Home » » คนองกรุง

คนองกรุง



คนองกรุง (2516)

นครพิงค์ภาพยนตร์ เสนอ
สี่สาวเลือดสู้จากสี่ทิศตะลุยแหลก
ชายเก่งกาจมีมาก หญิงอย่างนี้มีที่ไหน
คนองกรุง

35 ม.ม.สีอุลตร้าสโคป
สมบัติ เมทะนี สุทิศา พัฒนุช
โสภา สถาพร เมตตา รุ่งรัตน์ โขมพัสตร์ อรรถยา
ปริม ประภาพร, ดามพ์ ดัสกร, คมน์ อรรฆเดช,
ศรัทธา, จอมใจ จรินทร์, วิภาวดี ตรียะกุล
อ.อรรถจินดา-ชนะ คราประยูร สร้างเรื่อง
ปริศนา สร้างบท
โสภณ เจนพาณิชย์ ถ่ายภาพ
สนาน-ชนะ คราประยูร กำกับการแสดง
*เกร็ด
-ใบปิดวาดโดย ริ้ม

เรื่องย่อ คนองกรุง

ท่านนายพลผู้บัญชาการหน่วยพลร่มพิเศษ ได้เรียกสี่สาวพลร่มที่อยู่ใต้บังคับบัญชาเข้าพบ ซึ่งท่านได้คัดเลือกผู้ที่มีความสามารถสูงจากพลร่มหญิงทั้งหมดอันมี มยุรี (สุทิศา พัฒนุช) วิชุดา (โขมพัสตร์ อรรถยา) บุษยา (เมตตา รุ่งรัตน์) และมาลินี (โสภา สถาพร) ท่านนายพลบอกกับสี่สาวพลร่มว่าจะใช้ให้ไปราชการลับสุดยอด ไม่รับรองชีวิตว่าเป็นหรือตาย ทุกคนไปแล้วอาจไม่ได้กลับ ถ้าใครไม่สมัครใจก็ขอถอนตัวได้ แต่ 4 สาวพลร่มสมัครใจที่จะทํางานครั้งนี้ด้วยความเต็มใจ ดังนั้นท่านนายพลจึงอนุญาตให้ 4 สาวพลร่มได้หยุดพักผ่อนและหาความสําราญได้ตามใจชอบ พร้อมกับมอบเงินให้จํานวนหนึ่งเป็นพิเศษอีกด้วย พร้อมกับบอกให้ทุกคนทราบว่างานที่ทั้งสี่จะทํานั้นจะรับทราบได้จากนายทหารยศพันตรีคนหนึ่ง ซึ่งจะได้พบกันในวันออกปฏิบัติงาน

4 สาวกลับที่พักซึ่งอยู่รวมกัน ปรึกษากันว่าจะต้องเที่ยวให้สนุก เพราะไม่แน่ว่าการทํางานที่ได้รับมอบหมายครั้งนี้จะมีชีวิตรอดกลับมาหรือไม่ ต้องใช้เงินที่ได้รับจํานวนมากนี้ให้เกลี้ยง และจะกลับเข้าค่ายภายใน 3 วันที่ได้ รับอนุญาต และทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าควรจะเดินทางเข้ามาเที่ยวกรุงเทพฯ และออกเดิน ทางในเช้าวันรุ่งขึ้น

