Home » » เดอะเมีย

เดอะเมีย



ผู้กำกับ : กิตติกร เลียวศิริกุล

คำโปรย : เสียทองเท่าหัว ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร

เนื้อเรื่องย่อ: เมื่อ “เมียหลวง VS เมียน้อย” อมตะวาจา “เสียทองเท่าหัว ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร” ยังใช้ได้เสมอภารกิจนี้ต้องสู้จนตัวตาย ไว้ลายเมียหลวง!!!ปัจจุบัน ณ กองบัญชาการศูนย์พิทักษ์เมียหลวง หรือ FCWI [First Class Wife International]องค์กรที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อปกป้องและรักษาความปลอดภัยจากเมียน้อย แต่ฝ่ายเมียน้อยก็ไม่น้อยหน้า พวกเธอได้ก่อตั้งสมาคมลับ ในนามของ พรรคเมียน้อย หรือ EMWI [Economy Wife International] ขึ้นมาเช่นกัน ภารกิจเร่งด่วน คือสังหารเมียหลวง เพื่อเปลี่ยนสถานภาพจากเมียน้อยให้เป็นเมียหลวง อย่างถาวร พรรคพวกเมียน้อยได้สร้างตรอกเมียน้อยที่เป็นดินแดนแห่งการเสวยสุขเป็นปราการยิ่งใหญ่ เกินกว่าใครจะหักได้ พร้อมกับเวลาแห่งการช่วงชิงความเป็นหนึ่งใกล้เข้ามา พรรคเมียน้อยเริ่มยุทธการ “กลายพันธุ์” เปลี่ยนเมียน้อยให้เป็นเมียหลวงอย่างถาวร ภารกิจเร่งด่วน คือสังหารฝ่ายเมียหลวงฝ่ายเมียหลวง จิตตรา(นุสบา ปุณณกันต์) สาวสวยสดใส ที่ชีวิตเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังตีน เพราะแต่งงานได้ปีเดียวสามีก็ไปมีเมียน้อย สิ่งเดียวที่เหลืออยู่คือ ความแค้นในตัวมายา (เมทินี กิ่งโพยม) เมียน้อยผู้เพียบพร้อม ด้วยวัยสาว ความสวย การศึกษาและร่ำรวย มายา แต่แสงแดด (พิมพ์ศิรี พิมพ์ศรี) เมียหลวงและน้องสาวของจิตตรา สาวแสนดี อ่อนแอ เปราะบางเสียเหลือเกิน เหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นเป้าให้เมียน้อยดอดเข้าตีท้ายครัว แต่แล้วฝ่ายเมียน้องเอง กลับสืบพบความลับที่แม้แต่ตัวแสงแดดเองก็ไม่รู้ว่า ความลับที่จะเป็นชนวนให้อภิมหาสงครามเปิดฉากขึ้นทำให้จิตตรา ก็ล่วงรู้ถึงภัยที่กำลังคุกคามเธอ แต่จิตตราก็ยังนิ่งสงบไม่เคลื่อนไหวใดๆ ทุกคนรู้ว่า สงครามนี้จวนเจียนจะระเบิดศึกแล้ว

นักแสดง:

นุสบา ปุณณกันต์ …. จิตตรา 
เมทินี กิ่งโพยม …. มายา 
ธรัญญา สัตตบุศย์ …. วายุ 
อาภาศิริ นิติพน …. โบว์ 
เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ …. คุณหลุยส์ 
เพ็ญพักตร์ ศิริกุล …. เจ๊ใหญ่ 

วันที่เข้าฉาย: 6 เมษายน 2548


เดอะ เมีย : อยากให้โลกนี้ไม่มีผู้ชาย 
เขียนโดย Obelisk      
ศุกร์, 08 เมษายน 2005

ก่อนจะสาธยายถึงหนัง ก่อนจะเข้าเรื่องเข้าราว ขอออกไปนอกเรื่องก่อนนะคะ

ฉันขอฟันธงไว้ล่วงหน้าว่า หนังไทยเรื่อง “นานาช่า” ของซีเอ็ม ฟิล์ม และ “พยัคฆ์ร้าย ส่ายหน้า” ของอาร์เอส ฟิล์ม ต้องทำเงินผ่าน 50 ล้าน แบบชิว ชิว แบบนอนมาแน่ ๆ อันนี้วัดจากเสียงขำ ขำ ของคนดูที่เสียเงินให้ “เดอะ เมีย” แล้วเจอหนังตัวอย่างของ 2 เรื่องนี้ เข้าให้ อย่างเลวร้ายที่สุดหนังก็ 50 ล้านน่ะค่ะ โอ้โห อิเมจิ้นจินตนาการคิดดูนะคะคุณ คนนั่งแน่น ๆ เต็ม ๆ โรง พวกเค้าฮากันทุกมุขค่ะย้ำว่า ทุกมุขค่ะ ตอนนี้เตรียมหาสถานที่เลี้ยงฉลองเงินล้านได้เลย ยินดีล่วงหน้าด้วยค่ะ (ฟันธงผิดฉันจะให้เจ้าของเว็บปิดเว็บอีกรอบค่ะอิอิ)

