สัมภาษณ์ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ

 Interview: ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ
10/07/04 (By: ณัฐดนัย เหลี่ยมภักดิ์)

ภาพเด็กกำลังแอบดู

หากย้อนกลับไปเมื่อการประกวดภาพยนตร์สั้นครั้งที่ 4 ของมูลนิธิหนังไทย น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักงานหนังสั้นเรื่องหลวงตา ผลงานของ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ นักศึกษาจากรั้วรังสิต ซึ่งคว้ารางวัลใหญ่ ๆ จากการประกวดมาด้วยกันถึง 2 รางวัล หลังนั้นจึงผันตัวเข้าสู่ชีวิตการทำงานด้วยบทบาทของผู้ช่วยผู้กำกับที่บริษัทฟีโนม่า ถัดมาสามปี ผลงานอีกเรื่อง In The Eye ก็กลับมาตอกย้ำเสียงขานรับในเทศกาลหนังสั้นทั้งในและนอกประเทศอีกครั้ง เร็ววันนี้เราจะได้สัมผัสกับก้าวแรกของการเป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องยาวในหนังสยองขวัญ The Shutter ผลงานสร้างร่วมกันระหว่าง GMM PICTURES และ บริษัทฟีโนมีน่า ก่อนจะถึงเวลานั้น วันนี้เราจะมาทำความรู้จักถึงตัวตนของเขากันก่อนดีกว่า

เริ่มสนใจหนังตั้งแต่เมื่อไรครับ
คงเริ่มจากตอน ม. 2 ม.3 ต้องไปเรียนพิเศษ แต่ก็เรียนบ้าง โดดบ้าง ไม่รู้จะทำอะไรก็เลยไปดูหนัง ทำอย่างนี้เป็นเดือน ๆ ดูหนังทุกเรื่องที่เข้า จนติดครับ พยายามอ่านหนังสือหนัง หาข้อมูล จนรู้เรื่องหนังเยอะมาก สุดท้ายอยากทำหนังขึ้นมา แต่คิดว่ามันคงเป็นอาชีพไม่ได้ เหมือนอาชีพในฝันมากกว่า อีกอย่างตอนนั้นพยายามจะสอบเข้าInterior อยู่ด้วย แต่ก็ไม่ได้สอบหรอกครับ เพราะไม่รู้จะเรียนสิ่งที่ไม่ตัวเองไม่รักไปทำไม จึงตัดสินใจเรียนนิเทศน์ แต่เอนท์ไม่ติดก็เลยมาเข้าที่ ม.รังสิต เรียนสาขาภาพยนตร์ จนทำมาหนังสั้นนี่ล่ะครับ

In The Eye ทิ้งช่วงห่างจาก เรื่องหลวงตา ไปเยอะเหมือนกันนะครับ
เกือบ ๆ 2 ปีครับ ช่วงที่หายไป ก็อยากทำเรื่องใหม่อยู่ตลอดนะ แต่พอทำงานไปแล้ว มันไม่มีแรงขับดันพอที่จะได้ทำ บวกกับยุ่ง ๆ ด้วย จนที่ฟีโนมีโปรเจคให้ผู้ช่วยทำหนังสั้นเพื่อคัดเลือกไปเป็นผู้กำกับ มันจึงเป็นแรงกระตุ้นให้เราไปทำจริง ๆ เสียที เลยออกมาเป็น In the Eye พอดีที่ออฟฟิศเขาชอบกัน ก็เลยให้มาทำหนังใหญ่ เรื่อง The Shutter

ทำไมหนังทุกเรื่องเกี่ยวข้องกับการแอบดู การจ้องมอง แทบทั้งสิ้นล่ะครับ
ส่วนตัวไม่ตั้งใจหรอกครับ อยากทำให้มันต่างด้วยซ้ำไป เวลาผมคิด พล็อตออกมา ปุ๊บ! ถ้ามันน่าสนใจก็จะเขียนเป็นบทต่อ ไม่ได้คิดว่ามันจะต้องสะท้อนมุมมองอะไรออกมา อย่าง In the Eye เรื่องของคนที่แอบดูแม่ตัวเองอาบน้ำ เหมือนผมเคยได้ยินเรื่องทำนองนี้นานมาแล้ว คืนที่เริ่มคิด พล็อตผมก็นอนกับแม่นะ มันเขิน ๆ ยังไงไม่รู้ ตอนเช้าพอมานั่งเขียน พล็อตแล้วนึกถึงเรื่องเมื่อคืน บวกกับเรื่องเก่า ๆ ที่เกี่ยวกับการแอบดู ก็เลยออกมาเป็น In the Eye กะแค่ว่าอยากทำหนังสนุก ๆ ซักเรื่อง ชวนติดตาม พูดถึงอะไรที่เป็นด้านมืด

แล้วในแง่นิสัยส่วนตัว การแอบมอง จ้องมอง มันเกี่ยวข้องกับคุณหรอเปล่า
ผมไม่ได้เป็นคนพูดมาก ดังนั้นสิ่งที่คนเงียบคนหนึ่งจะทำได้ อาจจะเป็นเรื่องของการมอง การสังเกตก็ได้

ตอนดู In the Eye ผมนึกถึงตัวละครอย่าง Norman Batesในเรื่อง Psycho มาก ในแง่ที่ว่าทั้งสองต่างมีพฤติกรรมจ้องมอง แอบดู และต่างตกอยู่ภายใต้อำนาจของแม่เหมือนกัน มันเกี่ยวข้องอะไรกับปมในวัยเด็กของคุณด้วยเหรอเปล่า
คือตอนเด็ก ๆ แม่ผมจะดุมาก เวลาผมคิดถึงแม่คนนี้ ( แม่ในหนัง ) ผมจะจำลองแบบจากแม่จริง ๆ ของผม เอาอะไรหลาย ๆ อย่างที่ผมรู้สึกตอนเด็ก ๆ มาใช้กับแม่ในหนังเหมือนกัน

ฟังดูเหมือนครอบครัวคุณจะเข้มงวด ซึ่งมันก็สอดคล้องกับหนังของคุณที่มักพูดถึงการใช้อำนาจที่ตัวละครแต่ละตัวแสดงต่อกัน ในบริบทที่แตกต่างกัน
ที่บ้านผมก็คุยเล่นกับพ่อแม่ได้นะครับ แต่ผมก็จะถูกเลี้ยงมาโดยมีกรอบบางอย่างที่หนาแน่นมาก อย่างเช่น ต้องเรียกพ่อแม่โดยมีคำว่า คุณ เสมอ หรือผมจะข้ามถนนเองไม่ได้ สูบบุหรี่ไม่ได้ ทำอะไรที่เป็นสิ่งต้องห้ามไม่ได้ เหมือนมีอาณาเขตบางอย่างที่ผมเองออกไปไม่ได้ ส่วนหนึ่งในตอนนั้นจึงทำให้ผมเป็นคนเงียบ ๆ คนทั่วไปมักจะมองว่ามนุษย์สัมพันธ์ไม่ค่อยดีเท่าไร กับคนแปลกหน้าผมจะเข้าไม่ค่อยได้เลย

ท่าทางคุณจะมีโลกส่วนตัวมาก
ใช่ครับ เป็นคนชอบไปไหนมาไหน ทำอะไรคนเดียว ไม่ชอบไปกับคนเยอะ ๆ ทำงานกับคนเยอะ ๆ มันสะดวกสบายกว่า แต่ก็ไม่ได้ปลีกวิเวกขนาดต้องอยู่คนเดียวตลอดเวลา แต่ส่วนใหญ่ก็อยากอยู่คนเดียว

จากหลวงตา ที่ประสบความสำเร็จและสร้างชื่อเสียงอย่างมาก เคยคิดมาก่อนบ้างไหมครับว่าตัวเองจะมาถึงจุดนี้
ตอนที่หลวงตาประสบความสำเร็จ ปุ๊บ! รู้สึกว่า เฮ้ย ทำไมมันขนาดนี้เลยหรอ เพราะตอนเราทำเสร็จ ยังรู้สึกว่าผิดตรงนั้น ผิดตรงนี้ มันยังไม่ค่อยดี แต่ช่วงหลัง ๆ มา เริ่มหลอกตัวเองมากขึ้น คิดว่าตัวเองคงโอเคมั้ง เราคงเจ๋ง แต่พอมาทำที่ฟีโน ( รู้เลยว่าที่ผ่านมาเราคิดผิดมาตลอด ) เราคิดผิดมาก ๆ เรานี่โคตรโง่เลย โลกของการทำหนังมันกว้างมาก แล้วมีอะไรให้เรียนรู้อีกเยอะ

แล้วชีวิตการทำงานช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง
มีความสุขอยู่กับสิ่งที่ทำเหมือนกันนะ แต่พอทำไปเรื่อย ๆ ความทะเยอทะยานมันลดลงไปเหมือนกัน อย่างในช่วงที่ทำหนังสั้นจะมี พล็อตที่อยากทำเยอะมาก แต่ตอนนี้ลดลงไปเยอะ เหมือนพลังงานมันหมด อยากอยู่กับตัวเองซักพัก เพราะเหนื่อยกับหนังเรื่องนี้มาก ผมเขียนบทมาปีนึงแล้วนะ เขียนทุกวัน แก้บททุกวัน เบื่อครับแต่ก็สนุกดี

ท่าทางคุณจะเป็นคนจริงจังกับการทำงานนะครับ
ปกติเป็นคนเครียดอยู่แล้วครับ เวลาทำงานถ้าวาดภาพอะไรแล้ว ก็ต้องได้อย่างที่คิดร้อยเปอร์เซ็นต์ เวลาไม่ได้อาจจะคลาดเคลื่อนไปเล็ก ๆ น้อย ๆ ผมก็รู้สึกนะ ดังนั้นเวลาทำงานมักเกิดปัญหา มีทะเลาะกับทีมงานบ้าง แต่หลัง ๆ ก็เริ่มลดลงมาแล้ว เพราะในการทำงานจริง บางครั้งมันก็ไม่ได้อย่างที่ต้องการเสมอไปหรอก

ในฐานะที่คุณเองก็จบ ม.รังสิต มองอย่างไรบ้างที่หนังของ ม.รังสิต ค่อนข้างจะเป็นพิมพ์นิยมที่ชัดเจนมาก
ผมเชื่อแนวคิดนี้มาก คือคนทำหนังสั้นก็เหมือนกับเด็กเพิ่งเกิด นักเรียนหนังเข้ามหาลัยก็ต้องดูหนังรุ่นพี่ ด้วยความที่เกิดมาหนังสั้นเป็นอย่างไรก็ไม่เคยเห็นมาก่อน เขาทำกันอย่างนี้ มีอุปกรณ์อย่างนี้ มีสังคมแบบนี้ในมหาลัย หนังก็จะออกมาแบบนั้นเหมือน ๆ กัน ไม่เฉพาะหนัง ม.รังสิต หรอก ทุกที่ก็เป็นเหมือนกัน ถ้าเกิดมีใครทำแนวอย่างนี้ขึ้นมา ก็จะเกิดการทำซ้ำ ๆ ขึ้นเยอะ อย่างจุฬาก็จะออกแนวฮาๆ แต่ของ ม.รังสิต จะออกแนวโปรดักชั่นดีไปหมด แต่บทห่วย

