แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ละครช่อง7 แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ละครช่อง7 แสดงบทความทั้งหมด

เมืองดาหลา

เมืองดาหลา

ในดินแดนเทือกเขาอันหนาวเย็น เสือเพียงฟ้า กำลังสอนดนตรีให้แก่เด็กๆ ด้วยจิตใจเบิกบาน ข่าวด่วนเดินทางมาถึงว่า จ้าวแผ่นฟ้า พ่อของตนถูกลอบสังหาร เสือเพียงฟ้ากลับมาถึงเมืองดาหลาด้วยจิตใจร้อนรุ่ม จ้าวสอยแสง ผู้เป็นแม่พยายามปลอบให้ลูกสงบใจ แต่เสือเพียงฟ้าไม่อาจทำใจได้ ยิ่งเมื่อรู้ว่าพ่อถูกฆ่าจากมาเฟียคนไทยที่ค้ายาเสพติด เสือเพียงฟ้าติดต่อ จ่าบิ่น เพื่อนนักเรียนทุนที่เคยรู้จักกันและลอบลงมากรุงเทพฯ เพื่อต้องการเห็นหน้าคนที่ฆ่าพ่อ จ่าบิ่นพาเสือเพียงฟ้ามาที่ห้างสรรพสินค้า เพียงวินาทีที่เสือเพียงฟ้าได้เห็นวันใส ซึ่งกำลังเดินช้อปปิ้ง เขาก็รู้สึกสนใจในตัวเธอ แต่เมื่อจ่าบิ่นชี้ให้ดูนายวันชาติมาเฟียค้ายาคนดัง สายตาอ่อนโยนของเสือเพียงฟ้าที่มองวันใสซึ่งกำลังเดินเคียงกับพ่อก็แปร เปลี่ยนเป็นสู่ความชิงชัง

วันใสไม่เคยได้ล่วงรู้ธุรกิจของพ่อเพราะ นายวันชาติประคบประหงมเลี้ยงดูเธอมาอย่างดี วันใสจึงมีเพียงพี่ชณา หรือ เสธ.ชนา ของคนในบ้านที่เป็นทั้งพี่และเพื่อนเพียงคนเดียว เสธ.ชณา ได้รับมอบหมายให้ดำเนินโครงการหมู่บ้านปลอดยาเสพติด ซึ่งเต็มไปด้วยอุปสรรค ทุกครั้งที่งานมีความคืบหน้า วันใสคือคนที่เสธ.ชณาจะมาพูดคุยด้วยและได้รับกำลังใจจากเธอไปอย่างเต็ม เปี่ยม

วันชาติวางแผนล้ำลึกและให้แจ๊สซี่เลขาพาวันใสไปที่เมืองดาหลา วันชาติบอกกับลูกว่าขอให้เป็นตัวแทนในการไปแสดงความเสียใจกับจ้าวแผ่นฟ้าที่ สวรรคต วันใสเดินทางไปโดยไม่รู้จุดมุ่งหมายที่แท้จริงของพ่อ เมื่อได้พบกับเสือเพียงฟ้า ความชิงชังของเขารุนแรงจนวันใสงุนงงกับท่าทีไม่เป็นมิตร ในขณะที่เบื้องหลังแจ๊สซี่เองก็ทำหน้าที่ทูตที่เอาข้อเสนอเปิดเมืองเป็นทาง ผ่านขนยามาเสนอแก่เจ้าสอยแสง เสือเพียงฟ้าโกรธแค้นมากที่ถูกบีบ จ้าวสอยแสงพยายามเตือนให้ลูกมีสติรับกับปัญหา วันใสไม่รู้ว่ารอบตัวเธอกำลังเกิดอะไรขึ้นเพราะทุกคนต่างพากันปิดบัง แต่สิ่งที่เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจนคือความเกลียดชังทั้งจากสายตาและคำพูดจาก เสือเพียงฟ้า

เสธ.ชณาพยายามทำงานอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันยาเสพติด ที่กำลังทะลักเข้าสู่ทุกหมู่บ้าน เช่นเดียวกับตำรวจอย่างจ่าบิ่น ที่ทำงานจนไม่เคยสังเกตความเปลี่ยนแปลงของ จุ๊บ เมียสุดที่รัก ที่ลอบค้ายากับชู้รักจนถูกตำรวจจับตาย จ่าบิ่นเสียทั้งเมียและความรักในคราวเดียวกัน ชีวิตที่เหลือเขาจึงทุ่มเทเพื่อทำลายล้างขบวนการยาเสพติด จ่าบิ่นรู้ว่า สดและเปอ สองนักดนตรีมีส่วนในการค้ายาแต่ไม่เคยจับได้คาหนังคาเขา ทั้งหมดจึงเหมือนแมวไล่จับหนู โดยหนูอย่างเปอกับสดไม่เกรงกลัวแมวอย่างจ่าบิ่นแม้แต่น้อย

วันใสถึง กำหนดกลับแต่มีปัญหาสู้รบจนต้องปิดชายแดน วันใสจึงจำเป็นต้องทนอยู่กับความเย็นชาของเสือเพียงฟ้า ขณะที่เสือเพียงฟ้าเองก็ต้องเผชิญกับปัญหาชายแดนเมืองดาหลาที่กลุ่มของสาม กานและอั๊กซานกำลังจะรุกล้ำเข้ามาตั้งฐานทำโรงงานยาเสพติดในเมืองดาหลา สามกานที่ค้ายาเพราะความจำเป็นต้องการเงินไปรักษาเมีย พยายามจะเตือนไม่ให้อั๊กซานคิดกำเริบเข้าไปถึงเมืองดาหลา แต่อั๊กซานคิดฉกฉวยสถานการณ์เข้าลอบซุ่มเผาหมู่บ้านชายแดน ข่าวกรองผิดพลาดรายงานถึงหูเสือเพียงฟ้าว่าเป็นฝีมือของพ่อค้ายาเสพติดชาว ไทย เสือเพียงฟ้าจึงมาลงความเคียดแค้นที่วันใสทั้งหมดด้วยคำพูดและการกระทำ

ที่ เมืองไทย กลุ่มของวันชาติมีปัญหากับกลุ่มค้ายารายใหญ่อีกกลุ่มจนไม่อาจประนีประนอมกัน ได้ วันชาติถูกลอบสังหาร เสือเพียงฟ้าไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องปิดบังความรังเกียจจึงพูดด่าว่าวันใส ว่าพ่อของเธอคือพ่อค้ายาเสพติด เสือเพียงฟ้าไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องปิดบังความรังเกียจจึงพูดด่าว่าวันใส ว่าพ่อของเธอคือคนฆ่าพ่อของเขา วันใสปวดร้าวอย่างมากที่พ่อซึ่งเป็นที่รักที่บูชาของเธอเป็นคนไม่ดี วันใสกดดันอย่างหนักจากคำพูดของเสือเพียงฟ้า จนตัดสินใจขโมยปืนของทหารมายิงตัวตาย แต่กระสุนถากไป จ้าวสอยแสงพูดให้เสือเพียงฟ้าคิดว่าความแค้นไม่มีวันชำระได้ด้วยความแค้น และวันใสเองก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องทั้งหมด เสือเพียงฟ้าจึงรับอาสาเฝ้าไข้วันใสด้วยจิตใจเยือกเย็นลง

เสธ.ชณา เป็นอีกคนที่ผิดหวังกับความจริงที่ผู้มีพระคุณของเขาคือพ่อค้ายาเสพติด อาณาจักรของวันชาติล่มสลาย เสธ.ชณาเครียดไม่น้อย เมื่อถูกเพ่งเล็งกับการเป็นเด็กในบ้านของวันชาติ ชายแดนของเมืองดาหลามีปัญหาสู้รบ นายพลทองฉาน แนะนำให้เสือเพียงฟ้าออกตรวจแนวชายแดน เสือเพียงฟ้าจึงต้องฝากให้แม่ช่วยดูแลอาการของวันใส วันใสฟื้นขึ้นมาและต้องการกลับบ้าน แจ๊สซี่จึงพาวันใสกลับมากรุงเทพฯ แต่วันใสก็ต้องเจ็บช้ำกับความจริงอีกเรื่องว่าครอบครัวเธอถูกยึดทรัพย์สิน ทั้งหมดที่มาจากการค้ายา เสธ.ชณาพาวันใสไปหลบอยู่นอกเมืองและคอยดูแลจิตใจที่บอบช้ำของน้องด้วยความ รัก วันใสเหมือนไร้ที่พึ่งและไม่เหลือใครอีก นอกจากพี่ชณา แต่กลุ่มค้ายาต้องการเก็บวันใสอีกคนจึงออกตามล่า เสธ.ชณาพาวันใสหนี แจ๊สซี่เห็นทางรอดยากจึงเสนอว่าควรหนีไปซ่อนตัวที่เมืองดาหลา วันใสไม่อยากไป แต่เสธ.ชณาเห็นเป็นทางรอดเดียวจึงขอให้วันใสอดทนกลับไปที่นั่นอีกครั้ง และเขาจะไปรับกลับทันทีที่จัดการกำจัดพวกค้ายาที่นี่ได้สิ้นซาก แจ๊สซี่จึงพาวันใสกลับไปที่เมืองดาหลาอีกครั้ง

เสธ.ชณาลุยเรื่อง ปราบปรามยาเสพติดและได้พบกับจ่าบิ่นที่เอาจริงกับเรื่องนี้ จนสดและเปอเริ่มอยู่ไม่สุข สองกำลังของเสธ.ชณากับจ่าบิ่นร่วมกันปราบปรามหลายครั้งจนขบวนการยาเสพติด สั่นสะเทือน น้องของเปอติดยาและแม่ผูกคอตายเมื่อรู้ว่าเปอเป็นคนค้าเสียเอง เปอหมดเรี่ยวแรงจะทำงานต่อไปเมื่อสูญเสียครอบครัวที่รัก จึงคิดร่วมมือกับจ่าบิ่น ในขณะที่พยายามเกลี้ยกล่อมสด สดเองไม่รู้สึกรู้สาอะไรด้วย และไม่สนใจที่เป็นพลเมืองอาสาสืบความเคลื่อนไหวให้ทางการ จนวันหนึ่งสดเองพบเหตุการณ์หนูน้อยที่สดผูกพันเพียงคนเดียวในซอยบ้าน ถูกพวกค้ายาฆ่าตาย สดสะเทือนใจมากจึงคิดกลับใจมาร่วมมือกับเสธ.ชณา จ่าบิ่น และเปอในการทำลายพวกค้ายารายย่อย

ที่เมืองดาหลา เสือเพียงฟ้าเริ่มทำดีกับวันใสเพื่อชดเชยความผิดพลาดที่ผ่านมา แต่วันใสนิ่งเฉยเพราะความเสียใจเรื่องพ่อ เสือเพียงฟ้าเก็บความน้อยใจที่วันใสทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนและออกตรวจชายแดน วันใสไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมา มีเพียงแจ๊สซี่เท่านั้นที่มองหน้าวันใสที่ยืนรอการกลับมาของเสือเพียงฟ้า อยู่ที่ระเบียงในทุกเย็น อั๊กซานคิดฆ่าเสือเพียงฟ้าด้วยการลอบวางระเบิด เสือเพียงฟ้าบาดเจ็บสาหัส วันใสดูแลเสือเพียงฟ้าด้วยความเป็นห่วงที่ซ่อนอยู่ในใจ เสือเพียงฟ้าขอบคุณที่วันใสเป็นห่วงเขา วันใสบอกว่าทำเพื่อลบล้างความผิดที่พ่อทำไว้ เสือเพียงฟ้าบอกว่าเราต่างก็มีและสูญเสียพ่ออันเป็นที่รักทั้งคู่ ขอให้ความแค้นยุติลงไปและเหลือเพียงแต่ความรักต่อกันเท่านั้น

สาม กานไม่พอใจที่อั๊กซานทำรุนแรงจึงทะเลาะกันอย่างหนัก อั๊กซานด่าว่าสามกานอ่อนแอเกินไป เอื้องคำรุ้ง เมียของสามกานฟื้นขึ้นมา สามกานรู้สึกผิดที่ต้องบอกความจริงเรื่องค้ายา จึงพาเมียหนีออกไปทำไร่ นายพลทองฉานแนะให้เสือเพียงฟ้าไปตามสามกานกลับมาช่วยต่อสู้กับกลุ่มอั๊กซาน ที่ต้องการเมืองดาหลาเป็นที่ผลิตยา เสือเพียงฟ้าพูดให้สามกานคิดกลับใจมาช่วยต่อสู้ได้สำเร็จ

เสธ.ชณากับ จ่าบิ่นทำงานอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย ด้วยความใกล้ชิด จ่าบิ่นกับสดเริ่มเห็นใจกันและกัน ขณะที่ทุกอย่างกำลังดี เปอล้มเจ็บลง ทุกคนเครียดหนักกับการรักษาชีวิตเปอที่ต้องผ่าตัดด้วยเงินจำนวนมาก เสธ.ชณาปรึกษากับจ่าบิ่นคิดถึงทางจะหาเงิน ทุกคนต่างไม่อยากให้เปอตายจึงคิดจะค้ายาบ้าเพียงครั้งเดียว เปอรู้เรื่องก็ห้าม ทุกคนสะเทือนใจมากเมื่อเปอตัดสินใจยอมตายมากกว่าจะต้องให้เพื่อนแปดเปื้อนไป ค้ายามารักษาตนเอง สดถามจ่าบิ่นว่าอยากมีเมียเป็นคนติดยาบ้างรึเปล่า จ่าบิ่นยิ้มและรู้ว่าตัวเองรักสดเหมือนกันจึงคิดจะมีครอบครัวอีกครั้ง

เส ธ.ชณาพาจ่าบิ่นและสดไปเมืองดาหลาเพื่อรับวันใส ทั้งหมดไปพบกับเสือเพียงฟ้าและร่วมมือกันในการคิดปราบปรามยาเสพติด วันใสคอยเป็นคู่คิดให้เสือเพียงฟ้าด้วยความหวังที่ต้องการผืนแผ่นดินเมืองดา หลากลับมาร่มเย็น เสธ.ชณายินดีกับความรักของทั้งคู่ด้วยจิตใจสุภาพบุรุษ

เสือ เพียงฟ้ากับสามกานต่อสู้กับอั๊กซานอย่างหนักและปราบได้สำเร็จ ในขณะเดียวกับที่เสธ.ชณาและจ่าบิ่นก็ถอนรากถอนโคนกลุ่มมาเฟียที่กรุงเทพฯได้ แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดการตามล้างแค้น โดยพุ่งเป้ามาที่สด สดถูกลอบยิงตายจากกลุ่มลูกน้องของมาเฟีย จ่าบิ่นสูญเสียความรักและคนรักไปอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่กำลังจะเริ่มต้นใหม่ให้ดีกว่าเดิม

เสือเพียงฟ้าขึ้นครองราชย์โดย สมบูรณ์และสถาปนาเมืองดาหลาเป็นรัฐอิสระที่ปลอดยาเสพติด โดยมีธรรมชาติและความร่มเย็นของศาสนาที่จะทำนุบำรุงแผ่นดินให้งดงาม วันใสอยู่เป็นขวัญและกำลังใจของชาวเมืองดาหลาและเสือเพียงฟ้าด้วยความรักอัน อบอุ่นแนบแน่นตลอดไป

เมืองดาหลา

เมืองดาหลา นำแสดงโดย
1. ภูธเนศ หงษ์มานพ รับบทเป็น เสือเพียงฟ้า
2. พิยดา อัครเศรณี รับบทเป็น วันใส
3.ชินมิษ บุนนาค รับบทเป็น เสธ.ชณา
4. อรรถพร ธีมากร รับบทเป็น จ่าบิ่น
5. พลวัฒน์ มนูประเสริฐ รับบทเป็น สามกาน

บทประพันธ์ นายพันดี

บทโทรทัศน์ พัญสร

กำกับการแสดง นพพล โกมารชุน

ผู้ผลิต บริษัท เป่าจินจง

ออกอากาศทาง ช่อง 7 วันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 20.20 น.21 มีนาคม 2546

