Home » » อนุบาลเด็กโข่ง

อนุบาลเด็กโข่ง



อนุบาลเด็กโข่ง


ภาพยนตร์อภิมหาสงครามของ “เด็กตัวกระจิ๊ด”

ที่จะพาคุณไปสัมผัสเรื่องราวมิตรภาพ ความรัก การทรยศหักหลัง

สู่วิถีแห่งความยิ่งใหญ่เพื่อช่วงชิงการเป็น “แก๊งอนุบาล” อันดับหนึ่งที่ทุกคนต้องยอมก้มหัว

ผลงาน “แอ๊บใส” ที่สุดในชีวิตของผู้กำกับสุดแนว “ “คุ้ย-ทวีวัฒน์ วันทา”

พร้อมด้วยเหล่าแก๊งสเตอร์ตัวจิ๋วหน้าใหม่ ที่ไม่ว่าแก๊งไหนๆ ก็ต้องหลีกทาง

และกับการปรากฏตัวบนแผ่นฟิล์มครั้งแรกของเจ้าแม่นิตยสารทีนเอจและเอ็มวีของ“ “ยิปซี-คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์”

ระวัง…เตรียมตัวให้พร้อม!!!

เหล่าทะโมนตัวจิ๋วจะมาสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเปรอะใบหน้าคุณ

จัดจำหน่ายโดย สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล

กำหนดฉายหนัง 11 มิถุนายน พ.ศ.2552

เรื่องย่อ อนุบาลเด็กโข่ง

“แก๊ง คิงคอง” มหาอำนาจที่เหล่าเด็กอนุบาลต่างเคารพและยำเกรงเป็นที่สุด ไม่ว่าจะมีแก๊งไหนๆ พยามจะโค่นล้มก็ต้องพ่ายแพ้ต่อแก๊งคิงคองอยู่ร่ำไป นั่นเป็นเพราะ โอม (นพฤทธิ์ สุริวงศ์) หัวหน้าแก๊งผู้น่าเกรงขาม ที่มีร่างกายสูงใหญ่ผิด (ปกติ) กว่าเด็กอนุบาล 3 ทั่วไป จนไม่มีเด็กคนไหนกล้าหือ รวมไปถึงการมีลูกน้องผู้ซื่อสัตย์อย่างมือขวา จอน(ด.ช.เศรฐวุฒิ มนัสปิติสุข) มือซ้ายอย่าง อั๋น (ด.ช.ศกานต์ ชาวบ้านเกาะ) และ เปี๊ยก (ด.ช.ปรเมศร์ โทนสูงเนิน) ลูกไล่ประจำแก๊ง ทำให้ไม่มีทีท่าว่าจะมีใครมาโค่นแก๊งคิงคองลงจากบัลลังค์ได้

จนเมื่อวันหนึ่งโอมได้พบกับ ออม (คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์) นักเรียนสาวม.ปลาย โดยที่โอมก็เกิดอาการตกหลุมรักออมเข้าอย่างเต็มเปา ถึงกับต้องหลอกว่าอายุเท่ากันแถมยังลงทุนปลอมตัวเป็นเด็ก ม.ปลาย เพื่อหวังจะพิชิตใจเธอให้ได้ และที่ร้ายคือโอมปกปิดเรื่องนี้กับแก๊งคิงคอง เมื่อหัวหน้าแก๊งหัวใจว้าวุ่น ความมั่นคงของแก๊งจึงเริ่มสั่นคลอน ประกอบกับการปรากฏตัวของ จำเนียร (ด.ญ.กัจนฐานียา ศรีโรจน์วัฒนะ) เด็กสาวลึกลับ ที่มาขอเข้าแก๊งโดยมีแผนการโค่นล้มแก๊งคิงคองอย่างร้ายกาจ เมื่อปัญหาเรื่องแก๊งเริ่มยุ่งเหยิง เรื่องรักเริ่มขมวดปมหนาขึ้น โอมจึงต้องลุกขึ้นมากอบกู้ศักดิ์ศรีของแก๊งและพิชิตใจสาวม.ปลายไปด้วย มหากาพย์สงครามความรัก การเชือดเฉือนคม ของ “เด็กตัวกระจิ๊ด” จึงเริ่มต้นขึ้น ที่จะสร้างรอยยิ้มและความสนุกสนานในหัวใจของคุณอย่างแน่นอน

นักแสดง
นพฤทธิ์ สุริวงศ์
คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์
ด.ญ. กัจนฐานียา ศรีโรจน์วัฒนะ
ด.ช. เศรษฐวุฒิ มนัสปิติสุข
ด.ช. ปรเมศร์ โทนเนินสูง
ด.ช. ศกานต์ ชาวบ้านเกาะ

ผู้กำกับ
ทวีวัฒน์ วันทา

นำแสดงโดย

นพฤทธิ์ สุริวงศ์ … โอม
คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์ … ออม
กัจนฐานิยา ศรีโรจน์วัฒนะ … จำเนียร
เศรษฐวุฒิ มนัสปิติสุข … จอน
ปรเมศร์ โทนเนินสูง … เปี๊ยก
ศกานต์ ชาวบ้านเกาะ … อั๋น
ปุณณดา วอสเบียน … แพร

ทีมงานสร้าง : คอเมดี้ (แนวภาพยนตร์) / สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล และ อุปถัมป์ภาพยนตร์ (บริษัทผู้สร้าง) / สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล (จัดจำหน่าย) / บาแรมยู (บริษัทดำเนินงานสร้าง) / สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ, จันทร์หอม ชูณะวัฒน์ (อำนวยการสร้าง) / ปรัชญา ปิ่นแก้ว, สุกัญญา วงศ์สถาปัตย์ และบัณฑิต ทองดี (ควบคุมงานสร้าง) / ศิตา วอสเบียน (ดำเนินงานสร้าง) / ทวีวัฒน์ วันทา (กำกับภาพยนตร์) / ทวีวัฒน์ วันทา (เรื่อง-บทภาพยนตร์) / จีระเดช สำเนียงเสนาะ (กำกับภาพ) / เต้ย จารุวาทีกุล (กำกับศิลป์) / ศักดิ์นคร เนตรหาญ (ลำดับภาพ) / ปัญชลี ปิ่นทอง (ออกแบบเครื่องแต่งกาย) / บริษัท โอเรียนทัล โพสท์ จำกัด (ฟิล์มแล็บ) / บริษัท กันตนาแลบบอราทอรี่ส จำกัด (บันทึกเสียง) / บริษัท ซีอาล๊อต จำกัด ( ดนตรีประกอบ)

