Home » » ดรรชนีไฉไล

ดรรชนีไฉไล



ดรรชนีไฉไล (2519)

อรุโณทัยภาพยนตร์
อรุณศรี พินทิพย์ สร้าง
นิวไฟว์สตาร์โปรดักชั่น จำหน่าย
ดรรชนีไฉไล
นิยายชีวิตรักอมตะ ของ อิงอร
กรุง ศรีวิไล อรัญญา นามวงษ์
อาวุธ พิทักษ์พงศ์ อนันต์ สัมมาทรัพย์
ประจวบ ฤกษ์ยามดี, ดามพ์ ดัสกร, กันทิมา ดาราพันธ์,
ดาวใจ ไพจิตร, มารศรี, จรัสศรี สายะศิลปี,
สมชาย สามิภักดิ์, บุญส่ง ดวงดารา, ฉกาจ
ขอแนะนำสาวสวยดวงใหม่ รัชนู บุญชูดวง
พร้อมด้วยลิงแสนรู้ เนาวรัตน์
ไพรัช กสิวัฒน์ กำกับ
ส.อาสนจินดา สร้างบท
รุจน์ รณภพ ที่ปรึกษา
สง่า อารัมภีร-เสกสรร สอนอิ่มศาสตร์ เรียบเรียงเสียงประสานเพลง
กวี เกียรตินนท์ ถ่ายภาพ
*ใบปิดวาดโดย แดน

 
เรื่องย่อ ดรรชนีไฉไล

หลังจาก ราชิต (กรุง ศรีวิไล) ลาออกจากราชการทหารยศนายพันตรี มาทํางานที่เทศบาลแผนกแผนผังสร้างเมือง ได้ถูกส่งไปดูงานที่ลอสแอลเจลิส ได้มาพบกับเพื่อนเก่า (อนันต์ สัมมาทรัพย์) ซึ่งมาทําปริญญาต่อ จึงชวนราชิตไปเที่ยวบนบ้านพัก ท่านกงศุลบอกว่าคนไทย ใน LA. ที่เป็นชาวเหนือจัดงานสงกรานต์มีการเลี้ยงขันโตกรดน้ำดําหัวท่านกงศุลและมีสาวๆ ฟ้อนเล็บ ราชิตก็รับคําชวนของเพื่อน

เมื่อไปในงานแล้วจึงไปพบ ดรรชนีไฉไล (อรัญญา นามวงศ์) และมณี (กันทิมา ดาราพันธ์) ฟ้อนเล็บวุ่นอยู่กับสาว ๆ อีกหลายคน จึงพยายามหาทางรู้จัก แต่ไม่เป็นผล เพราะมณีกันท่าอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งวันหนึ่ง
ราชิตเดินอยู่กับเพื่อน ๆ (ฝรั่ง) ที่ชายหาดมาลิบ ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องให้ช่วยเป็นภาษาไทยดังมาจากทะเล จึงวิ่งลงไปช่วยอุ้มขึ้นมาจากน้ำ ปรากฏว่าเป็น ดรรชนีไฉไลกําลังจะจมน้ำตาย เพราะเป็นตะคริวและมีโรคประจํา ตัวอยู่