หงส์ฟ้ากับสมหวัง


หงส์ฟ้ากับสมหวัง เป็นเรื่องราวของ สมหวัง เป็นช่างตัดเสื้อหนุ่มฝีมือดี ผู้มีความพิสมัยในดนตรีลูกทุ่งเป็นชีวิตจิตใจ และแม้รูปร่างหน้าตาของสมหวังจะหล่อเหลาเอาการ แต่ในเรื่องของความรักเขากลับเป็นเด็กอ่อนหัดที่ไม่เอาไหนในเรื่องการจีบ ผู้หญิงเอาซะเลย ใคร ๆ จึงพากันตราหน้าว่าชาตินี้สมหวังจะต้องเป็นโสดไปตลอดชีวิต แล้วชีวิตของสมหวังก็กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นมา เมื่อเขาเกิดไปปิ๊งลูกค้าสาวสวยสุดเซ็กซี่นาม เฉิดฉาย ศิรินภา ภรรยาสาวคนสุดท้องของ เสี่ยเก๊า เจ้าของกิจการห้องเย็น และด้วยความซื่อ สมหวังเข้าใจผิดคิดว่าเสี่ยเก๊าเป็นพ่อของเฉิดฉาย วันหนึ่งเมื่อเฉิดฉายมาตัดเสื้อที่ร้านของสมหวัง เขาจึงพยายามเอาใจและออกปากอาสาว่าจะนำเสื้อผ้าที่ตัดเสร็จแล้วไปส่งให้ถึง บ้าน ระหว่างนั้นเอง…เฉิดฉายแอบติดต่อ แดน มโนรม นักฆ่ามือพระกาฬสามีตัวจริงให้มาจัดการเสี่ยวเก๊าหวังฮุบสมบัติ โดยการทำให้เหมือนเป็นการฆ่าชิงทรัพย์เพื่ออำพรางคดี แล้วทำทีเป็นว่าตนกลับมาเจอแล้วแจ้งตำรวจ ในวันลงมือ เป็นวันเดียวกับที่สมหวังเอาเสื้อที่ตัดเสร็จไปส่ง แต่เพราะการจราจรที่ติดขัด ทำให้สมหวังถึงช้ากว่าเวลานัด เขาจึงไปเจอเหตุการณ์ขณะที่แดน มโนรมกำลังลงมือสังหารเสี่ยเก๊า ด้วยความตกใจกับสิ่งที่เห็น สมหวังรีบวิ่งหนีออกมา แดน มโนรม รู้ตัววิ่งไล่ตามหมายฆ่าปิดปาก แต่สมหวังก็หนีรอดมาได้อย่างหวุดหวิด แล้วรีบเข้าแจ้งความกับตำรวจ ฝ่ายเฉิดฉายกลับมาตามแผนที่วางไว้จึงได้รู้จากแดนว่า มีคนเข้ามาเห็นแล้วหนีไปได้ ก็พอดี ร.ต.ท.วันชาติ ที่รับแจ้งเรื่องจากนำกำลังมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ เฉิดฉายให้แดนหลบไปขณะที่ตนเองแกล้งทำเป็นเพิ่งกลับมาและตกใจกับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น โดยไม่รู้ว่าคนที่เห็นเหตุการณ์คือสมหวังนั่นเอง สมหวังถูกนำตัวไปสเก็ตหน้าคนร้าย ได้ความว่าคนร้ายที่ลงมือฆ่าเสี่ยเก๊าเป็นแดน มโนรม นักฆ่าพันหน้าที่เก่งกาจในเรื่องการปลอมตัวเข้าสังหารเหยื่อ ทางตำรวจปักใจว่าเป็นการฆ่าเพื่อผลประโยชน์ จึงกันสมหวังไว้เป็นพยาน และเพื่อความปลอดภัยของสมหวังจึงจำเป็นต้องซ่อนตัวเพราะอาจถูกคนร้ายย้อน กลับมาฆ่าปิดปาก หมวดวันชาติ ได้รับมอบหมายให้เป็นคนพาสมหวังไปซ่อน เขาพาสมหวังไปฝากให้อยู่ในวงดนตรีลูกทุ่ง ชูชนะ วทัญญู ซึ่งเป็นญาติกัน พร้อมกับตำรวจนอกเครื่องแบบคอยคุ้มกันหนึ่งนายคือ จ่ามะลิ สมหวังถูกรับไว้เป็นช่างเสื้อประจำวง คอยดูแลเรื่องเสื้อผ้า ในขณะที่จ่ามะลิเป็นเด็กช่วยงานทั่วไปในวง และที่นี่เองสมหวังได้เจอกับหงส์ฟ้า ลูกสาวของชูชนะที่ทุกคนภายในวงพากันบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ทั้งเขี้ยวและเค็มสุด ๆ” เมื่อแรกพบสมหวังรู้สึกว่าหงส์ฟ้าเป็นคนจู้จี้ขี้บ่นไปซะทุกเรื่อง ขณะที่หงส์ฟ้ากลับรู้สึกว่าสมหวังไม่ใช่ช่างซ่อมเสื้อทั่วไป นอกจากนี้…สมหวังยังได้เจอกับ น้องบูม หางเครื่องสุดเซ็กซี่ประจำวงที่มาคอยก้อร่อก้อติก แต่เพราะไม่ใช่สาวในสเปกสมหวังจึงไม่ได้เคลิ้มตามไป ต่อมาสมหวังรู้จากจ่ามะลิว่า เฉิดฉายคือเมียคนสุดท้องของเสี่ยเก๊า แต่เขาไม่ยอมเชื่อ จึงแอบหนีไปหาเฉิดฉาย ฝ่ายเฉิดฉายก็เพิ่งรู้ว่าสมหวังคือคนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เมื่อได้เจอสมหวังที่มาดักพบเพื่อถามเรื่องราวความสัมพันธ์กับเสี่ยเก๊า เฉิดฉายจึงโกหกว่าตนเป็นลูกเลี้ยงที่เสี่ยเก๊าอุปถัมภ์ พร้อมกับหลอกถามที่อยู่ของสมหวัง แต่สมหวังไม่ยอมบอก เฉิดฉายจึงหลอกนัดให้สมหวังมาหาตนอีกครั้ง เพื่อให้แดนจัดการเก็บสมหวัง แต่พอดีวันนั้นเป็นวันที่วงออกเดินสายเปิดการแสดง สมหวังจึงไม่ได้มาตามนัด ขณะที่สถานการณ์ของวงกำลังแย่ กลับยิ่งย่ำแย่ลงไปอีกเมื่อ มิ่งขวัญ วทัญญู นักร้องนำประจำวงหลานของชูชนะมาขอเพิ่มค่าตัว ไม่เช่นนั้นจะแยกไปตั้งวงเอง หงส์ฟ้าจำเป็นต้องตัดเงินของทุกคนในวงเพื่อมาให้มิ่งขวัญ จึงสร้างความไม่พอใจให้กับทุกคนในวง หาว่าหงส์ฟ้าลำเอียงเข้าข้างญาติจึงรวมตัวกันประท้วงหงส์ฟ้า หงส์ฟ้าเสียใจที่ทุกคนไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอทำ สมหวังเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยจนทุกคนเข้าใจสถานการณ์ที่แท้จริงของวงว่ากำลัง ประสบปัญหา พร้อมกับเสนอแนะว่าวิธีการแก้ปัญหาที่ดี ด้วยการปรับปรุงวงให้น่าดูขึ้น ทั้งรูปแบบการนำเสนอและเครื่องแต่งกาย ผู้ชมก็จะมากขึ้น แล้วรายได้ก็จะมากขึ้นตามมา โดยไม่จำเป็นต้องตัดเงินคนในวงมาเพิ่มให้มิ่งขวัญ โดยสมหวังอาสาจะช่วยตัดเย็บชุดโชว์ใหม่ ๆ ให้กับวง ทั้งหงส์ฟ้า และทุกคนในวงเห็นด้วย จึงช่วยลงมือลงแรงปรับปรุงวงใหม่ด้วยความหวัง แต่ในวันที่เริ่มแสดง ขณะที่ผู้คนล้นหลามรอคอยอยู่นั้น มิ่งขวัญนักร้องนำกลับเบี้ยวไม่ยอมมา ชูชนะจึงตัดสินใจขึ้นเวทีร้องเอง แต่ด้วยวัยที่ล่วงเลย ซุ่มเสียงก็เลยถดถอย สมหวังเห็นท่าจะแย่จึงจับไมค์ช่วยร้องอยู่หลังเวที สร้างความประหลาดใจและประทับใจให้แก่ผู้ชมในวันนั้นเป็นอันมากด้วยน้ำเสียง ไพเราะจับใจ และแม้ว่าผู้ชมอยากจะเห็นหน้านักร้องคนใหม่ สมหวังก็ยังปฏิเสธ แต่ก็ไม่พ้นความพยายามของชูชนะ ซึ่งประกาศเปิดตัวสมหวังเป็นนักร้องคนใหม่ในนาม “สมหวัง วทัญญู” แบบมัดมือชก โดยที่สมหวังไม่ทันตั้งตัว สมหวังดังภายในชั่วข้ามคืน และดังขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้สถานะทางการเงินของวงค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ ขณะเดียวกันความสัมพันธ์ของ สมหวังกับหงส์ฟ้าก็เปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น หงส์ฟ้าประทับใจในความดีของสมหวังก็เริ่มแอบมีใจให้ แต่สมหวังรู้สึกกับหงส์ฟ้าแบบพี่ชายน้องสาว เพราะในใจเขายังใฝ่หาเฉิดฉาย ความดังของสมหวังฉุดไม่อยู่จนกลายเป็นข่าวออกทีวี ทางตำรวจรู้เรื่องเข้า ขอให้สมหวังเลิกร้องเพลง เนื่องจากเขาจะกลายเป็นเป้านิ่งให้กับผู้ร้าย แต่สมหวังทำไม่ได้เพราะชีวิตของคนทั้งวงขึ้นอยู่กับตน แต่ก็รับปากว่าจะลดความเด่นดังลง โดยหารู้ไม่ว่าชูชนะแอบไปเซ็นต์สัญญาออกเทปแทนสมหวังไว้แล้ว โดยมิได้ปรึกษาเขาก่อน สมหวังรู้เรื่องรีบปฏิเสธโดยไม่สามารถบอกเหตุผลกับทุกคนได้ คืนนั้น ขณะที่เปิดการแสดง สมหวังก็ได้เห็นแดน มโนรมปะปนเข้ามาในหมู่แฟนเพลง ด้วยความกลัว สมหวังแอบหนีไปโดยไม่ได้บอกกล่าว ทำให้ทุกคนเข้าใจว่าสมหวังดังแล้วแยกวง ชูชนะซึ่งเบิกเงินค่าตัวในการออกเทปของสมหวังมาลงทุนซื้อรถคันใหม่ให้กับวง ไปแล้ว พอรู้เรื่องก็ถึงกับช็อคเข้าโรงพยาบาล แต่ทั้งหมดนี้ไม่มีใครเสียใจเท่ากับหงส์ฟ้า เพราะเธอคิดว่าสมหวังเป็นคนหลอกลวง และที่สำคัญเป็นคนไร้หัวใจอย่างที่ไม่น่าให้อภัย สมหวังหนีมาปรึกษาหมวดวันชาติ หมวดจึงคิดที่จะซ้อนแผนจับ แดน มโนรม ด้วยการให้สมหวังกลับไปรับข้อเสนอของชูชนะ และให้จัดคอนเสิร์ตเปิดตัวเพื่อล่อให้แดนลงมือ สมหวังไปหาชูชนะยอมรับปากทำตามแผน ท่ามกลางความบึ้งตึงของหงส์ฟ้า แม้ว่าลึก ๆ แล้วเธอจะดีใจที่สมหวังกลับมาก็ตาม ในวันคอนเสิร์ต แดน มโนรมก็ลงมือจริง ๆ อย่างที่คาด สมหวังถูกยิงแต่ใส่เสื้อเกราะเอาไว้จึงไม่เป็นไร หงส์ฟ้าไม่รู้ตกใจกับภาพที่เห็นก็แสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา ทำให้สมหวังได้รู้ว่าหงส์ฟ้ารู้สึกยังไงกับตน แต่พอหงส์ฟ้ารู้ความจริงว่าสมหวังเป็นพยานในคดีฆาตกรรมที่มาซ่อนตัวและใช้วง ดนตรีของตนเป็นเครื่องมือก็โกรธสมหวัง ยิ่งได้เห็นเฉิดฉายเข้ามาทำดีกับสมหวังอย่างสนิทสนมหลังจากแผนที่จะให้แดน เก็บสมหวังล้มเหลว หงส์ฟ้ายิ่งโกรธ โดยหารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้ว เฉิดฉายเป็นตัวการหลอกให้สมหวังในการหาความคืบหน้าของคดี หงส์ฟ้าจึงได้แต่ซึมเศร้าเพราะเข้าใจผิด วันที่สมหวังจะเดินทางไปเที่ยวกับเฉิดฉายโดยไม่รู้ว่ากำลังถูกหลอกไปฆ่านั้น เป็นวันเดียวกับที่ แดน มโนรม ยอมรับสารภาพกับตำรวจว่าเฉิดฉายเป็นผู้บงการฆ่าเสี่ยเก๊า หมวดวันชาติจึงรีบโทรไปบอกสมหวัง แต่ก็สายไปเสียแล้ว หงส์ฟ้ารู้เรื่องด้วยความรักและห่วงใยจึงตามไปช่วยพร้อมจ่ามะลิและน้องบูม

นำแสดงโดย

จักรพรรณ์ อาบครบุรี

พิยดา อัครเศรณี

วรรณษา ทองวิเศษ

เกริก ชิลเลอร์

ไพโรจน์ ใจสิงห์

ธงชัย ประสงค์สันติ จ่ามะลิ

ลิซ่า ไปรพิศ น้องบูม

และดาราสมทบอีกมากมาย


บทโทรทัศน์ สุรินทร์ รุ่งสว่าง

กำกับการแสดงโดย...กษมา นิสสัยพันธุ์

ผู้ผลิต บริษัท EXact

จำนวนตอน 14 ตอน

รักเกิดในตลาดสด 2544


รักเกิดในตลาดสด เป็นเรื่องราวความรักของชายหญิงคู่หนึ่ง คือ ต๋อง พ่อค้าขายผัก กับ กิมลั้ง แม่ค้าขายปลา โดยมี กิมฮวย แม่ของกิมลั้ง ที่พยายามกีดกันทั้งคู่ตลอดเวลา

 ต๋อง หรือ ปารเมศ เป็นพ่อค้าขายผักรูปหล่อ นิสัยดี และเป็นนักศึกษา เขาได้มาช่วยพี่ชายขายผักด้วยความเต็มใจ แทนพี่สะใภ้ซึ่งกำลังท้องแก่ใกล้คลอดแล้ว และที่ตลาดนี้เอง ทำให้ต๋องได้พบกับ กิมลั้ง สาวสวย หมวย น่ารัก และเป็นแม่ค้าขายปลา ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม และพยายามจีบเธอให้ได้โดยผ่านพ่อสื่ออย่าง เลื่อน และความพยายามก็ทำให้เขารู้ว่ากิมลั้งก็มีใจให้เหมือนกัน ต๋องจึงทุ่มเทความรักให้กับกิมลั้งอย่างจริงใจ แต่ว่า ต้องสามารถเอาชนะใจว่าที่แม่ยายอย่างกิมฮวยเสียก่อน เพราะกิมฮวยไม่ชอบต๋อง และอยากให้กิมลั้งได้หมั้นหมายกับ จาตุรงค์ ลูกชายพ่อค้าเขียงหมูมากกว่า

 นักแสดง รักเกิดในตลาดสด 

แอนดริว เกร็กสัน รับบทเป็น ต๋อง หรือ ปารเมศ (ได้รับรางวัลโทรทัศน์ทองคำ ดารานำชาย ครั้งที่ 16 )
พิยดา อัครเศรณี รับบทเป็น กิมลั้ง
กาญจนาพร ปลอดภัย รับบทเป็น กิมฮวย
ดวงตา ตุงคะมณี
อุทุมพร ศิลาพันธุ์
ปิยวรรณ จิตณาธรรม
ดารณีนุช โพธิปิติ
ชาญณรงค์ ขันทีท้าว
วิทิต แลต
ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์
พิมพ์พรรณ ยุวะพุกกะ
สุกัญญา ไรวินทร์
รวิช พงษ์วานิช
จิรภา วงศ์โฆษกวรรณ
อนุสรณ์ เดชะปัญญา
ญานี ตราโมท
วิยะดา อุมารินทร์
สุเชาว์ พงษ์วิไล

บทประพันธ์ อาจารย์เพ็ญศรี เคียงศิริ

ผู้ผลิต 559 ออนแอร

ออกอากาศเมื่อ 14 พ.ต. – 18 มิ.ย. 44

 

เก็บแผ่นดิน


เขตชายแดนไทย ชนเผ่าคาเซที่นำโดย ละยี กำลังต่อสู้เพื่อรักษาแผ่นดินจากรัฐบาลจากสหพันธ์รัฐซาวิน ละยีมีลูกชายชื่อ นาคา ผู้ซึ่งเติบโตมาท่ามกลางการดูแลของปู่และ มินทะดา ทหารคาเซที่ศรัทธาในตัวละยี

เมื่อสงครามสงบ มินทะดาถูกส่งมาเรียนเมืองไทยกับสิพราย ที่นี่มินทะดายังได้พบกับ อองดี นักศึกษาซาวินที่หลบในไทยผู้มีอุดมการณ์เดียวกัน มินทะดารักกับพันพัสสา นักศึกษาไทยแต่ถูกขัดขวางจากพ่อแม่พันพัสสาเพราะต้องการให้รักกับ ชลชาติ นายทหารหนุ่มอนาคตไกล มินทะดาถูกตามตัวกลับคาเซ พันพัสสาตัดสินใจหนีตามไปด้วย พิพัช พ่อพันพัสสาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนทหารไม่ให้ พันพัสสา ข้ามชายแดนไปได้

พันพัสสาถูกพากลับมาเมืองไทยโดยคิดว่ามินทะดาตายไปแล้ว มินทะดารอดกลับไปพบหมู่บ้านเสียหาย เขากับสิพราย และ ยะโพ คิดหัดจัดกองกำลังด้วยยุทธวิธีใหม่ กลุ่มคาเซหลายฝ่ายทะเลาะกันเรื่องวิธีชนะซาวิน นาคาพูดให้ทุกคนคิดได้ว่าอย่าเอาเลือดพวกเดียวกันมาสังเวยให้ซาวิน

วันหนึ่งนาคาแอบเห็นกองทัพซาวินวางแผนโจมตีหมู่บ้าน นาคาพาทุกคนหนีรอดมาได้ หลังเหตุการณ์กลุ่มคาเซ สนับสนุนนาคาเป็นหัวหน้า ในวันสถาปนานาคาประกาศว่า ต่อไปนี้…คาเซจะมีประเทศ ชลชาติทำงานอย่างหนักเพื่อลดปัญหาความขัดแย้งของชนกลุ่มน้อยด้วยสติปัญญาอัน ชาญฉลาด จนชื่อเสียงขจรขจาย

พิพัชเกลี้ยกล่อมให้พันพัสสาไปเจรจารับเหมาสร้างถนนที่สถานีเรด้าทาง ทหารด้วยเหตุผลแฝงให้สอง หนุ่มสาวได้ใกล้ชิดกัน แม้จะเคยแต่ได้ยินชื่อเสียงมาบ้างแต่จิตใจอันมุ่งมั่นเปี่ยมไปด้วยความหวัง ดีกับ ชาวบ้านอย่างแท้จริงของชลชาติ ก็ทำให้พันพัสสาเปิดใจรับเขาเข้ามาทีละน้อย

ไม่มีใครรู้ว่ายะโพหักหลังไปเข้ากับพวกซาวิน วางแผนให้จับตัวนาคาในคืนงานวัดฝั่งไทย นาคาถูกจับไปได้ หมู่บ้านคาเซก็ถูกโจมตีอย่างหนัก พวกมินทะดาจึงพากันมาปล้นยาที่ศูนย์อพยพ พันพัสสาจึงได้รู้ว่ามินทะดายังไม่ตาย พันพัสสายอมเป็นตัวประกันกลับไปหมู่บ้านคาเซ หลังจากห่างหายกันมานานมินทะดากับพันพัสสาได้สานสัมพันธ์รักต่อกันอีกครั้ง
มินทะดาพาตัวนาคากลับมาได้ นาคาประชุมกลุ่มคาเซเพื่อรวมตัวต่อสู้ โดยมีอองดีกับ พวกนักศึกษาร่วมด้วย ในระหว่างนี้ชลชาติพาลูกน้องมาลักตัวพันพัสสากลับไป

รุ่งเช้ารัฐบาลซาวิน กวาดล้างเผ่าคาเซครั้งใหญ่ นาคาเจ็บหนัก มินทะดาวางแผนปล้นในเมืองถูกล้อมจับ มินทะดาไม่ยิงชลชาติด้วยรู้ว่าเขาคือคนที่จะดูแลพันพัสสาได้ดีกว่าตน กองทัพนาคาถอยร่นข้ามายังฝั่งไทย ชลชาติจำต้องให้ลูกน้องยิงสกัดไว้ พันพัสสามองภาพการต่อสู้ด้วยความปวดร้าว ร้องขอให้มินทะดาข้ามมาฝั่งไทย แต่มินทะดารู้ว่าเขาไม่สามารถดูแลพันพัสสาได้ดีเท่าชลชาติ

นาคาถูกยิงตายกลางแม่น้ำ มินทะดาแบกร่างนาคากลับสู่คาเซ ก่อนจะลับตามินทะดาหันกลับมามองภาพชลชาติกับพันพัสสาเพื่อเก็บไว้ในความทรงจำ

นักแสดงละคร เก็บแผ่นดิน
ภูธเนศ หงษ์มานพ
พิยดา อัครเศรณี แสดงเป็น พันพัสสา
ณัฐวุฒิ สกิดใจ
อรรถพร ธีมากร,
พลวัฒน์ มนูประเสิฐ
อเล็กซ์ เรนเดลล์
ศิววงศ์ ปิยะเกศิน
สุรชัย จันทิมาธร,
วิทย์ วิจิตรานนท์
อริศรา วงษ์ชาลี


กำกับการแสดง นพพล โกมารชุน

ผู้ผลิต บริษัท เป่าจินจง

พันท้ายนรสิงห์




เมื่อหลวงสรศักดิ์ ขึ้นครองราชสมบัติกรุงศรีอยุธยาสืบต่อจากสมเด็จพระเทพราชา นั้น อยุธยาไม่มีศึกสงครามจากภายนอกแต่บรรดาขุนนางภายในต่างใส่ร้ายป้ายสีชิงดีชิงเด่นกันเอง บางหัวเมืองก็แข็งข้อ รีดส่วยภาษีจากราษฎรลุกลามไปถึงการปล้นสะดมฉุดคร่าอนาจารย์หญิงสาว ไม่เลือกว่าลูกเขาเมียใคร อ้างกันแต่เพียงว่าจะส่งเข้าวังหลวง เมื่อหลวงสรศักดิ์ได้ทราบข่าวก็ออกปราบปรามด้วยตนเอง ฆ่าฟันบรรดาขุนนางนอกคอกและทหารโจรอย่างไร้ความปราณี … ด้วยความดุร้าย กระหายเลือดเช่นนี้เองทำให้ข้าราชบริพารที่ติดตาม และทวยราษฎร์ที่พบเห็น ถวายสมัญญานามว่า … สมเด็จพระเจ้าเสือ

การปล้นสะดมเริ่มเบาบางลงเมื่อพระเจ้าเสือแต่งตั้งให้ขุนนาง แต่ละคนรับผิดชอบในพื้นที่คนละส่วนกัน แต่ชั่วระยะเวลาไม่นานนักก็เริ่มรุนแรงขึ้นอีก เนื่องจากขุนนางบางคนส่งทหารของตนไปปล้นในเขตคนอื่น เพื่อป้ายความผิดให้อีกฝ่าย ขุนนางข้างที่ถูกใส่ร้ายก็ย้อนรอยเอาบ้าง ทว่า พระเจ้าเสือไม่ได้รับรู้เหตุการณ์เหล่านี้ เพราะบรรดาผู้รับผิดชอบในหน้าที่ ต่างยืนยันว่าราษฎรในเขตของตนมีความเป็นอยู่สุขสบายดี

ในการปล้นและฉุดคร่าหญิงสาวคราวหนึ่ง ทหารของพระยาบำเรอภูธรถูกฆ่าตายหมดสิ้น จากฝีมือของสิน ศิษย์เอกของหลวงตาแช่มอดีตกองหน้าทะลวงฟันมือขวาของพระยาโกษาเหล็ก สินได้ร่ำเรียนเพลงมวย และเพลงดาบจากหลวงตาแช่ม จนจบสิ้นก็เดินทางมุ่งหน้าเข้ากรุงศรีอยุธยาเพื่อสมัครเป็นทหารหลวง แต่ในระหว่างทางสินได้พบกับความเลวร้ายของพวกทหารหลวงที่บีบคั้น รังแกประชาชน สินเป็นคนซื่อ รักความยุติธรรมก็ทนไม่ได้ สินฆ่าทหารหลวงตายไปหลายคน เมื่อทหารเหล่านั้นมาข่มเหงรังแกพวกชาวบ้านให้เห็นตำตา โดยเฉพาะทหารกลุ่มนั้นจะลวนลาม นวล


