Home » » หม่ำเดียว หัวเหลี่ยมหัวแหลม

หม่ำเดียว หัวเหลี่ยมหัวแหลม

 

สหมงคลฟิล์ม และ เวิร์คพอยท์ ภูมิใจเสนอ

ภาพยนตร์ตัว “ท” (เหมาะสมกับคนทุกเพศทุกวัย ทุกครอบครัว คนที่กำลังมีทุกข์ และคนท้อง)

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าน้องเดียว เจ้าหนู 200 หน้าจากเกมทศกัณฐ์เด็กมีพ่อเป็น ‘หม่ำ จ๊กมก’

“พ่อหัวเหลี่ยม” จะมีลูกเป็น “เด็กหัวแหลม” แล้วใครจะสอนใครล่ะทีนี้

เรื่องย่อ

…จะบ้าตาย…เมื่อฟ้าบันดาลดลให้เด็กคนหนึ่งต้องมาเกิดบนโลกมนุษย์

…จะเลือกคู่พ่อลูกชนิด “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น” หน่อยก็ไม่ได้ ดันให้ผลสตรอเบอรี่หวานฉ่ำมาขึ้นอยู่บนต้นบักเขียบซะอย่างนั้น ราวสวรรค์แกล้ง

…เมื่อ “หม่ำ” (หม่ำ จ๊กมก) หนุ่มล่ำร่างตันชาวยโสธร หอบกระเป๋าเข้ากรุงมาหางานทำเพื่อส่งเสียตัวเองเรียนต่อตามความใฝ่ฝัน (เรียนภาษา อยากเป็นไกด์) โดยมาช่วยดูแลบ้านสุดหรูของเจ้านายเก่าแม่ระหว่างที่ท่านไปต่างประเทศ เพียงคืนแรกที่ย่างกรายเข้ามาบ้านหลังนี้ ก็เป็นเรื่องซะแล้ว…จู่ ๆ “เดียว” (น้องเดียว พัทธดนย์ เกลี้ยงจันทร์) เด็กหัวแหลม โผล่พรวดพราดแบบไม่มีร่องรอยเข้ามาเรียกหม่ำว่า “พ่อ” หน้าตาเฉย แถมบอกให้แต่งงานกับแม่เร็ว ๆ ก่อนที่แม่หมาท้องแก่ข้างบ้านจะคลอด เพื่อเขาจะได้มาเกิดเป็น “ลูกหม่ำ” ไม่งั้นดวงจะคุดต้องไปเกิดเป็น “ลูกหมา” แทน

…หม่ำนั้นเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ครึ่งที่เชื่อก็เชื่อไปส่วนครึ่งไม่เชื่อก็เลือกที่จะไม่ลบหลู่อันใดสบายใจกว่า เดียวจึงพาหม่ำไปพบกับ “ฟ้า” (โบว์ เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์) สาวสวยสง่างามราวนางฟ้า ว่าที่แม่ของลูกเดียวและเมียของพ่อหม่ำ

…ทันทีที่เห็นฟ้า หม่ำถึงกับทำท่าหมามองเครื่องบิน เดินคอตกกลับบ้านอย่างสิ้นหวัง ก่อนจะบอกเดียวให้ทำใจไปเกิดเป็นลูกหมาซะเถอะ เพราะพ่อเป็นเพียงขนมจีนไร้น้ำยามิอาจเอื้อมเด็ดให้ดอกฟ้าต้องมีราคี ซ้ำร้ายเธอยังมีหนุ่มหล่อมาดเข้มผู้เหมาะสม ตามมารับมาส่งพร้อมรถคันหรูอีกต่างหาก

…ระหว่างเลือกเป็น “ลูกหมา” กับ “ลูกหม่ำ” เดียวขอเลือกเป็นลูกหม่ำดีกว่าจะมีพี่น้องมีหาง เดียวจึงอาสาใช้หัวแหลม ๆ วางแผนจีบแม่ให้พ่อหม่ำแบบสุดๆ มิตรภาพอันน่ารักเหลือล้นของพ่อลูกในอนาคตคู่นี้นับวันยิ่งมั่นใจ ทั้งสองคนจะทำสำเร็จก่อนหมาออกลูกรึเปล่า คงต้องไปลุ้นพร้อม ๆ กัน ใน “หม่ำเดียว หัวเหลี่ยมหัวแหลม” 10 มกราคม 2551 ทุกโรงภาพยนตร์