แล้วในส่วนที่หนังมันถูกจัดวางมากเกินไปล่ะครับ
คงมาจากที่ ม.รังสิต ถ่ายทำกันโดยใช้ฟิลม์ 35 ซึ่งมันเป็นการลงทุนที่สิ้นเปลืองเป็นแสน ๆ กล้องก็เป็นกล้อง 35 ขนาดใหญ่ มีมอนิเตอร์มีบูม มีทีมงานครบ เวลาจะถ่ายอะไรที มันจึงต้องจัดตรงนั้น จัดตรงนี้ ยกเว้นบางปีที่เรื่องดี โปรดักชั่นก็ยิ่งส่งให้หนังดีขึ้นไปอีก

ฝึกฝนกับโปรดักชั่นมามากก็เข้าทางกับงานโฆษณาซิครับ
ก็มีส่วนครับ แต่ที่ฟีโนจะสอนให้เอาโปรดักชั่นมาซับพอร์ทเรื่องราวมากกว่า ไม่ใช่ถ่ายแค่ให้มุมสวย แต่เนื้อเรื่องไม่มีอะไร สิ่งนี้ก็ตามมายังหนังของผมเอง คือไม่อยากให้คนดูดูแล้วเบื่อ อย่างน้อยก็ต้องมีความน่าสนใจบางอย่างอยู่ในหนังที่เขาเสียเวลาเข้าไปดูบ้าง

แล้วพรมแดนของความน่าเบื่อและไม่น่าเบื่อของคุณอยู่ตรงไหนครับ
คงอยู่ตรงที่ความรู้สึกผมเอง ว่ามันมี Conflict ที่น่าสนใจเพียงพอหรือไม่ แล้วนำเสนอออกไปในมุมมองของผม อย่างหนังเรื่อง In the bedroom เป็นเป็นเรื่อง Basic ในบ้าน แต่มีเนื้อหาที่โดนใจมาก ถ้าจะทำหนังก็คงทำหนังแบบนี้

ส่วนตัวเชื่อการด้นสดไหมครับ
ด้นสด ? สมมุตินะครับ ในแง่ที่ เหมือนออกไปถ่ายอะไร แล้วมั่ว ไม่ค่อยอ่ะ ผมไม่ทำหนังอย่างนั้นแน่ ๆ จะไม่ค่อยถ่ายอะไรตามอารมณ์ แบบหนังอย่าง Blissfully Yours ( สุดเสน่หา ) ห่างไกลจากตัวผมมากเลย

เวลาว่างทำอะไรบ้างครับ
ไปกินเหล้ากับเพื่อน ดูหนัง อยู่กับหนังนี่ล่ะครับ ถ้าไม่มีหนังมันคงลำบาก เหมือนยาเสพติดไปแล้ว ได้ยุ่งเกี่ยวกับมันชีวิตผมมีความสุขแล้ว

อ่านหนังสือบ้างไหมครับ
อ่านครับ ผมชอบวินทร์ เลียววารินทร์ มาก อ่านแล้วอ่านอีก ซ้ำไปซ้ำมา อ่านหนังสือเขาแล้วเหมือนได้ดูหนังสั้นหลาย ๆ เรื่อง ผมว่ามีเรื่องสั้นของเขาเยอะมาก ถ้าทำเป็นหนังต้องดีมาก น่าจะมีใครซักคนจ้างเขามาเป็นคนบทหนังนะ

คิดว่าตัวตนตั้งแต่วันที่รู้จักหนังครั้งแรกจนถึงวันที่ต้องกำกับหนังเรื่อง Shutter เอง เปลี่ยนไปไหม
เปลี่ยนไปนะ ตอนเริ่มดูหนังใหม่ ๆ ผมชอบดูหนังแอ็คชั่นมาก อยากมีช็อตเฮลิคอปเตอร์เหมือน ไมเคิล เบย์ เจอร์รี่ แต่พอดูหนังไปเยอะ ๆ เข้า เราคงเจออะไรที่ดีกว่า จนลืมพวกอย่างนั้นไปหมด แต่ไม่ได้มองว่ามันเท่กว่า เก๋กว่านะ แค่ความชอบเราเปลี่ยนไป แต่ช่วงหลังมานี้ ผมกลับดูหนังไม่สนุกเหมือนก่อนแล้ว มีหนังน้อยเรื่องมากเลยที่ชอบ ส่วนหนึ่งอาจเพราะมาทำเองด้วย

มองที่ทางของตัวเองต่อไปในอนาคตไว้อย่างไรบ้าง
ผมก็อยากทำหนังต่อไปแหละครับ แต่ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะประสบความสำเร็จแค่ไหน เมื่อก่อนดูหนังชาวบ้าน ก็คิดว่าเราน่าจะทำได้ ตอนนี้ก็พยายามให้เป็นอย่างนั้นอยู่ จบจากหนังเรื่องนี้ ก็คงอยู่ที่ฟีโนต่อไป และคงหาโปรเจคหนังต่อ

มาถึงวันนี้แล้ว คิดว่าความสุขของการทำหนังอยู่ที่ตรงไหนครับ
ความสุขของผม อยู่ที่ตอนฉายหนังครับ ตอนทำมันก็จะสุขปนเศร้า แต่พอฉายเนี่ย จะสุขเวลามีคนมาดูหนังขอวงเรา แล้วบอกว่าชอบหนังคุณวะ ชอบในสิ่งที่ผมทำ

แต่ถ้าคนดูเข้ามาแล้วทักว่า รับหนังของคุณไม่ได้เลยล่ะครับ
( เสียงหัวเราะ ) รับไม่ได้ ผมก็ทำเรื่องต่อไป ไม่มานั่งคิดมาก เพราะว่ามันผ่านไปแล้ว แต่ยังไงก็ตามการได้เห็นปฏิกิริยาของคนดูต่องานที่เราทำ มันเป็นโมเม้นท์ที่ผมรู้สึกดีที่สุดแล้วล่ะ

รัตน์ เปสตันยี

 

รัตน์ เปสตันยี โลโก้ฉลอง 100 ปี

รัตน์ เปสตันยี เป็นบุคคลสำคัญที่สุดท่านหนึ่งในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไทย ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ท่านเป็นคนไทยคนแรกที่ทำภาพยนตร์ส่งไปประกวดในต่างประเทศ และได้รับรางวัลชนะเลิศ คือ ภาพยนตร์สั้นสมัครเล่นเรื่อง “แตง” ได้รับรางวัลจากการประกวดภาพยนตร์สมัครเล่นแห่งเมืองกลาสโกล์ว ประเทศอังกฤษ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๑ ต่อมาท่านได้ยึดการสร้างภาพยนตร์เป็นอาชีพ ได้สร้างโรงถ่ายภาพยนตร์เสียง เพื่อผลิตภาพยนตร์แบบมาตรฐานอุตสาหกรรม คือ โรงถ่ายหนุมานภาพยนตร์ ที่ถนนวิทยุ กรุงเทพ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๖ ภาพยนตร์เรื่องแรกของโรงถ่ายนี้คือ “สันติ-วีณา” ซึ่งทำขึ้นเพื่อส่งไปร่วมการประกวดภาพยนตร์แห่งเอเซียตะวันออกไกล ครั้งที่ ๑ ที่ โตเกียว เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๗ ปรากฏผลได้รับรางวัลใหญ่ ๓ รางวัล คือ ถ่ายภาพยอดเยี่ยม กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม และรางวัลพิเศษจากสมาคมผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์แห่งสหรัฐอเมริกา คือ ภาพยนตร์ที่สร้างความเข้าใจทางวัฒนธรรมดีเยี่ยมระหว่างตะวันออกกับตะวันตก

การที่ภาพยนตร์ไทยไปได้รับรางวัลจากงานประกวดระดับนานาชาติเป็นครั้งแรกในปีนั้น ทำให้วงการภาพยนตร์ไทยคึกคัก และเป็นเหตุส่วนหนึ่งให้ จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เกิดความตั้งใจจะสนับสนุนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ได้บัญชาให้กรมประชาสัมพันธ์ทำโครงการสร้างเมืองอุตสาหกรรมภาพยนตร์ โดยรวบรวมบริษัทสร้างภาพยนตร์ที่เป็นหลักเป็นฐาน รวมทั้งโรงถ่ายหนุมานภาพยนตร์ เข้าร่วมกันเป็นองค์การรัฐวิสาหกิจ มีการตระเตรียมที่จะสร้างขึ้นที่บางแสน แต่โครงการชะงักไปพร้อมกับรัฐบาลจอมพล ป. ถูกรัฐประหารเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๐

รัตน์ เปสตันยี เป็นทั้งนักอุตสาหกรรมและศิลปินภาพยนตร์ ท่านได้ทำงานทั้งสองทาง คือ ทางหนึ่งพยายามเรียกร้องต่อสู้ให้ภาพยนตร์เป็นอุตสาหกรรมที่พึงได้รับสิทธิส่งเสริมจากรัฐ ในการนี้ท่านได้เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการเจรจากับรัฐบาลและรวบรวมบุคคลในวงการให้ผนึกกำลังกัน จนจัดตั้งขึ้นเป็นสมาคมผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์แห่งประเทศไทย ในทางการสร้างสรรค์ศิลปะภาพยนตร์ ท่านได้สร้างภาพยนตร์ให้มีความประณีต มีคุณภาพเชิงศิลป์ และมีสารคติ ไม่ใช่มุ่งขายความบันเทิงอย่างเดียว มีเทคนิคที่เป็นมาตรฐานสากล ทั้งนี้เพื่อให้สามารถส่งออกไปฉายในต่างประเทศ ทั้งในงานเทศกาลและการจัดจำหน่าย

แต่ดูเหมือน รัตน์ เปสตันยี จะพบกับความผิดหวังซ้ำๆ และเหนื่อยหน่าย ทั้งในทางอุตสาหกรรมที่ท่านพบว่า รัฐบาลไม่เอาจริงและยังมองไม่เห็นความสำคัญของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ คนในวงการก็ยังไม่ผนึกกำลังกันให้แข็งแรง ในทางผลงานภาพยนตร์ ความคิดที่จะทำภาพยนตร์ที่มีคุณภาพทางศิลป์ และสารคติ ไม่อาจสวนกระแสภาพยนตร์บันเทิงแบบ ๑๖ มม. พากย์สด ที่ครองใจผู้ชมส่วนใหญ่ได้ การต่อสู้จึงหนักหนาสาหัสสำหรับผู้ที่ตั้งใจแรงกล้า

เสียงที่สะท้อนความรู้สึกของท่าน คือ คำกล่าวที่ว่า “เรารักงานนี้ เราก็ทำไป เราก็สู้ไป สมหวังบ้าง ไม่สมหวังบ้าง ก็เป็นธรรมดา...”

