Home » » จำปาทอง

จำปาทอง


จำปาทอง (2514)

พิษณุภาพยนตร์…โดย “วิจารณ์ ภักดีวิจิตร”
ภูมิใจเสนอภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของ…มิตร ชัยบัญชา
แสดงไว้อย่างสมบูรณ์ที่สุด
ฟัง 9 เพลงเอก 35 ม.ม.สีอิสต์แมน เสียงในฟิล์ม..
จำปาทอง


นำโดย 4 ดารายอดนิยม
มิตร ชัยบัญชา อรัญญา นามวงษ์
ฉัตร มงคลชัย ขวัญจิตร ศรีประจันต์
ผ่องศรี วรนุช นักร้องลูกทุ่งหญิงเสียงการะเวกให้เกียรติร่วมแสดง
“พร้อมด้วย” วาสนา ชลากร, อนุชา รัตนมาลย์, พูนสวัสดิ์ ธีมากร,
สีเผือก, ชูศรี โรจนประดิษฐ์, คำนึง, แป้น ปลื้มสระไชย,
เมฆ, ก๊กเฮง, สมศรี และดาราประกอบอีกมาก
วิจารณ์ ภักดีวิจิตร อำนวยการสร้าง-กำกับการแสดง
สันทัด ศรีสัมพันธ์ ถ่ายภาพ
รัตนาชัยฟิล์ม จัดจำหน่าย

เรื่องย่อ จำปาทอง

วีระเทพ ( มิตร ชัยบัญชา) เป็นบุตรชายของ คุณหญิงมหศักดิ์ไอสูรย์ ซึ่งเป็นเจ้าของป่าไม้ที่ร่ำรวยมาก คณหญิงมหศักดิ์ได้ส่งวีระเทพ บุตรชายไปเล่าเรียนต่อที่เมืองนอก โดยวีระเทพได้ ไปเรียนวิชาศิลปกรรมทางวาดเขียนสําเร็จมา วันหนึ่ง คุณหญิงมหศักดิ์ได้เตี่ยวเข็ญที่จะให้วีระแต่งงานกับโสรยา (วาสนา ชลากร) ซึ่งเป็นลูกสาว ของคุณนายสร้อย (สมศรี อรรถจินดา) ซึ่งภายนอกใคร ๆ ก็นึกว่าคุณนายสร้อยเป็นเศรษฐี แต่แท้ที่จริงแล้ว คุณนายสร้อย กําลังจะถูกเจ้าหนี้ทั้งหลายรุมฟ้องล้มละลาย จึงได้ขอร้องให้โสรยา ลูกสาวพยายามจับวีระเทพให้ได้ แล้วตนก็จะได้ เอาเงินจากวีระเทพมาใช้หนี้ได้ แต่ว่าวีระเทพไม่ได้รักใคร่โสรยาเลยแม้แต่นิดเดียว

เมื่อถูกคุณหญิงมหศักดิ์ ผู้เป็นแม่ เคี่ยวเข็ญ ก็หนีไปอยู่ที่บ้านพักในป่าไม้เสียกับห้อย (พูนสวัสดิ์ ธีมากร) และนัดให้ทิ้ง (สีเผือก) ซึ่งเป็นน้องชายของห้อย ตามไปภายหลัง โดยไม่ให้คุณหญิงและคนในบ้านรู้เรื่องเลยแม้แต่นิดเดียว

ครั้นวีระเทพกับห้อยเดินทางไปเกือบจะถึงป่าไม้ที่จะพักอยู่แล้ว ก็ได้แวะร้านเล็กลงเพื่อหาของกินและพักเหนื่อย ในขณะที่กําลังกินอาหารอยู่นั้น บัวผ่อง (ชูศรี) กับน้องสาว บัวผัน (ขวัญจิต ศรีประจันต์) ก็ได้เข้ามาซื้อของในร้านเจ๊กตง ก็ถูก พรชัย (เมฆ เมืองกรุง) ลวนลามเอาทั้งพี่ทั้งน้อง ก็พอดี ดอกรัก (ฉัตร มงคลชัย) ซึ่งเป็นชาวบ้านป่าเพื่อนบ้านของสองพี่น้องนั่นเอง เข้ามาช่วยเหลีย จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น ดอกรักถูกพวกของพรชัยรุม วีระเทพกับห้อยเห็นเช่นนั้นก็เข้าช่วย ดอกรักต่อสู้กับพวกของพรชัย จนพวกของพรชัยพ่ายแพ้ หลบหนีไปหมด ดอกรักกับบัวผ่องและบัวผันก็เข้ามาขอบใจวีระเทพ วีระเทพกถามถึงบ้านของลุงเพิ่มซึ่งเป็นคนดูแลป่าไม้ของคุณหญิงฯ บัวผ่องและบัวผันก็บอกวาลุงเพิ่มนั้นเป็นพ่อของตนเอง แล้วก็พาวีระเทพกับห้อยไปที่บ้านของตน