ทีมงานสร้าง : ครอบครัว–อบอุ่นคอเมดี้ (แนวภาพยนตร์) / สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล และเวิร์คพอยท์เอ็นเตอร์เทรนเมนท์ (บริษัทผู้สร้าง) / สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล (จัดจำหน่าย) / หัวฟิล์มท้ายฟิล์ม (บริษัทดำเนินงานสร้าง) / สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ, ปัญญา นิรันดร์กุล, เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา (อำนวยการสร้างฝ่ายบริหาร) / พาณิชย์ สดสี (ควบคุมงานสร้าง) / พาณิชย์ สดสี, เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา (ผู้กำกับภาพยนตร์) / พัลลภ สินธุ์เจริญ (บทภาพยนตร์) / วีระพันธ์ นันทเดชะ (กำกับภาพ) / สมิทธิ์ ทิมสวัสดิ์ (ลำดับภาพ) / รชฎ เครือประยงค์ (กำกับศิลป์) / รัติกานต์ สุขชาตะ, ณภัษ สุนทราภิรักษ์กุล (ออกแบบเครื่องแต่งกาย) / ศิริพร เชียร์สมสุข (แต่งหน้า) / อนุชิต ว่านเครือ (ทำผม) / บริษัท กราว จำกัด (ดนตรีประกอบ) / ประภาส ชลศรานนท์ (เพลงประกอบภาพยนตร์ )



นำแสดงโดย:

ด.ช พัทธดนย์ เกลี้ยงจันทร์
เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา
เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์

น้องเดียว (รับบทโดย “น้องเดียว” พัทธดนย์ เกลี้ยงจันทร์)

น้องเดียว เด็กน้อยหัวแหลมเฟี้ยว มีแววตาแสนฉลาด ไม่แก่แดดแต่แก่นเซี้ยวน่าหยิก แข็งแรงและอารมณ์ดี ชอบวางมาดเป็นผู้ใหญ่ พูดจาคล่องแคล่วทันคน ความจำดีเลิศ ชอบทำหน้าเหมือนรู้ทัน เอาตัวรอดได้เสมอโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาคับขัน (นักกีฑา 4 คูณ 100 ยังอาย) มักไปไหนมาไหนแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ไม่เคยคิดร้ายต่อใคร ช่วยหม่ำทุกวิถีทางเพื่อจะให้หม่ำได้ครองรักกับฟ้า คุณแม่สุดสวยในอนาคต

“ในเรื่องหนูชื่อเดียวเลยนะครับ อย่างงนะครับ ที่ว่าหัวแหลมเพราะทำผมทรงสูงๆ เหมือนอุลตร้าแมนครับ แต่หัวจริงๆ ไม่ได้แหลมเหมือนมนุษย์ต่างดาวนะครับ สงสัยไหมครับว่าใครเป็นพระเอก ก็น้องเดียวเองครับ ส่วนลุงหม่ำมาเล่นเป็นพ่อพระเอกครับ น้องเดียวมาช่วยให้พ่อหม่ำไปรักกับแม่ฟ้า เพราะแม่ฟ้าสวยเหมือนนางฟ้าสมชื่อ แต่พ่อหม่ำนี่สิไม่อยากจะพูด หนูก็เลยต้องมาช่วยพ่อหม่ำตั้งหลายวิธี ต้องพาพ่อหม่ำไปซื้อชุดหล่อ ไปฟิตหุ่น สอนวิธีจีบหญิงเยอะแยะเลยครับ พ่อหม่ำจะจีบแม่ฟ้าได้สำเร็จหรือเปล่าก็ไม่รู้”

ประวัติน้องเดียว

…น้องเดียว เด็กชายพัทธดนย์ เกลี้ยงจันทร์ เกิดเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2543 ลูกคุณพ่อพฤหัส เกลี้ยงจันทร์ และคุณแม่ศิริพร สิทธิฤทัย เรียนอยู่ชั้นป.1 โรงเรียนสาธิตประสานมิตร มีน้องสาว 1 คนชื่อว่าน้องดริว เด็กหญิงพิมพ์ลดา เกลี้ยงจันทร์ น้องสาวสุดรักที่มีแววฉลาดและพูดเก่งกว่าพี่เดียวซะอีก น้องเดียวเป็นเด็กน้อยช่างเจรจาและฉายแววเป็นหนูน้อยช่าง “รับแขก” มาตั้งแต่อายุได้ 4-5 เดือน ด้วยความที่เป็นเด็กอารมณ์ดียิ้มเก่งใครเห็นก็รักก็เอ็นดูอยู่เสมอ