ในช่วงหลังของชีวิต รัตน์ เปสตันยี ป่วยด้วยโรคประจำตัวเกี่ยวกับหัวใจ ไม่สามารถทำงานหนักได้ น่าเสียดายที่ท่านต้องหยุดงานสร้างภาพยนตร์ แต่ท่านยังคงทำงานสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย จนที่สุดเมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๓ ท่านได้ไปร่วมการประชุมใหญ่ของสมาคมผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์แห่งประเทศไทย ซึ่งที่ประชุมได้เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการ มาปราศัยถึงโครงการที่รัฐบาลกำลังจะสนับสนุนภาพยนตร์ไทย รัตน์ เปสตันยี ได้ขอขึ้นพูดเป็นคนสุดท้าย พอท่านเริ่มจะพูด ก็เกิดอาการเป็นลม หมดสติ และเสียชีวิตในเวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อมาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

การเสียซีวิตอย่างกระทันหันของ รัตน์ เปสตันยี เป็นข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์ ซึ่งก่อให้เกิดความสะเทือนใจแก่สังคม และนั่นอาจเป็นเหตุให้รัฐบาลรีบจัดตั้ง คณะกรรมการส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ขึ้นเป็นครั้งแรกในปีนั้นเอง

ถึงแม้ว่า รัตน์ เปสตันยี มีผลงานสร้างภาพยนตร์ไม่มาก แต่ผลงานทุกเรื่องของท่าน ซึ่งมีทั้ง ภาพยนตร์เรื่องและภาพยนตร์สารคดี นับว่ามีคุณค่าเป็นมรดกภาพยนตร์ที่สำคัญของชาติ และนับว่าโชคดีที่ต้นฉบับของภาพยนตร์เหล่านี้ได้รับการเก็บรักษาไว้ในต่างประเทศ และได้ส่งมาเก็บรักษาไว้ในหอภาพยนตร์แห่งชาติแล้ว

น่าเสียดายแต่ว่า “สันติ-วีณา” ซึ่งเป็นงานมาสเตอร์พีซ และเป็นประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ของชาติ เพียงเรื่องเดียวในบรรดาผลงานของ รัตน์ เปสตันยี ที่สูญหายไป

ในโอกาสที่ ปี พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นวาระครบ ๑๐๐ ปี เกิดของ รัตน์ เปสตันยี ( ๒๒ พฤษภาคม ๒๔๕๑) หอภาพยนตร์แห่งชาติ กรมศิลปากร และมูลนิธิหนังไทย ในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ จึงเห็นสมควรจัดงานฉลอง เพื่อเผยแพร่เกียรติคุณและผลงานของท่านสู่สาธารณชน 

ผลงานภาพยนตร์

2480 แตง (ภาพยนตร์สั้น)

2482 เรือใบสีขาว (ภาพยนตร์สั้น)

2493 พันท้ายนรสิงห์

2494 ตุ๊กตาจ๋า

2497 สันติ-วีณา

2498 ชั่วฟ้าดินสลาย

2500 โรงแรมนรก

2501 สวรรค์มืด

2504 แพรดำ

2507 น้ำตาลไม่หวาน


ตุ๊กตาจ๋า


ตุ๊กตาจ๋า

ฟิล์ม 16 มม. / สี (ธรรมชาติ) / พากย์
31 ตุลาคม 2494
ฉายที่ศรีราชวงศ์
บริษัทสร้าง อัศวินภาพยนตร์
ผู้อํานวยการสร้าง พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล
ผู้กํากับ รัตน์ เปสตันยี
ผู้เขียนบท รัตน์ เปสตันยี
ผู้ถ่ายภาพ รัตน์ เปสตันยี

เรื่องย่อ

เพราะ เฉลิม ชลกุล ญาติสนิทปฏิเสธการช่วยเหลือเรื่องเงินทอง อุดม ชายโฉดจึงลักพาตัว ตุ๊กตา ลูกสาวของเฉลิมไป แต่อุดมไม่อยากมีภาระ จึงเอา ตุ๊กตาไปฝากไว้กับ ละม้าย ญาติซึ่งไม่ชอบขี้หน้าเฉลิม โดย เสนอว่าจะส่งเงินให้ ละม้ายปฏิเสธการช่วยเหลือจึงถูกอุดมฆ่าปิดปาก โจ้ กับ ธร ซึ่งนั่งเลื่อยไม้อยู่แถวนั้นได้ยิน เสียงปืนดังลั่นก็รีบวิ่งไปดูที่มาของเสียง พบศพของ ละม้ายนอนตายอยู่กลางทาง และมีตุ๊กตานั่งอยู่ข้าง ๆ ศพ โจ้กับธรจึงเก็บตุ๊กตามาเลี้ยงเพราะความสงสาร

ด้วยความอยากมีเงินทอง โจ้กับธรจึงต้องอาศัย การลักเล็กขโมยน้อยประทังชีวิต 10 ปีผ่านไป ตุ๊กตาเริ่มโตพอจะอ่านออกเขียนได้ ธรก็ใช้ความรู้เท่าที่มีสอนหนังสือให้ตุ๊กตา แล้วโชคชะตาก็พาให้ตุ๊กตาได้พบกับแม่ที่แท้จริง เมื่อธรเกิดไปถูกใจสาวสวยคนหนึ่ง แต่ถูกสาวเจ้าสาดน้ำใส่ อารามเสียหน้าจึงตั้งใจจะไปขโมยของในบ้านของสาวเจ้าเป็นการแก้เผ็ด แต่เมื่อเข้าไปในบ้าน ธร กลับได้เห็นรูปภาพของเด็กหญิงตุ๊กตาใส่กรอบรูปไว้เป็นอย่างดี จึงได้รู้ว่าตุ๊กตาเป็นลูกสาวของบ้านนั้นที่หายตัว ไปพร้อม ๆ กับที่รู้ว่าสาวที่ตนแอบชอบนั้นตาบอด เป็นพี่สาวของตุ๊กตา ชื่อว่า ไพริน

เมื่อธรแน่ใจจึงเล่าความจริงให้โจ้ฟัง และชวนกันไปทําความรู้จักกับครอบครัวของไพรินในวันต่อมา มณี แม่ของไพรินได้เห็นตุ๊กตาก็ถึงกับตะลึงงัน จึงต้อนรับขับสู้แขกแปลกหน้าทั้งสามอย่างไม่มีทีท่ารังเกียจ แต่แล้ววันหนึ่ง อุดมก็มาปรากฏตัวที่บ้านของธรเพื่อข่มขู่จะเอาตัวตุ๊กตา แล้วไปเรียกค่าไถ่จากมณี ธรกับโจ้ปรึกษากัน เห็นว่าไม่มีทางออกอื่นนอกจากต้องคืนตุ๊กตาให้ครอบครัวที่แท้จริงเพื่อความปลอดภัยของเด็กน้อย แม้ทั้งสองจะรักตุ๊กตาประดุจลูกในไส้ก็ตาม เมื่อถึงเวลาที่ อุดมนัดหมายจะมารับตุ๊กตา ธรเอาตัวเข้าสู้และยิงอุดม เสียชีวิต แม้ตัวเองจะต้องตายไปด้วยก็ตาม

นักแสดง


อรสา อิศรางกูร ณ อยุธยา เป็น ตุ๊กตา
สมพงษ์ พงษ์มิตร เป็น โจ้
ธร ประทีปเสน เป็น ธร
สัมพันธ์ อุมากูล, ปราณีต คุ้มเดช, เฉลิม ชลกุล, ทรงกรด บุนนาค

ที่มา ภาพยนตร์เรื่อง ตุ๊กตาจ๋า

 

 
 

 

 

น้ำตาลไม่หวาน (2507)

น้ำตาลไม่หวาน (2507)

๒๕๐๗ / สี / เสียง / ๑๓๔ นาที

กำกับ : รัตน์ เปสตันยี

ลักษณะเฉพาะของหนังที่ รัตน์ เปสตันยี สร้างนั้น จะไม่ค่อยคำนึงถึงตลาดมากนัก มีลักษณะเฉพาะที่ชัดเจน แต่สำหรับ น้ำตาลไม่หวาน ภาพยนตร์ที่สร้างในปี พ.ศ.๒๕๐๗ กลับเป็นงานที่รวบรวมองค์ประกอบของหนังตลาดเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง รัก ตลก โป๊ และเพลงประกอบ แต่ในเวลาเดียวกันภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เสียดสีการเป็นหนังตลาดได้อย่างเจ็บแสบเช่นกัน ผ่านโครงเรื่องฉบับพิมพ์นิยมของหนังไทย เมื่อเจ้าคุณเจริญเกศา เจ้าของร้านขายยาแก้ผมบาง “เกศาเจริญ” ต้องการตอบแทนบุญคุณเพื่อนรักชาวอินเดีย ที่คิดสูตรยาจนทำให้บริษัทเจริญรุ่งเรือง ด้วยการว่าจ้าง มนัส ลูกชายที่ไม่เอาไหน ให้แต่งงานกับ น้ำตาล ลูกสาวของเพื่อนรักด้วยเงิน 2 ล้านบาท โดยเจ้าคุณหวังให้มนัสเป็นผู้สืบทอดกิจการของตระกูลต่อไป


ใบปิดภาพยนตร์ วาดโดย เปี๊ยกโปสเตอร์

หนุมานภาพยนตร์ เสนอ
น้ำตาลไม่หวาน
35 ม.ม.ซีเนมาสโคป เสียงในฟิล์ม สีธรรมชาติ
เมตตา รุ่งรัตน์ สมบัติ เมทะนี
เสน่ห์ โกมารชุน, สมพงษ์ พงษ์มิตร, ศรินทิพย์ ศิริวรรณ,
รุจน์ รณภพ, ปรียา รุ่งเรือง
รวมเพลงเอก 8 เพลง
รัตน์ เปสตันยี กำกับการแสดง-อำนวยการสร้าง
ปง อัศวินิกุล อัดเสียง
สันต์ เปสตันยี ถ่ายภาพ
บริษัทไทยฟิล์มจำกัด จัดจำหน่าย


น้ำตาลไม่หวาน ปก DVD สมบัติ เมทะนี เมตตา รุ่งรัตน์


– น้ำตาลไม่หวาน เป็นภาพยนตร์เสียงในฟิล์ม (บันทึกเสียงจริงของนักแสดงขณะถ่ายทำ) ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2507 ผลงานกำกับชิ้นสุดท้ายของรัตน์ เปสตันยี ก่อนจะเสียชีวิตในปี พ.ศ. 2513 เป็นภาพยนตร์แนวตลกเสียดสีภาพยนตร์แนวตลาดในยุคนั้นที่มีครบทุกรส ทั้งรัก โศก บู๊ โป๊ เขียนบทโดย รัตน์ เปสตันยี และ รอย ฤทธิรณ (ทวี เกตะวันดี)