เข้าเรื่องค่ะหนังเลือกเปิดฉายในวันที่ 6 เมษา วันหยุดวันจักรี ผลก็คือได้คนมาดูกันแน่นโรง อันนี้ที่จริงฉันมีตัวเลือก 2 เรื่องคือ “เดอะเมีย” และ “หนังผีลูกครึ่งของอีกค่าย” แต่ฉันไม่ดูหนังผีค่ะ ไม่ชอบโดนหลอก เชอะ

เรียว กิตติกร จาก “ปาฏิหาริย์โอม+สมหวัง” หนังโปรลิฟท์กับออย, “Goal Club” หนังนัวร์วัยรุ่นชายร้าย ๆ ห่าม ๆ, “พรางชมพู” โลกที่ชายชาตรีชาติทหารต้องแบกปืนออกไปปกป้องกะเทย และล่าสุดกับ “เดอะเมีย” โลกนี้มีแต่ผู้หญิง เน้นชื่อให้รู้กันไปบนโปสเตอร์ว่ามีเมียได้แค่หมายเลข 1 เท่านั้น ดังนั้นตาต่อตา ฟันต่อฟันเท่านั้นที่จะทำให้ 1 ลบ 1 เหลือ แค่ 1 คน

โลกในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า ที่ผู้หญิงมี 50 ล้านคน ผู้ชายมี 25 ล้านคน หารเป็นสัดส่วน ได้ผลลัพธ์ให้ผู้ชาย 1 คนมีเมียได้อย่างน้อย ๆ ก็เริ่มที่ 2 คน และมีแนวโน้มจะมากขึ้นมากขึ้นทุกขณะ

พอน้ำตาของความเศร้าเสียใจเหือดหาย ความเดือดแค้นพลุ่งพล่านก็ปะทุขึ้นมาทะลักล้นแทนที่ของฝ่ายผู้หญิงที่มาลำดับแรก หรือเมียหลวงอย่างจิตรา (นุสบา ปุณณกันต์) ที่เสียผู้ชายให้มายา (ลูกเกด เมทินี) หนังใช้วิธีการยืนข้างเมียหลวงมาตลอด ให้ภาพความตรอมตรมหัวใจสลายของหัวอกเมียหลวง

เล่ารวบรัดถึงสามคู่ชู้ชื่น ทีละบ้าน ๆ บางคู่ เริ่มที่การให้ผู้ชายเลือกที่จะสารภาพบาปเมียหลวงผ่านเทปวีดีโอว่า ผมมีเมียเพิ่ม มาอีกคน เพราะคุณนะครับ เพราะคุณนั่นแหละครับ

พอผ่านการคร่ำครวญจนเหนื่อยได้ที่แล้ว ผู้หญิงทุกคนได้กลายพันธุ์เป็นผู้หญิงแกร่งที่ไม่ฟูมฟายกับผู้ชาย ลุกมายิงกันสนั่น เพราะ”แค้น” ตัวเดียว

ดูเหมือนจะยังคงมีแค่คนเดียวอย่างแสงแดด (แยม พิมพ์ศิริ) ที่ยังคงติดอยู่ในโลกของการเฝ้ารอ “พี่เอก” และอยู่ได้ด้วยการหายใจสูดความหวังลม ๆ แล้ง ๆ เข้าปอด ท้ายที่สุดก็เป็นคำพูดจากปากตัวเองที่ย้อนกลับมาแทงเชือดหัวใจตัวเอง

โลกอัปลักษณ์ของเมียน้อยก็ยังเป็นเหมือนละครปี พ.ศ.นี้ แต่งตัวชี้ชัดได้ว่าเป็นเมียน้อย ทำตัวน่าหมั่นไส้ รวมตัววี้ดว้ายกันแน่น ๆ ในซอยเมียน้อย ยั้วเยี้ย ในตรอกแคบ ๆ ไม่เจริญหูเจริญตา เหมือนที่เพาะบ่มเชื้อโรคร้าย คนร้าย ๆวัน ๆ มีแต่เฝ้าถามคิวเมียหลวง – เมียน้อย การฆ่าเมียหลวงให้ตายซักคน ก็เพื่อเป็นการให้เมียน้อยได้เสียบตำแหน่งแทน โลกในหนังจึงมีตัวละครผู้ชายเพิ่มอีกคน ผู้ชายประเภทที่ไม่มีใครแย่งชิง เป็นตัวแทนของคำว่ากะล่อน ดอดโผล่หน้าระรื่นไปได้ทั้งฝั่งเมียหลวงและเมียน้อย หรือว่าผู้ชายบางพันธุ์ก็มีไว้เพียงแค่ให้น้ำหนักตัวรักษาสมดุลของแผ่นดินกับระดับน้ำทะเล