…น้องเดียวเป็นอดีตสมาชิก “แก๊งเจ็ดเสือ” แก๊งค์จักรยาน (4ล้อ) จอมเซี้ยวคุมซอย ที่ไม่มีใครกล้ามาแหยม แก๊งเจ็ดเสือจะออกมาเพ่นพ่านช่วงเวลาเย็นๆ ใครเห็นก็ต้องหลบทางให้ จะกระโดดงับทันทีถ้าใครกล้ามารังแก พอวันสงกรานต์แก๊งนี้ก็จะรวมตัวกันดักฉีดน้ำสาวๆ ที่ผลัดหลงเข้ามาในถิ่น

…ในวัยเรียนอนุบาลน้องเดียวเป็นเจ้าเหรียญทอง สามารถเล่นกีฬาได้หลายประเภท โดยเฉพาะว่ายน้ำ จะท่ากบ ฟรีสไตล์ หรือกรรเชียงก็เหอะปราบเซียนมานักต่อนักแล้ว ถึงแม้ว่าน้องเดียวจะดูเหมือน “ลูกขนุนตกน้ำ” ในสายตาคุณแม่ แต่ขนุนน้อยลูกนี้ก็ลอยไปแตะเส้นชัยก่อนใครเพื่อนเลยนะจะบอกให้ และยิ่งเท่ห์ไปกว่านั้น น้องเดียวยังเคยได้รับตำแหน่ง “ขวัญใจ” กองเชียร์อีกด้วย ส่วนเรื่องสาวๆ ไม่ต้องพูดถึง น้องเดียวมีกิจวัตรประจำวันที่หนุ่มๆ อนุบาลอื่นต้องอิจฉา เพราะสาวๆ อนุบาลทั้งหลายมักจะร้องไห้วิ่งมาซบอกน้องเดียวอยู่เสมอ น้องเดียวจะคอยทำหน้าที่เป็น “คนปลอบใจ” เวลาสาวๆ ถูกคุณพ่อคุณแม่พามาโรงเรียน หรือคุณพ่อคุณแม่มารับช้า อย่างงี้ต้องเรียกว่า คารมเป็นต่อ รูปหล่อก็ไม่เป็นรองใคร

…ทั้งเสน่ห์แรง ทั้งเล่นกีฬาเก่ง เรียนเก่ง กล้าแสดงออก น้องเดียวจึงเป็น “คนเดียว” ที่ผ่านการคัดเลือกจากเพื่อนๆ ที่โรงเรียนส่งไปทั้งหมด 12 คน เพื่อแข่งขันเกมทศกัณฐ์ (เกมโชว์ทางทีวี มีคุณปัญญา นิรันดร์กุลเป็นพิธีกรรายการ) และเป็นคนเดียวที่มีความสามารถทายหน้าคำถาม จนได้คะแนนสูงสุดของรายการจำนวนทั้งหมด 200 หน้า คว้าเงินรางวัล บ้านพร้อมที่ดิน แพคเก็จเที่ยวต่างประเทศ เป็นเงินกว่า 4 ล้านบาท จนกลายเป็น “น้องเดียวเจ้าหนูทศกัณฐ์” “น้องเดียวเจ้าหนูอัจฉริยะ” ที่ครองใจผู้ชมรายการทั่วประเทศ

ผลงานที่ผ่านมา

– งานโฆษณาไมโล, ยากันยุงฮายาชิ, ธนาคาร ธ.ก.ส, โรงภาพยนตร์ SF และงานโฆษณาอื่น ๆ

– ออกหนังสือพ๊อคเก็ตบุคส์ “น้องเดียวเจ้าหนูทศกัณฐ์” และ “น้องเดียววาไรตี้”

– นักแสดงนำภาพยนตร์เรื่อง “หม่ำเดียว หัวเหลี่ยม หัวแหลม” พศ. 2551

– แข่งขันคณิตศาสตร์ชิงถ้วยพระราชทานที่ 1 ของอนุบาล 3 จากทั่วประเทศ

ความสามารถพิเศษ

– ว่ายน้ำ, เล่นอิเล็กโทน, ร้องเพลง

 