ทราบมาว่า ตอนแรกรัตน์อยากได้ มิตร ชัยบัญชา และ เพชรา เชาวราษฎร์ พระเอกคู่ขวัญในเวลานั้นมานำแสดง แต่ทั้งคู่มีคิวงานที่ยาวเหยียด ไม่สามารถมาแสดงได้ และทั้งคู่ไม่เคยแสดงภาพยนตร์เสียงในฟิล์มมาก่อน

น้ำตาลไม่หวาน เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มเศรษฐีนิสัยสำมะเลเทเมาที่ถูกบังคับให้แต่งงานกับหญิงสาวลูกครึ่งอินเดีย เพื่อจะได้สมบัติ โดยที่เขาไม่เต็มใจ เพราะเขามีคนรักอยู่แล้ว เขาจึงกลั่นแกล้งหญิงสาวต่างนานา แต่สุดท้ายก็จบแบแฮปปี้เอนดิ้งตามสไตล์หนังในยุคนั้น



เดอะ สโตน พระแท้ คนเก๊

 


มหกรรมท้าดวลของเหล่า “คนเก๊”
รวมทุกเล่ห์งัดทุกเหลี่ยมเพื่อชิง “พระแท้” ในตำนาน

“เดอะสโตน พระแท้ คนเก๊”
เข้าฉาย : 3 เมษายน 2025

เมื่อพระแท้ชื่อดังในตำนานที่หายไปจากตลาดพระกว่า 30 ปี ได้กลับมาสู่วงการอีกครั้ง โดยมีเจ้าของเป็นชายหนุ่มที่ค้นพระเพื่อหาเงินไปรักษาพ่อ การเดิมพันสะเทือนวงการที่มีมูลค่าสูงถึงหลักร้อยล้านจึงเกิดขึ้น ท่ามกลางความปรารถนาที่แฝงมาด้วยความอันตรายของทุกคนที่ต้องการพระแท้องค์นี้มาครอบครอง

กำกับภาพยนตร์โดย
เป้ อารักษ์ และ บี วุฒิพงษ์ 
ผู้จัดจำหน่าย เอ็มพิคเจอร์ส

นักแสดง

จินเจษฎ์ วรรธนะสิน - เอก
กรณิศ เล้าสุบินประเสริฐ - เซียนหมวย
นพพล โกมารชุน - พ่อสุนทร
อิชณน์กร พึ่งเกียรติรัศมี - เฮียเซ้ง
สิรคุปต์ เมทะนี - ผู้การนพดล
นฤเบศร์ จินปิ่นเพชร - บุญหลง
อิสรา นาดี - อ้วน
รุ่งสิทธิ์ ทองนำ - จิ๋ว


ตัวอย่างภาพยนตร์ เดอะ สโตน พระแท้ คนเก๊

กว่าจะถึงวันนั้น



กว่าจะถึงวันนั้น (2528)

แม้วันนี้จะผิดหวัง  อย่าสิ้นพลัง  

ก่อนวันนั้นจะมาถึง

พลิกบทบาท  อนุสรา จันทรังษี

พลวัฒน์ มนูประเสริฐ

ประชัน  เปียทิพย์ คุ้มวงศ์

พอเจตน์ แก่นเพชร  ราม ราชพงษ์

กว่าจะถึงวันนั้น

แสนยากร  กำกับการแสดง

แมน-ชัชวาล โชติชวาลา  อำนวยการสร้าง

กนิษฐา ป.  สร้างบท

ก้องเกียรติ อัศวินิกุล  ถ่ายภาพ

อารีย์ ทองน้อย  ช่วยกำกับการแสดง

ดูหนัง กว่าจะถึงวันนั้น เต็มเรื่อง

เพื่อน

เพื่อน (2529)

เพื่อน โปสเตอร์หนัง ภาพถ่ายนักแสดงในเรื่อง

พลสยามภาพยนตร์

“เรียบ…ง่าย..ความหมายสุดพรรณนา”
เรวัต (เต๋อ) พุทธินันท์ อนุสรา จันทรังษี
พบดาราวัยรุ่นยอดนิยม
เพ็ญ พิสุทธิ์, อาภาวดี เสริมศิริ,
เสกสรร ชัยเจริญ, สันติภาพ บุญส่ง
อภิชาต โพธิ์ไพโรจน์ บทภาพยนตร์-กำกับการแสดง
มานะ พลสยาม อำนวยการสร้าง
พลสยามภาพยนตร์ จัดจำหน่าย

นักแสดง

เรวัต พุทธินันท์ 
อนุสรา จันทรังษี
เพ็ญ พิสุทธิ์
อาภาวดี เสริมศิริ,
เสกสรร ชัยเจริญ
สันติภาพ บุญส่ง

ดูหนังเรื่อง เพื่อน เต็มเรื่อง

สยามสแควร์

สยามสแควร์ โปสเตอร์หนัง ใบปิดหนัง


สยามสแควร์ (2527)

เรื่องย่อ

สยามสแควร์ คือย่านธุรกิจศูนย์กลางการค้าทุกประเภท แหล่งรวมคนหนุ่มสาวและบุคคลทุกประเภท แฟชั่น เสียงเพลง แม้กระทั่งความรัก ณ ที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นของหนุ่มสาวทั่วไป และจบ ลง ณ ที่นี้
แอ๊ป (อนุสรา จันทรังษี) เด็กสาวช่างพูด ช่างซนและน่ารัก ขาดพ่ออยู่กับแม่ซึ่งเป็นนักธุรกิจ ไม่มีเวลาให้กับแอ็ปมากนัก ในวันหนึ่ง ๆ แอ็ป จึงมักจะใช้เวลาในช่วงว่างมาเดินที่สยามสแควร์กับ อ้วน (สุริวิภา กุลตังวัฒนา) ญาติห่างๆ ของเธอที่คุณแม่ให้มาอยู่เป็นเพื่อน ทุกคนในสยามสแควร์คุ้นเคยกับแอ๊ปและอ้วน เป็นอย่างดี แม้กระทั่งแม่ค้าแอ๊ปเปิ้ลที่แอปและอ้วน เป็นขาประจําทุกครั้งที่มาสยามสแควร์

บัติ (สมบัติ ขจรไชยกุล) หนุ่มเจ้าของ ร้านขายเทปคลาสเซทในสยามสแควร์ และ เทพ (วรเทพ เหลียงวรกุล) นักเรียนรุ่นน้องของบัติ ซึ่งเป็นผู้ที่ชอบหนีโรงเรียนมาขลุกอยู่ในร้านเทปของบัติเป็นประจํา ทั้ง 2 เป็นคู่อริของแอ็ปและอ้วน เมื่อเจอกันบัติและเทพก็แกล้งแอ็ปและอ้วนจนแอปวิ่งชนกับ เมธ (สุเมธ นาคสวัสดิ์) เด็กสลัมที่ทําตัวรวยอวดสาว และ เกียรติ (สมเกียรติ ชวนสมบูรณ์) เด็กหนุ่มบ้านนอกที่อยากใช้ชีวิตในสยามสแควร์ สร้างความแค้นให้กับ เมธและเกียรติมาก ทั้งสองจึงรวมหัวกับบัติและ เทพร่วมน้ำสาบานจองเวรตามแก้แค้นแอปกับอ้วนให้ได้

ส่วนอ้วนนั้นกลับวิ่งไปชนกับ อรรถ (อรรถพล ประเสริฐยิ่ง) นักศึกษาที่กําลังฝึกงานด้านวิทยุอยู่กับ วิทยา ศุภพรโอภาส อรรถหลงรักในตัวของแอปแต่แอ็ปเด็กสาวหลงใหลในเสียงของวิทยา ซึ่งเธอเป็นแฟนรายการวิทยุอยู่ เธอคิดว่า นั่นคือความรัก แอ๊ปจึงพยายามขอติดตามอรรถ ไปดูวิทยาจัดรายการวิทยุเพื่อจะได้ใกล้ชิดและเอาอกเอาใจกับนักจัดรายการที่เธอชอบ ส่วนอ้วนนั้นก็ตามไปด้วย เพราะอ้วนเกิดรักอรรถและอยากใกล้ชิดกับอรรถ

ในวันนั้นวิทยาได้รับจดหมายจากเชียงใหม่ของครูเพลงที่เคยมีพระคุณกับวิทยามาถึง ขอให้วิทยาไปหาเพื่อที่จะฝากลูกศิษย์มาส่งเสริมให้เป็นนักร้อง วิทยาจึงชวนอรรถเดินทางไปเชียงใหม่ด้วย แอ๊ปรู้เรื่องการเดินทางจากอ้วนจึงคืออรรถขอตามไปด้วยเพื่อต้องการใกล้ชิดกับวิทยา อรรถทนตื๊อไม่ไหวก็เลยให้ตามไป

“ดอยหมอก” ยามเย็นหลังจากที่เดินทาง โดยการล่องแพและเดินขึ้นบนดอยหมอกปกคลุม ไปทั่วดอย ณ ที่นั้นวิทยา อรรถ แอ๊ป อ้วนได้ พบกับ กร (วงศกร รัศมิทัต) ลูกศิษย์ของ ครูเพลง นักศึกษาที่รักในดนตรีไทยและรักสันโดษ เขามีความสามารถในการร้องเพลงมาก ทุกคนชอบ ในน้ำเสียงของกรยกเว้นแต่แอ็ปที่เกิดหมั่นไส้ ที่คนอื่นสนใจตัวกรจึงพยายามแกล้งกรเสมอมา ”

ความสัมพันธ์ของแอ็ปและกร เริ่มขึ้นจากความไม่พอใจซึ่งกันและกัน แอ็ปดูถูกกรว่าเป็นคนบ้านนอก ส่วนกรก็เบื่อกับการเป็นคนพูดมาก พูดไม่หยุดของแอ๊ป จนในคืนหนึ่งกรทนฟังแอปพูดไม่ไหว ก็เลยหอมแก้มทําให้แอ็ปเกิดความรู้สึกแปลก ๆ ขึ้น ความสัมพันธ์เริ่มเปลี่ยนไปเป็นความรักโดยไม่รู้ตัว เพราะทั้งสองเก็บไว้ในส่วนลึก
และแล้วกรก็ต้องจากครูเพลงเดินทางเข้ามา อยู่ในกรุงเทพฯ โดยแอ๊ปอาสาที่จะเทคแคร์กรเพื่อ จะได้ใกล้ชิดกับวิทยาต่อไป แอปพากรมาเที่ยวสยามสแควร์และเล่นสเก็ต เต้นเบรคแด๊นซ์ พวกบัติ เทพ เมธ เกียรติ เห็นก็เลยเข้ามาแกล้งแต่ก็ถูกกร และแอ็ปแกล้งกลับไป ซึ่งสร้างความแค้นให้กับพวกบัติมาก