นวล เป็นลูกสาวของเจิม และแสง นายบ้านศรีประจันต์ นวล เป็นเด็กสาวที่กล้า แก่น ไม่กลัวใคร เมื่อเจิมยกที่ส่วนหนึ่งให้สินปลูกบ้านอยู่และทำมาหากินในหมู่บ้านศรีประจันต์ นวลก็คอยตามรังควาญยั่วแหย่สินอยู่เป็นประจำ สร้อย ผู้เป็นพี่สาวของนวลรู้ดีว่า นวล น้องสาวของตนหลงรักสิน และอยากอยู่ใกล้ชิดจึงแสดงออกเช่นนั้น แต่สร้อยก็มิได้ห้ามปรามนวลได้แต่คอยตักเตือนและให้คำปรึกษาเป็นบางครั้ง ทั้งที่สร้อยเองก็ไม่เคยมีความรักมาก่อน

พระเจ้าเสือ ไม่ค่อยเชื่อคำเท็จทูลของบรรดาขุนนางนัก แต่ไม่ต้องการให้เกิดความร้าวฉานภายใน จึงปลอมตัวเป็นนายเดื่อออกไปเที่ยวเตร่เพื่อจะได้พบความเป็นอยู่ของราษฎรด้วยตนเอง


พระเจ้าเสือนั้นเป็นคนที่รักการต่อสู้ และมีฝีมือในเชิงมวยไทย ประกอบกับเป็นคนหมัดหนัก จึงใช้วิชามวยไทยบังหน้าแจ่งจันกับผู้อื่นไปเรื่อยๆ จนถึงหมู่บ้านศรีประจันต์ พระเจ้าเสือต่อยชนะนักมวยคนอื่น ๆ เช่นเดียวกับสินก็ชนะมาตลอดเช่นกัน ทั้งสองจึงต้องมาพบกันเพื่อชิงชนะเลิศ


วันชิงชนะเลิศนั้น นวลไม่กล้าไปดู แต่สร้อยไปและได้พบพระเจ้าเสือเป็นครั้งแรก ทั้งคู่ต่างก็รู้สึกพอใจซึ่งกันและกัน ผลการต่อสู้ระหว่างพระเจ้าเสือ และสิน นั้น ปรากฏว่าเสมอกัน เพราะสินเตะพระเจ้าเสือจนลุกไม่ขึ้น พระเจ้าเสือต่อยสินจนมึนงงยืนไม่อยู่ ทั้งคู่ต้องคลานเข้าจับมือกัน



พระเจ้าเสือนั้นรักน้ำใจสินถึงขนาดตั้งชื่อให้ใหม่ว่าสิงห์ และได้มาพักอยู่ที่กระต๊อบของสินด้วย นวลและสร้อยมาเยี่ยมสินก็ได้พบพระเจ้าเสือ เมื่อทั้งสองคอยส่งข้าวส่งน้ำทุก ๆ วัน ความใกล้ชิดระหว่างพระเจ้าเสือและสร้อยก็กลายเป็นความรักซึ่งกันและกันโดยไม่มีใครรู้ว่าพระเจ้าเสือเป็นใคร


ขุนนางผู้สำเร็จราชการได้ลอบมาแจ้งให้พระเจ้าเสือทราบว่า ขุนนางสองฝ่ายจะยกกองทหารเข้าปะทะกัน พระเจ้าเสือจำเป็นต้องกลับเข้าวังด่วน ก่อนจะจากกันไป พระเจ้าเสือได้ถอดแหวนสวมนิ้วสร้อยไว้แทนตัว พระเจ้าเสือได้กลับเข้าวังและจัดการลงโทษบรรดาขุนนางที่ก่อเรื่องอย่างสาสม


สิน มีกำหนดจะแต่งงานกับ นวล แต่ถูกขุนนางผู้หนึ่งมาเชิญตัวเข้าวัง และกลับมาพอดีกับเวลาที่ทุกคนกำลังรอคอย สินแต่งชุดทหารหลวงและยืนยันว่าพระเจ้าเสือเป็นคนดีได้แต่งตั้งให้ตนเป็นพันท้ายนรสิงห์ เมื่อแต่งงานแล้วจำเป็นต้องพานวลไปอยู่ในกรุงศรีอยุธยา

สร้อย ยังคงรอคอยพระเจ้าเสือด้วยความหวัง (ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร) ไม่สนใจที่หลวงสุรสงคราม พ่อเมืองสุพรรณบุรี ส่งคนมาสู่ขอและในที่สุดของการรอคอย มีขุนนางจากอยุธยานำราชโองการมาประกาศว่า พระเจ้าเสือแต่งตั้งให้สร้อยเป็นสนมเอก มีเสลี่ยงคานหามรอรับเข้าเมืองหลวง ทุกคนจึงได้รู้ความจริง

หลวงสุรสงคราม พ่อเมืองสุพรรณ วางแผนจะลอบปลงพระชนม์ พระเจ้าเสือในขณะเสด็จประพาสคลองโคกขาม โดยมีเจิมพ่อของนวล และสร้อยร่วมด้วยอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ สินรู้เรื่องเข้าก็ให้นวลผู้ซึ่งท้องได้สามเดือนไปห้ามปรามเพราะทุกคนก็รู้ว่าพระเจ้าเสือเป็นคนดีนวลรับอาสาพร้อมกับนัดกันไว้ว่าจะกลับมาพบขบวนเสด็จก่อนถึงจุดลอบปลงพระชนม์

นวล ทำงานได้สำเร็จห้ามปรามพ่อจนเลิกล้มความตั้งใจ แต่นวลไม่สามารถมาถึงจุดนัดได้ตามเวลา สินไม่มีทางเลือก เพราะฝ่ายลอบปลงพระชนม์ซุ่มอยู่ข้างหน้า สินจำใจต้องคัดท้ายเรือพระที่นั้นให้ชนต้นไม้ริมคลอง แม้จะรู้ว่ากฎมณเฑียรบาลนั้นถึงขั้นประหารชีวิต พระเจ้าเสือไม่ยอมประหารชีวิตสิน เพราะพระองค์เชื่อว่าสินคือเพื่อน แต่ไม่อาจจะทัดทานความตั้งใจแน่วแน่ของสินได้ ไม่ว่าจะแก้ไขโดยวิธีใด สินไม่ยินยอม เพราะต้องการให้กฎมณเฑียรบาลยังคงอยู่

นวลมาถึงจุดประหารเมื่อสินสิ้นใจแล้ว นวลสลบไสลไปทันทีพระเจ้าเสือสั่งให้ตั้งศาลเพียงตา แล้วอัญเชิญศรีษะของพันท้ายนรสิงห์ขึ้นบวงสรวงบูชา ประกาศความเป็นเพื่อนตายอีกทั้งประกาศให้ลูกของพันท้ายนรสิงห์ที่จะเกิดมามีศักดิ์และสิทธิ์ เทียบเท่าโอรสหรือราชธิดาของพระองค์เอง พร้อมกับสั่งให้จับตัวหลวงสุรสงครามมาตัดหัวแห่ประจานทั้งทางน้ำและทางบก

จากวันนั้น ตราบเท่าทุกวันนี้ ชื่อและศาลพันท้ายนรสิงห์ยังคงยืนยงอยู่ที่คลองโคกขามเพื่อให้คนรุ่นหลังได้กราบไหว้สักการะถึงความมีระเบียบวินัย และเคร่งครัดต่อกฎมณเฑียรบาล ยิ่งกว่าชีวิตของตน



นำแสดงโดย

พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง -พระเจ้าเสือ

กมลชนก โกมลฐิติ -สร้อย

ธีรภัทร์ สัจจกุล -สิน

พิยดา อัครเศรณีแสดง -นวล


บทพระราชนิพนธ์ พลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภานุพันธ์ ยุคล

บทโทรทัศน์ อารีย์ ทองน้อย

กำกับการแสดง พิศาล อัครเศรณี

ผลิตโดย บริษัท อัคร เอ็นเตอร์ เทนเม้นท์ จำกัด

บ้านสอยดาว



บ้านสอยดาว เป็นเรื่องราวของครอบครัวเจ้าทางเหนือ ที่รับเด็กชายชื่อ วุฒิ มาอุปการะ ซึ่งวุฒิ เป็นที่จงเกลียดจงชัง ของเด็กๆ ในบ้านนั้น ทั้งเจ้าตะวัน ลูกชายเจ้าของบ้าน โดยเฉพาะเจ้าจันทร์ ที่จะคอยดูถูกวุฒิทุกครั้งที่มีโอกาส ทำให้วุฒิเติบโตมาในบ้านอย่างเคียดแค้น มีเพียง รุ้ง ลูกสาวของคนงานในบ้าน ที่เขารักอย่างจริงใจ เมื่อเติบโตขึ้นมา เขาจึงต้องการยึดครองทุกอย่างในบ้านหลังนี้ ด้วยการเข้าไปทำงานเป็นผู้ช่วยพ่อของเจ้าตะวันและเจ้าจันทร์ โดยมีความสัมพันธ์ลับๆ กับเจ้าจันทร์ไปด้วย

นักแสดงละคร บ้านสอยดาว
ธงไชย แมคอินไตย์ — วุฒิ
มยุรา ธนบุตร — เจ้าจันทร์
ผุสรัตน์ ดารา — เยี่ยมรุ้ง
ศรัณยู วงศ์กระจ่าง — เจ้าตะวัน
อุทุมพร ศิลาพันธุ์ — อิงฟ้า
กนกพร อนะมาน — โอบเดือน
พนมพร อนะมาน — เอื้อมดาว
ศรินทิพย์ ศิริวรรณ
นรา กุละเนตร — วุฒิตอนเด็ก

ออกอากาศทางช่อง 7 วันศุกร์-เสาร์ เวลา 21.00 น. ปี พ.ศ. 2527


คุณแจ๋วกะเพราไก่ คุณชายไข่ดาว


คุณแจ๋วกะเพราไก่ คุณชายไข่ดาว เป็นเรื่องราวของ อนวัช หรือชาย ลูกชายคนเดียวของ งามจิตและเทียนชัย กำลังจะกลับเมืองไทยหลังสำเร็จการศึกษา ทำให้งามจิตต้องหาแม่ครัวมาแทนคนเก่า นางศรี แม่บ้านอาสาจะพา สร้อย ลูกสาวของตนมาทำหน้าที่แทน แต่ปรากฎว่าสร้อยตามสามีไปอยู่ที่อื่นแล้ว นางศรีจึงคิดจะพา ปอฝ้าย สวมรอยเป็นสร้อยไปทำหน้าที่แทน

ปอฝ้าย คือหลานกำพร้าของนางเฟื่อง พี่สาวของนางศรี ปอฝ้ายเกิดจากฟ้าลูกสาวของนางเฟื่อง ซึ่งในอดีตเมื่อครั้งฟ้ายังเป็นเด็กสาววัยใกล้เคียงกับปอฝ้ายในปัจจุบันนาง ศรีก็เคยพาฟ้าไปทำงานที่บ้านเทียนชัยมาแล้ว ในครั้งนั้นฟ้าอุ้มท้องกลับมาคลอดลูกที่บ้าน โดยไม่เคยปริปากบอกใครว่าใครคือพ่อของปอฝ้าย ฟ้าคลอดและเลี้ยงดูปอฝ้ายจนปอฝ้ายอายุได้ 7-8 ขวบ ฟ้าก็เสียชีวิตด้วยโรคภูมิแพ้ ทำให้ปอฝ้ายสนใจในเรื่องของการบำบัดรักษาอาการเจ็บป่วย แต่เพราะอยู่ต่างจังหวัด ฝ้ายจึงศึกษาหาความรู้จากสมุนไพรหรือการบำบัดแบบ แพทย์แผนโบราณ จากความรู้ในเรื่องสรรพคุณยา บวกกับพรสวรรค์ในเรื่องการครัว ทำให้ฝ้ายประยุกต์ความรู้เป็นความแตกฉานในเรื่องโภชนาบำบัดโดยไม่รู้ตัว

ปอฝ้ายไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ ไม่เคยพบหน้าพ่อ แต่ก็ได้รับการอุปการะส่งเสียค่าใช้จ่ายการศึกษาจากชายที่ใช้ชื่อนามแฝงว่า เพิ่มยศ ปอฝ้ายมั่นใจว่า เพิ่มยศจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพ่อของตน พ่อที่ไม่กล้าออกมายอมรับว่าตนคือลูก
ปอฝ้ายยอมตามนางศรีไปทำหน้าที่ แจ๋วในบ้านเทียนชัย ทั้งๆ ที่มีพื้นฐานการศึกษาระดับเคยผ่านเมืองนอกมาแล้ว ด้วยจุดหมายลึก ๆ ต้องการย้อนรอยอดีตของแม่ เพื่อที่จะได้รู้ว่าใครคือพ่อผู้ให้กำเนิด ถึงปอฝ้ายจะมีฝีมือในเรื่องอาหารไทย แต่ก็ไม่ประสีประสาเรื่องอาหารฝรั่ง ดังนั้นนางศรีจึงพาฝ้ายไปฝึกงานที่ภัตตาคารไลล่าของคุณกำธร
ฝ่ายอนวัช แอบเดินทางกลับเมืองไทยก่อนกำหนดโดยไม่บอกทางบ้าน จุดประสงค์เพื่อหาความสำราญในเมืองไทยกับริต้าแฟนสาวที่คบหากันอยู่ที่เมืองนอก ทั้ง ๆ ที่พ่อแม่ได้หมั้นหมายอนวัชกับเอมอร ลูกสาวของทิพยากับทวีศักดิ์ ซึ่งเป็นครอบครัวที่สนิทสนมกับครอบครัวเทียนชัยตั้งแต่วัยเด็ก อนวัชพาเอมอรไปกินข้าวที่ภัตตาคารไลล่า อนวัชได้กลิ่นผัดกะเพราที่ฝ้ายทำกินกับพนักงาน อนวัชตามมาถึงในครัวและแสดงฝีมือทอดไข่ดาว เป็นจุดเริ่มต้นของสองหนุ่มสาวที่ได้รู้จักกันด้วยความรู้สึกดี ๆ โดยฝ้ายไม่รู้ว่าอนวัชเป็นลูกค้า นึกว่าเป็นพนักงานภัตตาคาร

อนวัช กลับออกมาที่โต๊ะอาหารและสั่งข้าวกะเพราไข่ดาว ในภัตตาคารที่ขายอาหารฝรั่งหรูหรา ปอฝ้ายออกมาดูหน้าคนสั่ง ถึงได้รู้ว่าอนวัชเป็นลูกค้า ริต้ารู้ว่าอนวัชทิ้งให้ตนรอที่โต๊ะคนเดียว แต่ตัวเองหนีไปหาเรื่องสนุกในครัว รู้สึกโกรธและพาลไปถึงฝ้าย ฝ้ายทะเลาะกับริต้าและลามไปทะเลาะกับอนวัช อนวัชทะเลาะกับฝ้ายด้วยอารมณ์ต้องการยั่วให้โกรธสนุก ๆ ฝ้ายกลับไป บ่นกระปอดกระแปดในครัว สมชายพนักงานในไลล่า ที่นึกชอบฝ้ายอยากเอาใจเอาหน้า แอบไปปล่อยลมยางของอนวัช อนวัชเข้าใจว่าฝ้ายเป็นคนทำ เกิดทะเลาะกันอีกรอบ แต่คราวนี้จริงจัง รุนแรงขึ้น จากความรู้สึกดี ๆ ที่มีให้กันกลายเป็นศัตรูคู่กัดกันไปโดยไม่ตั้งใจ
ชะตาชีวิตทำให้ อนวัชขับรถเฉี่ยวฝ้ายจนตกน้ำโดยไม่ตั้งใจ ฝ้ายโกรธเหวี่ยงอนวัชตกน้ำเป็นการแก้แค้น แต่อนวัชเกิดช็อคในน้ำ ทำให้ฝ้ายต้องย้อนกลับลงน้ำอีกครั้ง เพื่อช่วยชีวิตของอนวัช อนวัชเกิดความรู้สึกนิยมในศัตรูคนนี้อยู่ลึก ๆ

เมื่อถึงกำหนดกลับ เมืองไทย อนวัชก็ส่งริต้ากลับเมืองนอก แล้วตัวเองก็เดินทางเข้าบ้านเทียนชัย อนวัชก็เผชิญหน้ากับปอฝ้ายคู่ปรับเก่าที่เข้ารับหน้าที่ในบ้านเทียนชัยอีกต่างฝ่ายต่างไม่กล้าแฉความลับของกันและกัน
ปอฝ้ายอยู่ในบ้านเทียนชัย ภายใต้ชื่อสร้อย ฝ้ายต้องต่อสู้เอาตัวรอดสุดชีวิต ทั้งในเรื่องการทำครัว การแอนตี้ไม่ยอมรับของคนเก่า ๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือการที่เทียนชัยพยายาม เคลมฝ้ายตามนิสัยเดิมที่ต้องรวบบริวารทุกคนในบ้านเป็นเมีย จากพฤติกรรมของเทียนชัย ฝ้ายเริ่มสงสัยว่าเทียนชัยอาจจะเป็นพ่อของตนก็ได้ แต่ฝ้ายก็ยังไม่มั่นใจ เพราะมีคนอื่น ๆ อีกหลายคนที่มีโอกาสเป็นพ่อของตนได้ทั้งนั้น

เอมอรคู่หมั้นของอนวัช ส่งลินจงสาวใช้คนสนิทเข้ามาอยู่ในบ้านเทียนชัย เพื่อทำหน้าที่สอดส่องพฤติกรรมของฝ้ายเพราะกลัวว่าจะมาแย่งอนวัช ลินจงคอยจับตาฝ้าย สังเกตเห็นฝ้ายพยายามสืบถามเรื่องราวในบ้านเทียนชัย บางครั้งก็แอบค้นหาเอกสารของเทียนชัย
ลินจงถืออำนาจว่าเอมอรให้ท้าย ทำตัวกร่าง ข่มคนในบ้านของเทียนชัย จนเป็นที่เกลียดชังของทุกคน เพราะฉะนั้นเมื่อฝ้ายสามารถต่อกรเล่นงานลินจงเจ็บ ๆ ได้ จึงชนะใจคนในบ้านเทียนชัยหันกลับมาเป็นพวกเดียวกัน ในงานเลี้ยงต้อนรับการกลับบ้านของอนวัช เอมอรออกร้านอาหารฝรั่ง แต่บ้านเทียนชัยออกร้านอาหารไทย ทั้งสองฝ้ายงัดลูกเล่น มาช่วงชิงเอาชนะกันอย่างสูสี สุดท้ายฝ้ายงัดไม้เด็ดโชว์ ฝีมือผัดกะเพราไก่ เอาชนะเอมอรด้วยกลิ่นอันจัดจ้าน ยิ่งสร้างความเจ็บแค้นให้กับเอมอรและคุณทิพยาผู้เป็นแม่

อนวัชเห็นปอฝ้ายบอกทางไปห้องน้ำให้แขกฝรั่งที่มาในงาน อนวัชสงสัยว่าทำไมฝ้ายพูดภาษาอังกฤษได้ ฝ้ายโชว์ภาษาอังกฤษแบบเมียเช่า เป็นที่ขบขันเยาะเย้ยของศัตรู แต่ก็พ้นสงสัยไปได้แต่งานเลี้ยงยัง ไม่ทันจบ อนวัชก็เกิดอาการภูมิแพ้ขึ้นมา ฝ้ายพยายามเข้าช่วยเหลือด้วยยาสมุนไพร แต่ถูกปฏิเสธ หนำซ้ำเอมอรยังกล่าวหาว่ากลิ่นผัดกะเพราไก่ของเธอเป็นต้นเหตุทำให้อนวัชเกิด อาการป่วย งาม จิตและทิพยาร่วมกันจัดหาหมอและพยาบาลมาดูแลอนวัชอย่างขนานใหญ่ การมาของพยาบาลทั้งหลาย สร้างความโกลาหลให้กับอนวัชและบ้านเทียนชัยอย่างมาก คนที่พอใจมากที่สุดคือลินจง เพราะได้พยาบาลมาเป็นพวกคอยต่อกรกับเหล่าคนในบ้านของเทียนชัย อนวัชเบื่อการดูแลของลินจงและเหล่าพยาบาล แอบหนีออกไปข้างนอกกับคนของตัวเองอยู่เสมอ ๆ

เทียนชัยทำก้อร่อก้อติก คิดเคลมฝ้าย ปอฝ้ายเองก็พยายามหลอกถามเทียนชัย เพื่อหาความจริง ปอฝ้ายเห็นอาการพิรุธของเทียนชัยเมื่อเอ่ยถึงชื่อปอฝ้าย ดังนั้นฝ้ายจึงพยายามค้นหาต้นขั้วธนาณัติเพื่อเป็นหลักฐานว่าเทียนชัยคือคน ที่ส่งเสียเงินทองอุปการะตนตลอดมา
ปอฝ้ายเสียท่าถูกลินจงจับได้ว่า แอบค้นโต๊ะทำงานของเทียนชัย แต่ฝ้ายรอดจากการจนมุม เพราะอนวัชมาช่วยรับสมอ้างว่าเป็นคนใช้ให้ฝ้ายเข้าไปหาของเอง เพราะอนวัชมั่นใจว่าปอฝ้ายหรือที่รู้จักกันในนามสร้อย ต้องไม่ได้มุ่งหวังทรัพย์สินแน่นอน ต้องมีจุดประสงค์อื่นมากกว่านี้