เมื่อต่างฝ่ายต่างวางแผน รอวันปะฉะดะ วันเคลียร์หนี้กัน และแล้วก็มาถึงวันนั้น ได้ฆ่าล้างซอยกันซะที หลังจากอืด ๆ หย่อน ๆ ยาน ๆ มานานหลายนาที โดยมีหัวหน้าใหญ่ฟากเมียหลวงอย่างไฮโซ คุณหลุยส์ (เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์) นำขบวนบนรถเบนซ์คันงามมาช่วยถล่ม

ฟากเมียน้อยมีลูกทีมคู่หู สองสาวพี่น้อง โบว์-แบม(อาภาศิริ นิติพน-หลิว มนัสวีร์) ที่ถึงไม่ได้ตายเพราะจมน้ำใต้ศอก แต่ก็ดันตายตกในน้ำเหมือน ๆ กัน

สเต็ป ลีลาแอ็คชั่นกระหน่ำยิง เท่ระเบิด กินขาดกันทุกคน นั่นเป็นการสร้างภาพผู้หญิงเข้มแข็ง แกร่ง คม ทุกเยื้องย่างที่ก้าวขา งานนี้ไม่มีแม่พระ เพราะเล่นยิงพระแม่กันซะกระจาย องศาเหวี่ยงแขนยิงของนุสบา ได้มุมได้ฉาก ช่างรับกับสเต็ปการก้าวขาอย่างงดงามจริง ๆ นะแม่ แต่การเลือกใช้มุมกล้องเหวี่ยง ๆ ในบางช่วงของนุสบา ไร้ค่าค่ะ ปวดกบาล เวียนหัวเปล่า ๆ

แม้หนังจะไม่น่าทำรายได้มากนัก เพราะคนดูอาจจะคาดหวังมากกว่านี้ สูงสูงกว่านี้น่ะค่ะ ก็แหม อันเรื่องเก่าก่อนที่พี่เรียวเคยทำไว้คมกว่านี้นะคะ แถมหนังเรื่องนี้ยังค่อนไปทางจะอืดดดดซะด้วยซ้ำ การหวังว่าคนดูจะปากต่อปาก คงจะเป็นไปได้ยาก เพราะมันจะฮาก็ฮาไม่สุด จะแอ็คชั่นมันก็ไม่เต็มที่ จะดราม่าหรือก็ชอบกลอยู่ คนดูจะไปบอกต่อว่ามันเป็นหนังอะไรก็คงเอ่อคือเอ่ออ้ำอึ้ง ๆ อยู่เหมือนกัน แต่ถ้าชอบวิธีคิดเก๋ ๆ ภาพสวย ๆ ตอนเหนี่ยวไกปืนของผู้หญิงแบบเท่ ๆ ดูฉลาด ๆ แต่งตัวสไตล์นางแบบ ด่ากันมันส์ ๆ ยุทธวิธีสู้รบสไตล์ใหม่ ถือปืนเดินยิงเข้าใส่กันมาดนิ่ง ๆ เนียน ๆ เจ๋ง ๆก็ไปดูเถิดค่ะ

บทสรุปของเมียหลวง-เมียน้อยในเรื่องก็เป็นไปตามคาดค่ะ ธรรมดาธรรมมะย่อมชนะอธรรม ฉันใดก็ฉันนั้น เมียที่เป็นหนึ่งได้ก็ต้องมีแค่คนเดียว

สุดท้ายก็ต้องวกกลับไปถามเหตุที่อิสตรีเพศ-ผู้หญิงเพศที่มีรังไข่เหมือนกัน ต้องลุกมาห้ำหั่นกัน ทำไมคะทำไมล่ะคะ ผู้หญิงเปรียบดังดอกไม้งดงามประดับโลกนี้ (ร้านขายดอกไม้ galato ของนุสบา) ไฉนต้องลุกมาสะบัดโละทิ้งความอ่อนหวานที่มีมา เพื่อมาแย่งชิงเพศผู้-ชายผู้ไร้ความรับผิดชอบ ฆ่าพวกเดียวกันตายหมด มันก็ไม่หายแค้นหรอกค่ะ เพราะโรคมักมากหลายใจที่เป็นต้นเหตุใหญ่นั้น เซลล์มันฝังตัวแทรกลึกในกระแสสันดานบุรุษเพศค่ะ

ฉันพยายามจะคิดว่า หนังเรื่องนี้จะบอกเราว่า เรามัวแต่ให้ความสำคัญกับเพศผู้มากเกินไปหรือเปล่าคะ

Share this article :

แสดงความคิดเห็น