างหัวปักหัวปำ

“ได้รับบท ‘โบ’ คาแร็คเตอร์ เป็นนักศึกษา ดูใสๆ รู้สึกดีใจได้รับบทใสๆ ได้กลับไปใส่ชุดนักศึกษา (หัวเราะ) บทที่ได้รับไม่ห่างไกลตัวเรามากนัก เพราะมันก็คือเด็กสาวปกติทั่วไป ที่มีแฟน แล้วโดนทิ้ง เป็นประสบการณ์ที่คนทั่วไปน่าจะมีได้

ในเรื่องของคาแร็คเตอร์ไม่ยาก แต่จะยากตรงที่หนังเรื่องนี้ เป็นการทำงานหนังครั้งแรกของโบ ทุกอย่างยากหมดสำหรับโบ ต้องเรียนรู้สั่งสมประสบการณ์ ทั้งเรื่องเทคนิคต่างๆ หรือเรื่องการแสดง ก็ได้ไปเรียนแอ็คติ้งเสริมให้กับตัวเองตลอดเวลาอยู่แล้ว รวมถึงการได้ทำงานกับทีมงานและนักแสดงมืออาชีพทุกคน ซึ่งทุกคนช่วยเหลือโบ ช่วยแนะนำกันตลอด แล้วก็เป็นกันเอง เป็นการทำงานหนังที่โบรู้สึกดีและสนุกกับการทำงาน

โบจะมีความรู้สึกเขินกับฉากที่ต้องเลิฟซีนกับพี่คริต ด้วยความที่รู้จักกันมาก่อนพอต้องทำอะไรแบบนั้นมันเขิน แล้วเป็นเลิฟซีนที่แรงที่สุดสำหรับโบเลย เพราะเวลาโบเล่นละครโบทำอะไรแบบนี้ไม่ได้อยู่แล้ว จูบจริงยังไม่เคยเลย แต่อันนี้มันแบบปลดกระดุมลงมา เห็นหน้าอก แล้วพี่คริตซุกลงตรงหน้าอกเลย (หัวเราะ) ทั้งเขินทั้งตื่นเต้น แต่ถ้าเป็นฉากที่ต้องเสียใจร้องไห้ก็จะเหนื่อยหน่อย เพราะเล่นยากต้องทำอารมณ์ให้เสียใจจริงๆ เศร้าจริงๆ

ถ้าถามถึงประสบการณ์แฟนเก่าแบบแย่ๆ ตัวโบก็พอมีนะ แต่เวลาผ่านไปทำใจได้แล้ว เรารู้สึกดีขึ้น แฟนเก่าก็กลายเป็นเพื่อนกัน ไม่ได้เกลียดกัน แล้วโบก็จะเอากลับมาคิดว่า เราได้ทำอะไรแย่ๆ ลงไปเขาถึงได้เลิกกับเรา ซึ่งบางทีก็มีแอบคิดอยากแก้แค้นแฟนเก่าเหมือนกัน แต่รู้ว่ามันเป็นสิ่งไม่ดี ทำแล้วไม่มีอะไรดีขึ้นมาโบก็ไม่ทำ”

 

 

“บดินทร์ ดุ๊ก” รับบท นิมิต

…ผู้จัดการส่วนตัวของ “เคน” เป็นคนเก่งและคล่องตัว คอยจัดการดูแลทั้งเรื่องงานและเรื่องคาวๆ ฉาวๆ ของเคนด้วย แต่เพราะวาจาที่ร้ายกาจ ด้วยวิธีการพูดเหน็บแนมให้เจ็บแสบของ “นิมิต” ทำให้เขาต้องเดือดร้อนเพราะปาก

“บทที่ได้รับเป็นผู้จัดการดาราดัง เป็นคนที่ค่อนข้างจะสนใจแต่งานของตัวเอง คิดถึงแต่เงิน คิดถึงแต่ผลประโยชน์ของดาราที่ตัวเองดูแลอยู่ แล้วก็จะพูดจาแรงๆ หน่อย แต่บทของนิมิตไม่ใกล้เคียงกับชีวิตจริงนะ เพราะผมไม่ได้เป็นคนปากร้าย ไม่ใช่คนดุ วิธีคิดของตัวผม กับ ‘นิมิต’ ก็คนละเรื่องแล้ว คือบทนี้น่าสนใจ มีความสำคัญในเรื่อง มีความหมายกับเรื่อง มีอะไรให้เราเล่น ฉากที่นิมิตต้องได้เจอกับเหตุการณ์ ไม่คาดฝันในชีวิต เพราะว่าความปากร้ายของเขา เป็นฉากที่รู้สึกดีใจที่ได้เล่น มันเป็นประสบการณ์ที่ดีในการทำงาน เพราะถึงแม้ผมจะผ่านการทำงานมาเยอะ ผมได้เล่นมาหลายบทบาท แต่ได้มาเล่นเรื่องนี้ได้มีโอกาสแต่งหน้าเอฟเฟกต์ ซึ่งเราเล่นหนังเล่นละครมา 20 กว่าปี เราก็ไม่เคยได้แต่งหน้าแบบนี้ ยังถ่ายรูปเก็บไว้ดูเลยว่าเราเคยได้ทำงานแบบนี้นะ เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตของเรา ผมก็เต็มที่กับการทำงาน