อนวัช ชวนให้ฝ้ายช่วยออกไปถือของ เพื่อใช้โอกาสซักถามจุดประสงค์การมาอยู่ในบ้านนี้ แต่อนวัชเกิดอาการป่วยขึ้นระหว่างทาง คราวนี้ฝ้ายรีบช่วยด้วยวิธีการของตน ซึ่งได้ผลดีมาก ทำให้อนวัชดีใจเกิดความหวังในชีวิตว่าจะมีโอกาสหายจากโรคประจำตัวนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ทั้งสองฝ้ายเกิดความรู้สึกที่ดีต่อกันอีกครั้งหนึ่ง

ฝ้ายมี โอกาสโชว์ฝีมือผัดกะเพราไก่ให้อนวัชกินอีกครั้งเช่นเดียวกับที่อนวัชโชว์ ฝีมือการทอดไข่ดาว ทั้งสองคนมีช่วงเวลาที่มีความสุขต่อกันช่วงสั้น ๆ  ความสนิทสนมของฝ้ายและอนวัชหาได้รอดพ้นสายตาของเหล่ามารร้ายอันมีเอมอร ทิพยา และลินจง ขบวนการทำลายฝ้ายจึงเริ่มต้นจากการขโมยแหวนของคุณงามจิต แล้วโยนความผิดให้ฝ้าย แม้ฝ้ายจะรอดพ้นการลงโทษเพราะไม่มีหลักฐาน แต่ก็สร้างความคลางแคลงใจให้กับคุณงามจิตอย่างมาก ลินจงเริ่มแผนสอง โดยวางยาสลบคนทั้งบ้าน โดยใส่ในอาหารที่ฝ้ายเป็นคนทำ แล้วให้เชิดเข้ามายกเค้าทรัพย์สินในบ้าน ฝ้ายรอดพ้นจากการถูกวางยาโดยบังเอิญเข้าขัดขวางต่อสู้กับเชิด ฝ้ายเกือบเสียที โชคดีที่อนวัชกลับมาพอดี เชิดจึงต้องรีบหนีไป

ทุกคนเข้าใจว่าฝ้ายเป็นสายให้โจร ฝ้ายถูกกดดันจนต้องเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง และขอลาออกจากบ้านเทียนชัยไป ฝ้ายหารถกลับบ้านที่ต่างจังหวัดไม่ได้ ต้องไปขออาศัยพักอยู่กับคุณกำธรก่อน พนักงานภัตตาคารไลล่าดีใจที่ได้เจอฝ้าย ขอร้องให้ทำผัดกระเพราไก่เลี้ยงพนักงาน กลิ่นกระเพราไก่หอมฟุ้งไปถึงในภัตตาคารเหมือนคราวที่อนวัชได้กลิ่นเมื่อมา ที่นี่เป็นครั้งแรก แต่คราวนี้กลิ่นกระเพราไก่นำพาหม่อมนรภัทรนักชิมอาหารชื่อดังให้เข้ามาชมถึง ในครัว หม่อมนรภัทรมีโอกาสพูดคุยกับฝ้ายอย่างถูกคอ หม่อมฯ สนใจแนวคิดการปรุงอาหารแนวโภชนาบำบัดอย่างมาก

เชิดพาคนมายกเค้าบ้าน เทียนชัยอีกครั้ง คราวนี้สำเร็จ ได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ ฝ่ายผู้หญิง อันมี เอมอร งามจิต ทิพยาต่างลงความเห็นว่าฝ้ายเป็นคนทำหรือมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ฝ่ายผู้ชายอันมี อนวัช เทียนชัย ทวีศักดิ์ต่างไม่เห็นด้วย อ้างว่าตอนเกิดเหตุ ฝ้ายไม่ได้อยู่ในบ้านแล้ว ในที่สุดก็ลงมติว่าให้ไปพิสูจน์ที่บ้านของฝ้าย

อนวัชกับเอมอรเดินทาง ไปที่บ้านต่างจังหวัดของฝ้าย เกิดปะทะคารมกัน บังเอิญเกิดฝนตกหนัก ทางกลับกรุงเทพถูกตัดขาด อนวัชและเอมอรต้องค้างที่บ้านของฝ้าย อนวัชมีโอกาสปรับความเข้าใจกับฝ้ายอีกครั้ง ได้ไปกับหน่วยบรรเทาทุกข์ออกช่วยเหลือชาวบ้าน และได้รับการรักษาโรคประจำตัวอย่างถูกต้องและสมบูรณ์ เป็นช่วงชีวิตที่อนวัชมีความสุขอย่างแท้จริง ยกเว้นสิ่งเดียวที่รบกวนหัวใจก็คือความคลางแคลงว่าฝ้ายอาจจะเป็นพี่น้องร่วม สายเลือดเดียวกัน ซึ่งก็คือสิ่งเดียวกับที่รบกวนหัวใจของฝ้ายเช่นกัน

เอมอร โกรธที่อนวัชไปใช้ชีวิตคลุกคลีกับฝ้าย จึงประชดด้วยการหว่านเสน่ห์กับปลัดวันรบ เพื่อนสนิทของฝ้าย และแล้ววันหนึ่งหลังจากที่ปลัดวันรบพาเอมอรไปดูผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลหนึ่ง ผลิตภัณฑ์ ซึ่งส่วนใหญ่คือ กระแช่ อุ ไวน์ สาโท เอมอรและปลัดชิมผลิตภัณฑ์จนเมาและเลยเถิดจนถึงขั้นได้เสียกัน เมื่อทางเปิด อนวัชและเอมอรก็กลับกรุงเทพ ขณะเดียวกันฝ้ายก็ได้รับการติดต่อจากคุณกำธรให้เข้ากรุงเทพด่วน เพราะคุณกำธรเข้าหุ้นกับหม่อมนรภัทร เปิดร้านอาหารร้านใหม่ เป็นแนวอาหารสุขภาพโภชนาบำบัดที่ฝ้ายถนัด หม่อมนรภัทรต้องการให้ฝ้ายมาเป็นผู้จัดการร้าน ฝ้ายตกลงและขอใช้ชื่อร้านว่า “กระเพรา”

แต่กิจการของร้านกระเพราเงียบเหงาผิดคาด คนไทยไม่ค่อยนิยม อนวัชหาทางช่วยโปรโมทและเจาะตลาดชาวต่างประเทศ ปรากฏว่าได้ผล มีลูกค้าต่างประเทศมาอุดหนุนคับคั่ง จนคนไทยก็พลอยเห่อตามไปด้วย กิจการอาหารโภชนาบำบัดของร้านกระเพราจึงโด่งดัง พร้อมกับชื่อเสียงของฝ้าย ฝ้ายได้รับเชิญไปออกรายการทีวี มากมายหลายรายการ ถึงชีวิตการงานจะประสบความสำเร็จ แต่ชีวิตรักกลับอึมครึม เพราะความไม่แน่ใจว่าทั้งสองจะกลายเป็นพี่น้องกันหรือไม่ ในที่สุดทั้งหมดก็หาทางยุติปัญหาด้วยการตรวจ ดี เอ็น เอ
ระหว่าง รอผลการตรวจ ฝ้ายได้รับเชิญให้เข้าร่วมสัมมนาในงาน “อาหารเพื่อสุขภาพนานาชาติ” เป็นงานใหญ่ที่มีชาวต่างชาติ นักโภชนาการ เข้าร่วมสัมมนามากมาย มีการถ่ายทอดออกทีวีไปทั่วประเทศ เอมอรเข้าร่วมงานหวังฉีกหน้าฝ้าย แต่กลับเป็นการเปิดโอกาสให้ฝ้ายโชว์ความสามารถ ความรู้ในเรื่องของอาหารสมุนไพร ด้วยภาษาอังกฤษ สร้างความตกตลึงให้กับศัครู สร้างความชื่นชมให้กับผู้ที่หวังดี คุณงามจิตเริ่มเปลี่ยนท่าที ยอมรับปอฝ้ายอดีตแจ๋วในบ้านมาเป็นศรีสะใภ้

แต่แล้วทุกอย่างก็พังทลาย เมื่อผลการตรวจดีเอ็นเอออกมาว่าปอฝ้ายคือลูกของเทียนชัย และเป็นพี่น้องกับอนวัช ข่าวร้ายนี้ทำลายจิตใจของทั้งคู่อย่างรุนแรง ปอฝ้ายและอนวัชเหมือนคนที่ไร้จิตใจ สุขภาพของอนวัชก็กลับทรุดโทรมลง เอมอรเร่งรัดให้จัดงานแต่งงาน เพราะเริ่มรู้ว่าอุ้มท้องลูกของปลัดวันรบ อนวัชไม่ยอม เพราะยังอาลัยฝ้าย เอมอรเข้าไปพูดกับฝ้ายขอให้ฝ้ายแต่งงานกับปลัดวันรบ เพื่อให้อนวัชตัดใจจากฝ้าย โดยอ้างว่าขอให้ฝ้ายเห็นแก่ลูกในท้องที่เกิดจากอนวัช ฝ้ายยอมตกลง เทียนชัยและทวีศักดิ์รับเป็นเจ้าภาพในงานแต่งงานของทั้งสองคู่ที่จัดในวัน เดียวกัน โรงแรมเดียวกัน ในห้องจัดงานติดกัน

ในวันแต่งงาน อนวัชเข้ามาแสดงความยินดีกับฝ้ายในห้องเจ้าสาว เทียนชัยและทวีศักดิ์เห็นความเจ็บปวดของหนุ่มสาวทั้งสองอย่างสะเทือนใจ ในเวลาเดียวกัน ปลัดวันรบก็สลับคู่ไปแสดงความยินดีกับเอมอร ทั้งสองมีโอกาสอยู่กันตามลำพัง ทำให้ปลัดวันรบรู้ความจริงว่าเอมอรท้องกับตน ปลัดวันรบฉุดเอมอรออกไปตกลงกันข้างนอก เกิดเป็นเรื่องโกลาหลกันขึ้น ในที่สุดทุกคนรู้เรื่องของเอมอร ทำให้งานแต่งงานต้องยกเลิก แต่เทียนชัยและทวีศักดิ์จัดการรวมงานแต่งงานสองงานให้รวมเป็นงานเดียว แต่สลับคู่เป็นงานแต่งงานระหว่างอนวัชกับปอฝ้ายแทน เทียนชัยขึ้นมาพูดบนเวทีกับทวีศักดิ์ ประกาศว่า ปอฝ้ายคือลูกสาวแท้ ๆ ของทวีศักดิ์ ความจริงถูกเปิดเผยต่อมาว่า เอมอร คือ ตัวการที่ปลอมแปลงรายงานผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอของฝ้ายกับเทียนชัย นอกจากนั้นเอมอรยังไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของทวีศักดิ์ แต่เป็นลูกติดท้องคุณทิพยา ซึ่งในวันแต่งงาน ก็มีเหตุการณ์ผู้มาทวงสิทธิ์ลูกในท้องของเจ้าสาวเหมือนเหตุการณ์ในวันนี้ ทำให้เอมอรและทิพยากลายเป็นผู้แพ้ในทุกอย่าง อนวัชและปอฝ้ายก็แต่งงานกันอย่างมีความสุข

 

นักแสดงละคร  คุณแจ๋วกะเพราไก่ คุณชายไข่ดาว

สุวนันท์ คงยิ่ง
จุลจักร จักรพงษ์
สาริน บางยี่ขัน
พรทิพย์ วงศ์กิจจานนท์(สกิดใจ)
เจมี่ บูเฮอร์
เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์
ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์
ดารณีนุช โพธิปิติ
ราตรี วิทวัส
น้อย โพธิ์งาม
อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์

เมขลา



เมขลา เป็นเรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง หนุ่มไทยที่ไปศึกษาต่อยังประเทศญี่ปุ่นและได้พบรักกับสาวแดนอาทิตย์อุทัย และมีบุตรสาวด้วยกันโดยที่ฝ่ายชายไม่รู้เรื่อง และโชคชะตาก็เล่นตลกทำให้ หนุ่มสาวทั้งคู่พลัดพลากจากกัน เหตุการณ์ยิ่งเลวร้าวหนัก เมื่อผู้เป็นแม่ของลูกต้องประสบอุบัติเหตุจนใบหน้าเสียโฉม และเธอก็ได้นำบุตรสาวไปฝากเลี้ยงยังสถานสงเคราะห์ บุตรสาวผู้มีนาม “เมขลา” ไม่ทราบเลยว่าแม่ผู้ให้กำเนิดเป็นใคร ต่อมาเธอก็ได้มีโอกาสเดินทางมายังเมืองไทยและได้พบรักกับหนุ่มไทยควบคู่ไป กับการติดตามเรื่องราวที่มาของพ่อและแม่ของเธอ






นักแสดงละคร เมขลา

อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร แสดงเป็น อนุเทพ
สุวนันท์ คงยิ่ง แสดงเป็น เมขลา
อมรินทร์ สิมะโรจน์
วรรณพร ฉิมบรรจง
ศตวรรษ ดุลยวิจิตร แสดงเป็น จักร
สุภาภรณ์ คำนวณศิลป์ แสดงเป็น โทชิโกะ

 

ฆาตกรกามเทพ


ธีร์สั่นยะเยือกเมื่อได้ยินเสียงร้องโหยหวนอย่างหวาดกลัวของ นักบิน เขาเห็นว่าร่มของเจ้านั่นไม่กาง และมันกำลังดิ่งลงหุบเหวเบื้องล่างอย่างรวดเร็ว และธีร์ยิ่งหนาวยะเยือกเมื่อนึกว่าอีกไม่กี่นาทีเขาก็ต้องประสบชะตากรรม เดียวกับเจ้านักบินคนนั้น

ไหนเคยคิดอยากตายนักไงล่ะ ทำไมคราวนี้ถึงกลัวตาย?

ธีร์ เริ่มลำดับเหตุการณ์เก่า ๆ ก่อนหน้านี้ เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต ที่ทำให้เขาต้องมาขึ้นเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ และขณะนี้กำลังจะตกลงไปตาย

ผณิน คือ หญิงสาวสวยที่ทำให้ธีร์เคยคิดอยากตาย เธอเคยเป็นคนรักของเขาเมื่อเขาเรียนอยู่มหาวิทยาลัย เป็นคนรักที่ทำให้เขาหลงไหลและภาคภูมิใจมาก เพราะเธอสวยขนาดยืนอยู่แถวหน้าของดาวเด่นของ มหาวิทยาลัย และมีหนุ่มจีบมากมาย แต่เขาคือคนที่ชนะใจเธอ

แต่เมื่อธีร์พาผณินไป รู้จักกับพ่อของเขา พ่อกลับบอกให้เขาเลิกกับเธอ พ่อบอกว่าหากธีร์หลวมตัวไปแต่งงานกับผณิน ธีร์จะต้องหมดตัว อนาคตจะต้องดับ พ่อพูดอ้อม ๆ ว่าผณินเป็นแฟนกับธีร์ เพราะธีร์เป็นลูกมหาเศรษฐี ไม่ใช่เพราะผณินรักธีร์จริง ธีร์โกรธว่าพ่อดูถูกผณิน และประท้วงพ่อด้วยการเป็นแฟนกับผณินต่อไป และไม่ยอมเรียนหนังสือ จนเวลาเรียนไม่พอ ถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้เข้าสอบ แล้วในที่สุดก็ถูกคัดชื่อออกจากมหาวิทยาลัย

พ่อธีร์ส่งธีร์ไปเรียน ต่อเมืองนอก เพียงไม่ถึงปีที่ธีร์ไป เขาก็ได้รับจดหมายจากป้าเทวีว่าพ่อมีเมียใหม่ และเธอคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ผณินของเขานั่นเอง ป้าบอกว่าพ่อของ “นังคนนั้น” วางแผนเอาลูกสาวใส่ถาดมายกให้พ่อของธีร์ เพราะโครงการบ้านจัดสรรของพ่อนังคนนั้นคว่ำไม่เป็นท่าและหมดปัญญาใช้หนี้ ธนาคาร กลายเป็นคนล้มละลาย จึงวางแผนต้มตุ๋นเศรษฐีหน้าโง่ และเศรษฐีหน้าโง่คนนั้นก็คือพ่อของธีร์

ธีร์เจ็บเสียยิ่งกว่าเจ็บ เขาไม่ได้เจ็บที่พ่อถูกว่าหน้าโง่ แต่เจ็บที่พ่อแย่งแฟนเขาได้ลงคอ นั่นคือวันที่เขารู้สึกอยากตาย

แต่ อีกหกเดือนต่อมา เมื่อธีร์ถูกเรียกตัวกลับจากอเมริกาเพราะพ่อตายด้วยอาการหัวใจล้มเหลวนั้น สิ่งที่ธีร์และทุกคนในครอบครัว รวมทั้งผณินด้วย ไม่คาดฝันคือ คุณธุมพ่อของธีร์ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้ธีร์คนเดียว ใครบางคนตั้งข้อสังเกตว่า การที่คุณธุมเป็นแฟนกับผณิน เพราะต้องการแยกผณินออกจากธีร์ เพราะคุณธุมรู้ดีว่าคุณเผดิมพ่อของผณินเป็นนักการพนันตัวฉกาจ และเล่นหนักระดับในบ่อนต่างประเทศ และเมื่อธีร์รู้อยู่ว่าผู้หญิงคนนี้เคยเป็นเมียพ่อมาแล้ว ธีร์คงไม่ยุ่งด้วยอีกต่อไป แม้ว่าพ่อจะตายไปแล้วก็ตาม และมันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ธีร์ไม่มีทีท่าจะหวนกลับไปหาผณินอีก

แม้ คุณธุมจะตายไปจนเผาและลอยอังคารแล้ว แต่ผณินก็ยังไม่มีทีท่าจะออกจากบ้านของธีร์กลับไปอยู่บ้านเดิมของเธอเลย เธอยังวางท่าเป็นคุณผู้หญิงของบ้าน และมีอาชีพที่รุ่งเรืองและมีชื่อเสียงโด่งดัง คือเป็นดาราละครโทรทัศน์ และเธอจะจับธีร์ต่อ

ก่อนคุณธุมจะเสียชีวิต เผดิมพ่อของผณินได้เอาโฉนดที่ดินโรงงานเจียระไนพลอยมาค้ำประกันเงินกู้จำนวน สิบล้านบาทที่คุณเผดิมกู้จากคุณธุมที่ดินผืนนี้อยู่ทางเหนือของจังหวัด แม่ฮ่องสอน ใกล้ชายแดนพม่า เมื่อเสร็จงานศพคุณธุม เผดิมคะยั้นคะยออย่างหนักให้ธีร์ไปดูโรงงานเจียระไนพลอยแห่งนั้น ธีร์ไม่เคยสนใจโรงงานเจียระไนพลอยเลย แต่เขาก็ไป เพราะเขาไม่อยากอยู่ร่วมบ้านกับผณิน

ธีร์ไปถึงรีสอร์ตของพ่อเลี้ยง บุรินทร์ที่เผดิมบอกว่าเป็นเพื่อนสนิทของเขาและจะต้อนรับธีร์อย่างดี กับจะพาไปดูโรงงานเจียระไนพลอยด้วย แต่ธีร์ก็ต้องแปลกใจที่ไม่พบพ่อเลี้ยงบุรินทร์ ทั้ง ๆ ที่เผดิมบอกว่านัดไว้เรียบร้อยแล้ว ธีร์ถามหาบริรักษ์ ลูกชายของบุรินทร์ และได้เห็นเขาที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์แต่ก็ไม่ได้คุยกัน เพราะเมื่อบริรักษ์เห็นธีร์ เขารีบเดินหายไปก่อนที่ธีร์จะไปถึงตัว โดยไม่ทักทายหรือแม้แต่จะยิ้มให้ ธีร์รู้สึกว่าประหลาดมาก แต่เขาก็ขึ้นคอปเตอร์ไป

แล้วก็มาถึงจุดที่เขาพบชะตากรรมดิ่งมฤตยู อยู่นี่ไง ! คอปเตอร์ลำนั้นตกลงกระทบต้นไม้ ทำให้ธีร์กระเด็นออกไปตกในพุ่มไม้ทึบ ส่วนคอปเตอร์ดิ่งต่อลงสู่ก้นเหว และแรงกระแทกทำให้มันระเบิดไฟไหม้วอดทั้งลำท่ามกลางป่าทึบและหุบเหวที่ผู้คน ไม่มีวันย่างกรายลงไปถึง