หม่ำ (รับบทโดย หม่ำ จ๊กมก-เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา)

“หม่ำ” หนุ่มรสนิยมดีเกินเหตุเมื่อเทียบกับหน้า ล่ำเกือบเตี้ย ไม่บอกก็รู้ว่าเป็นคนยโสธร หอบกระเป๋าเข้ากรุงเทพฯ หาเงินส่งตัวเองเรียนภาษาจีน เพราะใฝ่ฝันอยากจะเป็นไกด์ มาอาศัยอยู่ที่บ้านแสนไฮโซของเจ้านายเก่าแม่ที่เดินทางไปทำงานต่างประเทศพอดี ถึงแม้จะอยู่ในบ้านหรู แต่หม่ำก็ยังทำตัวเหมือนตอนอยู่ที่ท้องนา ไม่ลืมสถานะของตัวเอง หม่ำเป็นคนซื่อ ตั้งอกตั้งใจกับสิ่งที่ทำ สังเกตได้จากที่เจอฟ้าครั้งแรกถึงหม่ำจะบอกว่า “มันเป็นไปไม่ได้” แต่ก็ตามจีบทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ หม่ำเป็นคนจิตใจดีไม่เคยคิดร้ายกับใครเค้า อาจคิดไม่ดีกับฟ้าบ้างบางที แต่ก็เพราะอารมณ์มันพาไป ใช่ว่าจะวิปริตมาจากใจไม่

“ในเรื่องรับบทเป็นหม่ำครับ เดียวเค้าบอกว่าผมเป็นพ่อพระเอก มารับบทเป็นคุณพ่อจำเป็นให้กับน้องเดียวนี่ใครว่าง่ายครับ น้องเค้ามุขเยอะจนผมอยากจะไปเรียกโหน่งกับเท่งมาช่วย ถ้ามีภาค 2 จะขอให้เสี่ยตากับเสี่ยเจียงเรียกโหน่งกับเท่งมาเป็นพ่อร่วมกันเลยได้ไหม หรือไม่ก็ว่าจะให้เสี่ยตาเค้าเอาน้องเดียวเข้าแก๊ง 3 ช่าไปให้รู้แล้วรู้รอด”

ประวัติ “หม่ำ จ๊กมก”

…นักแสดงตลก พิธีกร น้องร้อง โปรดิวเซอร์ นักบริหาร คุณพ่อลูก 2 สามีที่ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง และสุดยอดเจ้านาย ลูกน้อง และเพื่อนที่รักของทุกคน หม่ำ จ๊กมกประสบความสำเร็จอย่างสูงตั้งแต่เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงไทย หม่ำ จ๊กมก แจ้งเกิดจนดังเป็นพลุแตกด้วยแรงผลักดันของ คุณปัญญา นิรันดร์กุล เจ้าพ่อเกมส์โชว์ทางทีวี ในรายการชิงร้อยชิงล้าน คุณปัญญาทำให้ “หม่ำ เท่ง โหน่ง” 3 นักแสดงตลกมืออาชีพโด่งดังและเป็นที่รู้จักกันทุกย่อมหญ้าในฉายา “แก๊งสามช่า” หม่ำจ๊กมกไม่เพียงแต่จะทำหน้าที่เป็นนักแสดงตลกที่สร้างเสียงหัวเราะให้แก่แฟนๆ รายการแต่เพียงอย่างเดียว ชีวิตหน้าที่ของการเป็นผู้นำครอบครัว ก็สามารถจะทำหน้าที่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เป็นคุณพ่อที่ใจดีและเข้มงวดของลูกๆ จน บางคนที่ได้ใกล้ชิดจะเรียนรู้ได้ว่า หม่ำ จ๊กมก เป็นทั้งผู้บริหารงาน และผู้บริหารครอบครัวที่ประสบความสำเร็จคนในของวงการภาพยนตร์ไทย

 

ฟ้า (รับบทโดย “โบว์” เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์ )