การได้กลับมาทำงานกับคนที่เรารู้จัก ทีมงานที่รู้จัก ความรู้สึกก็จะคุ้นเคยกัน ไม่ได้รู้สึกเขินอะไร ทำงานกับต้อม ผู้กำกับฯ สนุกดี เพราะคุ้นเคยกัน เขาเป็นคนใจเย็น เป็นผู้กำกับฯ ที่มีมุมมองแบบคนรุ่นใหม่ ทำงานเป็นระบบ การทำงานราบรื่นดี ทำงานกับคริตซึ่งเคยทำงานด้วยกัน และรู้จักกันมาก่อนการทำงานจึงไร้ปัญหา เพราะเขาตั้งใจทำงาน ทำการบ้านมาอย่างดี ใส่ใจในการทำงานมาก ซึ่งตรงนี้ผมชอบมากเลย เพราะถ้าเขาเล่นดี เราเล่นกับเขาเราก็ดีไปด้วย หนังก็ออกมาดี เพราะหนังต้องทำงานกันเป็นทีม”

 

 

“แจ๊ค-บริวัตร อยู่โต” รับบท คิง

…ปาปารัซซี่มือหนึ่ง เป็นนักข่าวที่เกาะติดเฉพาะดาราชื่อดังอย่าง “เคน” ข่าวฉาวและภาพเด็ดๆ ที่ เคนควงสาวไม่ซ้ำหน้า มักจะมาจากคิงเสมอ จนทำให้เคนไม่ค่อยกินเส้นกับคิงเท่าไหร่ เจอหน้ากันทีไรจึงมีการวางมวยแทบทุกครั้ง

” คาแร็คเตอร์ที่ผมได้รับ ก็คือ ‘คิง’ เป็นปาปารัซซี่ ซึ่งยังเป็นวัยรุ่นอยู่ บุคลิกจะดูกวนๆ นิดๆ ตั้งใจทำมาหากิน คอยจะหาข่าวจากดาราดังๆ อย่าง ‘เคน’ ในเรื่อง ก็ติดตามข่าวของเคนมาเรื่อยๆ จนวันหนึ่งได้พบเห็นอะไรบางอย่าง ก็เลยเริ่มคิดได้แล้วว่า ไม่ควรจะมุ่งแต่จะเอาผลประโยชน์จากเขาอย่างเดียวแล้วนะ พอได้รับบทปาปารัสซี่ก็ทำให้ผมเข้าใจการทำงานของพี่ปาปารัสซี่มากขึ้นว่ามันเป็นงานที่พี่ๆ เขาต้องทำ ต้องรับผิดชอบ แล้วคนทั่วไปก็สนใจที่จะดูหรือติดตามข่าวพวกนี้อยู่ เพียงแต่ก็อาจจะมีบ้างที่บางครั้งอาจจะมีอะไรเกินพอดีไปบ้างเท่านั้น

ในการทำงานเรื่องนี้สำหรับผมไม่ยากและไม่ง่ายจนเกินไป เพราะในเรื่องจะไม่ค่อยมีบทพูดมากนัก จะหนักไปทางการแสดงออกทางสีหน้า แววตา การแอ็คติ้งท่าทางซะมากกว่า ซึ่งตรงนี้ด้วยความที่ผมคุ้นเคยกับทีมงาน คุ้นเคยกับพี่ต้อมผู้กำกับฯ ก่อนทำงานก็จะมีการพูดคุยกันก่อนทุกครั้ง หรืออย่างพี่ดุ๊กก็จะมีการแนะนำว่าผมควรจะต้องทำยังไงบ้าง ทำงานด้วยแล้วเหมือนมีครูสอนการแสดงอยู่ข้างๆ อุ่นใจเลยครับ หรืออย่างพี่คริตก็เป็นนักแสดงที่มืออาชีพมากๆ เข้าฉากด้วยกันก็ไหลรื่นดี เพราะพี่เขารับส่งอารมณ์ได้ดีมากๆ เป็นการทำงานที่ไหลลื่นมาก”

 

Share this article :

แสดงความคิดเห็น