ในระหว่างที่สติสัมปชัญญะกำลังเลือนรางลง ทุกที ธีร์ได้ยินเสียงชายสองคนพูดกันเรื่องบริรักษ์ไม่น่าสั่งเก็บเจ้าเข้ม ชายอีกคนพูดว่าต้องเก็บเพราะเจ้าเข้มพูดมาก นายสั่งเก็บ”ไอ้หมอนั่น” ให้เงียบที่สุด ธีร์คิดไปคิดมาก็สรุปว่า “ไอ้หมอนั่น” คงหมายถึงเขานี่เอง เขางงว่าบริรักษ์คิดกำจัดเขาด้วยเรื่องอะไร แต่เมื่อมีคำว่า “นาย” เข้ามาด้วย ธีร์ก็คิดว่านายน่าจะเป็นคุณบุรินทร์ แต่สองคนพ่อลูกนี้มีเหตุขุ่นข้องอะไรจนต้องฆ่าเขา และก่อนที่สติสัมปชัญญะจะดับวูบ ธีร์ก็ได้เห็นว่ามีหนุ่มสาวชาวเขาสองคนเห็นว่าเขาบาดเจ็บและเข้ามาดูแล และจากนั้นเขาก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย

เดือนเศษผ่านไป……….ขณะที่ บริรักษ์กำลังขับรถพาเครือออนจากแม่ฮ่องสอนมุ่งสู่เชียงใหม่เพื่อไปรับ เพื่อนของเธอ เขาต้องเบรกกะทันหัน เพราะชายหนุ่มผู้หนึ่งพรวดออกมายืนขวางถนนไว้ บริรักษ์ลงไปต่อว่าทันที และเขาต้องตะลึงค้างเมื่อจำได้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าคือชายหนุ่มที่เขาส่งไปตาย โดยเฮลิคอปเตอร์ บริรักษ์มั่นใจว่าใช่ แม้ว่าชายหนุ่มนั้นจะหนวดเครารกรุงรังก็ตาม

ธีร์เองก็จำบริรักษ์ได้ เขานึกไม่ถึงเหมือนกันว่าเขาจะโบกได้รถของบริรักษ์ หลังจากที่รถกี่คันๆ ก่อนหน้านี้ไม่ยอมจอดรับ ธีร์รู้ว่าเขาเดินเข้ามาสู่อันตรายอีก แต่เขาต้องรักษาชีวิตของเขาไว้เพื่อสืบให้รู้ให้ได้ว่าใครสั่งฆ่าเขาและด้วย เหตุใด ธีร์จึงโกหกว่าเขาจำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่ชื่อของตัวเอง เครือออนเหมือนจะเชื่อ แต่บริรักษ์นั้นไม่เชื่อเลย แต่ก็แสดงออกไม่ได้ว่าเคยรู้จักธีร์ ได้แต่ฮึดฮัดไม่พอใจที่ต้องรับธีร์ขึ้นรถมาด้วย เพราะเครือออนเอื้อเฟื้อ

ธีร์ บอกว่าเขาอยากไปสถานีตำรวจ บริรักษ์ตกใจ จริง ๆ แล้วธีร์ก็ตั้งใจจะแหย่บริรักษ์นั่นละ อยากเห็นพิรุธของเขาและก็ได้เห็นสมใจ ธีร์จึงแน่ใจว่าบริรักษ์จำเขาได้แน่ เขาจึงทำเป็นจำอะไรไม่ได้ต่อไป และในที่สุดธีร์ก็บอกว่าไม่ไปสถานีตำรวจ แต่ขอติดรถไปรับเพื่อนๆของเครือออนด้วย เครือออนตกลง แถมยังตั้งชื่อให้ธีร์ด้วยว่า “โชค” บริรักษ์เขม่นธีร์สุด ๆ

ธีร์ได้ พบกับเพื่อน ๆ ของเครือออน และเขารู้สึกถูกชะตากับชายหนุ่มที่ชื่อวิภัชที่สุด วิภัชฟังเรื่องการลืมความจำของธีร์แล้วบอกธีร์ว่าเขาไม่เชื่อ ธีร์รู้สึกว่าจะวางใจวิภัชได้ จึงได้เปิดเผยตัวว่าเขาคือใคร วิภัชรับรองว่าจะเก็บความลับของเขาไว้ ธีร์เล่าเรื่อง ฮ.ตกให้วิภัชฟัง และวิภัชถึงกับเหวอไปเลยเมื่อธีร์บอกว่าคนที่ส่งเขาขึ้น ฮ.ไปตาย คือบริษักษ์ วิภัชจึงเข้าใจทะลุปรุโปร่งว่าเหตุใดธีร์จึงต้องทำเป็นลืมความจำ และตั้งแต่นั้นมาสองหนุ่มก็กลายเป็นสหายสนิทกัน ธีร์บอกวิภัชว่าเขารอดตายเพราะสองผัวเมียชาวเขาพาเขาไปให้พระธุดงค์รักษาจน หาย และตอนนี้เขาไม่ผูกพยาบาทใครทั้งสิ้น อยากรู้เพียงแค่ว่าเพราะอะไรเขาถึงต้องถูกฆ่า

บริรักษ์โทร. บอกบุรินทร์เรื่องธีร์ยังไม่ตาย บุรินทร์ให้เอาตัวธีร์ไปให้เขาดูหลังจากพาเครือออนและเพื่อน ๆ เที่ยวเสร็จแล้ว

ธีร์ ขอยืมโทรศัพท์มือถือของวิภัชโทร.หาป้าเทวี เขาจึงได้รู้ว่าผณินบอกป้าว่าเขาเครื่องบินตกตาย และเขาได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้ผณิน ธีร์ตะลึงสุด ๆ แต่ยังไม่ทันพูดอะไรต่อวิภัชก็มาตาม ธีร์บอกป้าไม่ให้บอกใครว่าเขายังมีชีวิตอยู่

บุรินทร์โทรบอกเผดิม เรื่องธีร์ยังมีชีวิตอยู่ เผดิมหงุดหงิดมากและตำหนิบุรินทร์ที่งานพลาด และบ่นถึงความยากในการฆ่าคนแค่คนเดียว บุรินทร์สวนกลับอย่างขัน ๆ ว่าการฆ่าคนไม่ยากเท่ากับการจะเอาเงินที่คนจะเอาไม่มีสิทธิ์จะได้ ขนาดไม่มีใครสงสัยเรื่องพินัยกรรมปลอมด้วยซ้ำ ยังเอาไม่ได้เลย เผดิมหัวเสีย

ผณิน มาหาเผดิมอย่างหัวเสียเช่นกัน เธอถามพ่อว่าพ่อไปทำอะไรธีร์ เขาถึงไม่กลับบ้าน เธอสงสัยว่าพ่อจะสั่งฆ่าธีร์ เผดิมจึงหลุดปาก ออกมาว่าบริรักษ์พบธีร์ ผณินว่าพ่อใจร้ายที่ร่วมมือกับบุรินทร์ฆ่าธีร์อีกคน ทั้ง ๆ ที่ธุมพ่อธีร์ก็ (ถูกฆ่า) ตายไปคนหนึ่งแล้ว ผณินเลยโดนพ่อตบ แต่เธอก็ขู่พ่อว่าหากธีร์ตายเธอจะบอกตำรวจว่าพ่อคบคิดกับบุรินทร์ฆ่าธีร์ และความนี้ก็ถูกถ่ายทอดจากเผดิมถึงบุรินทร์ บุรินทร์จึงสั่งบริรักษ์ว่าไม่ต้องฆ่าธีร์แล้ว บริรักษ์โล่งไปเพราะเขาเองไม่เคยมีความคิดอยากจะฆ่าใครเลย แต่จำยอมทำเพราะพ่อสั่ง บุรินทร์ให้บริรักษ์บอกเครือออนว่าไม่ให้พาธีร์ไปที่รีสอร์ต เพราะเผดิมบอกว่าผณินจะมาตามหาธีร์ที่แม่ฮ่องสอน และหากเป็นเช่นนั้นเรื่องอาจจะถึงตำรวจได้ บริรักษ์จึงต้องไปหาทางหว่านล้อมเครือออน แต่เครือออนโทรไปกึ่งอ้อนกึ่งบังคับบุรินทร์ด้วยตนเองว่าจะพาเพื่อนไปค้าง ด้วย แล้วก็ไม่ฟังคำตอบด้วยว่าได้หรือไม่ได้

ระหว่างการท่องที่ ยวช่วง 2 – 3 วัน ธีร์ทำให้บริรักษ์ทั้งเขม่น และหึงหวงได้ตลอดเพราะเครือออนคุยกับธีร์อย่างถูกคอ และธีร์ก็ดูเหมือนจะอ้อนเครือออนเหลือเกิน แต่จริง ๆ แล้วธีร์พยายามทำตัวเป็นนายโชคให้สนิทแนบเนียน เพราะเขาหลุดจนเครือออนสะดุดใจหลายครั้งว่าเขาอาจจะไม่ได้ลืมความจำจริงๆ ก็ได้ และอีกอย่างธีร์ประจบเพื่อให้เครือออนพาเขาไปที่รีสอร์ตของเธอด้วย เพื่อการสืบหามูลเหตุที่บุรินทร์และบริรักษ์อยากฆ่าเขา

ก่อนกลับรี สอร์ต ธีร์โกนหนวดเคราสะอาดเอี่ยม เว้นแต่ผมเท่านั้นที่ยังปล่อยให้ยาวอยู่ และก่อนเดินทางเข้ารีสอร์ต ธีร์ได้โทรศัพท์หาป้าเทวีอีกครั้งหนึ่ง ถามเรื่องพินัยกรรมที่ระบุว่าเขายกทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้ผณิน ป้าเทวีบอกว่าเผดิมเป็นคนบอก แต่ตอนนี้ผณินเองบอกป้าว่าเธอไม่สนใจพินัยกรรมแล้ว เพราะรู้มาแล้วว่าธีร์ยังไม่ตาย และยังชวนป้าไปหาธีร์ที่แม่ฮ่องสอนอีกด้วย ธีร์ไม่ให้ป้าไปเขาบอกว่าเขาจะรีบกลับกรุงเทพฯเร็วที่สุด เขาบอกป้าด้วยว่าเขาไม่เคยทำพินัยกรรมยกสมบัติให้ผณิน พินัยกรรมนั้นเป็นพินัยกรรมปลอม

แล้วธีร์ก็ได้มาถึง “พวงเครือรีสอร์ต” และได้พบกับพ่อเลี้ยงบุรินทร์ เขาไม่ไหว้บุรินทร์ ทำให้เครือออนออกจะขัดใจ เพราะถึงเธอจะใจดีกับเขา เธอก็แค่จัดเขาไว้เป็นคนพเนจร ไม่ถึงกับเป็นระดับเดียวกับเธอหรือบุรินทร์หรือบริรักษ์

บุรินทร์ด่า บริรักษ์ที่ปล่อยให้เครือออนพาธีร์มาที่รีสอร์ตด้วย เขาสงสัยว่าธีร์จะมาอยู่เพื่อหาหลักฐานเอาเขาสองพ่อลูกเข้าคุก บุรินทร์ให้บริรักษ์ จัดการให้ธีร์พ้นไปจากรีสอร์ตไม่ว่าจะด้วยการไล่หรือการฆ่า บริรักษ์เลือกการไล่เพราะเขาไม่ชอบฆ่าคน แต่เขาก็กังวลว่าเครือออนจะเป็นอุปสรรค เพราะดูเครือออนพอใจจะให้ธีร์อยู่ที่รีสอร์ต บุรินทร์ย้ำให้บริรักษ์รีบกำจัดธีร์ไปให้พ้น ๆ โดยเร็วไม่งั้นชาตินี้ทั้งชาติบริรักษ์จะไม่มีวันชนะใจเครือออน

บุรินทร์ มีศักดิ์เป็นพ่อเลี้ยงของเครือออน เขาแต่งงานกับพวงเครือแม่ของเครือออน หลังจากพ่อของเครือออนเสียชีวิตเพราะถูกยิง ตอนนั้นเครือออนยังเด็ก บริรักษ์เป็นลูกภรรยาเก่าของบุรินทร์ เขาแก่กว่าเครือออนนิดหน่อย เครือออนจึงเรียกเขาว่าพี่ และมีความรู้สึกเหมือนเขาเป็นพี่จริง ๆ แต่บริรักษ์รักเครือออนอย่างชู้สาว แต่เขาไม่หักหาญน้ำใจเธอ เพราะเขารักเธอจริง เมื่อพวงเครือตาย เธอทำพินัยกรรมแบ่งกรรมสิทธิ์ในรีสอร์ตให้เครือออนครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งให้บุรินทร์และบริรักษ์ และระบุว่าหากเครือออนเสียชีวิตก็ให้กรรมสิทธิ์ส่วนของเธอเป็นของบุรินทร์ และบริรักษ์ แต่หากบุรินทร์ และบริรักษ์เสียชีวิตก็ให้ส่วนของสองพ่อลูกเป็นของเครือออน

บุรินทร์ นั้นคิดจะรวบหัวรวบหางเครือออนเป็นเมียหลังจากที่แม่เครือออนตาย แต่ก็ติดอยู่ที่บริรักษ์รักเครือออน เขาจึงยอมบริรักษ์ แต่ก็เขม่นลูกชายอยู่ทุกวันที่ไม่คิดจะรวบหัวรวบหางเครือออนเสียไวๆ บุรินทร์เป็นคนโลภและเป็นคนเหี้ยมเพราะเมื่อก่อนเขาจนไม่มีสมบัติอะไรเลย เพิ่งมารวยเมื่อเป็นสามีของพวงเครือ และที่เหี้ยมเพราะเขาเคยรับจ้างฆ่าคนมาก่อน และที่เขาได้แต่งงานกับแม่ของเครือออน ก็เพราะเขาสั่งฆ่าพ่อของเครือออนอย่างแนบเนียน จนดูเหมือนพ่อเครือออนโดนลูกหลงกระสุนปืนนักเลงตาย ดังนั้นเมื่อเผดิมเพื่อนสนิทขอให้เขาวางแผนฆ่าธีร์ เขาจึงทำให้ แต่ก็ไม่นึกเลยว่าจะไม่สำเร็จ

เครือออนให้วิภัชและธีร์พักที่เรือน ส่วนตัวของเธอ และให้ธีร์ทำงานที่ร้านขายของที่ระสึกของรีสอร์ตโดยเป็นผู้ช่วยของบัวสร้อย สาวชาวบ้านผู้สวยมาก ๆ จนเป็นที่หมายปองของชายทุกคนที่รีสอร์ตนี้ รวมทั้งบุรินทร์ด้วย แต่ผู้ที่ตามจีบบัวสร้อยจริงจังคือนายบุญหัวหน้า รปภ. ธีร์ได้รู้ต่อมาว่าสร้อยเป็นม่าย สามีหายตัวไปเมื่อเกือบสองเดือนมานี่เอง และเธอมีลูกเล็ก ๆ 2-3 คน ธีร์ฉุกใจนึกถึงคำที่ชายสองคนพูดถึงนักบินตอน ฮ.ตก คนหนึ่งธีร์มั่นใจว่าเป็นนายบุญ เพราะเขาจำเสียงได้ ธีร์ถามจนรู้ว่าสามีของสร้อยชื่อเข้ม และเป็นนักบินสำรองของรีสอร์ต ธีร์โยงเรื่อง ฮ.ตกกับพินัยกรรมปลอมเข้าด้วยกัน และเขาแน่ใจว่าตัวการใหญ่ที่เป็นคนสั่งฆ่าเขาคือเผดิม บุรินทร์กับบริรักษ์เป็นเพียงผู้รับคำสั่งเท่านั้น ธีร์บอกวิภัชว่าเขาอยากให้เผดิมลงมืออีกครั้ง เพื่อที่เขาจะมีหลักฐานแน่ชัด หรือไม่งั้นเขาก็ตายไปเลยจะได้จบเรื่องกันเสียที

ในฐานะนายโชค ลูกจ้างรีสอร์ต ธีร์มีผลงานที่น่าพอใจมาก เขาเก็บหินรูปร่างแปลก ๆ จากแม่น้ำลำธารมาเพ้นต์รูปต่าง ๆ ขายนักท่องเที่ยว และขายดีมากจนต้องขยายไปเพ้นต์อย่างอื่นด้วย เช่น หมวก พัด ฯลฯ ธีร์เอาหินมาต่อกันเป็นรูปคนและเพ้นต์เป็นรูปหญิงสาว เครือออนชอบมาก ธีร์ให้เธอเป็นที่ระลึก ความผูกพันและเยื่อใยทางใจของหนุ่มสาวคู่นี้เริ่มขึ้นอย่างเงียบ ๆ และนุ่มนวล แต่เครือออนสงสัยตลอดเวลาว่านายโชคต้องมีอะไรบางอย่างปกปิดอยู่ เพราะเธอออกจะแน่ใจแล้วว่าเขาโกหกเรื่องลืมความจำ แต่เธอคิดว่าเขาคงไม่ใช่คนร้าย

ผณินโทรหาบุรินทร์แต่เจอบริรักษ์แทน บอกว่าเธอจะมารับธีร์กลับกรุงเทพฯ เพราะรออยู่นานแล้ว ทางบุรินทร์ก็ไม่ส่งธีร์กลับเสียที บริรักษ์บอกว่าธีร์บอกว่าลืมความจำ ผณินบอกว่าธีร์เห็นหน้าเธอแล้วอาจระลึกความหลังได้ก็ได้ และเธอจะเอาหลักฐานบางอย่างมายืนยันให้ธีร์เชื่อด้วยว่าธีร์เป็นใครและผณิน เป็นใคร ผณินมั่นใจนักหนาว่าหลักฐานนั้นจะผูกมัดธีร์จนดิ้นไม่หลุดแน่ ๆ

วัน ลอยกระทงเครือออนชวนวิภัชและธีร์ไปเที่ยวงานในตัวเมืองแม่ฮ่องสอนแต่ช่วง กลางวันที่รีสอร์ตมีเรื่องยุ่ง เพราะธีร์ไปด่าฝรั่งที่มาดูถูกบัวสร้อย และฝรั่งคนนั้นไปบอกบริรักษ์ซึ่งเป็นผู้จัดการรีสอร์ตให้ชำระความและไล่ธี ร์ออก เครือออนรู้เรื่องเธอไปปกป้องธีร์ บริรักษ์ทำอะไรธีร์ไม่ได้ แต่ธีร์ก็ออกจากงาน เพราะเครือออนให้ออกเอง เครือออนบอกว่าให้นายโชคพ้นสภาพลูกจ้างแต่อยู่ที่รีสอร์ตต่อไปในฐานะแขกของ เธอ บริรักษ์อึ้งสุดที่จะอึ้ง เขารู้ชัดแล้วว่าเครือออนมีใจให้ธีร์ ส่วนเครือออนก็ยิ่งสงสัยเรื่องการลืมความจำของธีร์ เพราะเขาพูดภาษาอังกฤษออกปร๋อ ธีร์พยายามพูดเบี่ยงเบนไปว่าเขาอาจลืมความจำเกี่ยวกับตัวเองเท่านั้น อาจเป็นเพราะเขาเคยเจอเหตุอะไรร้ายแรงจนสมองสั่งให้ลืม เครือออนเออออว่ามันอาจเป็นไปได้

และคืนลอยกระทงนี้เอง ที่ธีร์มีโอกาสสารภาพรักกับเครือออน และท่าทางเครือออนก็ดูจะรับรักเขาด้วยแม้จะยังไว้ท่าอยู่บ้างตามแบบฉบับอัน ดีของสตรี ธีร์มีความสุขยิ่งนัก เขาคิดว่าจะต้องรีบโทรศัพท์บอกป้าเทวีให้ส่งผู้ใหญ่ไปทาบทามขอเครือออน แต่ความฝันของธีร์ก็พังครืน เมื่อกลับจากลอยกระทงไปที่รีสอร์ตและพบว่าผณินรอเขาอยู่แล้ว ผณินแสดงความเป็นคนรักเก่าและเป็นเจ้าเข้าเจ้าของธีร์จนเครือออนใจแป้ว และเมื่อผณินเอาภาพถ่ายคู่ของเธอกับธีร์มาแสดง ทั้งธีร์และเครือออนก็อึ้ง เพราะมันเป็นภาพของทั้งคู่ในชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ยิ้มแย้มมีความสุขยิ่ง เครือออนใจหายจนสุดที่จะทนร่วมวงสนทนาต่อไปได้ วิภัชเองก็ยัวะธีร์ยิ่งนัก