…สาวสวย สง่า นางฟ้ามาเกิดชัด ๆ หน้าละม้ายคล้ายดาราสาววัยรุ่นลูกครึ่งที่โด่งดัง และนางงามจักรวาล ฟ้าเองก็เป็นคนรักเด็กและอยากให้โลกมีแต่สันติสุข แต่ไม่ได้เปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการต่อหน้าสาธารณชน ถึงหน้าจะฝรั่งแต่ฟ้าก็เป็นครูสอนภาษาจีนในโรงเรียนสอนภาษาแห่งหนึ่ง ฟ้ามีหนุ่มๆ มาคอยเทียวรับเทียวส่งอยู่เสมอ เป็นที่หมายปองของผู้ชายตั้งแต่แบเบาะ ยันหนุ่มแก่ พ่อม้าย ยิ้มแค่เพียง 1 ทีก็ทำเอาชายใดได้เห็นเป็นหลงหัวปักหัวปำ ถ้ายิ้ม 3 ทีโลกคงต้องตกเป็นของเธอแน่นอน เพราะหม่ำเองก็เป็นคนนึงที่ตกหลุมรักไปเต็ม ๆ เหมือนกัน

“มารับบทเป็นคุณครูสอนภาษาจีน เรียบร้อยมาก ไม่ค่อยเหมือนตัวจริงเท่าไหร่ (หัวเราะ) ในเรื่องฟ้าเค้ามีชีวิตที่เรียบง่ายอยู่แล้ว พร้อมสมบูรณ์แบบ แล้ววันนึงน้องเดียวกับพี่หม่ำก็เข้ามาป่วน ”

ประวัติ

…สาวลูกครึ่งไทย (คุณแม่) –เยอรมัน (คุณพ่อ) เกิดวันที่ 2 ตุลาคม 2529 อายุ 21 ปี สูง 172 สัดส่วน 32-24-35 การศึกษา Gymmnasium Kusel ประเทศเยอรมัน เกิดที่เมืองไทย ย้ายไปอยู่เยอรมันตอนอายุ 6 ขวบ เข้าวงการมาเพราะคำแนะนำของพี่ชายตอนที่กำลังเรียนหนังสือ มีคนทักบ่อยว่าหน้าคล้ายนักแสดงลูกครึ่งไทยยอดนิยม และคล้ายนางงามจักรวาล น้องโบว์เลยโบกมือทักทายอย่างสวยงามเหมือนอยู่บนเวทีให้ไป 1 ที น้องโบว์เป็นคนที่แม้ว่าจะหน้าตานิ่ง ๆ ก็สวยเหมือนรูปปั้น แต่ถ้ายิ้มหวาน ๆ สาดไปสัก 1 ที หัวใจชายหนุ่มทุกรุ่นก็คงจะแหลกสลายได้เดี๋ยวนั้นเลย

ผลงานที่ผ่านมา

– โฆษณาแชมพูไลท์บอย (อินโดนีเซีย, เวียดนาม) ชาลิปตันไอซ์ที (อังกฤษ), HSBC (ไทย)

– ภาพยนตร์เรื่อง “ยังไงก็รัก” ปี 2550

– ละครทางทีวี

– ภาพยนตร์เรื่อง “หม่ำเดียว หัวเหลี่ยมหัวแหลม” ปี 2551

เกร็ดภาพยนตร์

“เพราะลุงเจียงกับลุงตาไม่เคยลืมสัญญาที่ให้ไว้กับหนู หนูถึงได้มาเล่นหนังที่หนูชอบในวันนี้”

…ก่อนหน้านี้ในรายการเกมทศกัณฐ์เด็ก ลุงตาของน้องเดียว (ปัญญา นิรันดร์กุล) พิธีกรรายการ ประกาศกับผู้ชมในห้องส่งและน้องเดียวว่าจะให้น้องเดียวมาลองเล่นหนังดูสักเรื่อง คำสัญญานั้นผูกแน่นอยู่ในใจของน้องเดียวมาตั้งแต่ตอนนั้น จนกระทั่งวันนึงน้องเดียวไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้า ได้เจอกับลุงเจียงอีก (สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ์) ลุงเจียงกระซิบบอกน้องเดียวเอาไว้เหมือนกับคำสัญญาของลุงตา ว่าจะให้น้องเดียวมาเล่นหนังอีกครั้ง น้องเดียวเก็บคำพูดของลุงทั้งสองเอาไว้ในใจ และรอคอยวันที่จะได้เล่นหนังมาตลอด ลุงทั้งสองก็ไม่เคยผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับเด็กตัวเล็ก ๆ คนนึง ภาพยนตร์เรื่อง “หม่ำเดียว หัวเหลี่ยมหัวแหลม” ก็เกิดเป็นโปรเจ็กท์ ถูกวางและเขียนบทเอาไว้ให้น้องเดียวคนเดียวเท่านั้น เจ้าหนูทศกัณฐ์วันก่อนได้กลายเป็นพระเอกหนังในวันนี้