ในรายการวิทยุกรต้องร้องเพลงสดออกรายการ เป็นการแนะนําตัวก่อนออกร้องในรายการมหกรรมคอนเสิร์ททางทีวี แต่เนื่องจากเห็นภาพอรรถเอาอกเอาใจแอ็ปการร้องคืนนั้นจึงล่มลง กรเสียใจจึงวิ่งออกไปจากห้องส่ง แอ๊ปเป็นห่วงกรมากอย่างออกหน้าออกตา วิทยาจึงชี้ให้เห็นว่านั่นเป็นเพราะแอ๊ปรักในตัวของกรให้ไปตามหากรเถอะ

ในมุมมืดเวลาที่สยามสแควร์ปัดลงในยามคืน กรเผชิญหน้ากับแอ็ป แอ็ปทะเลาะกับกรเพราะกร จะไม่ร้องเพลงในรายการ ที.วี. ในวันพรุ่งนี้ กรโต้เถียงกันจบลงด้วยการที่แอ็ปบอกรักกับกรแล้วก็วิ่งจากไป
รายการมหกรรมคอนเสิร์ทใกล้จะเริ่มออกอากาศสด ทุกคนรอเพียงแต่กรคนเดียวเท่านั้นที่ยังไม่มา ส่วนพวกบัติก็พยายามตามมาแกล้งกรและแอ๊ปในรายการนี้ด้วย โดยการนําเอาแอ๊ปเปิ้ลจุดประทัดใส่ ที่เคยโดนแอ๊ปใช้แกล้งพวกตนมาจุดแกล้งตอนกร ออกมาร้อง

กรเข้ามาในห้องแต่งตัวโดยหวังที่จะพบกับแอป แต่แอ็ปก็ไม่อยู่และรู้มาจากอ้วนว่าแอ๊ปดู ที.วี. อยู่ที่บ้านยิ่งทําให้กรหมดกําลังใจ เสียงแอ๊ปเปิ้ลที่พวกบัติจุดทําให้กรนึกถึงแอ๊ปและต้องการเจอแอ๊ปให้ได้ จึงออกมาร้องเพลง ครั้งนี้กรร้องได้ดีครูพูดออก ทาง ที.วี. ท้าให้แอ๊ปถ้าแน่จริงให้มาเจอกับตนที่สยามสแควร์เพื่อที่จะพูดว่า 3 คํากับแอ๊ป

ทั้งคู่เดินทางมาเผชิญหน้าในสยามสแควร์
จะเกิดอะไร…เมื่อทั้งสองพบกันที่ สยามสแควร์
กรจะพูดอะไรกับแอ๊ปละหาคําตอบ เองนะ

สยามสแควร์” มีโปรแกรมฉายใน วัน ที่ 1 ธันวาคม ในเครือ โอ.เอ.
นําแสดงโดย
อนุสรา จันทรังษี (กบ)
วงศกร รัศมีทัต (ต้น)
สุริวิภา กุลตังวัฒนา (แหม่ม)
อรรถพล ประเสริฐยิ่ง (อู๋)
คณะ MCINTOSH ทั้งวง และ วิทยา ศุภพรโอภาส

 

ผลงานสร้างสรรค์ร่วมกันอันดับ 2 ของ
OA และ COMM. ARTS PRODUCTION
คุณต้องการแค่รู้จักชื่อ หรือมากกว่านั้น
สยามสแควร์
“ศุภักษร”
อนุสรา จันทรังษี..(กบ) วงศกร รัศมิทัต..(ต้น)
อรรถพล ประเสริฐยิ่ง..(อู๋) คณะ Mc.Intosh ทั้งวง
สุริวิภา กุลตังวัฒนา..(แหม่ม) และ วิทยา ศุภพรโอภาส

ทีมงานสร้าง
สุทัศน์ เอียมชโลทร – กํากับฉาก / ศิลป์
ธีระศักดิ์ เกียรติดุริยกุล กำกับภาพ-แสง
ณรงค์ เชาวราษฎร์ ดำเนินงานสร้าง
นิรันดร์ ธรรมปรีชา ผู้ช่วยผู้กำกับ
“ศุภักษร” บทประพันธ์-บทภาพยนตร์-กำกับการแสดง

ดูหนัง สยามแสควร์ เต็มเรื่อง

ถึงอย่างไรก็รัก

 

ถึงอย่างไรก็รัก โปสเตอร์หนัง ใบปิดหนัง

ถึงอย่างไรก็รัก (2523)

ภคินีภาพยนตร์  เสนอ

มุมเปิดของชีวิตที่สรรแล้ว...
คุณค่าเหลือล้นสำหรับผู้หญิง
ลูกผู้หญิงเมื่อรักแล้ว...
ชีวิตและวิญญาณก็เหมือนเป็นของเขาทั้งหมด
ถึงอย่างไร..ก็รัก

ของ  “นที สีทันดร”
จตุพล ภูอภิรมย์   ลลนา สุลาวัลย์
วิยะดา อุมารินทร์, เปียทิพย์ คุ้มวงศ์, 
เศรษฐา ศิระฉายา, ทาริกา ธิดาทิพย์, ด.ช.อัครพล
ดารารับเชิญ  สามารถ บริบูรณ์เวช 
และ ปิยะวรรณ นิยมศิลป์
แจ๊สสยาม  กำกับการแสดง
นริศรา สุรวิชัย  อำนวยการสร้าง
เทวิน สุขศิลา  ถ่ายภาพ
*ใบปิดวาดโดย  SUPER TEAM

นักแสดง ถึงอย่างไรก็รัก 

จตุพล ภูอภิรมย์  - ลอย
ลลนา สุลาวัลย์
วิยะดา อุมารินทร์
เปียทิพย์ คุ้มวงศ์, 
เศรษฐา ศิระฉายา
ทาริกา ธิดาทิพย์ 
สามารถ บริบูรณ์เวช - ดารารับเชิญ  

บัวแก้วบัวทอง

 


บัวแก้วบัวทอง (2523)

เวชยันต์ภาพยนตร์ เสนอ
ภาพยนตร์แสนสนุก อภินิหาร
โชว์เทคนิคเต็มจอจากญี่ปุ่น
บัวแก้วบัวทอง
24 ซีเนมาสโคป
จตุพล ภูอภิรมย์ รัชนู บุญชูดวง
เยาวเรศ นิสากร, ศิรดา ศิริวัมน์,
จิตรกร สนธยา, ชลูด แฉล้มกุล
สมาน คัมภีร์ กำกับการแสดง
อดิศักดิ์ รัตนศักดิ์วิบูลย์ อำนวยการสร้าง

ข้อมูลเพิ่มเติม
-เป็นหนังที่สร้างเพื่อฉายทางโทรทัศน์ ช่อง 7 พอได้รับความนิยมเลยนำฟิล์มไป Blow-Up เป็น 35 ม.ม. ตัดต่อใหม่และนำมาฉายในโรงหนัง


สัญชาตญาณโหด

 


สัญชาตญาณโหด (2522)
เพิ่มพล เชยอรุณ
จะทำให้คุณลืม “ชีวิตบัดซบ“
และทุกมิติของเขาที่คุณเคยพบ
สัญชาตญาณโหด
ตื่นเต้น เร้าอารมณ์ มันส์สะใจ
เพิ่มพล เชยอรุณ ถ่ายภาพ-กำกับการแสดง
จตุพล ภูอภิรมย์ นันทนา เงากระจ่าง
สุเชาว์ พงษ์วิไล, ปาริชาติ บริสุทธิ์, ลักษณ์ อภิชาติ,
นพดล มงคลพันธุ์, โสฬส อรรถศิริ และ ด.ช.ปุณณวัฒน์ โชยดิรส
ไฟว์สตาร์โปรดักชั่น อำนวยการสร้าง
ชัยรัตน์ พงษ์บุญญฤทธิ์ กำกับฝ่ายศิลป์
เฉลิมศรี จอบแก้ว บทภาพยนตร์
พัฒนพงษ์ เชยอรุณ ดำเนินงาน


กัปตันเรือปู

 

กัปตันเรือปู (2521)

ภาพยนตร์ใต้น้ำเรื่องแรกของเอเซียที่ไฟว์สตาร์โปรดักชั่น

ทุ่มทุนสร้าง...ด้วยเทคนิควิทยาการมาตรฐานโลก

เท็คโนวิชั่น 70 เสียงรอบทิศ เสียงของความพิศวงและมหัศจรรย์ใต้น้ำ

เขาเป็นเพียงกัปตันเรือหาปูม้าเล็กๆ

แต่...โชค...หรือบางทีอาจเป็นกรรม

ชักนำให้...พบแหล่งสมบัติมหาศาล

พร้อมกับความละโมบทะยานอยาก...ของมนุษย์...

กัปตันเรือปู

จตุพล ภูอภิรมย์ ลลนา สุลาวัลย์

ด่ำดิ่งสู่ใต้ทะเลลึก สัมผัสความฝัน สมบัติล้ำค่า

ตระการตาด้วยความงาม...ที่คุณไม่เคยพบ...

กำธร สุวรรณปิยะศิริ, ผจญ ดวงขจร, เชิงขวัญ ปิโยบล และ

วิลเลี่ยม สตีเว่นส์, บิลลี่ ดอน, พูนสวัสดิ์ ธีมากร, บู๊ วิบูลย์นันท์

เกียรติ เอี่ยมพึ่งพร อำนวยการสร้าง

สักกะ จารุจินดา กำกับการแสดง

“สตีเวนส์” ผู้ช่วยผู้กำกับ

แจ๊ค แมคเคนนีย์ ฝ่ายภาพยนตร์ใต้น้ำ

สมโภชน์ อัครพันธ์ และ สุรัช อัศวนิกุล ถ่ายภาพ

ตัวอย่างภาพยนตร์ กัปตันเรือปู

อีหนูเขี้ยวเสน่ห์

 

อีหนูเขี้ยวเสน่ห์ โปสเตอร์หนัง ใบปิดหนัง

เรื่องย่อ อีหนูเขี้ยวเสน่ห์

จิ๋ม เด็กสาวชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย วัยแรกรุ่น หน้าตาสะสวย ใครเห็นเป็นต้องหลงเสน่ห์เธออยู่บ่อยครั้ง เธอเกิดในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย ด้วยนิสัยที่แก่นเซี้ยว หัวดื้อ เอาแต่ใจ จนไม่ใส่ใจในการเรียน จนทำให้เธอมีผลการเรียนแย่ ถึงขั้นสอบตก ด้วยความเป็นห่วงของพ่อกับแม่ เขาจึงจ้างครูสอนพิเศษมาสอนจิ๋มที่บ้าน แต่ด้วยพฤติกรรมของจิ๋ม ทำให้ครูแต่ละคนที่มาสอนเป็นอันต้องลาออกกันทุกคน

ครูตุ๊ ครูหนุ่มหน้าตาดี คนสุดท้ายที่พ่อแม่ได้จ้างมาสอนพิเศษ และปราบ จิ๋ม จนอยู่หมัดแต่ด้วยความสนิทสนมกันจนเกินเหตุ พ่อแม่ของจิ๋มจึงเลิกจ้างครูตุ๊ เขาหนีไปสอนหนังสือที่ต่างจังหวัด ด้วยความที่ จิ๋ม หลงเสน่ห์และแอบชอบครูตุ๊ เธอจึงแอบหนีออกจากบ้านไปหาครูตุ๊

จิ๋มมีปัญหากับทุกคนที่อยู่รอบข้างครูตุ๊ แต่ท้ายที่สุดแล้วครูตุ๊ก็สามารถปราบพยศของจิ๋มได้สำเร็จ

อีหนูเขี้ยวเสน่ห์ (2521)

ไฟว์สตาร์โปรดัคชั่น เสนอ

รื่นเริงอารมณ์กับ 2 เพลงเอก ที่จะทำให้คุณเบิกบาน ซาบซ่านหัวใจ...