ธีร์ ไม่ใยดีผณินเลย เขารีบตามไปชี้แจงและเล่าเรื่องแต่หนหลังทั้งหมดให้เครือออนฟัง และเครือออนก็ดูเหมือนว่ายอมฟังเขาแต่ผณินก็ไม่มีวันยอมปล่อยธีร์ ซึ่งเป็นขุมสมบัติมหาศาลของเธอ เธออยู่ที่รีสอร์ตและก่อกวนธีร์กับเครือออนทุกวิถีทาง บุรินทร์เองก็เห็นว่าเครือออนขุมสมบัติของเขาทำท่าว่าจะหลุดมือไปเขาจึงเร่ง ให้บริรักษ์รวบหัวรวบหางเครือออน บริรักษ์ปฏิเสธ เขารักเครือออนเกินกว่าจะทำให้เธอช้ำใจได้ แต่คราวนี้บุรินทร์มาแปลก เขาไม่ด่าว่าบริรักษ์เท่าที่ควร แต่หน้าตาเขามีเลศนัยบางอย่างแฝงอยู่

บุรินทร์ วางแผนรวบหัวรวบหางเครือออนเสียเอง เขาชวนผณินร่วมมือด้วย ผณินยอมเพราะเธอคิดว่าจะได้ธีร์กลับคืน ผณินไปล่อเครือออนไปพบบุรินทร์ ที่เรือนของบุรินทร์ แต่ขณะที่เครือออนถูกลากตัวเข้าห้องลับ คำแพงสาวใช้เห็นเข้าจึงไปบอกบริรักษ์ ส่วนผณินเมื่อกะเวลาว่าบุรินทร์น่าจะเผด็จศึกเครือออนเรียบร้อยแล้ว เธอจึงไปบอกธีร์ ธีร์กับวิภัชรีบตามไปช่วยเครือออน แต่บริรักษ์ไปช่วยได้ก่อนแล้ว ธีร์ขอบใจบริรักษ์ แต่บริรักษ์บอกว่าเขาขอเปลี่ยนเป็นคำว่าอโหสิ ธีร์เข้าใจถ่องแท้ว่าบริรักษ์ขออโหสิเขาเรื่องลวงเขาไปฆ่า ธีร์บอกอโหสิให้บริรักษ์

ส่วนพ่อเลี้ยงบุรินทร์ ด้วยเหตุที่เมาและอารมณ์ค้างจากเครือออน เมื่อบัวสร้อยบังเอิญไปหาเขาเพื่อลางาน เขาจึงปลุกปล้ำบัวสร้อย แต่คำแพงเห็นและไปตามบริรักษ์มาช่วยไว้ทันอีก แต่คราวนี้บริรักษ์ไม่ได้มาคนเดียว เขาพานายบุญหัวหน้า รปภ. และ รปภ.อีกคนมาด้วย บุรินทร์จึงโชคร้ายยิ่งนักเมื่อบุญมาเห็นสร้อยในสภาพเปลือยและเกือบจะเสียที บุรินทร์ ดังนั้นเมื่อบริรักษ์ขับรถพาบุรินทร์เข้าเมือง บุญจึงขี่มอเตอร์ไซด์ตามไปประกบหมายฆ่าบุรินทร์ แต่บุญยิงพลาดไปโดนบริรักษ์แทน รถของบริรักษ์จึงเสียหลักตกเหว บุรินทร์และบริรักษ์เสียชีวิตทั้งคู่

ธีร์สมหวังในรักกับเครือออน แม้ว่ากว่าจะสมหวังเขาต้องเล่นเอาล่อเอาเถิดกับผณินเสียจนเหนื่อยหน่ายก็ตาม ธีร์ยกบ้านของเขาให้ผณิน เพราะเขาตั้งใจจะใช้ชีวิตกับเครือออนที่แม่ฮ่องสอนตลอดไป

นักแสดงละคร ฆาตกรกามเทพ
1. ณัฐวุฒิ สกิดใจ รับบทเป็น ธีร์
2. สุวนันท์ คงยิ่ง รับบทเป็น เครือออน
3. วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ รับบทเป็น วิภัช
4. ณัฐนันท์ คุณวัฒน์ รับบทเป็น รักษ์
5. สุธิตา เกตานนท์ รับบทเป็น พณิณ
6. ทูน หิรัญทรัพย์ รับบทเป็น เผดิม
7. อลิษา ขจรไชยกุล รับบทเป็น ถนอมศรี
8. อนุสรณ์ เดชะปัญญา รับบทเป็น บุรินทร์
9. กรองทอง รัชตะวรรณ รับบทเป็น สร้อย
10. ธัญญรัตน์ โลหะนันท์ รับบทเป็น เทวี
11. ธีรวัฒน์ ทองจิตติ รับบทเป็น ป๊อบ
12. จาตุศิริ คชหิรัญ รับบทเป็น แอ้ม

เงาใจ



ไทดีพาร์ทเมนท์สโตร์เป็นห้างของคนไทยห้างเดียวที่ยังคงเหลืออยู่ในปัจจุบัน บริหารงานโดยตระกูลวุฒิธรรมคือ คุณวิทย์ และ วาทิต ลูกชายบุญธรรม วาทิตเป็นผู้บริหารที่มีความสามารถ หากแต่เป็นคนเอาแต่ใจตัวเองอย่างรุนแรง ไม่ชอบให้ใครขัดใจ ด้วยความสามารถของวาทิตทำให้ห้างฯ ขยายตัวต่อเนื่องท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ แต่วาทิตมีโรคประจำตัวคือโรคหัวใจต้องได้รับการดูแลจากหมออย่างใกล้ชิด คุณวิทย์เป็นกังวลกับอาการป่วยของวาทิตเป็นอย่างมาก เพราะหากวาทิตเป็นอะไรไป ความเชื่อมั่นของผู้ถือหุ้นจะหมดไปทันที

ความเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ของวาทิต ทำให้มีสาวๆ หลงใหลในตัวเขามากมายหนึ่งในจำนวนนั้นคือ กินรี บุตรสาวของ กิจจา แพทย์ประจำตัวของวาทิต กินรีพยายามเอาชนะใจเขาตลอดแต่ไม่เป็นผล เธอได้แต่หวังว่าวันหนึ่งวาทิตจะเห็นความดียอมรับรักเธอบ้าง แต่วาทิตมองเห็นกินรีเป็นเพียงเพื่อนเท่านั้น เขาหลงรักแต่เพียง เมทินี บุตรสาวของ คุณมณี ญาติห่างๆ ของคุณวิทย์

เมทินีรักอยู่กับอังกูร ซึ่งดูภายนอกเป็นคนอ่อนหวาน ตั้งใจทำงาน หากแต่ความจริงแล้วเขามีความแค้นฝังลึกอยู่กับตระกูลวุฒิกรรม พ่อของเขาเป็นหนึ่งในผู้บริหารยุคบุกเบิกของห้างไท แต่โดนคุณวิทย์ไล่ออกเพราะขัดแย้งทางธุรกิจจนต้องตรอมใจตาย ทิ้งให้อังกูรอยู่กับแม่แต่เล็ก อังกูรตั้งใจว่าวันหนึ่งจะต้องยึดธุรกิจนี้มาเป็นของตัวเองให้ได้

คุณวิทย์มาหาคุณมณีเพื่อขอร้องให้เมทินีแต่งงานกับวาทิต โดยมีข้อเสนอจะสนับสนุนไมตรี น้องชายเมทินีเรียนจนสำเร็จในระดับมหาวิทยาลัย แต่เมทินีตอบปฎิเสธเพราะเงินไม่มีวันซื้อหัวใจเธอได้ เธอรักกับอังกูรไม่มีวันจะเลิกกับเขา

คุณวิทย์ไม่อยากให้วาทิตผิดหวัง เขาจึงเรียกอังกูรเข้ามาพบและยื่นข้อเสนอให้เข้าทำงานในตำแหน่งสูงของไทดีพาร์ทเมนท์สโตร์ โดยแลกกับการเลิกกับเมทินี อังกูรเห็นเป็นโอกาสที่จะเล่นงานตระกูลวุฒิธรรมและแย่งบริษัทกลับมา เขาจึงตอบตกลง

อังกูรบอกเลิกกับเมทินีโดยให้เหตุผลว่าเพื่ออนาคตของเธอและเขา ทั้งสองสัญญาว่าจะยังรักกัน แม้ไม่มีโอกาสร่วมชีวิตก็ตาม เมทินีจำต้องยอมแต่งงานกับวาทิตทั้งน้ำตาทรัพย์สมบัติทั้งหมดต้องตกเป็นของเมทินี เขามั่นใจว่าด้วยความรักที่เมทินีให้เขา เธอต้องแต่งงานใหม่กับเขาแน่นอน

ที่ไร่สงบแห่งหนึ่งในจังหวัดราชบุรี รุทรทำงานคุมฟาร์มปศุสัตว์ของ จำนง เพื่อนของเขาอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย โดยหวังว่าจะทำให้ลืมความผิดหวังที่ บุษบัน คนรักซึ่งไปเรียนต่อเมืองนอกแต่งงานกับ ระวี นักธุรกิจชาวไทยในอเมริกา

รุทรแปลกใจที่ อนุวัตรและ จำนง เอารูปงานหมั้นระหว่างวาทิตกับเมทินีมาให้ดู เพราะวาทิตหน้าเหมือนเขาราวกับเป็นคนๆ เดียวกัน คุณแรม เมื่อเห็นรูปก็ดีใจและเล่าเรื่องราวในอดีตเกี่ยวกับวาทิต ลูกชายฝาแฝดที่เธอยกให้นายวิทย์เพราะความยากจนให้ฟัง รุทรจึงเข้าใจและทราบว่าเขายังมีพี่น้องฝาแฝดอยู่อีกคนหนึ่ง

ในวันแต่งงานของเมทินีกับวาทิต อังกูรนำของขวัญมาให้เมทินีเพื่อเป็นการระลึกถึงซึ่งกันและกัน วาทิตโรคหัวใจกำเริบเมื่อเห็นของขวัญอังกูร เป็นจี้พร้อมสร้อยรูปหัวใจ เขาล้มคว่ำลงจนต้องนำส่งโรงพยาบาลทันที

เมทินีรู้สึกผิดที่ทำให้วาทิตล้มป่วย กินรีมาเยี่ยมวาทิต เมื่อเธอรู้สาเหตุที่แท้จริงเธอยิ่งโกรธที่เมทินีเห็นคนอื่นดีกว่าสามีตัวเอง กินรีเฝ้าดูแลวาทิตด้วยความเป็นห่วง เมทินีได้แต่มองกินรีอย่างเห็นใจ

อังกูรเข้าทำงานในไทดีพาร์ทเมนต์สโตร์ สร้างฐานอำนาจให้ตัวเองโดยดึง วินิจผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อไว้เป็นพวกและร่วมกันโกงบริษัท อาศัยช่วงที่คุณวิทย์ยุ่งกับการป่วยของวาทิต ในช่วงนี้อังกูรเข้ามาใกล้ชิดกับเมทินี โดยไม่กลัวว่าจะน่าเกลียดเลยแม้แต่น้อย

เมื่ออังกูรรู้ว่าอาการป่วยของวาทิตเริ่มกระเตื้องขึ้น เขาจึงเริ่มแผนการชั่วร้ายทันที อังกูรลอบเข้าไปในโรงพยาบาล ลอบวางยาทำให้วาทิตหัวใจวายอย่างเลือดเย็น ก่อนจะเดินหายออกไปอย่างไร้ร่องรอย พอคุณวิทย์มาเยี่ยมวาทิต เขาต้องตกใจมากเมื่อพบว่าวาทิตสิ้นลมด้วยอาการคล้ายโรคหัวใจกำเริบ คุณวิทย์กลัดกลุ้มมากเพราะด้วยสถานการณ์ทางธุรกิจ ผู้ถือหุ้นจะรู้ว่าวาทิตตายไม่ได้เป็นอันขาด อีกทั้งเขายังสงสัยว่ามีคนลอบทำร้ายวาทิตให้เสียชีวิตอีกด้วย

คุณวิทย์นึกถึงรุทรพี่ชายฝาแฝดของวาทิตขึ้นมาได้ทันที เขารีบเดินทางไปราชบุรีเพื่อนำรุทรมาแทนวาทิต ตอนแรกรุทรไม่ยอม แต่เพราะคุณแรมล้มป่วยด้วยโรคไตซึ่งต้องใช้เงินรักษาเป็นจำนวนมาก ทำให้รุทรยอมตกลงทำงานให้วิทย์ในที่สุด

รุทรในฐานะวาทิตกลับมาบ้านพร้อมกับคุณวิทย์ ทุกคนในบ้านต้อนรับด้วยความยินดี ในขณะที่เมทินีรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในตัววาทิตเริ่มหาทางจับผิด

รุทรไม่พอใจเมทินีเมื่อเห็นเธอสนิทสนมกับอังกูร ทั้งๆ ที่ยังแต่งงานแล้ว ทั้งสองมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง ทุกครั้งสร้างความแปลกใจให้เมทินีมากยิ่งขึ้น เพราะบุคคลิกของรุทรต่างจากวาทิต เขาเป็นมิตรกับทุกคนในบ้านพูดคุยกับทุกคนอย่างอารมณ์ดี

วันหนึ่งขณะไปเยี่ยมคุณมณีที่บ้านสวน เขาบอกให้เมทินีพาคุณมณีกับไมตรีมาอยู่ด้วยกัน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นวาทิตไม่อยากจะให้แม่กับน้องเธอมาอยู่ที่บ้าน เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความประทับใจให้กับเมทินีอย่างบอกไม่ถูก เธอเริ่มมีความรู้สึกดีกับรุทรมากขึ้น

อังกูรผิดหวังที่วาทิตไม่ตาย เริ่มสงสัยในตัวรุทรเพราะเมื่อกลับมาทำงานแล้วไม่เหมือนวาทิตคนเดิม รุทรไม่รู้เรื่องธุรกิจเลยจึงทำให้อังกูรเกือบจับผิดได้หลายครั้ง เขาได้กินรีคอยช่วยเหลือแนะนำอยู่เสมอ จึงทำให้พ้นความสงสัยของผู้บริหารคนอื่นๆ ไปได้ ความสนิทสนมระหว่างกินรีกับรุทรมีมากขึ้น จนบางครั้งเมทินีรู้สึกหึงหวงโดยไม่รู้ตัว

อังกูรเริ่มแผนชั่วของตัวเองต่อไป เขาได้เสียกับ รวย เลขาของคุณวิทย์เพื่อใช้ขโมยข้อมูลของบริษัทมาให้เขากับวินิจ ทั้งสองคนยักยอกเงินบริษัทไปได้หลายล้านบาท รวยร่วมมือกับอังกูรเพราะเขาให้สัญญาว่าจะจริงจังกับเธอ ในระหว่างนี้รวย
เกือบจะมีปากเสียงกับเมทินีหลายครั้งเพราะความหึงหวงอังกูร ดีแต่ว่าอังกูรมาห้ามไว้ทัน

รุทรจำเป็นต้องไปเยี่ยมแม่ซึ่งป่วยอยู่ที่ราชบุรีบ่อยๆ ยิ่งเพิ่งความสงสัยให้เมทินีมากขึ้น เพราะเธอไม่เคยเห็นวาทิตออกต่างจังหวัดเลยตั้งแต่คบกันมา มีครั้งหนึ่งที่เธอสะกดรอยตามเขาไป แต่พลาดกันเพราะกินรีเข้ามาขัดขวางไว้

กินรีลอบตามรุทรต่อไปจนถึงไร่ที่ราชบุรี เธอบังคับให้รุทรเล่าความจริงทั้งหมด กินรีบอกกับรุทรว่าเธอสงสัยเมทินีจะร่วมกับอังกูรกำจัดวาทิต เพื่อครอบครองบริษัทไว้เป็นของตัว แต่รุทรไม่อยากจะเชื่อขอพิสูจน์ด้วยตัวเอง

ธุรกิจดีพาร์ทเมนต์สโตร์เกิดการแข่งขันอย่างรุนแรง ระวีนักธุรกิจชาวไทยสัญชาติอเมริกันติดต่อขอซื้อหุ้นร่วมทุนกับคุณวิทย์ ในการติดต่อครั้งนี้ทำให้บุษบันได้พบกับรุทร เธอยังคงจำเขาได้ เธอเชื่อมั่นว่าเขาคือรุทรไม่ใช่วาทิตตามที่กล่าวอ้าง

การติดต่อเจรจาล้มเหลว คุณวิทย์ไม่ยอมขายหุ้นให้กับระวี ระวีจึงคิดหาทางรวบธุรกิจของคุณวิทย์โดยไม่ถูกต้อง เขาเจรจากับอังกูรเพื่อร่วมกันกำจัดรุทรและวิทย์ให้พ้นทาง บุษบันมาบอกกับรุทร ขอหนีไปอยู่ที่ไร่ราชบุรีเพื่อหนีจากระวี เพราะเธอทนกับพฤติกรรมความเจ้าชู้ของระวีไม่ได้อีกแล้ว ด้วยความรักที่เคยมีให้บุษบันทำให้รุทรยอมเล่าความจริงให้บุษบันฟังและรับปากว่าจะช่วยเหลือเธอ

เมทินีเอาเรื่องวาทิตตัวปลอมไปปรึกษากับอังกูร อังกูรจึงบอกให้เธอร่วมมือกับเขาเปิดโปงว่ารุทรไม่ใช่ตัวจริง อังกูรบอกกับระวีสืบหาหลักฐานเพื่อมัดตัวรุทรและกล่าวหาว่าเขาเป็นคนฆ่าวาทิต

ในวันที่รุทรพาบุษบันไปราชบุรี เมทินีตามไปด้วยและรู้ความจริงว่าเขาไม่ใช่วาทิต เธอโกรธมากและขอแยกทางกับเขา รุทรพยายามพูดให้เมทินีเข้าใจ แต่เธอไม่ยอมฟัง เธอคิดว่ารุทรฆ่าวาทิตเพื่อหวังผลประโยชน์ทางธุรกิจ

กลับมากรุงเทพฯ เมทินีหาทางเข้าพบคุณวิทย์เพื่อบอกความจริงทั้งหมด แต่คุณวิทย์ติดประชุม เธอจึงกลับมาที่บ้านพร้อมกับจัดกระเป๋าเสื้อผ้ากลับไปอยู่ที่บ้านสวน รุทรตามไปง้อเมทินีแต่เธอไม่ยอม ด้วยโทสะทำให้รุทรลวนลามกอดจูบเมทินีเพราะเธอด่าว่าหาว่าเขาเป็นคนเลว เมทินีตบหน้าเขาอย่างจังไล่ให้รุทรกลับบ้าน รุทรกลับไปพร้อมกับหัวใจที่แตกสลาย

ในเวลาเดียวกันนั้นเองคุณวิทย์กลับมาบ้านและถูกลอบยิงจนเสียชีวิต อังกูรอ้างเป็นผู้หวังดีโทรบอกตำรวจว่ารุทรเป็นวาทิตตัวปลอม ตำรวจรวบรวมหลักฐานทั้งหมดระบุว่ารุทรคือผู้ต้องสงสัยฆ่าสองพ่อลูกเพื่อหวังสมบัติ

รุทรเกือบจะแย่โดนตำรวจดำเนินคดี ดีที่เมทินียืนยันได้ว่าเขาอยู่กับเธอในเวลาเกิดเหตุ รุทรจึงไม่โดนตำรวจจับ

ต่อมาด้วยความช่วยเหลือของบุษบัน กินรีและเมทินี ทำให้รุทร สามารถเปิดโปงได้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดคืออังกูรและระวี

หลังเปิดพินัยกรรม คุณวิทย์ยกทรัพย์สินทั้งหมดให้กับเมทินี รุทรลาเมทินีกลับไปยังฟาร์มราชบุรี แต่เมทินีขอร้องให้เขาทำหน้าที่วาทิตต่อไป แต่รุทรปฎิเสธเพราะเขาต้องการกลับไปดูแลคุณแรมที่ป่วยเป็นโรคไต เมทินีเข้าใจรุทรสัญญาว่าจะเป็นเงาใจซึ่งกันและกันตลอดไปทำให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี



ดั่งสวรรค์สาป



ดาหวัน ลูกสาว ทวี นักธุรกิจที่ร่ำรวย เลี้ยงลูกตามใจทุกอย่าง มีนิสัยดื้อรั้น โดยเฉพาะเรื่องผู้ชายมักหว่านเสน่ห์ไปทั่ว ทวีก่อนเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุได้ ทำพินัยกรรมให้ดาหวันหมั้นและแต่งงานกับ กานต์ บุตรของ ประจวบ เป็นเพื่อนรัก กับทวี กานต์มี ครองขวัญ เป็นคนรักอยู่แล้ว แต่ก็ต้องรับหมั้นตามใจบิดา การหมั้น ผ่านไป 2 ปี ดาหวันก็ยังคบผู้ชายอื่นโดยไม่สนใจกานต์ ดาหวันเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ ฟื้นขึ้นมาจำความไม่ได้ ป้าพรรณี พร้อมลูกสาว รุจิกา และ อา วีรอร พร้อมลูกสาว เพียงนภา ยินดีที่ดาหวันความจำเสื่อม เพียงนภาเกลียดชังดาหวันมากที่ อติเทพ คู่รักเธอเปลี่ยนไปชอบดาหวัน เห็นว่ารวยกว่า เพียงนภาพยายามขอคืนดีกับอติเทพ อติเทพไม่ใยดียืนยันว่ารักดาหวัน อรอุมา น้องสาวอติเทพสนับสนุนให้พี่ชายชอบดาหวัน เพื่อความสุขสบายของเธอ คมกริช บุตรชายของ สิทธิ เป็นเพื่อนกับทวี ก็แอบชอบดาหวัน
ดาหวันจำความไม่ได้ นมมาลัย เลี้ยงดาหวันมาตั้งแต่มารดาเธอเสียชีวิตคอยเล่า ความเป็นมาและบุคคลที่เกี่ยวข้องให้ฟัง ป้าพรรณีเห็นดาหวันจำไม่ได้คิดให้ ธวัส ลูกชาย คนโตที่ดูแลกิจการฮุบกิจการ แต่ธวัสไม่เห็นด้วย ด้วยความดีของลุงทวี ที่ให้ที่อยู่อาศัย พร้อมที่ทำงาน ธวัสถูกมารดาบังคับไปทุกเรื่อง รวมทั้งยุให้จีบเจนจิรา ครองขวัญมาหา ดาหวันขอให้เธอถอนหมั้นกับกานต์ ประจวบบิดาของกานต์ตัดปัญหาด้วยกำหนดวัน แต่งงานให้ทั้งคู่ อรอุมาคิดจับธวัสคอยหาโอกาสใกล้ชิดให้ท่าผู้ชายจนเกินงาม ธวัสเอง ก็รู้ว่าอรอุมาชอบตน
ข่าวการแต่งงานของดาหวันรู้ถึงป้าพรรณี เธอยุให้รุจิกาชอบนที หวังเป็นที่พึ่ง ถ้าถูกไล่ออกจากบ้าน ในขบวนญาติของดาหวัน เพียงนภาแสดงเป็นศัตรูกับดาหวัน อย่างเปิดเผยที่สุด กานต์กับอติเทพเจอกันก็ปะทะคารมกันทุกครั้ง ส่วน เพียงนภากับรุจิกาทั้งคู่สนิทสนมเหมือนพี่น้องแท้ๆ ก็มาแตกคอกัน เมื่อรุจิกาคอยช่วย เหลือครองขวัญให้กับมาคืนดีกับกานต์
อติเทพพยายามจะ รื้อฟื้นความจำให้ได้พาดาหวันไปที่ผับ กานต์จึงต่อว่าดาหวัน ดาหวันขอถอนหมั้น กานต์มาบอกให้บิดายกเลิกการแต่งงาน แต่บิดาไม่ยอม ยืนยันว่า ดาหวันเป็นคนดี และให้กานต์เลิกยุ่งกับครองขวัญ ดาหวันออกจากโรงพยาบาลพักฟื้น ที่บ้าน ได้ไปทำงานกับธวัสและรู้ว่าธวัสเองก็ชอบเจนจิรา อติเทพกับครองขวัญนัดเจอกันเพื่อวางแผน โดยมีรุจิการ่วมมือด้วย เพียงนภา รู้แผนการณ์ทั้งหมด รุจิกาใส่ยานอนหลับให้ดาหวันกินทุกอย่างเป็นไปตามแผนดาหวันหลับ อติเทพเข้ามาที่ห้องนอน ครองขวัญโทรบอกกานต์ กานต์เห็นทั้งคู่อยู่ในห้องนอนโกรธมากถึง กับเป็นฝ่ายถอนหมั้น นมมาลัยเข้ามาเห็นพบว่าร่างที่เปลือยบนเตียงไม่ใช้ดาหวัน แต่เป็น เพียงนภา รุจิกา ครองขวัญและอติเทพ พูดอะไรไม่ออก เพียงนภาเล่าให้กานต์ฟังทั้งหมด ว่าเป็นแผนของอติเทพ
ดาหวันไปถ่ายรูปแต่งงานกับกานต์ ถูกคุณครองขวัญพูดจากระทบตลอด จึงไปหา มารตีกับธนายง มารตียังสนับสนุนให้เธอแต่งงานกับกานต์เหมือนเดิม ป้าพรรณีให้ธวัสโกง เงินบริษัท ถ้าไม่ทำจะตัดแม่ลูก ธวัสกลุ้มใจมากไปดื่มเหล้า เจนจิราเจอจึงรู้เรื่องทั้งหมดรับ ปากว่าจะคุยกับดาหวันให้ อติเทพกับครองขวัญวางแผนกันอีกครั้ง แต่ทำไม่สำเร็จ ก่อนวันแต่งงาน ครองขวัญ กินเหล้าเมามาหากานต์ที่บ้าน กานต์ขับรถไปส่งระหว่างทางเกิดอุบัติเหตุ ครองขวัญบาดเจ็บ ต้องนอนโรงพยาบาล ส่วนกานต์ไม่เป็นไร เช้าวันแต่งงานดาหวันใส่บาตรคนเดียว กานต์มา ไม่ทัน หล่อนน้อยใจมาก ครองขวัญเกิดอุบัติเหตุนอนอยู่โรงพยาบาล นทีพี่ชายมาเฝ้าแล้วห้ามกานต์ไม่ให้มา เยี่ยมอยากให้ครองขวัญลืม ดาหวันมาแต่งตัวที่โรงแรม รุจิการู้เรื่องกานต์อยู่กับครองขวัญ เมื่อคืนแล้วเกิดอุบัติเหตุ มาเล่าให้ดาหวันฟังพร้อมกับนัดอติเทพให้โทรมาหา ออกอุบายจะฆ่า ตัวตาย ดาหวันหลงกลออกไปหาที่บ้าน นมมาลัยห้ามไว้ก็ถูกรุจิกากีดกันไม่ให้ตาม กานต์มาถึง โรงแรมรู้ว่าดาหวันออกไปหาอติเทพที่บ้านโกรธมาก ส่วนธวัสโทรไปหาเจนจิราฝากแวะรับดาหวัน กับโรงแรมด้วย เพราะบ้านอยู่ละแวกเดียวกับบ้านอติเทพ
ดาหวันมาถึงบ้านอติเทพจึงรู้ว่า ถูกหลอก อติเทพพาดาหวันขับรถออกจากบ้าน คมกริชกับเจนจิราตามมาทันพาดาหวันมาโรงแรมงานแต่งก็ดำเนินไปอย่างเรียบร้อย เมื่อคู่บ่าวสาวมาถึงบ้านก็ทะเลาะกัน กานต์กล่าวหาว่าดาหวันมีใจไปคบชู้ก่อนแต่งงานและคืนนั้น กานต์ก็รู้ว่าดาหวันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด เธอยังบริสุทธิ์ไม่ได้ผ่านชายใด เช้าวันรุ่งขึ้นเจนจิรามาหาดาหวันเล่าเรื่องป้าพรรณีให้ฟัง ดาหวันตัดสินใจเซ็นเช็คให้ป้าพรรณี กานต์กับดาหวัดไปเยี่ยมครองขวัญ แต่ครองขวัญพูดไม่รู้เรื่อง กานต์บอกกับดาหวันจะไม่ติดต่อ กับครองขวัญ และให้ดาหวันเลิกติดต่อกับอติเทพด้วย
อติเทพยังไม่ยอมแพ้มาหาครองขวัญ และบอกให้เธอคอยฟังข่าวดี รุจิกา มาเยี่ยมครองขวัญเจออติเทพทั้งคู่เถียงกัน ป้าพรรณี อาวีรอร เพียงนภา นทีรู้เรื่องที่ รุจิกาถูกอติเทพข่มขืน รุจิกาหายไปไม่กลับบ้าน ดาหวันมาปลอบป้าพรรณีที่บ้าน ระหว่างทาง ที่ดาหวันขับรถกลับบ้านมีชายวิ่งตัดหน้ารถ ดาหวันลงมาดู จึงรู้ว่าเป็นอติเทพและเธอถูกทำ ร้ายจนสลบ กานต์ขับรถมาตามเห็นรถดาหวันแต่คนขับเป็นอติเทพจึงขับตาม กานต์ตัดสินใจขับ รถชนรถอติเทพและพา ดาหวันไปโรงพยาบาล หมอบอกเธอปลอดภัยและความทรงจำของเธอ ก็กลับคืนมา เรียกหาแต่อติเทพทำให้กานต์น้อยใจที่เธอจำกานต์ไม่ได้ กานต์พยายามจะรื้อฟื้นความจำ แต่ดาหวันก็จำไม่ได้ อติเทพมาเยี่ยมรู้ว่าเธอจำอดีตได้ ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า รุจิกาได้เข้ามายิงอติเทพ เพียงนภาเข้ารับกระสุนแทนเสียชีวิตทั้งคู่ วีรอรเสียใจมากได้ระบายถึงแผนที่ตัวเองเป็นผู้ทำให้ดาหวัน เกิดอุบัติเหตุ เพื่อได้ครองสมบัติ ดาหวันได้ยินทั้งหมด เธอกรีดร้องจนสลบไปอีกครั้ง ศพอติเทพ อรอุมาน้องสาวมารับไปจัดการ รุจิกาถูกตำรวจจับ แต่เธอมีอาการทางจิต จึงต้องส่งให้หมอดูแล ดาหวันช็อตกับเหตุการณ์เมื่อฟื้นเธอจำเหตุการณ์ต่างๆได้ ดาหวันและ กานต์เข้าใจกันดี ทั้งสองสัญญาว่าจะทะนุถนอมความรู้สึกนี้ตลอดไป

ลูกไม้ไกลต้น



ลูกไม้ไกลต้น เป็นเรื่องราวของ รสา เป็นลูกสาวของนางสุภา หญิงหม้ายสามีตาย รสามีพี่ชายชื่อ มนัส ซึ่งรูปร่างหน้าตาต่างกับเธอราวกับลูกคนละพ่อละแม่ รสาสวยสง่า แต่มนัสขี้ริ้ว จนวันที่สุภาป่วยและกำลังจะตาย เธอจึงได้เรียกรสาไปสั่งความสุดท้าย คือบอกว่ารสาเป็นลูกของ คุณเฉลิม บดินทรวัชระ เจ้าของกิจการอัญมณีใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ

สุภาเคยเป็นคนใช้ในบ้านคุณเฉลิมและเขาเข้าปลุกปล้ำเธอเป็นเมีย สุภาหนีไปก่อนที่จะรู้ว่าตนเองท้อง
สุภาให้รสาไปหาคุณเฉลิม เอาแหวนที่คุณเฉลิมให้ไว้ไปแสดงตัว แต่เมื่อรสาไปหาแหวนก็พบว่าแหวนหายไปแล้ว เพราะมนัสเอาไปเสียก่อน

ชานนท์ เป็นบุตรชายของคุณพาณิช เจ้าของกิจการอัญมณีอีกคนหนึ่งของประเทศไทย ชานนท์มีความหลังฝังใจมาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ คือภาพที่กัลยา แม่บังเกิดเกล้าหนีไปกับอรุณ นายช่างผู้ควบคุมการผลิตอัญมณีในโรงงานของบิดา โดยไม่ใยดีกับเสียงร้องไห้เรียกหาแม่ของอภิรักษ์น้องชายวัย 7 ปี พ่อกลายเป็นคนเงียบเหงาเศร้าซึม อภิรักษ์น้องชายร้องไห้โหยหาอกแม่ทุกคืน

ชานนท์บ่มเพาะความเกลียดชังแม่ตลอดมาจนโต เขาให้สัญญากับตัวเองว่า ชีวิตของเขาไม่ต้องการแม่
เขา พยายามฝังหัวอภิรักษ์ว่าแม่โหดร้ายที่ทิ้งลูกเล็กๆ ไปได้ลงคอ สองคนพี่น้องเติบโตขึ้นมาโดยไม่มีแม่ มีเพียงแต่พ่อคนเดียว พ่อผู้ซึ่งไม่หาแม่เลี้ยงให้ลูก พ่อที่เลี้ยงดูสองคนพี่น้องมาจนโต ชานนท์พร่ำบอกอภิรักษ์ว่า แม้ว่าแม่จะกลับมาหา เราสองคนพี่น้องก็ต้องไม่ให้อภัยและไม่ยอมรับแม่

ชายหญิงสองคน ผู้มีความหลังฝังใจพบกันในวันหนึ่ง วันที่รสาเข้าไปหาคุณเฉลิม เพื่อจะขอร้องให้ไปขออโหสิเป็นครั้งสุดท้ายสำหรับการกระทำที่เหยียบย่ำร่าง กายและจิตใจของผู้หญิงคนหนึ่ง คุณเฉลิมเรียกหาหลักฐานแต่รสาไม่มีให้ ชานนท์ผู้ซึ่งเป็นคนรักของ ศศิกานต์ ลูกสาวคนเล็กของเฉลิมเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด
เขาระแวงสงสัยว่ารสาอาจจะ เป็นหนึ่งในขบวนการสิบแปดมงกุฎ รวมทั้ง วรรณฤดี ลูกสาวคนโต และธัชชัย สามีของวรรณฤดีด้วย แต่คุณเปรมจิตต์ภรรยาคุณเฉลิมและศศิกานต์กลับฉุกใจว่า รสาอาจเป็นลูกคุณเฉลิมจริงๆ

รสาเข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิตของชา นนท์อีกทางหนึ่ง เพราะรู้จักกับอภิรักษ์โดยบังเอิญ เนื่องจากอภิรักษ์เกือบขับรถชนรสา อภิรักษ์พึงใจในรสาตั้งแต่วันนั้น ชานนท์พยายามห้ามอภิรักษ์ว่ารสาไม่ใช่ผู้หญิงดี มีเจตนาจะหลอกลวง เพราะจนแล้วจนรอดรสาก็ไม่มีหลักฐานมาแสดงตัว มีเพียงแต่คำพูดยืนยันกับคุณเฉลิม เพราะรสาเพียรพยายามมาพบคุณเฉลิมทุกวัน ต่อมาชานนท์เพิ่มความระแวงความสงสัยรสามากยิ่งขึ้น ความหลังฝังใจเรื่องแม่ทำให้ชานนท์กลายเป็นคนเก็บกดและค่อนข้างมองโลกในแง่ ร้าย โดยเฉพาะกับผู้หญิง

คุณเปรมจิตต์หาทางหยุดยั้งการติดต่อ ของรสา ด้วยการเสนอให้เงินหนึ่งล้านบาท รสาไม่รับเงิน ชานนท์เฝ้าคอยดูว่าในที่สุด รสาจะยอมรับเงินหรือไม่ เขามีอคติต่อเธอตลอดเวลา เขาเชื่อว่ารสาไม่รับเงินล้าน เพราะหวังสมบัติของคุณเฉลิม รสาพยายามชี้แจงถึงความตั้งใจของตน แต่ชานนท์ไม่เชื่อ รสากับชานนท์มีเรื่องที่ต้องมาเกี่ยวพันกันอีก เมื่อรสาเห็นเหตุการณ์โดยบังเอิญที่กัลยามาหาชานนท์ และชานนท์ปฏิเสธไม่ยอมรับว่ากัลยาเป็นแม่ ชานนท์ห้ามรสาไม่ให้ยุ่งเกี่ยวเรื่องนี้ และออกคำสั่งให้เธอปิดปากให้สนิท แต่รสาตามไปพบกัลยาจึงได้รู้เรื่องราวว่าชานนท์มีบาดแผลคล้ายๆ กัน เขาไม่ยอมรับแม่ แต่รสา…พ่อไม่ยอมรับเป็นลูก

การที่รสาได้รู้ เห็นในเรื่องส่วนตัวล้ำลึกของชานนท์ เป็นสิ่งที่ทำให้ชานนท์เข้ามาใกล้ชิดกับรสามากขึ้น เพราะเธอเป็นคนนอกคนเดียวที่รู้ แม้แต่ศศิกานต์ผู้หญิงพิเศษของเขายังไม่รู้ จึงเป็นเหตุที่ทำให้ชานนท์และรสาขัดแย้งกันยิ่งขึ้น รสายืนยันที่ว่าลูกจะต้องกตัญญูและให้อภัยแม่ ชานนท์ว่ารสาไม่รู้หรอกว่าเขาเจ็บปวดแค่ไหน

ชานนท์กับรสาขัด แย้งกันจนเขาใช้กำลังปล้ำจูบรสา แต่รสาก็มิได้ขัดขืน ทั้งชานนท์และรสารู้สึกพอใจในจูบนั้นทั้งคู่ โดยไม่อยากนึกถึงสาเหตุว่าพอใจเพราะอะไร แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็วิ่งหนีหัวใจตัวเองตลอด โดยอาศัยความขัดแย้งระหว่างกันเป็นเครื่องขวางกั้น อภิรักษ์สารภาพรักกับรสา รสาขอให้เป็นเพื่อนกัน อภิรักษ์ผิดหวังมากจนทำงานไม่ได้ ชานนท์โทษว่าเป็นความผิดของรสา รสาเหลืออดตอกหน้าชานนท์กลับไปบ้างว่าถ้าชานนท์เป็นคนใจกว้าง เรื่องยุ่งๆ ในครอบครัวเขาก็จะไม่เกิดและให้เขาเคารพความคิดของอภิรักษ์บ้าง อย่าถือตัวเองถูกไปเสียทุกอย่าง เพราะอภิรักษ์พร้อมที่จะอภัยให้แม่แต่ชานนท์ไม่ยินยอม มนัสพี่ชายของรสามาสมัครงานเป็นยามที่บริษัทของชานนท์

ต่อมา มนัสเอาแหวนที่ขโมยมาไปขายชานนท์ ชานนท์จึงรู้ว่านี่คือหลักฐานของรสานั่นเอง ชานนท์เอาแหวนให้คุณเฉลิมดู ทั้งสองจึงรู้ว่ารสาไม่ได้หลอกลวง แต่ทำอย่างไรจึงจะยอมรับรสาโดยบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่นกับทุกฝ่าย

เมื่อ รสารู้ว่ามนัสเอาแหวนไปขายชานนท์ รสาไปขอซื้อแหวนคืน แต่เธอบอกว่ายังไม่มีเงินก้อนครบแสนตอนนี้ ชานนท์ให้แหวนมาก่อน และบอกรสาว่าคุณเฉลิมเห็นแหวนแล้ว รสาจึงเข้าใจว่าเพราะเหตุใดที่เธอไปเยี่ยมท่านระยะหลังๆ ท่านจึงดีกับเธอขึ้นมาก รสามองเพชรที่แหวนแล้วคิดถึงแม่ คิดถึงสภาพจิตใจแม่ที่ต้องทนทุกทรมานที่ต้องอุ้มท้องลูกของชายอื่นโดยบอก สามีไม่ได้ ความกดดันในใจทำให้รสาหน้ามืดวูบ ชานนท์เข้าไปประคองเธอไว้ทันก่อนที่จะล้ม ศศิกานต์ซึ่งจะเข้ามาในห้องเห็นเข้าพอดี เธอรีบปิดประตูไปอย่างเงียบเชียบ บัดนี้ศศิกานต์แน่ใจแล้วว่าชานนท์รักรสาแน่นอน

ต่อมาอภิรักษ์ทำใจได้เรื่องรสาไม่รับรักและขอเป็นเพื่อนที่ดีของรสา เขานัดเธอไปทานข้าวกับคุณกัลยา
และ พาคุณพาณิชไปด้วย คุณกัลยากับคุณพาณิชได้เจอกันโดยคุณกัลยาไม่รู้ตัวล่วงหน้า เธออึ้งไปเหมือนกันเมื่อเจอสามีเก่า ความผูกพันใดอื่นของคุณพาณิชต่อคุณกัลยาไม่มีแล้ว นอกจากความห่วงใยว่าเธอจะลำบาก เมื่อทานอาหารเสร็จคุณพาณิชเซ็นเช็คจ่ายเงินให้คุณกัลยาไปหนึ่งแสนบาท

ชานนท์รู้ดีทุกอย่างว่าแม่ตนต้องการอะไร และเขาก็พิสูจน์ให้รสาเห็นความจริงด้วยการพารสาไปบ้านแม่ และรสาก็ได้รู้ความจริงด้วยตนเองว่า แท้ที่จริงแล้วคุณกัลยามิได้อาลัยอาวรณ์กับลูกๆ หรือสามีเก่าเลย เธอต้องการเพียงเงินจุนเจือตัวเองและนายอรุณที่เธอรักมากเท่านั้น รสาเข้าใจชานนท์ แต่เธอก็ยังยืนยันว่าลูกควรกตัญญูต่อแม่บังเกิดเกล้า ชานนท์ว่ารสาคงอยากเห็นเขาเป็นคนโง่ เขาทำไม่ได้ รสาพยายามพูดโน้มน้าวจิตใจชานนท์ ในขณะเดียวกันรสาและชานนท์ต่างเปิดใจตนเองต่อกัน