นำแสดงโดย: นพฤทธิ์ สุริวงศ์, คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์, ด.ญ. กัจนฐานียา ศรีโรจน์วัฒนะ, ด.ช. เศรษฐวุฒิ มนัสปิติสุข, ด.ช. ปรเมศร์ โทนเนินสูง, ด.ช. ศกานต์ ชาวบ้านเกาะ

เกร็ดภาพยนตร์

เกร็ดภาพยนตร์

…ใครจะเชื่อว่าวันหนึ่งเราจะได้เห็นหนังแอ๊คชั่นแฟนตาซีพันธุ์ไทยอย่าง “ขุนกระบี่ ผีระบาด” ที่ออกมาฉีกทุกภาพของเหล่าฮีโร่ที่อยู่บนโลกนี้ เช่นเดียวกันกับตอนที่เราได้ทำความรู้จักหนังวัยรุ่นเรตฮาที่แหวกเอาเรื่องลึกที่ไม่มีใครกล้าล้วงมาทำเป็นหนังทีนเอจสายพันธุ์ใหม่อย่าง “อสุจ๊าก”

…แล้วใครจะเชื่อว่าผู้ชายชื่อ “คุ้ย-ทวีวัฒน์ วันทา” ที่เป็นเจ้าของผลงานสองเรื่องที่กล่าวถึงข้างต้น จะขอลบภาพเดิมๆ มาเปิดเผยมุม “คิขุอาโนเนะ” ในตัวออกมาให้ทุกคนได้ทำความรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขา กับภาพยนตร์ลำดับที่สามเรื่องนี้ที่มีชื่อสะดุดตาและสะดุดหูว่า “อนุบาลเด็กโข่ง”

“อนุบาลเด็กโข่ง” ผลงานเรื่องใหม่ของ “คุ้ย-ทวีวัฒน์ วันทา” ที่ขอเปลี่ยนลุคมา “แอ๊บใส” เผยให้ทุกคนได้เห็นความน่ารักที่ถูกเก็บงำไว้ใต้หนวดเครา ซึ่งการกลับมาในครั้งนี้เขาได้หยิบเอาผลงานหนังสั้นของตัวเองเรื่อง “หัวหน้า” จากโครงการชวนเด็กดูหนังของ สสส. (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ) ที่เคยสร้างความประทับใจมาแล้ว

…มาสานต่อเป็น “อนุบาลเด็กโข่ง” หนังแนวแอ็คชั่นคอเมดี้น่ารักๆ สมวัยกระเตาะ ที่พูดถึงเรื่องราวของเหล่าแก๊งสเตอร์อนุบาล กับสงครามถุงน้ำ กระสุนถั่วเขียว หุ่นยนต์กระดาษ ฐานทัพใต้ต้นไม้ ฯลฯ อบอวลไปด้วยเรื่องของมิตรภาพ ความรัก การหลอกลวง การทรยศหักหลัง สังคมที่ผู้ใหญ่อาจไม่รู้ของเหล่าบรรดาฟันน้ำนม ผ่านเรื่องราวของเด็กที่มีรูปร่างโตกว่าเด็กอนุบาลทั่วไปจนได้รับฉายาว่า “เด็กโข่ง”

…ซึ่งงานนี้ผู้กำกับก็คัดเลือกเอาเหล่านักแสดงวัยกระเตาะหน้าใหม่ที่มีความแสบซนจัดจ้านมาตั้งตัวเป็น “แก๊งอนุบาลเด็กโข่ง” ขอท้าชนแก๊งฟันน้ำนมทุกหมู่เหล่า รวมไปถึงการได้นางแบบวัยรุ่นที่มีดีกรีความน่ารักไม่เกรงใจหัวใจหนุ่มๆ อย่าง “ยิปซี-คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์” ซึ่งเป็นที่รู้จักจากการถ่ายแบบหนังสือวัยรุ่นและเอ็มวีดังๆ มากมายมาประเดิมเล่นหนังเป็นครั้งแรก กับบทบาทสาว ม.ปลายมากด้วยเสน่ห์ที่ใครได้เห็นเป็นต้องตกหลุมรัก

…เมื่อบวกกับการเนรมิตโลกแห่งจินตนาการของวัยเด็กที่ผู้กำกับ คุ้ย-ทวีวัฒน์ ถ่ายทอดออกมาในหนังเรื่องนี้แล้ว คงไม่แปลกอะไรที่คุณจะตกหลุมรักหนังเรื่องนี้และนึกถึงตัวเองเมื่อครั้งมีความสูงเพียงร้อยเซนติเมตรกว่าๆ อีกครั้ง

รายละเอียดงานสร้าง

รายละเอียดงานสร้าง

“อนุบาลเด็กโข่ง” ผลงานภาพยนตร์ลำดับที่ 3 ของผู้กำกับสุดแนวตัวพ่อ “คุ้ย-ทวีวัฒน์ วันทา” โดยการกลับมาคราวนี้เขาขอเปิดตัวตนที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่ภายใต้หนวดเคราและลุกส์ที่ดูดิบได้ใจ เลยขอเผยมุม “แอ๊บใส” ให้ทุกคนได้ทำความรู้จัก ถึงขนาดขอป่าวประกาศว่า…จงลืมผู้ชายที่เคยกำกับหนังฮีโร่พันธุ์ไทยดีไซน์สุดโต่ง “ขุนกระบี่ ผีระบาด” หรือจะเป็นหนังวัยรุ่นที่ใครได้ดูเป็นต้องร้องจ๊าก…สมชื่อ “อสุจ๊าก” ไปได้เลย เพราะคราวนี้ผมขอ…ผมขอ…แอ๊บใสตามใจอยากบ้าง ซึ่ง คุ้ย-ทวีวัฒน์ พูดถึงที่มาของหนังเรื่องนี้ที่ใสที่สุดในชีวิตว่า