อีหนูเขี้ยวเสน่ห์

ปีที่ประวัติศาสตร์บันเทิงจะต้องจารึก

เมื่อสองขวัญใจวัยรุ่นชื่อก้องฟ้าโคจรมาพบกันเป็นครั้งแรก

จตุพล ภูอภิรมย์ ลลนา สุลาวัลย์

ร่วมด้วย หรรษา จริยาพร, ต่อลาภ กำพุศิริ, ชัยรัตน์ เทียบเทียม,

ล้อต๊อก, สมควร กระจ่างศาสตร์, มารศรี, ชินดิษฐ์ บุนนาค,

สุวิน สว่างรัตน์, น้องหนู ดวงดี, ฐิติพร คงเสถียร, องอาจ ประเสริฐยิ่ง

และดาราเด็กที่คุณชื่นชอบ

พอหทัย พุกกณะสุต, เดน่า ไมเออร์, โอฬาร สาราณียวงศ์,

เอกชัย และ สกรรจ์ กรีน

เกียรติ เอี่ยมพึ่งพร อำนวยการสร้าง

อรัญ สวนสโมสร ถ่ายภาพ

รุจน์ รณภพ กำกับการแสดง

เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์

 

โบว์ เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์ หน้าปก กำลังยิ้ม

เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์ [โบว์]

วันเกิด: 2 ตุลาคม
ส่วนสูง: 173 เซนติเมตร
ราศี: ราศีกันย์ 16 ก.ย. - 15 ต.ค.
งานอดิเรก: พบปะสังสรรค์เพื่อนๆ
สิ่งที่ชื่นชอบ: ลูกหมา
กีฬา: วอลเล่ย์บอล
ศิลปินที่ชอบ: Jessica Alba, Johnny Dedb
ของสะสม: รองเท้า, กระเป๋า
สีที่ชอบ: สีขาว, สีดำ
ผลงาน: ยุทธการหักคานทอง, รักเธอยอดรัก , ไฟรักอสูร

ผลงานละคร

พ.ศ. 2551


พ.ศ. 2552

รักเธอยอดรัก รับบท รังรอง
ไฟรักอสูร รับบท แป้น
เพลิงสีรุ้ง รับบท เสาวรส

พ.ศ. 2553

สามหัวใจ รับบท ทิพยา

พ.ศ. 2554

ดอกส้มสีทอง รับบท ซิลเวีย คุณนายที่ 5
รายมาร รับบท วิมาดา

พ.ศ. 2555

หมูแดง รับบท พิกุลแก้ว
รักเกิดในตลาดสด รับบท อร
หงส์สะบัดลาย รับบท ชลกร
ก้นครัวตัวแสบ รับบท ลลิตา
ตะวันฉายในม่านเมฆ รับบท อิงฟ้า

พ.ศ. 2556

คุณชายรัชชานนท์ รับบท เจ้าส่องดาว (รับเชิญ)
จุดนัดพบ รับบท จูน (รับเชิญ)
ชาติเจ้าพระยา รับบท อ้อมใจ
มาดามดัน รับบท แอน (รับเชิญ)
ลูกหนี้ที่รัก รับบท ภคมน

พ.ศ. 2557

สามีตีตรา รับบท ลอร่า (รับเชิญ)
คิวบิก รับบท มากาเร็ต (รับเชิญ)
รถไฟ เรือเมล์ ลิเก กองถ่าย รับบท อลิสา
เพลิงฉิมพลี รับบท แขไข

พ.ศ. 2558

กระสือมหานคร รับบท หนูนา

พ.ศ. 2559

มือปราบสายเดี่ยว รับบท เนย

พ.ศ. 2560

กามเทพออกศึกา รับบท แม้กโนเลีย
เมียหลวง รับบท เมเบิ้ล (รับเชิญ)
เตียงนางไม้ รับบท อรอนงค์
ไข่มุกมังกรไฟ รับบท ริมปิง
พรมแดนแสนรัก รับบท พวงชมพู

พ.ศ. 2561

เพลิงรักเพลิงแค้น

ผลงานภาพยนตร์




โบว์-เบญจวรรณ  ถ่ายแบบหน้าปก แฟชั่นรีวิว

โบว์-เบญจวรรณ กับ สุนัข



ชาติผยอง 2521

 

ชาติผยอง ใบปิดหนัง โปสเตอร์หนัง


เรื่องย่อ ชาติผยอง

เรื่องราวของ เปลว สุริวงศ์ มือปืนระดับพระกาฬจาก ชิคาโก เดินกลับมาเมืองไทยเพื่อตามหาคนที่ฆ่าพ่อ แต่กลับถูก “บรรพต” จับตัวและบังคับให้เปลวทำงานให้ โดยสั่งให้เปลวไปฆ่า “ศราวุธ” นักการเมืองรุ่นใหญ่แต่แล้วเขากลับถูกหักหลังจาก องค์การและคนที่เขาไว้ใจที่สุดอย่าง วันจักร มือขวาของเขาเอง เปลวจึงกลับไปช่วยศราวุธจนตัวเองถูกยิง และต้องหนีการตามล่าของบรรพรต จนได้พบกับ “แจ๊ค” และพากันกลับไปชิคาโก้

แต่ก็ต้องย้อนกลับมายังประเทศไทยอีกครั้งเมื่อทราบข่าวว่าบรรพตจับตัวเพื่อนสนิทของเขาไป เปลวร่วมมือกับ “โรมมนัส” เลขาของบรรพต ซึ่งเป็นคนรักของเปลว และ แจ๊ค มาปิดบัญชีแค้น และครั้งนี้จะเป็นการตัดสินโชคชะตาที่เดิมพันด้วยชีวิต เพราะแท้จริงแล้วผู้ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดคือ ศราวุธ พ่อของแจ็คนั่นเอง!!

ผู้กำกับ : รุจน์ รณภพ

บทประพันธ์ : เสนีย์ บุษปะเกศ

บทภาพยนตร์ : หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล

ผู้ถ่ายภาพ : กวี เกียรตินันท์

อำนวยการสร้าง : เกียรติ เอี่ยมพึ่งพร

บริษัทผู้สร้าง : ไฟว์สตาร์โปรดักชั่น

วันที่เข้าฉาย : 4 กุมภาพันธ์ 2521 

ฉายที่โรงภาพยนตร์เอเธนส์-เพชรรามา-พาราไดซ์

ระบบถ่ายทำ : ภาพยนตร์สี 35 มม. พากย์เสียงในฟิล์ม

นักแสดง

สมบัติ เมทะนี เปลว สุริวงศ์

จตุพล ภูอภิรมย์ ลัคกี้ แจ๊ค

เออร์ม่า ลาเควซ

ดวงชีวัน โกมลเสน โรมมนัส

แองเจโล่ ซูซานเน่

มานพ อัศวเทพ

พิภพ ภู่ภิญโญ

สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์ บรรเจิด

สมภพ เบญจาธิกุล วันจักร

ส.อาสนจินดา ศรายุทธ

ตัวอย่างภาพยนตร์

ทัดดาวบุษยา 2524

 

ทัดดาวบุษยา 2524 ใบปิดหนัง โปสเตอร์หนัง

ทัดดาวบุษยา (2524)
ไพโรจน์โปรดัคชั่น โดย ตรีนุช ทิมเจริญ
ไพโรจน์ ช่างแก้ว กำกับการแสดง
แก่น...กล้า...เด็ดเดี่ยว แต่ใจนั้นมีเพียงรักเดียว
ถ้าบุรุษที่เธอบูชา ปรารถนาความรัก
ทัดดาวบุษยา
ของ ชอุ่ม ปัญจพรรค์
จตุพล ภูอภิรมย์ เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์
ไกรสร แสงอนันต์ ธิติมา สังขพิทักษ์ ตรีนุช ทิมเจริญ
เมตตา รุ่งรัตน์, สิริวัฒน์ คงคาเขตร, ศรินทิพย์ ศิริวรรณ,
สุดเฉลียว เกตุผล, จำลักษณ์, จันทนา ศิริผล,
กอบอรุณ, ประวิทย์, ด.ช.ไทเป,
ดารากิติมศักดิ์ สุนทร ภู่สุนทรศิลป์, วิชา วัชระ
ขอแนะนำ ทิภา สุภาพพันธ์
รุจน์ รณภพ-พิศาล อัครเศรณี ที่ปรึกษาด้านกำกับ
ชอุ่ม ปัญจพรรค์ บทประพันธ์
ภรณ์ระวี บทภาพยนตร์
อรัญ สวนสโมสร ถ่ายภาพ
นิวไฟว์สตาร์ จัดจำหน่าย

ขบวนการแก้จน 2524

 

ขบวนการแก้จน โปสเตอร์หนัง ใบปิดหนัง

ขบวนการแก้จน (2524)
แอ๊คส์แอนด์อาร์ทส์พิคเจอร์  เสนอ
ผลงานอันดับ 2 “ตลกเศรษฐกิจ”
หัวเราะวันละนิด ชีวิตสุขสันต์
หัวเราะทุกวัน เหงือกฟันแข็งแรง
ล้อต๊อก เป็น “ศุขเล็ก” 
ผู้ค้นพบสูตร “แก้จน”
ชาติ รอบกิจ  กำกับการแสดง
ขบวนการแก้จน
ของ  ประยูร จรรยาวงษ์
ณรงค์ เสริมสกุล  ดำเนินงานสร้าง
ล้อต๊อก  จตุพล ภูอภิรมย์  นพดล ดวงพร
ฤทัยรัตน์ อมตวณิชย์  สมจินต์ ธรรมทัต  
ด.ช.สามารถ “ไอ้จุก”
มานพ อัศวเทพ, ผจญ ดวงขจร, ยอด นครนายก,
เสกสรร ภู่ประดิษฐ์, สังวรณ์, สายพิณ จินดานุช,
โป๋ เป่าปี่, ดาวทอง, โพธิ์เงิน, โพธิ์ทอง
สลยุทธ  บทภาพยนตร์
ศราวุฒิ วุฒิชัย  ถ่ายภาพ
เฟรชฟิล์ม  จัดจำหน่าย0)