และรู้ว่าต่าง ฝ่ายต่างรักกันโดยไม่ต้องเอ่ยคำรัก ชานนท์รู้สึกผิดต่อศศิกานต์อย่างมาก อภิรักษ์บอกชานนท์ว่าเขาจะรับคุณกัลยามาที่บ้าน และคาดว่าชานนท์ต้องต่อต้านแน่ แต่ผิดคาด ชานนท์ยินยอม อภิรักษ์แน่ใจทันทีว่าเป็นเพราะรสาที่ทำให้ชานนท์เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ คุณเฉลิมไม่สบายมากแพทย์ตรวจพบว่าเป็นโรคไตพิการ แพทย์ลงความเห็นว่าคุณเฉลิมต้องเปลี่ยนไต แต่ลูกสาวสองคนคือวรรณฤดีกับศศิกานต์ไม่อาจให้ไตแก่พ่อได้เพราะเลือดไม่เข้า กัน ศศิกานต์เสนอให้บอกให้รสาไปตรวจเลือดดูว่าจะให้ไตแก่คุณเฉลิมได้หรือไม่ วรรณฤดีต่อต้านเต็มที่ แต่คุณเปรมจิตต์ลังเล และในที่สุดด้วยความรักที่มีต่อสามีอย่างมาก ทำให้คุณเปรมจิตต์ตัดสินใจให้รสาตรวจเลือด

ศศิกานต์ดีใจ วรรณฤดีคัดค้านเต็มที่แต่ไม่สำเร็จ รสาตรวจเลือดแล้ว เธอเป็นลูกของคุณเฉลิมจริง และยังสามารถเปลี่ยนไตให้คุณเฉลิมได้ด้วย คุณเปรมจิตต์เจ็บปวดกับความจริง ในขณะที่ศศิกานต์ดีใจต่อน้องสาว
ส่วนวรรณฤดีอาละวาดกับคุณเปรมจิตต์ราวบ้าคลั่ง วันเผาสุภา คุณเฉลิมมาขออโหสิและขอให้สุภายกโทษให้
บอกรสาว่ายอมรับรสาเป็นลูกและจะชดเชยทุกอย่างให้รสา รสาน้ำตาไหลเธอทำสำเร็จแล้ว

แต่วรรณฤดีบอกคุณเฉลิมว่าไม่มีวันยอมรับง่ายๆ เธอบังคับธัชชัยให้ไปวางระเบิดร้านเสื้อผ้าที่รสารวมหุ้นกับเพื่อนสองคนคือ มธุรส และ บงกช วันที่ร้านระเบิดชานนท์มารับรสาไปข้างนอก จึงรอดจากระเบิด วรรณฤดีผิดหวังจนต้องเข้าโรงพยาบาลโรคจิต และธัชชัยรับกรรมในคุก

รสาผ่าตัดเปลี่ยนไตให้คุณเฉลิม เมื่อฟื้นขึ้นคนแรกที่รสาเห็นหน้าคือ ชานนท์ ซึ่งนั่งเฝ้าเธอตลอดเวลา
รสากับชานนท์รู้ตัวแล้วว่ารักกัน แต่ศศิกานต์ล่ะ… ศศิกานต์ผู้แสนดีกับรสา ศศิกานต์ที่รักชานนท์ตลอดมา
ชานนท์เองรู้ตัวดีว่าไม่อาจทรยศต่อความรักของศศิกานต์ได้ ทั้งสองจะทำอย่างไรกับปัญหาหัวใจครั้งนี้



รายชื่อนักแสดงละคร ลูกไม้ไกลต้น

1. แอนดริว เกร็กสัน – ชานนท์ 
2. สุวนันท์ คงยิ่ง – รสา 
3. ชลิต เฟื่องอารมณ์ – พานิช 
4. ไพโรจน์ สังวริบุตร – เฉลิม 
5. พิราวรรณ ประสบศาสตร์ – กัลยา 
6. คณางค์ ดำรงค์หัตถ์ – เปรมจิตต์ 
7. ไมเคิล พูพาร์ต – ธัชชัย 
8. สุวัจนี ไชยมุสิก – วรรณฤดี 
9. ปิยะดา เพ็ญจินดา – สุภา 
10. ติ๊ก กลิ่นสี – มนัส 

ม่านบังใจ


เฟื่องลดานักเรียนชั้นเตรียมปีที่ 2 แห่งโรงเรียนดรุณีวิทยา ซึ่งเป็นโรงเรียนสตรีที่มีชื่อ กำลังเตรียมตัวแสดงระบำร่วมกับเพื่อน ๆ ในงานประจำปีของโรงเรียน และปีนี้ก็ดูครึกครื้นกว่าทุกครั้ง กำลังเตรียมตัวแสดงระบำร่วมกับเพื่อน ๆ ในงานประจำปีของโรงเรียน และปีนี้ก็ดูครึกครื้นกว่าทุกครั้ง เพราะเป็นงานฉลองครบรอบ 25 ปีของโรงเรียนด้วย ในขณะเดียวกัน เฟื่อง ผู้เป็นบิดาก็กำลังจะไปงานโรงเรียนลูกสาว และนำชุดกระโปรงที่เฟื่องลดาจะใส่แสดงไปให้ด้วย เฟื่องยกกล่องใส่ชุดขึ้นบังหน้าขณะเดินข้ามถนนด้วยความเร่งรีบเลยไม่ทันได้ ระวังรถที่เลี้ยวมาจากหัวมุมถนน แม้ว่าคนขับจะพยายามเบรกแล้วแต่ก็ไม่ทัน เฟื่องถูกรถชนล้มคว่ำอยู่ตรงนั้น เฟื่องลดารอพ่อด้วยความกระวนกระวายใจ เพราะใกล้จะถึงเวลาแสดงอยู่แล้ว สักครู่เฟื่องลดาได้รับทราบจากอาจารย์ว่าพ่อติดธุระมาไม่ได้จึงให้คนนำชุดมา ให้ โดยที่เฟื่องลดาเองก็ไม่รู้เลยว่าคนที่นำชุดมาให้นั้นชื่อ ทัฬห์ พฤทานนท์ ผู้ที่ขับรถชนบิดาของเธอ เขานำชุดมาให้เธอตามคำขอร้องของนายเฟื่อง และเขาก็นั่งชมการแสดงของเธอด้วยความร้อนใจ เพราะเป็นห่วงอาการของเฟื่องที่ยังอยู่ในโรงพยาบาล ขณะที่นั่งชมการแสดงอยู่นั้นเขาบังเอิญได้ยินชาย 2 คนทั่งอยู่ข้าง ๆ เขาพูดถึงเฟื่องลดา ชายคนหนึ่ง โฆษิต เป็นพี่ชายของเพื่อนเฟื่องลดา อีกคนหนึ่ง เสี่ยนภ ผู้ซึ่งพอใจในตัวเฟื่องลดาและต้องการได้ตัวเธอมา โดยมีโฆษิตเป็นผู้รับอาสาจะจัดการให้ ทั้ง ๆ ที่เขาเองก็ชอบเฟื่องลดาอยู่เช่นกัน แต่ก็เห็นแก่เงินของเสี่ยมากกว่า ทัฬห์ได้ยินเช่นนั้นก็ให้นึกห่วงเฟื่องลดาขึ้นมาว่า ถ้านายเฟื่องเป็นอะไรไป เธอคงต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน เขาจึงรีบไปดูอาการของนายเฟื่องทันที พอไปถึงโรงพยาบาลเขาก็พบกับ สร้องทอง ผู้เป็นภรรยาของนายเฟื่อง และสร้อยสนลูกสาวของสร้อยทองก่อนสิ้นใจนายเฟื่องได้กระซิบฝากเฟื่องลดาไว้ กับทัฬห์ เพราะไม่ไว้ใจแม่เลี้ยง พูดได้เท่านั้นนายเฟื่องก็สิ้นใจ ทัฬห์สัญญากับตัวเองว่าเขาจะดูแลคุ้มครองเฟื่องลดาอย่างสุดความสามารถ เพราะเขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้นายเฟื่องตาย ยิ่งเมื่อรู้ว่าสร้อยทองมิใช่แม่แท้ ๆ ของเฟื่องลดา เขาก็ยิ่งเป็นห่วงเฟื่องลดามากยิ่งขึ้น เฟื่องลดาทราบข่าวในวันรุ่งขึ้นว่าบิดาเสียชีวิตเพราะถูกรถชน ทำให้เธออาฆาตแค้นและเกลียดชังผู้ที่ขับรถชนพ่อของเธออย่างมาก

ใน วันเผาศพนายเฟื่อง ทัฬห์ชวนไทว์ น้องชายของเขาไปด้วย และยุให้ไทว์จีบเฟื่องลดา ถ้าไทว์ทำให้เฟื่องลดายอมแต่งงานด้วยเขาจะออกค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่าง แล้วเขาก็เล่าให้ไทว์ฟังถึงความจริงว่ามีเสี่ยต้องการจะซื้อตัวเฟื่องลดา เขาเกรงว่าสร้อยทองจะขายเธอไป เพราะท่าทางของสร้อยทองนั้นเห็นแก่เงิน
เมื่อ ทั้งสองไปถึงงานศพก็พบเฟื่องลดายืนต้อนรับแขกอยู่ด้านหน้ากับ กานดา เพื่อนสนิท ทัฬห์ทักทายเฟื่องลดาด้วยความอ่อนโยนแต่เฟื่องลดากลับมองทัฬห์อย่างอาฆาต แค้น ซ้ำยังแกล้งเจาะยางรถยนต์ของเขาอีก ทำให้ไทว์นึกขยาดไม่กล้าจีบเฟื่องลดาตามคำแนะนำของพี่ชาย ถึงแม้ว่าเขาจะพอใจในความงามของเธอก็ตาม ประกอบกับไทว์มีแฟนอยู่แล้วคือ สิริโสภา ราษริปูราษฎร์ ลูกสาวผู้บังคับบัญชาของไทว์เอง
หลังจากที่นาย เฟื่องตาย สร้อยทองมักไปขอเงินจากทัฬห์อยู่เสมอ และวันหนึ่งเธอนำข่าวไปบอกทัฬห์ว่าเสี่ยนพมาขอซื้อตัวเฟื่องลดาเป็นเงินถึง 6 หมื่นบาท ทัฬห์จึงเสนอว่าเขาจะให้เงินสร้อยทอง 1 แสนบาท แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องมีสิทธิ์ในตัวเฟื่องลดาแต่เพียงผู้เดียว และไม่ให้บังคับเฟื่องลดา เขาจะแต่งงานกับเฟื่องลดาก็ต่อเมื่อเธอยินยอม พอสร้อยสนทราบข่าวเข้าก็ขัดแย้งกับแม่อีก เพราะเธอไม่เห็นด้วยเธอสงสารและเห็นใจเฟื่องลดา เพราะเฟื่องลดาอยากเรียนต่อ แต่สร้อยทองอ้างว่าไม่มีรายได้มากพอที่จะส่งเรียน สร้อยทองฉลาดพอที่ไม่ใช้วิธีบังคับเฟื่องลดา เพราะเธอรู้ว่าเฟื่องลดาเป็นเด็กดื้อรั้นและทนงตัว เฟื่องลดาไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากทัฬห์เลย แม้ว่าเขาเต็มใจที่จะช่วยเหลือเธอทุกอย่างก็ตาม สร้อยทองพูดจาหว่านล้อมด้วยคำพูดที่หวาน ๆ จนเฟื่องลดาใจอ่อนเลิกล้มความตั้งใจที่จะเรียนและหางานทำ ระหว่างนั้นสร้อยทองซื้อเสื้อผ้าสวย ๆ ราคาแพงให้เฟื่องลดาเป็นการเอาใจและยังให้ไปเที่ยวที่ชะอำเพื่อเป็นการปลอบ ขวัญ เฟื่องลดาชวนกานดาไปด้วยโดยพักอยู่กับญาติของสร้อยทอง ระหว่างที่พักอยู่ชะอำเฟื่องลดาและกานดาได้รู้จักกับเด็กหญิงเล็ก ๆ 2 คน คือ เป๊ปซี่และโคล่า ความน่ารักของเด็กหญิงทั้ง 2 ทำให้เฟื่องลดารักและเอ็นดูอย่างมาก ในตอนแรกที่เฟื่องลดารู้ว่าเด็กทั้ง 2 เป็นลูกสาวของทัฬห์ เธอพยายามไม่ข้องแวะด้วย แต่ด้วยความฉลาดและช่างพูดของเด็กทั้งสอง ทำให้เฟื่องลดาติดใจและเมื่อรู้ว่าเด็กทั้ง 2 กำพร้าแม่ เธอก็ยิ่งรักและสงสารมากยิ่งขึ้น

หลังกลับจากชะอำเฟื่องลดาได้ทำงาน เป็นเสมียนในบริษัทฝรั่งแห่งหนึ่ง ส่วนกานดาได้เรียนต่อ เป๊ปซี่และโคล่ารักและติดใจเฟื่องลดาและกานดามาก จึงรบเร้าให้ทัฬห์พาไปหาบ่อย ๆ ความเกลียดชังที่เฟื่องลดามีต่อทัฬห์ในครั้งแรกเริ่มคลายลงบ้าง แต่แล้วเหตุการณ์กลับเลวร้ายลงไปอีกเมื่อสร้อยทองโกหกเฟื่องลดาว่า เมื่อครั้งเฟื่องยังมีชีวิตอยู่ได้สร้างหนี้สินไว้มากและตอนนี้ก็กำลังจะถูก ฟ้องล้มละลายตนจึงไปขอกู้เงินจากทัฬห์ และตอนนี้ทัฬห์ก็เร่งรัดหนี้สินโดยไม่ยอมผ่อนผันให้แม้ว่าตนอ้อนวอนขอร้อง อย่างไรก็ตาม ดังนั้นเฟื่องลดาจึงยอมแต่งงานกับทัฬห์เพราะเห็นแก่แม่เลี้ยง สร้อยทองจึงยุยงให้เฟื่องลดาปอกลอกทรัพย์สินของทัฬห์เพื่อเป็นการแก้แค้น ทัฬห์เองก็รู้ถึงแผนการของสร้อยทอง เพราะสร้อยสนเขียนจดหมายมาบอกให้ทัฬห์ทราบ แทนที่ทัฬห์จะคอยระมัดระวังเขากลับแสดงความจริงใจต่อเฟื่องลดา โดยสอนให้เธอรู้รหัสตู้เซฟที่เก็บเงินและเครื่องเพชร และด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ ทัฬห์ไม่ได้ข่มเหงน้ำใจเฟื่องลดาเลย ทำให้เฟื่องลดาเริ่มรักทัฬห์อย่างไม่รู้ตัว เมื่อสร้อยทองเห็นว่าแผนของตัวเองจะไม่สำเร็จ จึงเริ่มคิดแผนอันชั่วร้ายใหม่ โดยย้ายไปอยู่ที่บ้านทัฬห์เพื่อหวังให้ทัฬห์หันมาสนใจสร้อยสนแทน สร้อยสนไม่เห็นด้วยจึงไม่ยอมไป แต่ก็ขัดไม่ได้เพราะสร้อยทองเซ้งบ้านไปแล้ว และสร้อยสนอยากอยู่บ้านเก่าต่อไปให้หาเงินมาแทน สร้อยสนจนใจเพราะไม่รู้จะหาเงินจากที่ไหน เธอเองก็มีอาชีพแค่รับจ้างตัดเสื้อผ้าเท่านั้น จึงต้องยอมไปอยู่ด้วย เฟื่องลดาดีใจมากที่สร้อยทองและสร้อยสนย้ายมาอยู่ด้วย โดยเธอไม่ได้ระแวงเลยว่าสร้อยทองคิดร้ายกับเธอ ไทว์สร้างบ้านใหม่เพื่อหวังจะให้เป็นเรือนหอของตัวเองกับสิริโสภา แต่เขาก็ต้องผิดหวังเมื่อสิริโสภาได้รู้จักกับ สมัย ประทีปทอง แล้วเกิดเปลี่ยนใจไปรับหมั้นสมัย เพราะเห็นว่าสมัยร่ำรวยกว่าไทว์ แต่ไทว์เองก็มิได้เสียใจมากนัก วันหนึ่งเขาแวะมาเยี่ยมพี่ชายและรู้ว่าสองแม่ลูกย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านพี่ ชายก็ไม่พอใจ ความเกลียดที่มีต่อสร้อยทองจึงตกทอดไปถึงสร้อยสนด้วย

ความ ไม่เข้าใจกันระหว่างทัฬห์และเฟื่องลดายิ่งเพิ่มมากขึ้น เมื่อเฟื่องลดาเข้าใจว่าทัฬห์และสร้อยสนรักกัน ส่วนทัฬห์ก็คิดว่าเฟื่องลดาชอบกับไทว์ ซ้ำยังมีโฆษิตที่เฟื่องลดาโกหกว่าเป็นแฟนเก่าของตนเข้ามาพัวพันอีก สร้อยสนเห็นว่าเฟื่องลดานั้นรักทัฬห์ และทัฬห์เองก็รักเฟื่องลดามากเช่นกัน จึงเล่าความจริงให้เฟื่องลดาฟังว่าทัฬห์ไม่ได้ให้เงินแม่กู้แถมยังเป็นคนใช้ หนี้สินให้แม่อีกด้วย เฟื่องลดาดีใจมากที่ได้ทราบความจริงว่าทัฬห์ไม่ใช่คนหลอกลวงอย่างที่เธอเข้า ใจผิดมาตลอด สร้องทองนั้นติดการพนันมาก เมื่อสร้อยสนไม่ให้ความร่วมมือด้วยจึงคิดจะใส่ร้ายเฟื่องลดาว่ามีชู้กับ โฆษิต ช้อยคนรับใช้เก่าที่บ้านเฟื่องลดารู้ถึงแผนการของสร้อยทองด้วย เพราะสร้อยทองจะใช้ให้ช้อยปลอมตัวเป็นเฟื่องลดาเพื่อให้ทัฬห์เข้าใจผิด ช้อยจึงนำเรื่องมาบอกไทว์ ไทว์ได้ฟังดังนั้นก็โกรธแค้นสร้อยทองมาก และคิดว่าถ้าลูกสาวของสร้อยทองเองเกิดหนีตามผู้ชายไป และผู้ชายคนนั้นก็เป็นเพียงพลทหารต่ำต้อย สร้อยทองจะเสียใจเพียงใด คิดได้ดังนั้นไทว์จึงเรียกสร้อยสนมา แล้วเล่าถึงแผนการของสร้อยทองให้เธอฟัง ซ้ำยังขู่ว่าจะเล่าความจริงให้ทัฬห์และเฟื่องลดารู้ เมื่อทั้งสองกลับจากงานเลี้ยงแล้ว สร้อยสนขอร้องไทว์ไม่ให้บอกทัฬห์และเฟื่องลดา เพราะเกรงว่าเฟื่องลดาจะเสียใจและหมดความรักความเคารพที่มีต่อสร้อยทอง สร้อยสนขอเลือกคนที่ไทว์รู้จักดีที่สุด ซึ่งก็คือพลทหารรับใช้ของเขา เมื่อสร้อยสนยืนยันเช่นนั้นเขาจึงตัดสินใจพาเธอไปที่บ้านแต่ไม่ได้บอกให้ คิด ทราบว่าเธอเป็นใคร คิดจึงเข้าใจว่าเธอคือแฟนของไทว์

ข่าวของ สิริโสภาดังขึ้นอีกครั้งตามหน้าหนังสือพิมพ์ เมื่อคู่หมั้นของเธอคือนายสมัย ถูกจับข้อหาค้าฝิ่น เธอจึงคิดจะกลับมาหาไทว์อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไทว์รู้ใจตัวเองว่าเขามิได้รักเธอ แต่เขารักสร้อยสน ซึ่งต่อมาเขาก็รู้ความจริงว่าสร้อยสนมิได้คิดจะแย่งทัฬห์มาจากเฟื่องลดาตาม ที่เขาเข้าใจ ส่วนโฆษิตนั้นยังเคืองแค้นเฟื่องลดาอยู่จึงวางแผนชวนเฟื่องลดาไปเที่ยวน้ำตก สาริกากับกลุ่มเพื่อน ๆ และมีสร้อยทองไปด้วย ระหว่างทางที่แวะพักทานข้าวโฆษิตแกล้งทำเป็นรถเสีย เพื่อจะให้รถเพื่อน ๆ ของเฟื่องลดานำหน้าไปก่อน โดยเขามีจุดประสงค์จะพาตัวเฟื่องลดาไปขายให้เสี่ยคนหนึ่ง ซึ่งนัดกันไว้ที่สระบุรี แผนการณ์ของโฆษิตครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากสร้อยทองและกานดาน้องสาวของ เขา โดยทุกคนมีส่วนแบ่งในเงินค่าจ้าง 1 แสนบาท แต่ก่อนที่เฟื่องลดาจะถูกทำร้าย ทัฬห์ได้ตามมาช่วยไว้ทัน ทั้งสองจึงปรับความเข้าใจกันและได้ประจักษ์ถึงความรักที่มีต่อกัน