“ตอนหนูไปแข่งรายการทศกัณฐ์ ลุงตาบอกหนูต่อหน้าเพื่อนๆ ทางบ้านเอาไว้ว่าจะพาหนูไปเล่นหนัง หนูก็ดีใจรออยู่ว่าเมื่อไหร่ลุงตาจะให้ไปเล่นสักที แล้วมีอีกวันนึงหนูไปเดินเล่นที่ห้างกับคุณพ่อคุณแม่ หนูก็ไปเจอกับลุงเจียง ลุงเจียงก็บอกหนูอีกว่าจะพาหนูไปเล่นหนัง หนูก็คิดในใจว่าลุงสองคนจะให้ไปเล่นหนังจริง ๆ หรือเปล่านะ จนวันนึงลุงโอ๋มาบอกว่ามีหนังให้หนูเล่นแล้ว เรื่อง ‘หม่ำเดียว’ หนูดีใจมาก ผู้ใหญ่สองคนเค้าคงไปปรึกษากันมาแล้วเรื่องที่เคยให้สัญญากับหนู ลุงเจียงกับลุงตาไม่เคยลืมคำสัญญาที่ให้กับหนูไว้ หนูถึงได้มาเล่นหนังที่หนูชอบในวันนี้ ขอบคุณลุงเจียงกับลุงตามากครับ”

…ถึงแม้ว่า ลุงตา จะเป็นหัวหอกใหญ่แห่งบริษัทเวิร์คพอยท์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ และลุงเจียงเป็นเจ้าพ่อวงการภาพยนตร์ไทยจากบริษัทสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ลุงทั้งสองก็ไม่เคยละทิ้งคำมั่นสัญญานี้ที่เคยให้ไว้กับน้องเดียวเลยสักครั้ง แถมยังไปแอบปรึกษาหารือกันราวกับว่าภาพยนตร์เรื่องหม่ำเดียวเป็นมหากาพย์ภาพยนตร์ และน้องเดียวเป็นดารานำรางวัลออสก้าเมื่อปีที่แล้ว เพราะไม่ว่าจะเป็นโปรเจ็กท์หนังเรื่องอะไรก็แล้วแต่ หรือแม้แต่คำสัญญาเล็ก ๆ ในสายตาคนอื่น ลุงยักษ์ใหญ่ทั้ง 2 ท่าน ก็ไม่เคยละทิ้งความสำคัญของภาพยนตร์ใด ๆ ได้เลยสักเรื่องเดียว นี่เป็นอีกอย่างนึงที่พิสูจน์ให้เห็นถึงว่า ทำไมภาพยนตร์ของบริษัทร่วมสร้างระหว่างสหมงคลฟิล์มฯ และเวิร์คพอยท์ฯ ประสบความสำเร็จอย่างดีทุกครั้ง

…ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์เรื่อง “โหน่งเท่งนักเลงภูเขาทอง”, “เท่งโหน่งคนมาหาเฮีย” ทั้งสองเรื่องที่ประสบความสำเร็จและกวาดรายได้มาเรื่องละ 100 กว่าล้านบาท มาจนถึงภาพยนตร์น่ารักอบอุ่นเรื่อง “หม่ำเดียว หัวเหลี่ยมหัวแหลม” ภาพยนตร์ที่ลุงทั้งสองวาดความฝันร่วมกันอีกครั้ง เพื่อที่จะสร้างความอบอุ่น ความสนุกสนาน และความรักแสนน่ารักเพื่อตอบแทนที่ผู้ชมให้การต้อนรับภาพยนตร์ที่ผ่านมาเป็นอย่างดีตลอดมา

 

“ลุงหม่ำกับลุงโอ๋ ผู้กำกับ กอดคอกันฮา”