เมื่อไปถึงบ้านลุงเพิ่มก็ได้ให้การต้อนรับวีระเทพและห้อยเป็นอย่างดียิ่ง โดยให้บัวผ่องไปอยู่รับใช้ที่บ้านพักของวีระเทพด้วย ทั้งนี้ทําให้ดอกรักไม่พอใจที่บัวผ่องไปอยู่รับใช้ในบ้านของวีระเทพ
แต่ก่อนที่วีระเทพกับห้อยจะไปพักนั้น ลุงเพิ่มได้เล่า ถึงความมหัศจรรย์ของป่าไม้ให้ วีระเทพและห้อยฟัง แต่วีระเทพกับห้อยก็ไม่เชื่อ แล้วทั้งสองก็ลาลุงเพิ่มไปพักที่บ้านพักในป่าไม้นั้น

รุ่งขึ้น วีระเทพกับห้อยก็ได้พากันไปเขียนภาพวิว ต่าง ๆ ในป่าไม้นั้น ในขณะที่วีระเทพกําลังเขียนภาพอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องเพลง ทําให้วีระเทพมี ความแปลกใจก็แอบไปดูก็เห็น “จําปาทอง” (อรัญญา นามวงศ์) นั่งร้องเพลงอยู่ที่โขดหิน ก็เข้าไปหา และ แนะนำตนเองให้จําปาทองรู้จัก จําปาทอง ซึ่งแท้จริง แล้วเป็นนางไม้สิงสถิตอยู่ในต้นจําปาทอง ในป่าไม้ ของวีระเทพนั่นเอง วีระเทพได้ขอร้องให้จําปาทองมาเป็นนางแบบให้ตนเขียนภาพ จําปาทองก็ตกลงรับคำของวีระเทพที่จะให้ตนมาเป็นนางแบบให้

ทางบ้านคุณหญิงมหศักดิ์เมื่อ ทราบว่าวีระเทพ หายไปจากบ้าน แต่ไม่มีใครทราบว่าวีระเทพหายไปไหนพร้อมกับห้อย ก็ให้คนติดตามหาแต่ก็ไม่ได้ผล จนกระทั่งเดิม (สนั่น วโรภาส) ซึ่งเป็นทนายหน้าหอของคุณหญิงรู้เรื่อง ก็ได้บอกให้คุณหญิงฯ รู้ว่าการที่วีระเทพหนีไปครั้งนี้ก็เพราะถูกคุณหญิงเคี่ยวเข็ญบังคับให้แต่งงานกับโสรยา วีระเทพไม่ได้รักโสรยาเลยจึงหนี ไป แต่ก็ไม่ได้หนีไปไหน เพียงแต่ไปพักอยู่ที่ป่าไม้ของคุณหญิงในต่างจังหวัดเท่านั้น ครั้นคุณหญิงทราบเรื่องก็จัดแจงไปตาม พร้อมด้วยโสรยาและ คุณนาย สร้อยกับนที ( อนุชา รัตนมาลย์) ซึ่งเป็นคู่รักของโสร ยา แต่ทั้งโสรยาและนทีก็ปิดบังเรื่องที่ตนรักกันอยู่มิให้คุณหญิงรู้ ทั้งนี้เป็นเพราะคุณนายสร้อยกลัวว่าหากคุณหญิงรู้เรื่องนี้เข้า จะทําให้โสรยาไม่ได้แต่งงานกับวีระเทพ จะทำให้ตนต้องถูกเจ้าหนี้รุมฟ้อง

ทั้งหมดไปถึงทางเข้าไปในป่าไม้ ก็ได้หยุดพักที่ร้านเจ๊กตง โสรยา ก็ถูกพรชัยลวนลาม นทีเข้าไปห้ามก็ถูกพรชัยกับพวกรุมซ้อมสบักสบอม พอดีวีระเทพกับห้อยได้พากันมาซื้อของที่ร้านเจ๊กตง ก็ได้เข้าช่วยต่อสู้กับพวกของพรชัยอีก ในที่สุดพวกของพรชัยก็แพ้ไปเช่นเดิม วีระเทพก็พาคุณหญิง คุณนายสร้อย โสรยา และนทีไปพักที่บ้านพัก