จากการช่วยเหลือในครั้งนั้น ราชิตก็ได้รู้จักดรรชนีไฉไลสมความตั้งใจ แต่ ในนาม “หญิงเล็ก” จากนั้นทั้งสองซึ่งเป็นคนไทยอยู่ในต่างแดนได้มีความสนิทกันจนถึงรัก แต่ติดขัดตรงที่มณีคอยกันท่า เพราะระแวงด้วยหวงด้วย ในที่สุด มณีก็ไปพบรูปถ่ายที่ราชิตถ่ายรวมกับเสด็จในกรมเมื่อครั้งที่รับราชการเป็นนายทหารบกมียศเป็นพันตรีมีตําแหน่งเป็น ทหารคนสนิทของท่านเสด็จในกรม (ดามพ์ ดัสกร) พระบิดาของดรรชนี ไฉไล มณีจึงเอารูปนั้นออกมายืนยันให้ราชิตเห็นและด่าว่าราชิตที่แท้คือเป็นต้นเหตุให้เสด็จในกรมถูกจับเนรเทศมาอยู่ต่างประเทศกับลูกสาวคือ หม่อมเจ้าหญิงดรรชนีไฉไลและมณีมีตําแหน่งพี่เลี้ยง ถูกส่งมาเรียนหนังสือที่ลอดแองเจอลิสแต่เด็กจึงไม่รู้จักราชิต ในที่สุดเสด็จในกรมตรอมพระทัย สิ้นพระชนม์ในออมกอดของดรรชนีไฉไลที่ลอสแอลเจลิส เมื่อต่างรู้ความจริงว่า อะไรเป็นอะไรใครเป็นใคร รู้จากพวกพระญาติพระวงศ์ที่เล่าให้ฟังมาทางจดหมาย
ว่านายทหารคนสนิทที่ชื่อราชิตเป็นคนเอาคนเอาปืนจี้จับเสด็จพ่อ ถึงแม้ว่าจะรักแสนรัก แต่ชายคนนี้้้เป็นคนทรยศต่อพ่อบังเกิดเกล้า ก็จําต้องตัดใจให้จากไปโดย ไม่ฟังคําชี้แจงใด ๆ ทั้งสิ้น เป็นการปิดประตูตายสําหรับความรัก ราชิตเองก็งงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงเป็นการจากกัน ทั้ง ๆ ที่รัก

จนกระทั่งในที่สุด ราชิตก็ตัดใจ กลับประเทศไทยก่อนกําหนด จังหวะเดียวกันทางญาติพระวงศ์ของดรรชนี ไฉไล ได้มีจดหมายให้ดรรชนีไฉไลกลับไปอยู่เมืองไทย เพราะทราบว่าไม่ค่อยสบายป่วยกระเสาะกระแสะอยู่ ดรรชนีไฉไล ก็เห็นด้วย จึงชวนมณีไปหาหมอที่คลีนิก เป็นการเช็คร่างกายครั้งสุดท้าย บังเอิญราชิตนั่งกินอาหารเห็นดรรชนี ใฉไลเข้าไปในคลีนิค จึงชวนเพื่อนไปยืนอยู่หน้าร้าน เมื่อดรรชนีไฉไลเห็นราชิตก็เดินหนี ราชิตก็ตามไปจนกระทั่งไปจนมุมอยู่ในเคเบิลคาร์ที่ขึ้นไปบนป่าลมสปริง

ในที่สุดทั้งสองก็เข้ากันได้ในเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดกับเสด็จพ่อ ทั้งสองจึงพากันมาที่บ้านของดรรชนีไฉไล เมื่อมณีมาถึงบ้านได้เห็นคนทั้งสองอยู่ด้วยกัน ก็โกรธและร้องไห้ด้วยความเสียใจที่ ดรรชนีไฉไลไม่เจ็บแค้นแทนเสด็จพ่อ ราชิต-ดรรชนีไฉไล ช่วยกันเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง จนมนีเข้าใจ มณีจึงบอกว่าถึงอย่างไงก็ไม่มีประโยชน์ที่คนทั้งสองจะรักกัน หมอได้บอกให้รู้แล้วว่า ครรชนีไฉไล จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินสองปี และถ้ามีลูกเมื่อไหร่ก็ต้องตายเมื่อนั้น เพื่อถนอมชีวิตคนที่ราชิตรัก ขอให้ราชิตจากไปเสียเถอะ แต่ราชิตกลับบอกว่า เมื่อเป็นเช่นนั้นเขานี่แหละจะขออยู่และให้ความสุขแก่ดรรชนีไฉไลที่จะต้องอยู่ได้อีกไม่นานนัก จึงตกลงพาดรรชนีไฉไล หลบหน้าญาติพี่น้องทั้งสองฝ่ายมาอยู่ตามลําพัง มณีก็จนใจที่จะทัดทาน ทั้งสองจึงจากอเมริกามาอยู่เขาหัวแดง จังหวัด สงขลา โดยใช้เงินทองที่มีติดตัวมาสร้างกระท่อมใช้ชีวิตอยู่อย่างชาวประมง