…กว่า 15 ปีของสองผู้กำกับหนัง 100 ล้าน “เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา” และ “พาณิชย์ สดสี” สองหัวเห็ดคู่หูคู่ฮา ที่ร่วมหัวจมท้ายกันมาตั้งแต่เริ่มทำรายการชิงร้อยชิงล้าน ตอนนั้นพี่โอ๋ พาณิชย์ สดสี ทำหน้าที่เป็นผู้กำกับรายการชิงร้อยชิงล้าน คลุกคลีอยู่กับมุขตลกของแก๊งค์ 3 ช่า จนรู้แก๊กรู้ทางกันมาตลอด พี่โอ๋เป็นคน ๆ นึงที่ปลุกปั้นให้แก๊ง 3 ช่ามีชีวิตชีวา มีความสนุกสนานจนกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศในระยะเวลาที่สั้นนิดเดียว

…จนถึงตอนนี้ทั้ง “พี่โอ๋” พาณิชย์ สดสี และ “พี่หม่ำ” เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา ต่างคนต่างมาเป็นผู้กำกับหนัง 100 ล้านด้วยกันทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นผลงานการกำกับภาพยนตร์ของพี่โอ๋เองในเรื่อง “โหน่งเท่ง นักเลงภูเขาทอง” และโปรดิวเซอร์เรื่องเท่งโหน่งคนมาหาเฮีย และของพี่หม่ำในภาพยนตร์เรื่อง “บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม 1-2”, “แหยมยโสธร” แต่ไม่ว่าจะยังไงถึงทั้งสองคนจะต่างคนต่างทำงานได้ดีในหน้าที่อยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่เคยลืมความสนุกสนานและมองข้ามความสัมพันธ์ที่ร่วมกันสร้างเสียงหัวเราะให้แก่ผู้ชมที่ผ่านมา ทันทีที่เสี่ยเจียงและเสียตาเอ่ยปากว่าจะทำหนังสไตล์ครอบครัว อบอุ่น น่ารัก เรื่องหม่ำเดียว พี่โอ๋กับพี่หม่ำก็เลยถือโอกาสขอกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ร่วมกันสักที

…นอกจากจะเป็นผู้กำกับอารมณ์ดีแล้ว ก็ยังเป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นคุณพ่อลูก 2 ด้วยกันทั้งคู่ จึงทำให้เกิดความเข้าใจในภาพยนตร์ เข้าใจในการทำงานร่วมกันกับเด็ก เกิดความรู้สึกที่ลึ้กซึ้งกับบท กับเนื้อหาของเรื่องหม่ำเดียวมากกว่าใครๆ ไม่ว่าจะเป็นฉากสนุกสนานของพี่หม่ำกับน้องเดียวหลายต่อหลายฉาก มุขเด็ด ๆ ระหว่างทั้งคู่ที่หยอกล้อกัน พี่โอ๋ก็สามารถถ่ายทอดความตลกแบบน่ารักเอาไว้ได้อย่ากลมกลืน

“แค่เห็น 2 คนนี้อยู่ด้วยกัน เดินผ่านกันที่หน้าสตูดิโอก็มีความสุขแล้ว ทั้งน้าหม่ำและน้องเดียวมีความน่ารักอยู่ในตัว คนนึงกลมๆ หน่อยอีกคนก็เหลี่ยม ๆ เตี้ย ๆ เป็นคู่ที่แค่ยืนด้วยกันก็อมยิ้มได้แล้ว ไม่ต้องไปพูดถึงความใสและมุขตลกที่จะได้เจอในหนัง น้าหม่ำเค้ารู้ว่าจะเล่นอะไร มุขแบบไหนที่เหมาะกับครอบครัวเหมาะกับทุกๆ คน แล้วสองคนนี้เนี่ยเซอร์ไพร์สมากมุขบางมุขเราคาดไม่ถึงว่าเค้าจะเล่นได้ดีขนาดนั้น บางทีมีต่อมุขกันเองจนยาวไม่เลิกก็มี คนฟังมันก็เพลินเหมือนได้ดูตลก 2 รุ่นชนกัน น้าหม่ำพูดเอาไว้ว่า หนังเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ตัว ท. คือดูได้ทุกเพศทุกวัย เราทำงานบนโต๊ะกันเยอะมาก เตรียมการทุกอย่าง แบ่งเวลาเล่นเวลานอนให้กับน้องเดียว น้าหม่ำเค้าก็เป็นห่วงเรื่องนี้อยู่ เราเป็นพ่อด้วยกันทั้งคู่เรารู้ข้อจำกัดของเด็ก เราก็เตรียมแผนการทุกอย่างเอาไว้ แต่สุดท้ายกลายเป็นว่า น้องเดียวไม่เป็นอย่างนั้นเลย ทำงานเหมือนผู้ใหญ่หมด จนทีมงานทุกคนผูกพันและรักน้องเดียวกันทั้งกอง”