ในวันรุ่งขึ้น นทีและโสรยาก็ได้พากันไปเดินเที่ยวในป่าไม้และทั้งสองได้นั่งพลอดรักกัน แต่ดอกรักได้แอบมาเห็น ดอกรักก็ไปบอกให้วีระเทพรู้ แทนที่วีระเทพจะโกรธ วิระเทพกลับดีใจ ทําให้ดอกรักแปลกใจมาก ครั้นตอนสายคุณหญิงกับพวกก็กลับ โดยสั่งให้วีระเทพ รีบกลับโดยด่วน เพื่อที่จะจัดงานแต่งงานให้วีระเทพกับโสรยา

ส่วนวีระเทพครั้นคุณหญิงกลับไปแล้ว ก็ขวนห้อย ไปเขียนรูปจำปาทองกันอีก ซึ่งจำปาทองก็ได้มาพบกับวีระเทพที่เดิม การพบกันเช่นนี้ทําให้ วีระเทพ กับจําปาทองเกิดความรักต่อกันขึ้น คืนหนึ่งจําปาทอง ได้มาหาวีระเทพในห้องนอนที่บ้านพัก เมื่อวีระเทพสารภาพรักกับจําปาทอง จําปาทองก็เล่าความหลังเมื่อครั้งสองร้อยปีล่วงมาให้วีระเทพฟังว่า ชาติก่อน วิระเทพ คือ “ขุนกล้าสงคราม” นายทหารเอกแห่งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งได้ตายในการรบกับทหารพม่า เมื่อครั้งพม่านําทัพมาตีเมืองไทย จําปาทองก็ได้ตายตามเธอไปด้วย ซึ่งเรื่องนี้ทําให้วีระเทพเชื่อตามคําบอกเล่า ของจําปาทอง ทุกอย่าง…

พอดีคุณหญิงกับคุณนาย สร้อย และโสรยา มาตาม วีระเทพอีก เนื่องจากวีระเทพไม่กลับบ้านตามที่ให้สัญญาไว้ วีระเทพ ก็ได้แนะนําให้คุณหญิงรู้จักกับจําปาทอง โสรยาก็แสดงความหึงหวงวีระเทพ เมื่อจำปาทองลากลับ โสรยาก็รีบตามจำปาทองไปเพื่อหวังจะต่อว่าจำปาทอง แต่ก็ถูกจําปาทองแกล้งต่าง ๆ นาๆ จนถึงโสรยาต้องวิ่งหนีกลับที่พัก คุณหญิงมาถึงก็เคี่ยวเข็ญ จะให้วีระเทพรับว่าที่จะแต่งงานกับโสรยาให้ได้ แต่วีระเทพก็ผลัดวันประกันพรุ่งอยู่เรื่อยไป ส่วนคุณนายสร้อยกับโสรยาและนทีก็คบคิดกับที่จะทําลายต้นจําปาทอง เพื่อให้จําปาทองตายเสีย ก็พาไปหาอาจารย์ของคุณนายสร้อย อาจารย์ก็ให้ผ้ายันต์และของวิเศษเพื่อนำมาปิดและโรยที่ต้นจําปาทองสิงสถิตย์อยู่ คนทั้งสามก็มาทําตามคําสั่งของอาจารย์ ทําให้จําปาทองไม่สามารถที่จะเข้าไปสิง สถิตย์อยู่ได้ดังเดิม ก็มาอาศัยอยู่ที่บ้านพักของวีระเทพในป่าไม้ และแกล้งหลอกหลอนหลอนคุณนายสร้อย กับโสรยาและนทีต่างๆ นานา จนในที่สุดคนทั้งสาม ก็ต้องหนีกลับกรุงเทพฯ