4 สาวสลัดความเป็นพลร่มหญิงทิ้งออก เดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยมีมอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะอย่างคึกคะนอง เมื่อถึงกรุงเทพฯ ทั้งสี่ตระเวนหาจับจ่ายข้าวของเครื่องแต่งตัวอย่างสนุกสนานเป็นที่วุ่นวายตามร้านรวงทั่วกรุง มี อยู่ร้านหนึ่งซึ่งเป็นที่นิยมของดาราดาวยั่วชอบจับจ่ายเครื่องแต่งกาย ทั้ง 4 สาวได้พบกับสาวสังคมชั้นดาราเข้าอันมีผู้แสดงในเรื่องคือ ปริม ประภาพร – จอมใจ จริน – วิภาวดี ตรียกุล จากการที่ได้พบกันครั้งนี้ทําให้ทั้งหมดเกิดการเขม่นกันขึ้นในที่สุดต้องวางมวยกันเป็นที่เผ็ดร้อน ร้อนถึงตํารวจต้องทํางานหนัก เสร็จจากการตระเวนซื้อของจนเป็นที่พอใจแล้ว 4 สาวในคราบสาวชาวกรุงที่เต็มก็ตระเวนกรุงต่อไปและไปเจอกับเข้ากับแก๊งมอเตอร์ไซค์อันธพาลเข้าโดยมี ทวน ( ดามพ์ ดัสกร) เป็นหัวหน้ามีลูกน้อง 4 – 5 คน ทวนนําสมัครพรรคพวกเข้าลวนลาม 4 สาวทันที โดยทวนเองก็ไม่ทราบว่า 4 สาวคือพลร่มหญิงผู้กล้าหาญ ฉากการต่อสู้และขับมอเตอร์ไซค์อันโลดโผนจึงเกิดขึ้นและอลเวงไปทั่วกรุง แต่แล้ว 4 สาว ใช้ความฉลาดหลอกล่อทวนกับพวกร่วมแก๊งมอเตอร์ไซค์ของเขาไปพบกับสายตรวจของตํารวจ พวกแก๊งมอเตอร์ไซค์จึงจําเป็นต้องแยกย้ายกันหนีไป
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ไม่ได้รอดพ้นสายตาของชายหนุ่มสวมแว่นดําคนหนึ่ง ซึ่งตามดูเหตุการณ์อยู่ห่าง ๆ ซึ่งทราบชื่อภายหลัง ว่าชื่อ ยอดธง สมบัติ เมทะนี ในค่ํานั่นเองภายในบาร์ของพวกวัยรุ่นแห่งหนึ่ง 4 สาวได้ไปเที่ยวหาความสําราญอย่างสนุกสนาน โดยมีหนุ่มหน้าตาดี 3 คนชื่อ เชิด (พนม นพพร) ยอด (สถาพร จินดาพร) จักร์ (คมน์ อรรคเดช) นั่งให้ความสนใจ 4 สาวอยู่อีกมุมหนึ่ง ในขณะเดียวกัน ทวน ( ดามพ ดัสกร ) กับพวกก็ได้มาติดต่อกับผู้จัดการบาร์ ในเรื่องค้าของเถื่อนและมาพบกับสี่สาวโดยบังเอิญอีกครั้งจึงคิดแก้เผ็ด 4 สาวที่หลอกให้พวกตนไปเจอสายตรวจเข้า

ด้าน 4 สาวเมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้เห็นว่าพวกตนจะสู้พวกวายร้ายไม่ได้และจะทําให้เหตุการณ์ลูกลามใหญ่โต วิชุดา (โขมพัสตร์ อรรถยา) ไปกับเชิด ( พนม นพพร) บุษยา (โสภา สถาพร) ไปกับ ยอด ( คมน์ อรรคเดช ) และ มาลีน (เมตตา รุ่งรัตน) ไปกับ จักร์ (สถาพร จินดาพร) ทุกคู่ต่างไปเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ กันเพราะมีเวลาน้อยเนื่องจากฝ่ายหญิงจะต้องไปปฏิบัติงานสําคัญ และทั้งหมดก็มีความพอใจซึ่งกันและกันจนเกิดเป็นความรัก ก่อนที่วันแห่งความสนุกสนานจะสิ้น สุดลงทั้งหมดได้นัดหมายไปพบกันที่หน้าบาร์ที่เคยพบกันครั้งก่อน ก่อนที่ทุกคนจะจากกัน