นานแค่ไหนก็ยังรัก


นานแค่ไหนก็ยังรัก (2524)


สรรเพชญภาพยนตร์ เสนอ
เรื่องรักฝังจิต..ชีวิตประทับใจ…
นานแค่ไหนก็ยังรัก
ของ…ปฤศนา
จตุพล ภูอภิรมย์ เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์
นพพล โกมารชุน ธิติมา สังขพิทักษ์
ทาริกา ธิดาทิตย์, ธัญญา ธัญญลักษณ์, ล้อต๊อก, ชูศรี มีสมมนต์,
ดวงชีวัน โกมลเสน, ประพิศ แพรวพรรณ, ชินดิษฐ์ บุนนาค
กฤษ เจียมประดิษฐ์ อำนวยการสร้าง
ลิขิต กฤษณมิตร ถ่ายภาพ
สนาน คราประยูร กำกับการแสดง
ถ่ายด้วยฟิล์มสีฟูจิพิเศษ


*เกร็ด
-สร้างเป็นหนังครั้งแรกในชื่อ รักชั่วฟ้า ในปี 2513 
-ใบปิดวาดโดย ริ้ม 

เจ้าแม่สาริกา (2524)

เจ้าแม่สาริกา โปสเตอร์หนัง ใบปิดหนัง

เจ้าแม่สาริกา (2524)

วิทวัสภาพยนตร์ เสนอ
เจ้าแม่สาริกา


ของ “วิทวัส”
ผลงานของพระเอกผู้อาภัพ “จตุพล ภูอภิรมย์” เป็นครั้งสุดท้าย
ต่อจากนี้ “เรา” จะไม่ได้พบเขาอีกแล้ว
นำแสดงโดย จตุพล ภูอภิรมย์ สุพรรษา เนื่องภิรมย์
สมภพ เบญจาธิกุล วิยะดา อุมารินทร์
สมจินต์ ธรรมทัต, รัตนาภรณ์ อินทรกำแหง, สมพงษ์ พงษ์มิตร,
สีเทา, ท้วม ทรนง, ทองแถม, จันทนา ศิริผล, สุวิน สว่างรัตน์,
อนันต์, เสกสรรค์ ภู่ประดิษฐ์, ธวัช, ประเสริฐ, สัมฤทธิ์ ฯลฯ
กิติศักดิ์ ปิ่นวัฒนา อำนวยการสร้าง
สนธยา ดวงทองดี ถ่ายภาพ
สัมฤทธิ์ บุษษะ กำกับแสง
ประสงค์ ชื่นกมล กำกับบท-ผู้ช่วยผู้กำกับฯ
สุเทพ เกษมณี ธุรกิจ
ประกอบ ใหญ่ศิริ สร้างฉาก
สุริยน ดวงทองดี กำกับการแสดง


*เกร็ด
-สร้างเป็นหนังครั้งแรกในปี 2512 นำแสดงโดย มิตร ชัยบัญชา-อรัญญา นามวงษ์
-จตุพล ภูอภิรมย์ เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุรถยนตร์เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2524 ส่วนหนังเรื่องนี้เข้าฉายวันที่ 16 พฤษภาคม 2524

ยอดรักผู้กอง


ยอดรักผู้กอง โปสเตอร์หนัง ใบปิดหนัง


ยอดรักผู้กอง (2524)

พูนทรัพย์โปรดัคชั่น โดย วิสิษฐ์ มิ่งวัฒนบุญ
เชอะ…เป็นพลทหารริอ่านรักผู้กอง
ยากส์…ถ้ากูผู้พันผวนยังอยู่
ยอดรักผู้กอง
ของ กาญจนา นาคนันท์
พบพระเอกผู้พันคนใหม่ ล้อต๊อก
จตุพล ภูอภิรมย์ เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์
พิศมัย วิไลศักดิ์, เศรษฐา ศิระฉายา, สมพงษ์ พงษ์มิตร, ชูศรี มีสมมนต์
เซ็กส์บอมส์ เพ็ญพักตร์ ศิริกุล
และดาราเกียรติยศ ธานินทร์ อินทรเทพ, พรพรรณ เกษมมัสสุ
สมเดช สันติประชา กำกับการแสดง
สุวิทย์ โคตะสิน ดำเนินงานสร้าง
พูนสวัสดิ์ ธีมากร-โชน บุนนาค ถ่ายภาพ
พูนทรัพย์โปรดัคชั่น จัดจำหน่าย

ผู้กองยอดรัก พ.ศ.2516

รักพยาบาท

รักพยาบาท โปสเตอร์หนัง ใบปิดหนัง

รักพยาบาท (2524)


จิตมนุษย์เป็นสิ่งละเอียดอ่อนและแบบบาง
มันอาจรองรับความเจ็บปวดได้ ในวงจำกัด
แต่ละชีวิตโลดเต้น ท้าทายโลกอันสวยงาม
ด้วยเกมส์แห่งความรัก และเกมส์แห่งความพยาบาท
ไฟว์สตาร์โปรดักชั่น
เจริญ เอี่ยมพึ่งพร, ประชา มาลีนนท์ อำนวยการสร้าง
รักพยาบาท
ความรักที่คุณไม่รู้จัก
แจ๊สสยาม กำกับการแสดง
จตุพล ภูอภิรมย์ เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์
เพ็ญพักตร์ ศิริกุล นพพล โกมารชุน
สุเชาว์ พงษ์วิไล, อดุลย์ ดุลยรัตน์, สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์
และดารารับเชิญ ไกรลาศ เกรียงไกร,
ไพโรจน์ ใจสิงห์, ธิติมา สังขพิทักษ์, สุรชัย ดิลกวิลาศ
*ใบปิดวาดโดย บรรหาร

เรื่องย่อ

“พิมพ์จันทร์” และ “เพ็ญ” เป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่เด็ก พิมพ์มีความไฝ่ฝันว่าอยากจะเป็นดารา เธอทำทุกอย่างเพื่อที่จะก้าวไปสู่ฝันนั้น แม้กระทั่งการไต่เต้าด้วยการเป็นเมียผู้กำกับ แต่ก่อนหน้านั้น เรื่องราวความรักของเธอ ทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนแปลงไป

ความยาว 128 นาที

นักแสดง รักพยาบาท

จตุพล ภูอภิรมย์
เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์
เพ็ญพักตร์ ศิริกุล

ตัวอย่างภาพยนตร์ เรื่อง รักพยาบาท

วริษฐ์ ทิพโกมุท

 

วริษฐ์ ทิพโกมุท 
ชื่อเล่น ต๊ะ

ผลงานละคร

2548 นางฟ้าไซเบอร์

2549 เทใจรักนักวางแผน

2549 อุ้มรัก

2549 ยิ่งเกลียดเธอ ยิ่งเจอรัก

2550 เจ้าหญิงขอทาน

2550 เล่ห์กุหลาบ

2551 เพื่อนซี้ล่องหน

2551 ทางช้างเผือก

2551 โบตั๋นกลีบสุดท้าย

2552 หยกลายเมฆ

2552 น้ำตาลไหม้

2553 เขยบ้านนอก

2553 กุหลาบไร้หนาม

2554 รหัสทรชน

2554 สองผู้ยิ่งใหญ่

2555 มุกเหลี่ยมเพชร

2555 หงส์สะบัดลาย

2556 มัจจุราชสีน้ำผึ้ง

2556 ต้นรักริมรั้ว

2557 ลูกทาส

2557 คิวบิก

2557 รากบุญ 2 รอยรักแรงมาร

2557 สัมผัสพิศวง The Sense

2558 สายลับสามมิติ

2558 นางร้ายที่รัก

2558 เพื่อนรัก เพื่อนริษยา

2558 พลับพลึงสีชมพู

2559 นางทาส

2561 อังกอร์

2561 ชาติเสือพันธุ์มังกร

2562 ตุ๊กตาผี

2562 กลิ่นกาสะลอง

2562 ด้ายแดง

2562 ดาวหลงฟ้า

2564 พิภพหิมพานต์

2564 อุบัติร้าย อุบัติรัก

2564 พราวมุก

2565 สร้อยสะบันงา

2565 ปมเสน่หา

2565 คู่เวร

2566 ใต้เงาตะวัน

2567 เรือนทาส

2567 ลมเล่นไฟ

2568 สายรักสายเลือด

2568 สามสาวโคกอีแร้ง

2568 ยัยปลาไหลกับนายไฮโซ

2568 บนพระจันทร์มีกระต่าย

อธิชาติ ชุมนานนท์


อธิชาติ ชุมนานนท์ หน้าปก

อธิชาติ ชุมนานนท์ [อั้ม]

วันเกิด: 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544

ส่วนสูง: 178 เซนติเมตร

ราศี: ราศีกุมภ์ 16 ก.พ. - 15 มี.ค.

งานอดิเรก: ดูหนัง

สิ่งที่ชื่นชอบ: กีฬาทุกชนิด

กีฬา: ฟุตบอล

ศิลปินที่ชอบ: Justin Timberlake

ของสะสม: cd หนัง เพลง

สีที่ชอบ: ดำ

ผลงานละคร

2541 วัยร้าย วัยรัก

2542 สลักจิต

2542 ท่านชายในสายหมอก

2544 แม่เลี้ยงคนใหม่

2544 วิมานกุหลาบ

2545 เส้นไหมสีเงิน

2545 แชมเปี้ยนสะบัดช่อ

2546 ทับตะวัน

2546 บ่วงเล่ห์เสน่หา

2547 ไผ่กำเพลิง

2548 เลดี้เยาวราช

2548 ดาวหลงฟ้า

2548 ยอดคุณตูบ

2548 นางบาป

2549 ลมหวน

2549 สุดรักสุดดวงใจ

2549 ตี๋ตระกูลซ่ง

2550 กงจักรลายดอกบัว

2550 ร่ายริษยา

2551 จำเลยรัก

2551 บาดาลใจ

2551 โบตั๋นกลีบสุดท้าย

2552 บริษัทบำบัดแค้น

2552 น้ำตาลไหม้

2552 หน้ากากดอกซ่อนกลิ่น

2552 สู้ยิบตา

2553 เพียงใจที่ผูกพัน

2553 ธาราหิมาลัย

2553 วายุภัคมนตรา

2553 คู่เดือด

2554 พิมมาลา

2554 รอยไหม

2555 ขุนศึก

2556 มายาตวัน

2556 มนต์จันทรา

2556 ฟ้ากระจ่างดาว

2556 ดาวเกี้ยวเดือน

2557 ไฟในวายุ

2557 เพลิงฉิมพลี

2559 ฝั่งน้ำจรดฝั่งฟ้า

2559 แรงตะวัน

2560 Club Friday Celeb Stories การแย่งชิง

2561 หนึ่งด้าวฟ้าเดียว

2561 เงา

2562 เพลิงนาคา

2563 ไปให้ถึงดวงดาว

ผลงานภาพยนตร์

เฟวา โพคารา ดวงตากับความรัก (2548)