จากนั้นไม่นานครรชนีไฉไลก็ตั้งท้อง ทั้งสองคนก็ดีใจและเสียใจ วันเวลาแห่งความสุขได้ใกล้หมดเข้ามาทุกที จนกระทั่งชั่วโมงสุดท้ายได้มาถึง ดรรชนี ไฉไลเจ็บท้องคลอดลูก เธอได้ขอร้องให้ราชิตตั้งชื่อลูกของเธอว่า “ดรรชนี เหมือนชื่อเธอ ถ้าหากว่าลูกเธอเป็นหญิง ในที่สุดเธอก็สมปรารถนา ลูกเธอเป็น หญิง ราชิตได้อุ้มไปวางไว้ใกล้ ๆ ตัว เธอยิ้มอย่างเป็นสุข เพราะสมใจที่มีตัว แทนแล้วเธอก็จากไปอย่างสงบ โดยทั้งลูกสาวน้อย ๆ ชื่อดรรชนีไว้ในอ้อมกอดของพ่อ

ตราบจนลูกโตเป็นสาว แต่ราชิตกลับติดเหล้า เพราะต้องเอาเหล้าเป็นเครื่องปลอบใจ จนกระทั่งวันหนึ่งราชิตออกไปจับปลาตามเคย ครรชนีอยู่กระท่อมเพียงคนเดียวกับลิงจอก ก็มีทหารเรือมาสองคน นาวาโทนิรันดร์ฤทธิ์ ธํารงค์ (อาวุธ พิทักษ์พงษ์) กับจ่าอยู่ (ประจวบ ฤกษ์ยามดี) มาตะโกนให้แจวเรือไปส่ง ดรรชนี (รัชนู บุญชูดวง) ก็ออกมา และพาไปส่งที่เรือรบ ด้วยความสาวไร้เดียงสาของดรรชนี จึงเกิดเรื่องขึ้น เมื่อดรรชนีใช้ให้ลงจ๊อกเอามะพร้าวและมีดมาเฉาะพลาดไปโดนนิ้วมือ ดรรชนีตกใจเป็นลม นิรันตร์ฤทธิ์ ก็อุ้มดรรชนีเข้ากระท่อมไป และได้ดรรชนีเป็นเมียในวันนั้น เมื่อราชิตกลับมาลิงจ๊อกก็พยายามทําท่าบอกให้ราชิตรู้ ราชิตเห็นเข้าก็เสีย ใจ และห้ามไม่ให้ทั้งสองคนติดต่อกันอีก เพราะรู้ว่า นิรันดร์ฤทธิ์ นามสกุลธํารงค์

เมื่อนิรันดร์ฤทธิ์จากไปแล้ว ราชิตจึงตีลูกสาวที่แสกหน้า ตราบจนกระทั่งดรรชนีตั้งท้อง ราชิตจึงพาไปกรุงเทพ ฯ แต่ ราชิตก็ผิดหวังกลับมา ทําให้คิดมากเสียใจจนตาย ทิ้งให้ดรรชนีอยู่ลําพังคนเดียว และเมื่อดรรชนี เห็นข่าวแต่งงานของ นิรันดร์ฤทธิ์ทางหนังสือพิมพ์ จึงตัดนิ้วของตัวเองใส่ขวดส่งมาให้เป็นของขวัญ ในวันเดียวกันนั้นเอง ครรชนีก็เจ็บท้องคลอดลูก ท่ามกลางพายุและฝน

ฉายที่โรงภาพยนตร์เฉลิมกรุง

Share this article :

แสดงความคิดเห็น