เช้าวันใหม่ทั้ง 4 สาวเดินทางโดยพาหนะมอเตอร์ไซค์คู่ชีพเพื่อไปยังที่นัดหมายกับ 4 หนุ่ม ในระหว่างทางตํารวจได้ขอตรวจใบขับขี่ แต่ 4 สาวไม่ได้นําติดตัวมาด้วยจึงไม่ยอมหยุดให้ตํารวจตรวจและพากันขับหนีเอาตัวรอด ฝ่ายตํารวจก็ไล่กวดไม่ลดละฉากขับเคี่ยวทางมอเตอร์ไซค์จึงเริ่มขึ้นอีกครั้งทั่วกรุง จนกระทั่ง 4 สาวต้องทิ้งรถหนีขึ้นไปแอบอยู่บนรถบรรทุกคันหนึ่ง ซึ่งมีผ้าใบผืนใหญ่คลุมของไว้ด้านหลังตํารวจตามไม่พบและเลยไป แต่ทั้ง 4 สาวยังไม่ทันได้ลงจากรถ รถคันดังกล่าวก็เคลื่อนตัวออกไปจากที่นั่นอย่างรวดเร็วทั้ง 4 สาวจึงติดอยู่บนรถต่อไป ขณะที่อยู่บนรถทั้ง 4 ได้พบว่าในลังไม้ที่ซุกซ่อนมานั้นได้บรรจุปืน และกระสุนปืนไว้มากมาย แต่ยังไม่ได้ทําอะไร ก็พอดีรถเลี้ยวเข้าโกดังเก็บของ คนงานหลายคนได้มาช่วยกันเปิดผ้าใบเพื่อนของลงก็เจอ 4 สาวอยู่ในรถพอดีทั้งหมดจึงช่วยกันจับตัว 4 สาว การต่อสู้จึงเกิดขึ้นอีกครั้ง ปรากฏว่ารถคันดังกล่าวเป็นของทวน (ดามพ์ ดัสกร ) ซึ่งดําเนินค้าของเถื่อนนั่นเอง ในขณะที่การต่อสู้ดําเนินอยู่ทวนมาพบเข้าพอดี จึงใช้ปืนบังคับให้ 4 สาวยอมจํานนและจับขังเอาไว้ ฝ่ายยอด ธง-ยอด-เชิด-และจักรยืนรอ 4 สาวยังที่นัด หมายอย่างกระวนกระวายที่หน้าบาร์ ก็พอดีมีลูกน้องของทวนได้มาบอกทางผู้จัดการบาร์ว่า มีผู้หญิง 4 คนติดรถเข้าไปในโกดังเก็บของและขณะนี้ได้ถูกคุมขังเอาไว้และเป็นขณะที่ยอดธงแอบได้ยินเข้าจึงคิดว่าเป็น 4 สาวที่ตนรอแน่ จึงพาพวกสะกดรอยตามไป เป็นขณะเดียวกันกับ 4 สาวหาทางช่วยเหลือตัวเองอยู่จึงออกอุบายให้มาลินี (โขมพัสตร์ ถรรอยา) เปลือยกาย แกล้งชักดิ้นชักงออีกสามคนช่วยพยาบาลและบอกกับยามผู้ควบคุมว่ามาลินีเป็นโรคต้องการผู้ชาย เพราะเป็นโรคขาดผู้ชายไม่ได้ขอให้ยามที่คุมนี้ช่วยแก้ไขให้ด้วย ยามหลงเชื่อพอ เข้ามาในห้องขังก็ถูก 4 สาวรุมกระทืบและทลายซ่องออกมา การต่อสู้กับเหล่าร้ายก็ดำเนินขึ้น เป็นเวลาพอดีกับยอดธงและพรรคพวก ติดตามมาทันเวลาพอดี และเข้าช่วยเหลือพร้อม เจ้าหน้าที่ตํารวจ กว่าเหตุการณ์จะสงบลงได้เล่นเอาทุกคนบอบช้ำไปตาม ๆ กัน เมื่อเหตุการณ์สงบลงมยุรี (สุทิศา พัฒนุช) ได้บอกกับยอดธงว่า พรุ่งนี้พวกเธอทั้ง 4 ก็จะต้องจากกรุงเทพฯ ไปแล้วขอให้ยอดธงและพวกไปส่งพวกเธอด้วย โดยนัดแนะให้ไปพบเธอบนเส้นทางแห่งหนึ่ง ในเช้าวันรุ่งขึ้นแต่ยอดธงและเพื่อนไม่มาตามนัด ทั้ง 4 สาวจึงจําเป็นควบมอเตอร์ไซค์คู่ชีพ กลับค่ายด้วยอาการเศร้าสร้อย

เช้าตรู่ในวันที่ทั้งหมดจะออกปฏิบัติงาน เหตุการณ์ที่ 4 สาวพลร่มไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น ก็ได้เกิดขึ้นกับหญิงสาวอย่างคาดไม่ถึง เหตุการณ์อันนั้นจะเป็นเช่นไรและตื่นเต้นแค่ไหน หรือจะลงเอยวิธีใดขอให้ติดตามในภาพยนตร์

Share this article :

แสดงความคิดเห็น