บ้านนางรำ


นักแสดงในละคร บ้านนางรำ

บ้านนางรำ เมื่อศรัทธา นำมาซึ่งความรัก ความแค้น และคำสาป

บ้านนางรำ เรื่องย่อ

ริช" ลูกเศรษฐี ซึ่งเป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่องราวไสยศาสตร์ใด ๆ เลย แต่เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม เขาต้องไปค้นหาความจริง ความเชื่อคำสาปองค์เจ้าแม่อัปสร 

ละครแนวดราม่า

ค่ายปภัสรา โปรดักชั่น 

กำกับโดย จารึก สงวนพงษ์

นักแสดง บ้านนางรำ

 ภูมิ-เกียรติภูมิ บันลือชัยฤทธิ์

แอนน่า กลึคส์

แพม-สุชานุช ธรรมวงค์

บิ๊กเอ็ม-สุเมธา รอยสี

อีฟ-กัญณัฐสินี ทรัพย์มี 

ปริศนา วงศ์ศิริ

สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา

พาเมล่า บาวเด้นท์

จตุรงค์ โกลิมาศ

ธิตินันท์ สุวรรณศักดิ์

อิทธิกร สาธุธรรม

เรือนโชนแสง

 


เรือนโชนแสง
บ้าน “ศิลาคราม” ของ คุณหลวงประสิทธิ์ (โฬม พัชฏะ) คือคฤหาสน์ใหญ่ที่ซ่อนความลับและไฟแห่งอารมณ์ไว้ภายใน ภายใต้ชายคาเดียวกัน คุณหลวงมีภรรยาต่างศักดิ์ถึงห้าคน ได้แก่ ไพลิน (กิ๊ก สุวัจนี) เมียเอกผู้ทรงอำนาจ มีลูกสาวคนเดียวที่รักดั่งแก้วตาดวงใจชื่อ แก้วตา (มิลลี่ คามิลล่า)
เดือน (หญิง รฐา) เมียรองผู้ทะเยอทะยาน, พริ้ม (กระติ๊บ ชวัลกร) เมียผู้เงียบขรึมแต่เต็มไปด้วยปริศนา, อิ่ม (ปูเป้ รามาวดี) เมียรักที่ให้กำเนิดลูกชายหัวแก้วหัวแหวนชื่อ สิน (แจม รชตะ), และ พุ่ม (นุ๊ก สุทธิดา) เมียบ่าวผู้ต่ำศักดิ์ซึ่งมีลูกติดชื่อ เกื้อ (ทอย ปฐมพงศ์)

ภายในบ้านศิลาครามที่ดูงดงามภายนอก กลับเต็มไปด้วยแรงริษยา ความทะเยอทะยาน และความลับที่พร้อมปะทุ เมื่อกิจการของครอบครัวกำลังรุ่งเรือง การแย่งชิงอำนาจและตำแหน่งผู้นำกลายเป็นไฟร้อนที่ไม่มีวันมอด จนกระทั่งคืนหนึ่ง... ไฟไหม้ปริศนาครั้งใหญ่ ได้เผาผลาญเรือนศิลาคราม พร้อมพรากชีวิตหนึ่งไปอย่างลึกลับ

ท่ามกลางเถ้าถ่านและควันแห่งความสูญเสีย การตามล่าความจริงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง เพื่อเปิดโปงว่า “ใคร” คือผู้อยู่เบื้องหลังหายนะครั้งนี้ และ “ไฟ” ที่เผาเรือนนั้น... จะมอดลงได้หรือไม่ เมื่อไฟในใจของทุกคนยังคงลุกโชนไม่สิ้นสุด!

นักแสดง เรือนโชนแสง

รชตะ หัมพานนท์ รับบท สิน

ปฐมพงศ์ เรือนใจดี รับบท เกื้อ

คามิลล่า กิตติวัฒน์ รับบท บุญญา

ณัชภรณ์ อุ่นสวัสดิ์ รับบท บุหงา

พัชฏะ นามปาน รับบท หลวงประสิทธิ์

รฐา โพธิ์งาม รับบท เดือน

รามาวดี นาคฉัตรีย์ รับบท อิ่ม

สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา รับบท พุ่ม

สุวัจนี พานิชชีวะ รับบท ไพลิน

ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล รับบท พริ้ม

อนุสรา วันทองทักษ์ รับบท ดวง

กัลยา เลิศเกษมทรัพย์ รับบท มาลัย

คุณากร เกิดพันธุ์ รับบท หลวงวิเชียร

ด.ญ.ณภัสวรรณ ไอริส วิลม์ส รับบท แก้วตา (เด็ก)

ด.ช.เคนจิโร่ ยูกิ รับบท เรือง (เด็ก)

ด.ช.ชนะพล ศรีพรชัย รับบท เกื้อ (เด็ก)

ด.ช.คณินณัชญ์ ยมปัดชา รับบท สิน (เด็ก)    

กรรณิกา วีรวรรณ รับบท เสด็จ (รับเชิญ)

กลศ อัทธเสรี รับบท หลวงภักดี (รับเชิญ)

ตุลยเทพ เอื้อวิทยา รับบท คนของเสด็จ (รับเชิญ)

จักรพันธ์ จันโอ



จักรพันธ์ จันโอ [แจ๊ค]

วันเกิด: 24 ธันวาคม

ส่วนสูง: 180 เซนติเมตร

ราศี: ราศีธนู 16 ธ.ค. - 15 ม.ค.

งานอดิเรก: เล่นกีต้าร์

สิ่งที่ชื่นชอบ: สะสมโน้ตเพลง

กีฬา: ฟุตบอล

ศิลปินที่ชอบ: Incubus

ของสะสม: รองเท้า

สีที่ชอบ: ฟ้า

ผลงานละคร: 

บ้านวุ่นอุ่นไอรัก

พริกไทยกับใบข้าว

สุดแต่ใจจะไขว่ขว้า

เทพบุตรชุดวิน

บัวแล้งน้ำ

สหรัถ สังคปรีชา

สหรัถ สังคปรีชา หน้าปก

สหรัถ สังคปรีชา [ก้อง] 

วันเกิด: 4 พฤษภาคม 

ส่วนสูง: 180 เซนติเมตร 

ราศี: ราศีเมษ 16 เม.ย. - 15 พ.ค. 

งานอดิเรก: อ่านสปอต วิทยุ-โทรทัศน์ 

สิ่งที่ชื่นชอบ: เล่นดนตรี กีฬา: เทนนิส 

ศิลปินที่ชอบ: อีริค แคปตัน 

ของสะสม: กีตาร์

สีที่ชอบ: เทาดำ

ผลงานละคร

2538 พริกขี้หนูกับหมูแฮม

2539 พิสูจน์รักจากสวรรค์

2541 คู่รักสองชาติ

2542 รอวันฉันมีเธอ

2542 กล้าไว้หัวใจไม่จนมุม

2543 สาวใช้หัวใจชิคาโก้

2543 มีเพียงรัก

2544 หนี้รัก

2544 แม่เลี้ยงคนใหม่

2544 ทายาทเศรษฐี

2545 สะใภ้จ้าว

2546 เสือ

2546 บ้านแฝดยกกำลังสอง

2547 ก็ว่าจะไม่รัก

2547 เจ้าสาวกลัวฝน

2547 เทพบุตรในฝัน

2548 ระเบียงรัก

2548 รักละมุนลุ้นละไม

2548 บุษบาครับผม

2549 หัวใจทระนง

2549 จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า

2549 เจ้าสาวกะทันหัน

2550 พริกหวานน้ำตาลเผ็ด

2550 ละอองดาว

2550 มณีดิน

2550 แหวนดอกไม้

2551 สงครามนางฟ้า

2551 ทองเนื้อแท้

2552 มนต์รักบ้านทุ่ง

2553 มาลัยสามชาย

2554 ดวงตาสวรรค์

2554 ส้มหวานน้ำตาลเปรี้ยว

2554 ลิขิตเสน่หา

2555 แม่ยายที่รัก

2556 คาราบาว เดอะซีรีส์ ตอน รักต้องสู้

2557 อย่าลืมฉัน

2559 True Love Story เพราะเธอคือรัก ตอน คำไม่กี่คำ

2559 Melodies of Life ตอน เป็นอย่างงี้ตั้งแต่เกิด

2563 Cat Radio TV

2565 Cat Radio TV Season 2

2566 หารักด้วยใจเธอ

2567 ทองประกายแสด

ภาพยนตร์

โตแล้วต้องโต๋ (2535) - รับเชิญ

คู่แท้ 2 โลก (2537) – เคน

สุริโยไท (2544) - บุเรงนอง

ลัดดาแลนด์ หรือ The Last Home (2554)

Together วันที่รัก (2555)

สูบคู่กู้โลก (2555) รับบท พี่หล่อ

20 ใหม่ ยูเทิร์นวัย หัวใจรีเทิร์น (2559) รับบท นัท

บอสฉันขยันเชือด (My Boss is a Serial Killer) (2564) รับบท ต้น

ณัฐนันท์ จันทรวิโรจน์

 

ท็อป ณัฐนันท์ จันทรวิโรจน์ ปก

ณัฐนันท์ จันทรวิโรจน์ [ท๊อป]

วันเกิด: 10 ธันวาคม

ส่วนสูง: 180 เซนติเมตร

ราศี: ราศีตุลย์ 16 ต.ค. - 15 พ.ย.

งานอดิเรก: ร้องเพลง

สิ่งที่ชื่นชอบ: เทคโนโลยี

กีฬา: ฟุตบอล ปิงปอง แบดมินตัน

ศิลปินที่ชอบ: โจ้วงพอช เบนชลาทิศ

ของสะสม: เงิน

สีที่ชอบ: เขียว

ณัชร นันทโพธิ์เดช

ณัชร นันทโพธิ์เดช หน้าปก

ณัชร นันทโพธิ์เดช [นัท]

วันเกิด: 25 ธันวาคม

ส่วนสูง: 180 เซนติเมตร

ราศี: ราศีธนู 16 ธ.ค. - 15 ม.ค.

งานอดิเรก: รองเท้าฟุตบอล

สิ่งที่ชื่นชอบ: กางเกง winning

กีฬา: ฟุตบอล

ศิลปินที่ชอบ: นิรุตต์

ของสะสม: แท็กสินค้า

สีที่ชอบ: แดง ม่วง

ผลงาน: sport ranger