“คือไอเดียและพล็อตของหนังเรื่องนี้ มาจากหนังสั้นเรื่อง ‘หัวหน้า’ จากโครงการชวนเด็กดูหนังของ สสส.(สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ) เนื้อเรื่องพูดถึงโลกของเด็ก สังคมของเด็ก ก็คิดถึงในวัยเด็กว่าเราทำอะไรบ้าง คือบ้านผมอยู่ชานเมือง ตอนที่มันยังไม่เจริญ ยังไม่มีสุวรรณภูมิมันก็จะมีต้นไม้ใหญ่ให้ปีนป่าย ตั้งแต่บ่ายหายไปในป่า แล้วตอนเย็นเราก็กลับมา แล้วก็สร้างบ้านต้นไม้ มีแบ่งพรรคแบ่งพวก มีชื่อแก๊งเป็นของตัวเอง คือถ้านึกถึงเมื่อไหร่ก็จะอมยิ้มในความเป็นเด็กของเราตอนนั้น ตอนนี้รู้สึกขึ้นมาเลยว่าอยากเอาไปขยายเป็นหนังเต็มๆ จัง

ก็เลยเอาไอเดียนี้ไปขายพี่ปรัช (ปรัชญา ปิ่นแก้ว) พี่ปรัชก็ปิ๊งเลยเพราะเป็นหนังเด็กที่มีเรื่องราวหรือการนำเสนอที่มีสีสัน แปลกจากหนังเด็กที่เคยมีออกมา คือเราเองก็มองตรงกันกับพี่ปรัชว่าตัวเรื่องเนี่ยนำเอาโลกหรือความรู้สึกของเด็กมาเสนอในมุมมองที่ดูเป็นแอ๊คชั่นผสมรอยยิ้มไปกับความคิดหรือสังคมของเด็กๆ ก็เลยคิดว่าหัวหน้าน่าจะขยายเป็นหนังเด็กคอเมดี้ที่มีประเด็นที่น่าติดตามได้ ก็เลยเป็นที่มาของอนุบาลเด็กโข่ง”

…ใครๆ เขาก็รู้กันทั้งบาง ว่าการกำกับเหล่าน้องหนู มันช่างยากเย็นแสนเข็นขนาดไหน ก็อย่างที่ตำราทำหนังเขาว่าไว้ว่า “สัตว์-เด็ก-เอฟเฟ็กต์-สลิง” เป็นของแสลงที่ไม่เคยทำให้ผู้กำกับคนไหนเจองานง่าย แล้วจะนับประสาอะไรกับหนังเรื่องนี้ที่ 99.99 เปอร์เซนต์ของนักแสดงเป็นเด็กทั้งสิ้น ก็เลยต้องถามผู้กำกับของเรื่องซะหน่อย ว่ากล้าดียังไงถึงว้อนต์จะลองของแบบนี้

“ก็รู้อยู่แล้วว่างานเข้าแน่ (หัวเราะ) คืออาจจะเคยกำกับเด็กตอนที่ทำหนังสั้นมาบ้าง แต่จำนวนไม่เยอะไม่ต้องมีดีเทลเรื่องอารมณ์หรือสถานการณ์เหมือนกับหนังใหญ่ เพราะสเกลมันคนละเรื่องกันเลย จริงๆ กำกับเด็กเราต้องใช้ทฤษฎีตั้งแต่ ซิกมันด์ ฟรอยด์ ยัน โทมัส อันวา เอดิสัน ต้องรู้ทฤษฎีในการเอาเด็กให้อยู่อ่ะครับ ถือว่าต้องใช้จิตวิทยาและวิชาลมปรานมากกว่าเรื่องผ่านๆ มา”

…จากประสบการณ์ในวัยเด็กของผู้กำกับ ที่หยิบเอาเรื่องราวผาดโผนตามประสาเด็กผู้ชายวัยเฮี้ยว ที่ผูกเข้ากับเรื่องราวของ มิตรภาพ ความรัก ความสามัคคีระหว่างเพื่อน และเติมสีสันในจินตนาการของความเป็นเด็กเข้าไป จึงทำให้เราจะได้เห็นฐานทัพใต้ต้นไม้ แก๊งจักรยาน การมีแก๊งเป็นกลุ่มของตัวเอง การทำอาวุธหรือชุดเกราะสุดเท่ที่แอบหยิบยืมมาจากในครัวของแม่ หรือแม้แต่การจีบสาวทั้งที่ยังไม่รู้ประสา ทั้งหมดนี้ถูกเอามาหลอมรวมเป็น “อนุบาลเด็กโข่ง” หนังน่ารักสดใสแคลเซียมสูงที่ คุ้ย-ทวีวัฒน์ ตั้งใจถ่ายทอดออกมาอย่างกลมกล่อมที่สุด

“ภาพรวมก็จะเป็นหนังเด็กแอ็คชั่นคอเมดี้ดี้น่ารักๆ ที่พูดถึงโลกของเด็ก ทั้งมิตรภาพ ความรัก ความหมายของคำว่าเพื่อน คือเด็กโข่งพูดถึงเรื่องราวของแก๊งคิงคอง แก๊งมหาอำนาจที่เหล่าเด็กอนุบาลเคารพ และเด็กทุกคนต้องยอมก้มหัว ที่คนอื่นเขายำเกรงเพราะว่าแก๊งนี้ไม่ธรรมดา เพราะมีหัวหน้าที่ชื่อว่าโอมซึ่งเป็นเด็กที่มีรูปร่างใหญ่โตกว่าเด็กอนุบาล จนได้รับสมญานามว่าเด็กโข่ง