เมื่อกลับมาถึงกรุงเทพฯ คนทั้งสามก็ได้สมคบที่จะทําลายต้นจําปาทองนั้นให้ได้อีก คุณนายสร้อยจึงให้ นทีกับพยัคฆ์ไปทําลายต้นจําปาทองต้นนั้นเสีย แตชีปะขาวอาจารยของจ้าปาทองมาช่วยได้
ในที่สุดนที พยัคฆ์กับพวกก็ต้องหนีกลับ คุณนายสร้อยก็ให้พยัคฆ์ที่เป็นพ่อค้าไม้ ให้เดินทางไปขอดูป่าไม้ของคุณหญิง แต่แล้วพยัคฆ์ก็พาพวกจะมาขโมยตัดไม้ในป่าไม้ของคุณหญิง พอดีกับวีระเทพกับห้อยเดินทาง กลับจากไปหาอาจารย์ของจำปาทอง มาเห็นพวกของพยัคฆ์กําลังจะตัดต้นไม้อยู่ ก็เกิดการต่อสู้กันขึ้น พวกของจําปาทองซึ่งเป็นนางไม้อยู่ด้วยก็มาช่วยวีระเทพกับ
ห้อยไว้ทันเวลา และได้ปรากฏร่างบอกกับวีระเทพว่า ขณะนี้ จําปาทองกําลังรอวีระเทพอยู่ที่บ้านพักในป่าไม้ เนื่องจากถูกคุณนายสร้อย และโสรยาเอาผ้ายันต์มาปิด
และเอาผงวิเศษมาโรยรอบต้นไม้ที่จําปาทองสิงสถิตย์อยู่ วีระเทพจึงได้รีบกลับมาบ้านพัก เอาน้ำมนต์วิเศษที่ได้มา จากอาจารย์ของจําปาทองรด จําปาทองก็กลายร่างเป็นขึ้นมา

วีระเทพได้พา จําปาทอง มาที่บ้านกรุงเทพฯ พร้อมกันนั้นดอกรักก็พาบัวผันมาขออาศัยอยู่กับคุณหญิง ในกรุงเทพ ฯ ห้อยก็พาบัวผ่อง และทิ้งก็พาบัวเผื่อน มาอาศัยอยู่ในบ้านคุณหญิงเช่นกัน ทําให้คุณหญิงต้องปวดหัวเป็นอย่างมาก แต่เนื่องจากคุณหญิงเป็นคนที่มีใจเมตตาก็ให้คนทั้งหมดอาศัยอยู่ในบ้านนั้น วีระเทพพาจําปาทองมากราบคุณหญิง ก็พบกับ โสรยา และ คณนายสร้อย โสรยาก็ต่อว่าต่อขานวีระเทพ, คุณนายสร้อยก็บอกกับคุณหญิงว่าจะนําความไปบอกให้ลงข่าว จําปาทองเป็นผี แต่วีระเทพก็ไม่แคร์ ทําให้โสธยาเป็นเดือดเป็นแค้นอย่างมาก จึงได้วางอุบายหาทางแกล้งต่างๆนาๆ โดยวันหนึ่งขณะที่จําปาทองกําลังจะยกสํารับกับข้าวไปเก็บ ก็ถูกโสรยาเอาเท้าปัดขาจำปาทองหกล้ม ถ้วยชามตกแตกเสียหายหมด แต่คณหญิงก็ไม่ว่ากล่าวจำปาทอง อีกครั้งขณะที่จำปาทอง กําลังจะจัดดอกไม้อยู่ ก็ถูกโสรยาจะเอาน้ำกรดมาสาดหน้า แต่อาจารย์ชีปะขาวของจําปาทองก็มาช่วยไว้ โดยให้น้ำกรดที่โสรยาจะสาดหน้าจำปาทองนั้นกลับมาสาดหน้าของโสรยาเอง ทําให้ใบหน้าของโสรยาได้รับบาด เจ็บจนเสียโฉมไปเลย ด้วยความแค้นใจโสรยาจึงได้ ให้นทีพยัคฆ์ กับพวกไปจับตัวจําปาทองมากักขังไว้ ในโกดังแห่งหนึ่ง วีระเทพมารู้เรื่องก็ไปขู่ให้คุณนายสร้อยบอกที่ซ่อนของจําปาทอง คุณนายสร้อยกลัว ก็พาวีระเทพไปที่ซ่อนจําปาทอง นทีเห็นวีระเทพมาก็ขู่วีระเทพให้เอาเงินมาแลกกับตัวจําปาทอง เป็นจํานวนเงินถึง สองล้านบาท วีระเทพก็ยอม แต่เมี่อวีระเทพนำเงินมาเพื่อไถ่ตัวจําปาทอง นรีกับพวกกลับไม่ยอมปล่อยตัว จําปาทอง โสรยาจะทําร้ายจำปาทองอีก จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น ในระหว่างที่ต่อสู้กันนั้นลังใส่ของในโกดัง ได้รับการกระทบกระเทือนก็ล้มลงมาทับเอาพวกคุณนาย สร้อย โสรยา นที กับพวกตายหมด ส่วนวีระเทพกับจำปาทองวิ่งหนีออกมาได้อย่างหวุดหวิด ในที่สุดจำปาทองกับวีระเทพก็ครองรักอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขต่อไป

Share this article :

แสดงความคิดเห็น