…นอกจากจะมีมุขเด็ด ๆ และความสนุกสนานของคู่ซี้ต่างไซส์คู่นี้แล้ว ก็ยังมีฉากกินใจอบอุ่นที่มืออาชีพอย่างหม่ำ จ๊กมก ยังแอบขนลุกไม่ได้

“เป็นฉากที่ผมประทับใจที่สุดแล้ว เล่นกับน้องเดียวแล้วนึกถึงลูก ไม่เคยอินถึงขนาดนี้เลย อยู่ในกองเล่นกับน้องเดียวมาเยอะ เล่นมุขเล่นอะไรสนุก ๆ กันมาตลอดทั้งเรื่อง แต่พอมันต้องมีฉากซาบซึ้ง ๆ มันกินใจนะ มันไม่ได้มีอะไรเศร้าเลยเรื่องนี้ แต่อบอุ่นกินใจผมมาก เรื่องนี้ครบรสเลยได้สนุกก็ได้ ได้ความประทับใจก็ได้ ต้องไปดูกันว่าผมกับน้องเดียวจะเลิฟซีนกันขนาดไหน แต่เด็กๆ ดูได้ครับเลิฟซีนไม่น่าเกลียด ภาพยนตร์ตัว ท. แน่นอนครับ”

…และที่ขาดไม่ได้กับโบนัสพิเศษของแขกรับเชิญ “โหน่ง ชะชะช่า, โย่ง เชิญยิ้ม, ค่อม ชวนชื่น” ที่ตั้งอกตั้งใจหอบความฮามาฝากคนรักครอบครัวหัวเหลี่ยมหัวแหลม เรียกว่าแค่ได้ยินชื่อ หรือแค่เห็นหน้าก็ฮากันแล้ว ผู้กำกับคอนเฟิร์ม

 

DIRECTOR NOTE

…อยากทำหนังเกี่ยวกับชีวิตของคนธรรมดา ในสังคมเมือง อาวุธที่เขาพกติดตัวมาอย่างเดียวคือ “ความซื่อ” เขามีความฝันลม ๆ แล้ง ๆ ที่ดูเกินตัวแต่จริงใจ จนได้มาเจอกับเด็กคนหนึ่งซึ่งมาช่วยเปิดโอกาสทำให้เขากล้าที่จะลุยกับความฝัน ความซนของเด็กมาช่วยปัดฝุ่นความฝันของเขา มันอาจผิดพลาดผิดที่ผิดทางไปบ้างแต่อย่างน้อยก็ได้ลองทำ และมันจะกลายเป็นความทรงจำของทั้งคู่ไปตลอดชีวิต

…เป็นหนังที่ดูแล้วยิ้ม ๆ การทำงานเบื้องหลังก็สบาย ๆ เหนื่อยนักก็กลับบ้านมาเล่นกับลูกเพื่อเพิ่มพลัง พูดได้เต็มปากเลยว่า หนังเรื่องนี้ขับเคลื่อนได้ด้วยพลังจากเด็ก ๆ

…มีคำกล่าวว่า “คบเด็กสร้างบ้าน”

…ผม “คบเด็กสร้างหนัง”

พาณิชย์ สดสี

…คนเป็นพ่อก็ดูได้ เป็นแม่ก็ดูได้ ยังไม่มีครอบครัวก็ดูได้ ดูแล้วจะทำให้อยากมีครอบครัว คนมีครอบครัวอยู่แล้วก็ไม่ต้องคิดอยากมีครอบครัวอีก เพราะว่าจะทำให้รักครอบครัวมากขึ้น ถ้าจะให้คะแนนความรักครอบครัวในตัวผม ผมให้ตัวเอง 100 เต็ม 100 พอดูหนังเรื่องนี้จบ ผมรักครอบครัวผมมากขึ้นอีกเป็น 200 เท่า

 

Share this article :

แสดงความคิดเห็น