แต่เมื่อโอมซึ่งเป็นหัวหน้าดันไปตกหลุมรักออมสาวม.ปลาย ถึงขนาดปลอมตัวและโกหกว่าอายุเท่ากัน โอมก็เลยปิดบังสมาชิกในแก๊ง ทีนี้พอมีความรักก็เริ่มไม่ให้ความสำคัญกับแก๊ง ความมั่นคงก็เริ่มสั่นคลอนสิทีนี้ แถมยังมีเด็กผู้หญิงลึกลับที่ชื่อจำเนียรมาขอเข้าแก๊งอีก ซึ่งตัวจำเนียรก็กุมความลับบางอย่างของโอมไว้เพื่อที่หวังจะยึดแก๊ง ปัญหาเรื่องแก๊งเริ่มยุ่งเหยิง เรื่องรักเริ่มขมวดปมหนาขึ้น โอมจึงต้องลุกขึ้นมากอบกู้ศักดิ์ศรีของแก๊งและพิชิตใจสาวม.ปลายไปด้วย ซึ่งก็จะทำให้คนดูสนุกสนานไปความเป็นแอ๊คชั่นของการต่อสู้ระหว่างแก๊ง และอมยิ้มไปกับเรื่องราวน่ารักๆ ของเด็ก”

…ที่ผ่านมาอาจจะมีหนังเด็กวัยกระเตาะแบบนี้ออกมาสู่สายตาคอหนังให้ได้ดูกันหลายต่อหลายเรื่อง งานนี้ตัวผู้กำกับมั่นใจว่า สีสันความสดใสรวมไปถึงเรื่องราวจินตนาการของเด็กในครั้งนี้ อัดแน่นไปด้วยแคลเซียมที่มีคุณค่า ที่จะทำให้คุณได้รับความรู้สึกบางอย่างที่อาจทำให้คุณนึกถึงเมื่อครั้งมีความสูงเพียงร้อยเซนติเมตรกว่าๆ อีกครั้ง

“ตอนนี้ผมว่าน่าจะแปลกที่สุดในโลกแล้วล่ะ มันมีสีสันความเป็นไทยด้วยเหมือนกัน มีแก๊งจักรยาน มียึดแก๊งกัน มีการต่อสู้ด้วยจินตนาการ ในภาพในหนังมันอาจจะโอเวอร์กว่าความเป็นจริงบ้าง แต่จุดนั้นก็เป็นความคิดแบบเด็กๆ คือเรื่องนี้แอบใส่ความเป็นผู้ใหญ่ในตัวเด็กเยอะมาก และก็มีใช้ฟิลของเด็กๆมาขับเคลื่อนของหนังเรื่องนี้ มันจะมีสีสันเรื่อองอุปกรณ์ มีแก๊ง มีออกรบ ถ้าเป็นหนังไทยผมว่ายังไม่เคยมีหนังเด็กแบบนี้ออกมาแน่นอน”

…หลายคนคงสงสัยว่าเมื่อหยิบยกเรื่องราวของแก๊งเด็กผู้ชาย การออกรบท่ามกลางสมรภูมิของสงครามวัยกระเตาะนั้น ผู้กำกับสุดแนวที่ขึ้นชื่อในเรื่องไอเดียสุดบรรเจิดคนนี้จะผสมผสานความระห่ำในแบบเด็กผู้ชาย ผสมผสานกับความใสได้อีกจากความน่ารักของเหล่าน้องหนูในเรื่องออกมาในอารมณ์ไหนกัน

“ผมอยากให้สีสันดูออกเป็นการ์ตูน เราจะไม่ให้เด็กมาบู๊แบบเตะ ต่อย ท่าเยอะแบบนั้น คือเราก็จะไม่ทำให้คนดูดูหนังเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่ามันเจ็บ คือไม่อยากให้เป็นแอ๊คชั่นที่โหดร้าย แอ็คชั่นของเราเปิดมาก็จะเป็นถุงน้ำพุ่งออกมาเหมือนดงธนู คือภาพอยากให้ออกมาเหมือนจินตนาการของเด็ก มีหุ่นยนต์ที่ทำจากกระดาษ มียิงจรวดน้ำ ใช้ถั่วเขียวเป่าใส่กันเหมือนเอ็ม 16 คือจะมีความเป็นเด็กสูง มีมิชชั่นที่เด็กต้องทำ มีการหักหลังเฉือนคม มีเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด มีการยึดแก๊ง เป็นศักดิ์ศรีในโลกของเด็ก แล้วเราก็เชื่อว่าเด็กหรือทุกคนที่เคยเป็นเด็กก็เคยมีจินตนาการแบบนี้ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็บอกได้ว่า เด็กก็ดูดี…ผู้ใหญ่ก็ดูดี…ใสสุดๆ ในชีวิตแล้วคร้าบบ”

นักแสดง

เปิดสมุดพกอนุบาลเด็กโข่ง “โฉมหน้าแก๊งสเตอร์ตัวจิ๋วหน้าใหม่ ที่ไม่ว่าแก๊งไหนๆ ต้องหลีกทาง”

ชื่อเสียงเรียงนามในแก๊ง โอม

สถานะ หัวหน้าใหญ่

ฉายา “โอม เดอะก๊อดอ๊อฟคิงคอง”

ข้อมูลส่วนตัว เป็นหัวหน้าแก๊งคิงคอง เป็นที่เคารพของลูกน้อง ชอบวางมาดเพราะกลัวเสียฟอร์ม ลูกน้องเคารพ แต่จริงๆ แล้วเป็นคนหัวอ่อน ถูกชักจูงได้ง่าย และมีจิตใจดี ขี้อาย แอบหลงรักสาว ม.ปลายที่ชื่อออม

Profile

ชื่อ-สกุล นพฤทธิ์ สุริวงศ์ ชื่อเล่น น้องโอม อายุ ???

การศึกษา ???

โต(ขึ้นกว่านี้)อยากเป็น นักบินอวกาศ

ผลงานที่ผ่านมา หนังทุกเรื่องของผู้กำกับ “คุ้ย-ทวีวัฒน์”

พี่คุ้ยพูดถึงน้องโอม

“ตอนแรกก็ไม่ได้ล็อกว่าจะเป็นโอมมาตั้งแต่แรกนะ เราก็พยายามมองหาคนอื่นก่อน (หัวเราะ) เริ่มตั้งแต่ลาดกระบังยันฝั่งธนฯ หามาเยอะมาก บางคนได้แต่ไม่มีคาแร็คเตอร์ บางคนดูดีแต่เสียงเป็นผู้ใหญ่ ต้องบอกก่อนว่าคาแร็คเตอร์โอมที่เป็นเด็กโข่ง มันต้องเป็นเด็กที่ตัวโตมากๆ ต้องหาเด็กที่อายุมากกว่า 15 ปี ขึ้นไป แล้วอนาโตมี่เค้าต้องดูเป็นเด็กด้วย รูปร่างอ้วนใหญ่ เวลาแต่ชุดอนุบาลแล้วต้องดูเป็นเด็กได้ แล้วต้องมีคาแร็คเตอร์อีก ใช้เวลาควานหานานมากแต่ก็ยังไม่ได้สักที จนสุดท้ายพี่ปรัชถามว่าทำไมไม่เอาพระเอกหนังสั้นมาล่ะ ก็คือโอมคนนี้ล่ะครับ เขาแสดงหนังสั้น เรื่องผู้ชนะกับหัวหน้ามาก่อน ก็ค่อนข้างรู้ทางกันมาอยู่แล้ว จริงๆ แล้วโอมเป็นแผน 2 ที่เราจะเอาไปขายพี่ปรัช พอดูหน่วยก้านแล้วพี่ปรัชก็โอเค ที่ตลกคือมาวันแรกเนี่ยไม่มีใครเชื่อเลยว่าเขาจะเป็นพระเอกหนังนะ เพราะหน้าตาดิบได้ใจซะขนาดนั้น”

ชื่อเสียงเรียงนามในแก๊ง จอน

สถานะ รองหัวหน้า

ฉายา “ขงเบ้งน้อย จอมวางแผน”

ข้อมูลส่วนตัว เป็นรองหัวหน้าแก๊งคิงคอง บ้านขายก๋วยเตี๋ยว มีฐานะดี เรียนดีที่สุดในกลุ่ม รักเพื่อน เป็นกันเอง กล้าหาญ มีความเป็นผู้นำ พูดตรง เป็นตัวของตัวเอง

Profile

ชื่อ-สกุล ด.ช.เศรฐวุฒิ มนัสปิติสุข ชื่อเล่น น้องเซฟ อายุ 7 ขวบ

การศึกษา ประถมศึกษาปีที่ 3/4 โรงเรียนเซนต์โดเมนิค

โตขึ้นหนูอยากเป็น นักประดิษฐ์หุ่นยนต์

พี่คุ้ยพูดถึงน้องเซพ

“น้องเซฟที่รับบทเป็นจอน จอนจะเป็นรองหัวหน้าแก๊งคิงคอง คาแร็คเตอร์ก็จะเป็นคนทะเยอทะยาน ตาจะดูมุ่งมั่นเกินเด็ก ก็ไปหาตั้งแต่ศูนย์เยาวชน ศูนย์กีฬาสุดท้ายก็ไปจบที่ศูนย์เทควันโด ที่ศูนย์เยาวชนดินแดง ก็ไปเจอน้องเซฟ ตอนที่เจอปุ๊ปก็รู้สึกเข้าตาเลย ด้วยเสียง ด้วยแววตา ตรงกับคาแร็คเตอร์ของตัวละครตัวนี้เป๊ะ แล้วที่สำคัญก็คือยังไม่เคยผ่านงานอะไรมาก่อนด้วย เรียกว่าพกความสามารถที่สดมาแบบเต็มกระบุง ในเรื่องเซพต้องมีฉากเศร้า ต้องแค้น ต้องเสียใจ โมโห และมีแอ็กชั่นด้วย คือเค้ามีพื้นฐานเทควันโดอยู่แล้ว ถือว่าแคสมาถูกคนเลย”

ชื่อเสียงเรียงนามในแก๊ง อั๋น

สถานะ ลูกน้องคนโปรดของโอม

ฉายา “หมูพริ้วจอมป่วน”

ข้อมูลส่วนตัว อั๋นเป็นลูกน้องคนสนิทของโอม เป็นผู้ตามที่ดี ชอบอวดรู้แม้กระทั้งเรื่องที่ไม่รู้จริงๆก็ยังคิดว่ารู้ ชอบทำอะไรโง่ๆ ซื่อๆ พูดไม่ค่อยคิด งงๆ เอ๋อๆ เป็นคู่ปรับของเปี๊ยก

Profile

ชื่อ-สกุล ด.ช.ศกานต์ ชาวบ้านเกาะ ชื่อเล่น น้องเจมส์ อายุ 7 ขวบ

การศึกษา ประถมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนวัดธรรมาอภิรตาราม

โตขึ้นหนูอยากเป็น เป็นตำรวจและสามารถแปลงร่างเป็นอุลตร้าแมนแม็กได้

พี่คุ้ยพูดถึงน้องเจมส์

“เจ้าเจมส์นี่แสบเกินคำบรรยาย (หัวเราะ) คือตัวละครอั๋นเป็นลูกน้องคนสนิทของโอม คาแร็คเตอร์ก็จะเป็นผู้ตามที่ดี ชอบอวดรู้แม้กระทั้งเรื่องที่ไม่รู้จริงๆ ก็ยังคิดว่ารู้ ชอบทำอะไรโง่ๆ ซื่อๆ พูดไม่ค่อยคิด งงๆ เอ๋อๆ เราก็เลยพยายามหาเด็กที่คนเห็นปุ๊บแล้วรู้สึกอมยิ้มหรือหัวเราะได้เลย ซึ่งทีมงานของเราไปเจอเจมส์กำลังเดินตลาดกับแม่อยู่ แล้วรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างในตัวเด็กคนนี้ ก็เลยเรียกให้มาแคส วันแรกที่มาแคสเจมส์ไม่เอาอะไรเลยครับ จะกินข้าว กินนม จะกลับบ้านท่าเดียว ดื้อสุดๆ กะว่าจะตัดใจไม่เอาเขาอยู่แล้ว แต่พอเห็นเขาคุยเล่นกับแม่ แล้วเห็นอากัปกิริยาธรรมชาติของเขา ก็รู้สึกเลย”

ชื่อเสียงเรียงนามในแก๊ง เปี๊ยก

สถานะ ลูกไล่ประจำแก๊ง

ฉายา “คาสโนว่าตัวจิ๋ว”

ข้อมูลส่วนตัว เปี๊ยกเป็นลูกไล่ในแก๊งคิงคอง ชอบทำตามเพื่อน ขี้ขลาด เชื่อฟังหัวหน้าและเพื่อนๆ หน้าตาดูสงสัยอยู่ตลอดเวลา และเป็นลูกไล่ในแก๊ง แต่เจ้าชู้ชนิดหาตัวจับยาก

Profile

ชื่อ-สกุล ด.ช. ปรเมศร์ โทนเนินสูง ชื่อเล่น น้องออมทอง อายุ 6 ขวบ

การศึกษา ชั้นอนุบาล 3/2 โรงเรียนอนุบาลบุษยมาสปู่เจ้า

โตขึ้นหนูอยากเป็น นักบิน

พี่คุ้ยพูดถึงน้องออมทอง

“เปี๊ยกจริงเป็นบทที่จะต้องโดนกดขึ่จากเพื่อนๆ หมด ถ้าใช้ไปซื้อน้ำ เปี๊ยกก็จะไปซื้อน้ำอะไรประมาณนี้ครับ แล้วคาแร็คเตอร์ต้องเป็นเด็กน่ารักจ๋องๆ ซึ่งน้องออมทองที่มารับบทนี้เราได้มาจากโมเดลลิ่ง เพราะตามโมจะมีเด็กน่าตาน่ารักจิ้มลิ้มตามคาแร็คเตอร์นี้เยอะ ตอนที่เจอน้องออมทองครั้งแรกที่มาแคส ก็ยังไม่เห็นอะไรที่พิเศษในตัวเขานะ แต่พอให้เขาเข้าคู่กับเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งเท่านั้นแหละ ดูเขามีลีลาการแสดงและการพูดการจาที่มีเสน่ห์มาก แล้วก็มีจินตาการที่จะแสดงออกมา อย่างในเรื่องก็ต้องมีฉากที่ต้องเดินควงกับสาว ถือว่าเป็นฉากที่น่ารักมากรับรองว่าดูแล้วได้อมยิ้มแน่นอน”

ชื่อเสียงเรียงนามในแก๊ง จำเนียร

สถานะ น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์

ฉายา “เด็กหญิงจากนอกโลก”

ข้อมูลส่วนตัว จำเนียร เด็กผู้หญิงที่ตาข้างหนึ่งถูกปิดไว้ และมีตุ๊กตาหมีติดตัวอยู่ตลอดเวลาชอบทำตัวลึกลับน่าสงสัย เป็นสมาชิกคนใหม่ที่ถูกครหาว่าจะพาหายนะมาเยือน

Profile

ชื่อ-สกุล ด.ญ.กัจนฐานียา ศรีโรจน์วัฒน ชื่อเล่น น้องคิตตี้ อายุ 11 ปี

การศึกษา โรงเรียนวัดคลองชัน

ผลงานภาพยนตร์ที่ผ่านมา อรหันต์ซัมเมอร์ (พ.ศ.2551), โหดหน้าเหี่ยว (พ.ศ.2552)

โตขึ้นหนูอยากเป็น คุณครู

พี่คุ้ยพูดถึงน้องคิตตี้

“น้องคิตตี้นี่จะเป็นที่รู้จักและคุ้นหน้าคุ้นตาจากโฆษณาและภาพยนตร์กันมาแล้ว คือคาแร็คเตอร์ของตัวจำเนียรจะต้องมีความลึกลับซับซ้อน ก็ต้องได้นักแสดงเด็กที่มีผีมือทางการแสดงหรือเคยผ่านงานแสดงมาแล้ว จำเนียรต้องปิดตาข้างนึง น่าจะไม่เห็นอะไรเลยมาแบบหลอนๆ แสดงแอ็คติ้งแค่แววตาอย่างเดียว ห้ามพูดพริ้ว ต้องพูดแข็งๆ พูดเป็นคำๆ เลยครับ เราก็เลยทาบทามน้องคิตตี้มา น้องเค้าก็มาแคส เรารู้สึกว่าน้องมาแสดงน้องใช้แค่ 10 % ของน้องเองนะ แต่น้องเล่นได้สุดยอดมาก เราต้องโกหกคิตตี้ว่าคิตตี้เล่นเป็นเด็กมาจากนอกโลก คิตตี้เป็นมนุษย์ต่างดาว เค้าก็เล่นให้ดู และหลังจากเราได้สังเกตดูผ่านกล้อง ดูจากแววตา สีหน้าดูจากอะไร ถึงบทจะบังคับว่าเล่นแข็งๆ แต่น้องเค้าก็จะมีแววตาที่เล่นลึกดีนะ ก็น้อยคนที่จะเข้าใจอะไรแบบนี้ แต่คิตตี้เข้าใจ แต่รู้สึกว่าดีเลยนะ คิตตี้เล่นบทนี้ได้ดีมาก”

ชื่อเสียงเรียงนามในแก๊ง แพร

สถานะ เป็นกิ๊กของคนในแก๊งคิงคอง

ฉายา “ลิตเติ้ลปารีส ฮิลตัน”

ข้อมูลส่วนตัว สวย…เริ่ด…เชิด…หยิ่ง

Profile

ชื่อ-สกุล ด.ญ.ปุณณดา วอสเบียน ชื่อเล่น น้องนีโม อายุ 5 ขวบ

การศึกษา ชั้นอนุบาล 3 /4 โรงเรียนอนุบาลโชคชัย

ผลงานภาพยนตร์ที่ผ่านมา ส้มตำ(พ.ศ.2551)

โตขึ้นหนูอยากเป็น อั้ม-พัชราภา หรือ แพนเค้ก ก็ได้

พี่คุ้ยพูดถึงน้องนีโม

“น้องนีโมนี่เห็นกันมาตั้งแต่ยังแบเบาะ พอยิ่งโตก็ยิ่งมีแวว แล้วก็มีคาแร็คเตอร์ความน่ารักเป็นของตัวเอง ในเรื่องต้องเล่นเป็นกิ๊กของเปี๊ยก ตอนที่เขียนบทให้นีโมพูดเราก็กังวลเหมือนกันว่าจะทำได้หรือเปล่า สรุปว่าน้องเค้าแสดงได้ดีมาก ใครที่ได้ดูฉากไฮไลต์ที่เขากับเปี๊ยกต้องแยกทางกัน รับรองว่าจะต้องตกหลุมรักแน่นอน”

เปิดตัวนางฟ้าในใจเด็กโข่ง

…ใช่ว่าในหนังสุดน่ารักเรื่อง “อนุบาลเด็กโข่ง” หนังที่ว่าด้วยเรื่องราวในโลกของ “เด็กตัวกระจิ๊ด” ที่เต็มไปด้วยมิตรภาพ ความรัก ความหมายของคำว่าเพื่อนที่บางคนอาจหลงลืมไป จะมีแต่เหล่าแก๊งสเตอร์ตัวจิ๋วหน้าใหม่มาเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเท่านั้น เพราะว่าผู้กำกับ “คุ้ย-ทวีวัฒน์ วันทา” เขาภูมิใจและเต็มใจเสนอนางเอกสาวคนใหม่ที่จะเจริญรอยตาม “บอลลูน-พินทุ์สุดา” จากผลงานเรื่องก่อนอย่าง “ขุนกระบี่ ผีระบาด” หรือ “ผิง-พิมพาภรณ์” จาก “อสุจ๊าก” ก้าวเข้าสู่ฐานะนางฟ้าคนใหม่ (ในใจหนุ่มๆ) นามว่า “ยิปซี-คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์” สาวน้อยวัย 22 ปี ที่ได้รับสมญานามว่าเป็นเจ้าแม่ถ่ายแบบนิตยสารวัยรุ่นมาหลายหัว บวกกับโฆษณาดังๆ มากมาย รวมไปถึงเป็นนางเอกเอ็มวีให้กับศิลปินชื่อดัง อาทิ เพลง “คนดื้อดึง” ของวง NICE TO MEET YOU หรือเพลง “รักได้คนเดียว” ของศิลปิน “เตชินต งานนี้การันตีได้ถึงความน่ารักและเสน่ห์ที่พกติดตัวมาด้วยเต็มกระบุง และท้าให้ทุกสายตาได้พิสูจน์ว่านางเอก (ทุกเรื่อง) ของผู้กำกับ คุ้ย-ทวีวัฒน์นั้นน่ารักมั่กๆ ซึ่งเจ้าตัวถึงที่มาของนางเอกคนใหม่นี้ว่า

“คือเราอยากได้ผู้หญิงที่ผู้ชายเห็นแวบแรกแล้วตกหลุมรักเลยทันที คือในเรื่องพอโอมได้เจอกับออมครั้งแรกจะรู้สึกปิ๊งเลยทันที แต่ด้วยความที่โอมไม่รู้ว่าความรักคืออะไรเพราะยังเป็นเด็ก แต่รู้สึกว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ติดตาเขาไปตลอดจนทำให้เก็บไปฝันได้ ก็เลยต้องหาผู้หญิงที่มีเสน่ห์มากๆ มารับบทออมสาวม.ปลายในเรื่องนี้ ไม่ใช่เพราะเซ็กซี่ แต่เป็นเสน่ห์ที่มาจากตัวเขาเอง เราก็เลยลองแคสติ้งดู ก็มีหลายคนที่ลองๆดู จนได้มาเจอกับยิปซี ครั้งแรกที่เห็นเนี่ย รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้มีออร่ามาก น้องเขาเล่นของหรือเปล่า (หัวเราะ) ก็รู้สึกว่านี่แหละคนที่จะมารับบทออมในเรื่องนี้

น้องยิปซีเป็นผู้หญิงที่น่ารักมีเสน่ห์เฉพาะตัว แล้วก็แสดงได้ดีมาก ดีจนไม่น่าเชื่อว่านี่เป็นเรื่องแรกของเขา แสดงได้ขนาดนี้น่าจะไปได้ไกลแล้วนะ คือหน้าตาก็ดี นิสัยก็ดี แสดงก็ดี คือทุกอย่างครบหมด แล้วเขาก็มีความตั้งใจที่จะเข้าใจคาแร็คเตอร์ของตัวละครที่เขาเล่น ก็พยายามถามเขาว่าเคยอกหักมั้ย เพราะตัวละครตัวนี้ต้องทุ่มเทให้กับชายคนหนึ่ง แต่เขากลับไม่เลือกเธอ ก็เลยให้เขาทำหน้าท่าทางตามอาการต่างๆ ทั้งเศร้า เสียใจ คือเขาต้องมีแววตาดราม่าได้ ต้องรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่าสงสารได้ แค่ยังไม่รู้จุดยืนเขาเอง คือโดยรวมแล้วตัวละครตัวนี้ต้องดูดี”

ยิปซี-คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์ รับบทเป็น ออม – หญิงสาวม.ปลายที่ทั้งน่ารักสดใส จนทำให้โอมถึงกับตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น ออมเป็นคนใจกล้า พูดตรงไปตรงมา แต่เป็นคนเอาแต่ใจ ขี้เหงา อยากมีแฟนตามแฟชั่น ไม่เป็นตัวของตัวเอง ไม่มีจุดหมายในชีวิตมีคำถามประจำตัว “ชีวิต คืออะไร”

Director’s profile

…ใครก็ตามที่ติดตามความเคลื่อนไหวของวงการหนังไทยในช่วง 4-5 ปีหลัง คงไม่มีผู้ใดกล้าปฏิเสธว่า “คุ้ย-ทวีวัฒน์ วันทา” คือผู้กำกับที่มีความ “กล้า” ที่จะนำเสนอหรือใส่สีสันออกมาในรูปแบบที่ “ฉีก” และ “แหวกแนว” มากที่สุดคนหนึ่งในบรรดาผู้กำกับของยุคเจเนอเรชั่นนี้ แม้หลายคนอาจรู้สึกตั้งคำถามหรือถึงขนาดเบือนหน้ากับ “ลูกบ้า” ที่เขาตั้งอกตั้งใจใส่เข้าไปในหนังเรื่องที่ผ่านมาอย่าง “ขุนกระบี่ผีระบาด” และ “อสุจ๊าก” แต่ในทางกลับกัน “ลูกบ้า” ลูกเดียวกันนี้ ก็ทำให้มิติของหนังไทยมีความต่างและแปลกใหม่จากรูปแบบเดิมๆ ที่มีอยู่ล้นตลาดหนังบ้านเรามิใช่หรือ

…จนมาถึงผลงานเรื่องล่าสุด “อนุบาลเด็กโข่ง” ลูกบ้าลูกเดิมได้ถูกเพาะบ่มคลุกเคล้าส่วนผสมได้อย่างลงตัว จนกลายเป็นลูกบ้าที่ “ใส” และ “สะอาดหมดจด” ที่สุดในชีวิตของเขา จึงน่าติดตามว่ามุม “แอ๊บใส” ครั้งนี้ของ “คุ้ย-ทวีวัฒน์ วันทา” จะคว้าหัวใจคนดูให้สมกับที่หัวใจดวงเล็กๆ ของเหล่าบรรดาน้องหนูในเรื่องที่ทุ่มเกินร้อยให้กับหนังเรื่องนี้หรือไม่

เปิดหัวใจคุณครูใหญ่แห่งอนุบาลเด็กโข่ง

…อนุบาลเด็กโข่ง เริ่มจากไอเดียและพล็อตที่ถูกพัฒนา มาจากหนังสั้นของตัวเองเรื่อง “หัวหน้า” ในโครงการชวนเด็กดูหนังของ สสส.(สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ) คือตอนนั้นได้โจทย์จากสสส. ว่าต้องทำหนังให้เด็กดู ก็เลยทำเป็นหนังเด็กแบบแอ๊คชั่นแบบการ์ตูนๆ พูดถึงโลกของเด็ก สังคมของเด็ก ก็คิดถึงในวัยเด็กว่าเราทำอะไรบ้าง ซึ่งคิดว่าถ้าเอามาทำเป็นหนังใหญ่มันจะต้องน่าสนใจ ก็เลยเอาไปเสนอพี่ปรัช (ปรัชญา ปิ่นแก้ว) พี่ปรัชก็ปิ๊งเลยเพราะเป็นหนังเด็กที่มีเรื่องราวหรือการนำเสนอที่มีสีสัน แตกต่างจากหนังเด็กที่เคยมีออกมา ต้องมีสาระที่จับต้องได้และที่สำคัญดูได้ทั้งครอบครัว

…ก่อนเริ่มถ่ายทำทีมงานทุกคนเตรียมใจไว้แล้วว่า จะต้องปวดหัวแน่ๆ ที่ต้องมาทำหนังเด็ก เราเลยคัดสรรทีมงานที่มีจิตใจรักเด็กและมีขีดความอดทนกว่าปกติ (อันนี้เข้าใจเอาเอง) ซึ่งช่วงแรกๆ ระหว่างการถ่ายทำก็สติแตกกันทั่วหน้า สักพักทุกอย่างก็เริ่มลงตัว เพราะโชดดีที่เราได้แคสติ้งนักแสดงเด็กๆ ที่มีความพร้อมในการทำงานกลุ่มอยู่สูง การทำงานจึงเต็มไปด้วยความสนุก และผ่านไปในเวลาที่ดูเหมือนรวดเร็ว ต้องขอขอบคุณทีมงานและนักแสดงรวมถึงผู้ปกครองทุกท่าน ที่งานนี้ผ่านไปลุล่วงด้วยดีเพราะทุกคนทำงานด้วยใจทั้งนั้นเลย เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ อันนี้ขอปรบมือให้กับทุกคน

…ก่อนที่ “อนุบาลเด็กโข่ง” จะลงฉายโรง คงต้องบอกว่าหนังเรื่องนี้สนุกจริงๆ ด้วยเนื้อหาและมุกตลกใหม่ๆแถมมีสาระที่จับต้องได้ ถ้าครั้งหนึ่งเราเคยมีแก๊งจักรยาน เราเคยแปลงร่างเป็นยอดมนุษย์ เรามีฐานลับ มีบ้านต้นไม้ พวกเพื่อนๆล้อว่าเป็นแฟนกัน แอบชอบรุ่นพี่ และรักการผจญภัย หนังเรื่องนี้จะเติมภาพในฝันเมื่อครั้งอดีตกลับมาแน่นอน และสุดท้ายอยากให้ทุกคนอย่าลืมเด็ดขาดว่า

“14 พฤษภาคม 2552 บอกคนขายตั๋วหนังว่าดู ‘อนุบาลเด็กโข่ง’ ด้วยนะครับ”

Share this article :

แสดงความคิดเห็น